ตอนที่แล้วบทที่ 105 อย่าเรียกคนอื่นว่าแม่ตามใจชอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 107 ต่อไปอย่าไปดูตัวอีก

บทที่ 106 การต่อสู้


"ผมเป็นเพื่อนกับหมอหร่วน ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จักคุณครับ หวังว่าคุณจะดูแลหมอหร่วนให้ดี" เก่อชิงกล่าว

หนิงจื้อเชียนหันไปมองหร่วนหลิวเจิงอย่างรวดเร็ว หร่วนหลิวเจิงหน้าแดง ดูเหมือนการที่คนที่เธอรู้จักเพียงวันเดียวพูดกับสามีเก่าของเธอเองว่าให้ดูแลหมอหร่วนให้ดีมันดูแปลก...

หนิงเสี่ยงที่สวมชุดซานตาคลอสสีแดงตัวน้อยดึงมุมเสื้อของเธอและถามเบาๆ "คุณน้าฮะ ผมสวมชุดซานตาคลอสดูดีไหมฮะ? นี่"

"หล่อจ้ะ!" หร่วนหลิวเจิงย่อตัวลงเพื่อหลบสายตาของหนิงจื้อเชียนขณะเดียวกันก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนและจัดชุดให้กับหนิงเสี่ยงแล้วติดหนวดที่ใกล้จะหลุดลงมาให้กับเขา เมื่อมองดูดวงตากลมโตของเขาก็รู้สึกเพียงว่าน่ารักจนแทบทนไม่ไหว

หนิงเสี่ยงกลับเซ็งๆ และเบ้ปาก

"เป็นอะไรจ๊ะ? เสี่ยงเสี่ยง? ไม่มีความสุขเหรอ?" เธอบีบแก้มเล็กๆ

"คุณน้าฮะ คุณน้ามาทางนี้หน่อยได้ไหมฮะ?" หนิงเสี่ยงเหลือบมองเก่อชิงแล้วดึงมือของหร่วนหลิวเจิงไปอีกด้าน

หร่วนหลิวเจิงเกิดความสงสัยและตามหนิงเสี่ยงไปอีกด้าน

ดวงตาของหนิงเสี่ยงแดงขึ้นมาในชั่วขณะและเรียกเบาๆ "แม่ครับ..."

หร่วนหลิวเจิงตกใจและตระหนักถึงความแตกต่างที่พูดออกมาระหว่างก่อนหน้ากับภายหลัง "เสี่ยงเสี่ยง ทำไมเมื่อกี้ถึงไม่เรียกแม่ล่ะ?"

หนิงเสี่ยงก้มหน้าและยิ่งน้อยใจ "พ่อไม่ให้เรียก..."

"ทำไมล่ะ?" เธอยิ่งประหลาดใจ

"พ่อบอกว่าไม่ให้เรียกแม่เวลามีคนอื่นอยู่ด้วย..." หนิงเสี่ยงไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตลอดได้แต่เชื่อฟังพ่ออย่างเดียวแต่ก็ยังคงคับข้องใจ

หร่วนหลิวเจิงหันหลังกลับไปมองคนคนนั้นที่อยู่ไม่ไกล ทันใดนั้นก็นึกถึงคำพูดที่เขาพูดไว้ หากคนอื่นเข้าใจผิด ฉันจะช่วยเธออธิบาย...

หร่วนหลิวเจิงยิ้มเล็กน้อยและลูบใบหน้าเล็กๆ ของหนิงเสี่ยง "ไม่เป็นไรจ้ะ เสี่ยงเสี่ยงเรียกได้"

เธอเคยแต่งงาน สามีเก่ารับเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง นี่เป็นความจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้ ต่อให้นัดบอด ต่อให้แต่งงานอีกครั้ง นี่ก็เป็นส่วนของเธอ เธอไม่มีทางที่จะปิดหรือละทิ้งมัน

"จริงเหรอฮะ?" ดวงตาที่ยังมีคราบน้ำตาของหนิงเสี่ยงพลันสว่างขึ้น

"จริงจ้ะ" เธอพยักหน้าอย่างจริงจัง

หนิงเสี่ยงยิ้มแฉ่งและหมุนตัวตรงหน้าเธอ "แม่ครับ ดูสิ ผมเป็นซานตาคลอส ผมสามารถทำให้ทุกความปรารถนาของแม่เป็นจริงได้"

หร่วนหลิวเจิงยิ้ม "เหรอจ๊ะ? จริงเหรอ?"

"จริงครับ!" หนิงเสี่ยงพยักหน้า "แม่ครับ ที่จริงผมรู้ว่าบนโลกนี้ไม่มีซานตาคลอสหรอก! เป็นพ่อต่างหากที่เอาของขวัญมาวางที่หัวเตียงไว้ให้ผม หลายวันก่อนผมก็บอกพ่อแล้ว แต่พ่อบอกว่ามี เขาก็คือซานตาคลอสของผม ฮิๆ ผมก็เลยบอกพ่อว่า ผมเป็นซานตาคลอสของแม่ ผมจะให้มอบขวัญให้แม่! พ่อบอกว่าได้"

หร่วนหลิวเจิงนิ่งไปอีกครั้งและนึกขึ้นได้ถึงจดหมายที่เธอเขียนให้กับซานตาคลอสฉบับนั้น

"แม่ครับ เมื่อก่อนพ่อก็แกล้งทำเป็นซานตาคลอสแล้วเอาของขวัญมาวางไว้ที่หัวเตียงแม่ใช่ไหม?" หนิงเสี่ยงถามพร้อมยิ้มขยิบตา

เธอลังเลครู่หนึ่ง "ใช่จ้ะ"

หนิงเสี่ยงควานหาของในกระเป๋าแล้วหยิบกล่องเล็กๆ ออกมากล่องหนึ่ง "แม่ครับ เสี่ยงเสี่ยงมีของขวัญให้คุณแม่! ผมโตแล้ว สามารถช่วยพ่อเป็นซานตาคลอสให้แม่ได้! แม่ครับสุขสันต์วันคริสต์มาส!"

หนิงเสี่ยงเอนตัวเข้าหาอ้อมกอดของเธอและหอมแก้มเธอ

ใบหน้าถูกริมฝีปากที่มีหนวดปลอมประทับทำให้รู้สึกคัน แต่ในใจของเธอกลับชุ่มช่ำ

"แม่ครับ เสี่ยงเสี่ยงอยากฉลองวันคริสต์มาสกับแม่มากเลย แต่ว่า..." เขามองเก่อชิงแวบหนึ่ง "แม่ครับ ครั้งหน้าเสี่ยงเสี่ยงจะโทรหาแม่ให้เร็วกว่านี้"

"ได้จ้ะ" เธอลูบไล้แก้มเล็กๆ ในมือมีของขวัญที่เขามอบให้

ชายหนุ่มสองคนประจันหน้ากันอยู่ไม่ไกล

เก่อชิงเริ่มเอ่ยพูด "อาจารย์หนิงใช่ไหมครับ? บังเอิญจริงๆ ผมเองก็เป็นอาจารย์ แต่ผมเป็นอาจารย์สอนหนังสือ"

หนิงจื้อเชียนเอ่ยตอบ "อ้อ? ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณสอนโรงเรียนไหนเหรอครับ?"

เก่อชิงกล่าว "มหาวิทยาลัยXXครับ"

หนิงจื้อเชียนพยักหน้า "อ้อ มหาวิทยาลัย!"

เก่อชิงกล่าวต่อ "ใช่ครับ ผมทำงานในโรงเรียนมัธยมตั้งแต่เรียนจบกลับมาจากสหรัฐฯ แล้ว ถึงแม้คนอื่นจะบอกว่าเป็นอาจารย์ไม่มีอนาคตแต่ผมชอบความมั่นคง คุณเองก็เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอครับ?"

หนิงจื้อเชียนตอบ "ก็ใช่ครับ"

เก่อชิงถามต่อ "หลิวเจิงทำงานที่โรงพยาบาลไปได้สวยเลยใช่ไหมครับ?"

เปลี่ยนจากเรื่องคุณหมอหนิงเป็นหลิวเจิงแล้ว

หนิงจื้อเชียนตอบ "แน่นอนครับ เธอฉลาดมาก"

เก่อชิงเกิดความภาคภูมิใจ "แน่นอนอยู่แล้ว! เธอเป็นผู้หญิงที่สวย ฉลาดและน่ารักที่สุดของผมในตอนนี้ เป็นแฟนของผม!"

หนิงจื้อเชียนกล่าวถาม "แฟน?"

เก่อชิงตอบ "ใช่ครับ!"

หนิงจื้อเชียนพยักหน้า สายตาทอดยาวออกไปที่หญิงสาวที่กำลังคุกเข่าและพูดคุยอยู่กับหนิงเสี่ยงคนนั้น

เก่อชิงกล่าวต่อ "พวกเราคบกันได้ไม่นาน หลิวเจิงคงยังไม่ได้บอกใครสินะครับ"

หนิงจื้อเชียนพยักหน้าอีกครั้ง "ไม่เคยได้ยินเลยจริงๆ ครับ"

เก่อชิงเอ่ยถาม "หมอหนิง เด็กผู้ชายคนนั้นเป็นลูกคุณเหรอครับ?"

หนิงจื้อเชียนยังคงพยักหน้าอีก "ใช่ครับ"

เก่อชิงโล่งอก "อ้อดูไม่ออกเลยครับ คุณอายุยังน้อยก็มีลูกชายโตเท่านี้แล้ว"

โดยไร้สาเหตุการยืนอยู่ตรงนี้กับผู้ชายคนนี้ทำให้เก่อชิงรู้สึกถึงลมหวีดหวิวโดดเดี่ยวราวกับกำลังทำศึกแห่งภูเขาหัวซาน ดูเหมือนระยะห่างของพวกเขาทั้งคู่จะไม่มีวันถึงกัน

หนิงจื้อเชียนยกมุมปากไม่พูดจา จะยิ้มก็ไม่ใช่ จะหน้าบึ้งก็ไม่เชิง

เก่อชิงเอ่ยถาม "ใช่แล้ว ผมได้ยินมาว่าการประเมินผลการปฏิบัติงานของเป๋ยหย่าของพวกคุณยากมาก อย่างคุณ อายุยังไม่ถึงสามสิบสินะครับ? สามารถเป็นหมอหลักได้ก็ไม่เลวแล้ว ไม่เหมือนโรงเรียนของเรา ข้อยกเว้นเยอะมาก เหมือนผมที่อายุพอๆ กับคุณก็ได้เป็นผู้ช่วยศาตราจารย์แล้ว ถึงปกติแล้วจะไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ทำได้แล้ว"

หนิงจื้อเชียนกล่าว "ผมอายุ 32 แล้วครับ"

เก่อชิงตอบ "เหรอครับ? แต่คุณดูไม่เหมือนเลย!"

หนิงจื้อเชียนไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ

เก่อชิงจึงต่อบทสนทนาต่อว่า "ครั้งหน้ามีเวลาพวกเรากินข้าวกันนะครับ ผมกับหลิวเจิงเลี้ยงเอง ขอบคุณคุณที่ดูแลเธอตอนอยู่ที่โรงพยาบาล เชิญอาจารย์แม่ของหลิวเจิงมาด้วยนะครับ"

หนิงจื้อเชียนสงสัย "อาจารย์แม่?"

เก่อชิงกล่าวตอบ "ภรรยาของคุณไงครับ"

หนิงจื้อเชียนทำหน้าเจื่อน "อ้อ ครับ..."

ในที่สุดก็ไม่พูดอะไร สายตาของหนิงจื้อเชียนไม่ได้อยู่ที่อีกฝ่าย หนิงเสี่ยงช่วยหร่วนหลิวเจิงเปิดกล่องของขวัญ

"แม่ครับ ชอบไหม?" หนิงเสี่ยงยิ้มหวานเต็มไปด้วยความคาดหวัง

หร่วนหลิวเจิงมองดูของในกล่องแล้วรู้สึกปวดใจและหันไปยิ้มเล็กน้อยให้หนิงเสี่ยง "ชอบจ้ะ"

ของขวัญเป็นเครื่องรางช่วยปกป้องให้ความสุขสงบ

เมื่อไม่นานนี้เธอก็เคยให้ของประเภทนี้กับเขา ทว่าการให้เครื่องรางในวันคริสต์มาสก็คงมีแต่บ้านนี้แหละ

คำว่าชอบคำเดียวของเธอนั้นทำให้หนิงเสี่ยงมีความสุข "แม่ครับ พ่อมีหนึ่งอัน ผมมีหนึ่งอัน ครอบครัวเรามีกันหมด!"

"ขอบคุณนะจ๊ะเสี่ยงเสี่ยง!" เธอเก็บของขวัญอย่างระมัดระวัง

"คุณแม่ไม่ต้องขอบคุณ ผมกับพ่อเป็นคนเลือกของขวัญ! คุณแม่ บายบายครับ ผมกับพ่อจะไปเที่ยวแล้ว!" หนิงเสี่ยงโบกมือและวิ่งไปหาพ่อ

ไม่ไกลหนิงเสี่ยงจูงมือของหนิงจื้อเชียนแล้วกระโดดโลดเต้นเดินไป ขณะเดียวกันก็หันกลับมาโบกมือให้เธอ ส่วนเขากลับไม่หันกลับมาเลย

เก่อชิงเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มและพูด "คุณไม่พูดอะไรกับอาจารย์เลยเหรอครับ? สนิทกับลูกชายเขาจังนะครับ"

หร่วนหลิวเจิงมองเขา ยิ้มและพูด "เด็กๆ ติดฉันค่ะ"

"คุณชอบเด็กเหรอครับ?" เก่อชิงดูมีความสุขมาก

"แน่นอนสิคะ!" เธอเดินตามเก่อชิงให้ทันและเดินไปกับเขาช้าๆ

"ใช่แล้ว คุณฝึกงานที่เป๋ยหย่ามานานแค่ไหนแล้ว?" เขาถาม

"หนึ่งปี ตอนนี้ผ่านไปครึ่งปีแล้ว"

"เหรอครับ? งั้นอีกครึ่งปีไปฝึกที่อีกโรงพยาบาลหนึ่งสิครับ ถึงแม้โรงพยาบาลนั้นจะเป็นรองเป๋ยหย่า แต่ผมรู้จักผู้ช่วยศาตราจารย์ที่นั่น เทคนิคการแพทย์ดีอยู่นะ ดีกว่าอาจารย์หมอประจำแผนกที่คุณอยู่ด้วยตอนนี้อีกนะครับ"

หร่วนหลิวเจิงกะพริบตา "คุณบอกว่าอาจารย์หนิงเป็นหมอประจำแผนกเหรอคะ?"

"อืม"

"เขาเป็นศาตราจารย์ค่ะ เป็นหัวหน้าแพทย์ค่ะ"

เก่อชิงอึ้ง "เป็นไปได้ยังไงครับ? หัวหน้าแพทย์ที่เป๋ยหย่าไม่ใช่ว่าอายุ 40 ปี ขึ้นไปไม่ใช่เหรอครับ?"

"...เขาเป็นคนเดียวที่อายุน้อยกว่า 35 ค่ะ ทำไมคุณถึงได้สนใจเรื่องนี้ขึ้นมาคะ?" เขาเป็นกรณีพิเศษ ส่วนทำไมถึงเป็นกรณีพิเศษ ได้ยินแค่ว่าทำสาธารณะประโยชน์พิเศษ ซึ่งเธอก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นอะไรแน่

"อ้อ! เมื่อกี้ก็แค่คุยกันทั่วไป"

การบังเอิญเจอในวันคริสต์มาสถือเป็นแค่การหยุดพักระหว่างการแสดงเท่านั้น และไม่ได้ส่งผลกระทบความต้องการของเธอกับเก่อชิง ทั้งคู่จึงเดินเล่นกันต่อไป ต่อมาทั้งสองได้รับประทานอาหารค่ำด้วยกัน เพราะเมื่อตอนกลางวันเก่อชิงเป็นคนจ่ายค่าอาหาร ดังนั้นตอนเย็นหร่วนหลิวเจิงจึงเป็นคนจ่ายค่าอาหาร เธอไม่ชอบเป็นหนี้ใคร

ต่อมาเมื่อเก่อชิงรู้เข้าก็ยืนกรานจะคืนเงินเธอให้ได้ เขาบอกว่าไม่ชินกับการปล่อยให้ผู้หญิงต้องเป็นคนจ่ายเงิน

หร่วนหลิวเจิงไม่อาจฝืนใจทำได้เพียงรับเงินคืน

หลังอาหารเย็น เซวียเหว่ยหลินก็โทรเข้ามา ถามว่าคืนนี้เธอว่างหรือไม่

พูดตามจริง เธอเที่ยวเล่นทั้งวันและรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย อีกทั้งยังไม่ได้รู้สึกสนใจ party อะไรมากนัก จึงได้ปฏิเสธบอกไปว่าไม่ว่าง

เก่อชิงต้องการจะส่งเธอกลับบ้าน เธอก็ปฏิเสธแล้วนั่งรถกลับเอง แต่ที่เธอรับปากให้เซวียเหว่ยหลินไปส่งที่บ้านเป็นเพราะพวกเขาอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน แต่เก่อชิง เจอกันแค่ครั้งเดียว ในใจของเธอยังขีดเส้นแบ่งอย่างแปลกประหลาดและรู้สึกให้คบหากันอีกสักพัก รู้จักกันมากกว่านี้แล้วค่อยให้เขารู้ที่อยู่ของเธอจะดีกว่า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด