ตอนที่แล้วตอนที่ 22 ช็อปเปอร์เข้าร่วมกลุ่ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24 ดวลกับเอส, ให้แกกินดาบของฉัน!

ตอนที่ 23 เรื่องเล่าอันแสนตื่นเต้น มาถึงอลาบัสต้า


หลังจากจบเหตุการณ์ที่เกาะดรัมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือมุ่งตรงไปยังอาณาจักรอลาบัสต้า ซึ่งจะได้พบกับพี่ชายของลูฟี่ เอสหมัดอัคคีผู้โด่งดัง โรบิน และเจ็ดเทพโจรสลัด คร็อกโคไดล์

พูดให้ถูกก็คือคร็อกโคไดล์เวอร์ชั่นโดนเนิร์ฟ เพราะเขาแพ้ให้กับลูฟี่ คนที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮาคิคืออะไร

เพียงเพราะคร็อกโคไดล์เป็นเจ็ดเทพคนแรกที่เป็นคู่ต่อสู้ของกลุ่มหมวกฟางอย่างเป็นทางการ เลยต้องปรับให้อ่อนลงไม่งั้นตัวเอกสู้ไม่ได้

ในแง่ของการวางแผนกลยุทธ์ คร็อกโคไดล์ถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆของโลกวันพีช

ในแง่ของความแข็งแกร่ง หลังสงครามมารีนฟอร์ด ไม่ได้เห็นฉากต่อสู้ของเขาเลย

ไป๋ซานยังคงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยที่จะได้พบกับโจรสลัดระดับตำนานคนนี้

แต่สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการเล่าเรื่องให้ลูฟี่และพรรคพวกฟัง

นับตั้งแต่ที่ช็อปเปอร์พูดกับพวกลูฟี่ว่าไป๋ซานมีเรื่องเล่าน่าสนุกมากมาย ลูฟี่ยังคงตั้งตารอฟังเสมอ

ดังนั้นทันทีที่มาถึงเรือโกอิ้ง แมรี่ ลูฟี่ก็เร่งเร้าให้ไป๋ซานเล่าเรื่องให้เขาฟัง

การคิดว่าต้องล่องเรือบนมหาสมุทรอันกว้างใหญ่แบบไม่มีอะไรทำแล้ว ไป๋ซานก็เลยตัดสินใจเล่าเรื่องไซอิ๋วให้ฟัง

รายละเอียดบางอย่างที่เขาจำไม่ได้ เขาก็จะพูดมั่วๆทันที

“ในอีสต์บลูมีเกาะที่ชื่อว่า ง่าวล่ายก๊ก มีภูเขาชื่อฮวยก๊วยซัว...”

ตอนแรกมีเพียงลูฟี่และช็อปเปอร์เท่านั้นที่ฟัง แต่เมื่อถึงเวลากินข้าว ซันจิที่เห็นว่าลูฟี่ไม่ได้มาเรียกร้องหาอาหารเหมือนอย่างทุกที ก็เกิดสงสัย เลยเดินเข้ามาฟังด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน นามิและเจ้าหญิงวีวี่ก็ตระหนักว่าพ่อครัวไม่ได้เตรียมอาหารไว้อย่างทุกที จึงเข้าไปฟังด้วยเหมือนกัน

สุดท้ายเป็นโซโลเพิ่งกลับมาที่ห้องอาหารหลังจากออกกำลังกายเสร็จ เขาก็พบว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย

“หืม? วันนี้ไม่มีข้าวเที่ยงเหรอ หรือฉันมาช้าจนกินกันหมดแล้ว?”

ในที่สุดทุกคนก็มารวมตัวกันฟังนิทานที่ไป๋ซานเล่า

ลูฟี่ติดนิทานมากจนถึงขั้นเลื่อนการกินอาหารออกไปก่อน

เสน่ห์ของเรื่องราวไซอิ๋วปรากฏให้เห็นเด่นชัด

เรื่องราวส่วนใหญ่ในโลกวันพีชเป็นเรื่องเกี่ยวกับสมบัติและการผจญภัย และล้วนเป็นเรื่องราวเรียบง่ายที่ไม่มีรายละเอียด

มีเรื่องราวแบบไซอิ๋วไม่มากนักในโลกนี้ ที่มีทั้งเรื่องราวการผจญภัย การต่อสู้ ความรัก ความเศร้ารวมกันแต่กลับลงตัว และให้มุมมองใหม่ๆที่มีต่อโลกได้อย่างดีเยี่ยม

“โอ้ ฉันอยากจะสำรวจโลกแบบนั้นจริงๆนะ ล้อมรอบไปด้วยป่าและต้นไม้ใหญ่ น่าทึ่งสุดๆ”

ลูฟี่พูดด้วยสีหน้าโหยหา

“มันเป็นแค่เรื่องเล่า วันนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นนะ เนื้อเรื่องต่อไป ‘ผจญเภทภัยเก้าเก้าแปดสิบเอ็ดประการ’ ที่จะเล่าพรุ่งนี้จะสนุกและน่าตื่นเต้นกว่านี้อีก”

นามิจินตนาการถึงสมบัติและคาถาวิเศษทุกประเภท

“ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าจะเปลี่ยนหินให้เป็นทองได้ยังไง”

“ฉันสงสัยจริงๆว่าลิงที่เป็นอมตะรสชาติเป็นยังไง… ไม่สิ ฉันควรใช้มีดแบบไหนในการหั่นมัน…”

ในใจของซันจิตอนนี้ได้จินตนาการถึงการปรุงอาหารและรสชาติของมันแล้ว

“เฮ้ ถ้าการแปลงร่างเป็นมนุษย์คือเวทมนต์ของพวกนั้น พวกสัตว์ในโลกนั้นก็เป็นผู้ใช้พลังผลปีศาจเหมือนกันนะเซ่ะ”

ทันใดนั้นช็อปเปอร์ก็ตระหนักได้ว่าเขาอาจจะเพื่อนที่เป็นแบบเดียวกับเขา

“ฮ่าฮ่า ฉันบอกแล้วไงว่ามันเป็นแค่นิทานเรื่องเล่าน่ะ”

“พี่ไป๋ซาน นี่เป็นเรื่องที่คุณแต่งขึ้นหรือเปล่า?”

“ไม่ใช่ ผู้แต่งชื่ออู๋เฉิงเอิน เป็นนักเขียนที่มีชีวิตอยู่เมื่อนานมาแล้ว”

“อะไรนะ ชื่อแปลกจัง ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน เขาเป็นนักเขียนจากทะเลอื่นหรือเปล่า?”

ไม่มีใครที่เกิดและเติบโตในทะเลอีสต์บลูเคยได้ยินเรื่องนี้ และช็อปเปอร์ที่เติบโตบนเกาะดรัมยิ่งแล้วใหญ่

“ใครจะรู้ล่ะ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ มากินข้าวกันก่อนดีกว่า แล้วค่อยมาเล่าต่อพรุ่งนี้”

วันรุ่งขึ้น เดิมทีโซโลกำลังจะออกกำลังกาย แต่เขาได้ยินว่าไป๋ซานกำลังจะเล่าให้พวกเขาฟังเรื่อง ‘ผจญเภทภัยเก้าเก้าแปดสิบเอ็ดประการ’ เมื่อเขาได้ยินว่า ‘ผ่านผจญเภทภัยเก้าเก้าแปดสิบเอ็ดประการและได้ตระหนักรู้จนบรรลุ’ เขาก็ตัดสินใจมาฟัง

แน่นอนว่าโซโลสนใจเพียงว่าซุนหงอคงจะเอาชนะพวกปีศาจได้ยังไง

ดูเหมือนว่าเขาจะถือว่าพวกปีศาจต่างๆ เป็นศัตรูในจินตนาการ และมักจะพึมพำกับตัวเองว่า "จะเป็นยังไงถ้าฉันต้องเจอกับศัตรูที่ไม่กลัวดาบฟัน..."

"ร่างกายที่แข็งแกร่งประดุจเหล็ก? ดูเหมือนว่าฉันจะต้องหาวิธีฝึกดาบของฉันให้มันฟันเหล็กได้"

ช่างมันเถอะ ปล่อยมันไปตามกรรม

เพราะมีไป๋ซานเป็น "นักเล่าเรื่อง" อยู่ที่นี่ แม้แต่เจ้าหญิงวีวี่ที่กำลังกังวลเกี่ยวกับอาณาจักรตัวเองก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

แต่ถึงยังไงเรือก็ยังคงแล่นไปตามความเร็วเท่าเดิม

การฟังนิทานเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแต่ละวันเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการรีบไปที่อลาบัสต้าและหยุดแผนการชั่วร้ายของคร็อกโคไดล์

แม้แต่ลูฟี่ก็เข้าใจว่าอะไรสำคัญที่สุดในตอนนี้

"เรื่องเล่าน่ะจะฟังตอนไหนก็ได้ แต่ฉันอยากจะฆ่าเจ้าคร็อกโคไดล์นั่นให้เร็วที่สุด!"

หลังจากล่องลอยอยู่บนทะเลเป็นเวลาหลายวัน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงนาโนฮาราในอลาบัสต้า

มีความโกลาหลมากมายระหว่างทาง แต่ไป๋ซานก็เพิกเฉย

เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำลายโครงเรื่องดั้งเดิม

แต่เขาจะดำเนินการเมื่อจำเป็น

หลังจากตามลูฟี่ไปเรื่อยๆ ในที่สุดไป๋ซานก็ได้พบกับเอส หมัดอัคคี!

ผู้ชายคนนี้กำลังกินข้าวอยู่ในร้านอาหารแล้วก็เผลอหลับไป

เขายังได้เจอกับสโมคเกอร์และทักทายกัน

"เฮ้ เฒ่าควัน ทำไมนายถึงมาที่นี่?"

"มาจับคนข้างๆแกที่มีค่าหัว30ล้านเบรีไง แล้วนี่แกเป็นทหารเรือจริงๆแน่นะ? "

"ฮ่าๆๆๆ ไม่ได้มีอะไรซะหน่อย ถ้านายจะจับเจ้านี่ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ? "

"จริงเหรอ? ไม่ใช่ว่านายควรเป็นคนจับเขาแค่แรกหรอ"

ในที่สุดก็เป็นตอนที่เอสกับสโมคเกอร์ต่อสู้กัน

เปลวไฟและควันที่ลุกไหม้ก่อให้เกิดพายุทอร์นาโด สูงขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดก็หยุดลง

"สู้ๆนะเฒ่าควัน! ฉันไปก่อนล่ะ!"

"มาช่วยฉันก่อนสิเจ้าบ้า! ฉันเอาชนะเจ้านี่ไม่ได้! นี่คือหัวหน้าหน่วยที่สองของกลุ่มโจรสลัดหนวดขาว! เป็นโจรสลัดที่มีค่าหัวนะ!" สโมกเกอร์ตะโกนใส่ไป๋ซาน

“อะไรนะ ไม่ได้ยินเลยอ่ะ! ลมมันแรงเกินฟังไม่ชัดเลย ฉันไปก่อนดีกว่า”

ไป๋ซานแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วรีบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เขาจะไม่เข้าไปแทรกแทรง

ไป๋ชานชอบเอซมากทั้งในด้านอารมณ์และเหตุผล (เอ่อ…)

นอกเหนือจากการที่ชอบกินอาหารมากเกินไปแล้วเอสก็ไม่มีข้อเสียอื่นอีก การเป็นเพื่อนกับคนแบบนี้ไม่มีอะไรเสียหายเลย

หลังจากเห็นพลังของหมัดอัคคีแล้ว ในที่สุดกลุ่มหมวกฟางก็ออกมาจากที่นั่น

"ให้ฉันแนะนำหน่อยแล้วกัน นี่คือเอส เป็นพี่ชายของฉัน"

"นี่ไป๋ซาน เป็นทหารเรือ"

ลูฟี่ทำหน้าที่เป็นคนกลางและแนะนำทุกคน

เอสไม่แปลกใจนักเมื่อได้ยินว่าไป๋ซานเป็นสมาชิกกองทัพเรือ

“กองทัพเรือ? อยู่สาขาไหน?”

“ฉันยังไม่มีสาขาประจำการ ฉันพึ่งจบการประเมินจากสาขาใหญ่ ตอนนี้ฉันขาอาสามาแกรนด์ไลน์เพียงลำพังเพื่อหาประสบการณ์”

“ทำไมไม่ไปทะเลทั้ง4ล่ะ ที่นั่นมีสาขากองทัพเรือมากมาย พร้อมจะช่วยเหลือตลอดเวลา อยู่ในแกรนด์ไลน์ถ้าพวกโจรสลัดรู้ว่านายเป็นกองทัพเรือแถมมาแค่คนเดียวคงโดนหมายหัวแน่”

"ก็เพราะแบบนั้นแหละฉันถึงมาอยู่ที่นี่ไง"

เอซที่ได้ยินแบบนั้นมองไป๋ชานแล้วหัวเราะออกมา "ฉันชอบคนแบบนายจริงๆ เป็นคนที่น่าสนใจมาก!"

"นายก็เหมือนกัน"

"ถ้าอย่างงั้นอยากลองประมือกันหน่อยไหม?"

"กำลังรออยู่เลย"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด