ตอนที่แล้วตอนที่ 18 ไม่เขินหรอก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 ช็อปเปอร์ตะลึง

ตอนที่ 19 เห็นหนึ่งครั้งจำไม่เคยลืม


“แต่จะว่าไปแล้ว นายวางแผนที่จะเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์จริงๆเหรอ?”

เมื่อผ่านไปได้ครึ่งทาง ทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกัน

“ก็มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องเรียนสิ”

“แต่นายไม่ได้ตั้งใจจะเป็นหมอนี่นา ทักษะการแพทย์มันก็ยากด้วย ถ้าลำบากขนาดนี้ ทำไมไม่หาหมอประจำเรือไปเลยล่ะ”

"ใช่เลยช็อปเปอร์ มาเป็นหมอประจำเรือของฉันเลยสิ!”

ไป๋ซานตบมือราวกับพึ่งนึกขึ้นได้

“เฮ้! ฉันไม่ไปกับทหารเรืออย่างนายหรอก! อีกอย่าง นายบินได้ แต่ฉันบินไม่ได้!”

“อ่า นั่นสินะ ช่างมันเถอะ”

ใบหน้าของช็อปเปอร์ดูหงุดหงิด มีคนแบบนี้อยู่บนโลกนี้ได้ยังไง

คนแบบนี้เป็นทหารเรือจริงหรอ? แล้วเข้ามาแกรนด์ไลน์คนเดียวเนี่ยนะ?

“ฮ่าๆๆ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ อีกไม่นานนายจะต้องได้เจอกับคนที่น่าสนใจมากมายในอนาคต ยิ้มเข้าไว้สิ”

เมื่อเห็นสีหน้าสิ้นหวังของชอปเปอร์ ไป๋ซานจึงตัดสินใจเลียนแบบอุซป ยิ้มให้กับช็อปเปอร์ และเล่าตำนานต่างๆในท้องทะเล

เด็กคนนี้อาศัยอยู่ในอาณาจักรดรัมมาโดยตลอด และยังไม่เคยได้เห็นโลกเลย

“นี่ช็อปเปอร์ อยากฟังนิทานไหม”

“นิทานเหรอ? เรื่องอะไร เกี่ยวกับกองทัพเรือหรอ?”

ช็อปเปอร์หันหัวกลับมาด้วยความสนใจ

“เป็นเรื่องเล่าบนท้องทะเลน่ะ ไม่ใช่แค่กองทัพเรือหรอก แต่ยังเกี่ยวกับผู้คนและสิ่งต่างๆ มากมายบนทะเลอันยิ่งใหญ่ไม่สิ้นสุดแบบนี้”

“แล้วจะมีเรื่องราวของโจรสลัดไหม?”

ช็อปเปอร์เต็มไปด้วยความคาดหวัง

โจรสลัดในเรื่องท้องทะเล โจรสลัดที่มุ่งมั่นเพื่อความฝัน!

“แน่นอนอยู่แล้ว”

เมื่อดึงความสนใจจากช็อปเปอร์ได้สำเร็จ ไป๋ซานก็กระแอมในคอแล้วพูดว่า

“เรื่องที่ฉันจะเล่าในวันนี้เป็นเรื่องของตำนานโจรสลัดกัปตันแจ็คและเรือผีสิงของเขา…” (แจ็ค สแปร์โรว์ววว)

ทั้งสองเดินไปคุยไปหัวเราะไปจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องสมุด

“มันน่าสนุกจริงๆเลยน้า นี่คือชีวิตของโจรสลัดเหรอ?”

หลังจากที่ไป๋ซานเล่าจบ ช็อปเปอร์ก็ยังคงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ดวงตาของเขาเป็นประกายดวงดาว

"ก็แค่ส่วนหนึ่งแหละนะ ในบรรดาโจรสลัดก็มีทั้งคนดี คนธรรมดา และคนเลว จำไว้ อย่าเอาคนคนเดียวมาตัดสินเด็ดขาดนะ อย่าเหมารวม"

"โอ้..." ช็อปเปอร์ทำหน้าเหมือนจะเข้าใจ

เขามีประสบการณ์น้อยเกินไปและรู้จักกับคนเพียงไม่กี่คน ดังนั้นช็อปเปอร์จึงยังไม่สามารถเข้าใจความหมายของคำพูดได้ทั้งหมด

"เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน ฉันอยากอ่านหนังสือก่อน"

"แล้ว พรุ่งนี้ช่วยเล่านิทานให้ฉันฟังต่อได้ไหม?"

"ได้สิ ทุกวันยังได้เลย"

หลังจากช็อปเปอร์ออกไป ไป๋ซานที่อดใจไม่ไหวแล้วก็รีบไปหยิบหนังสือมาอ่านสองสามเล่ม และเริ่มอ่านแบบชิลๆ

"'นี่อะไร 'กายวิภาคของโครงกระดูกมนุษย์' 'ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสมุนไพร' 'การวินิจฉัยโรคทั่วไป' ... " หลังจากเปิดดูได้สักพัก ไป๋ซานก็ตระหนักว่าการการแพทย์ในโลกยังต่างจากโลกเดิมของเขาอยู่มาก

พวกเขาได้ศึกษาจนรับรู้การมีอยู่ของสารจุลินทรีย์ เชื้อไวรัสแบคทีเรียและผลกระทบของมัน แต่ถึงยังไงที่นี่ก็ยังไม่มีระบบทางการแพทย์ที่ครอบคลุมทุกด้าน

แพทย์แต่ละคนเชี่ยวชาญในสาขาที่แตกต่างกัน และคำศัพท์ที่ใช้ในการบันทึกและอธิบายก็แปลกเช่นกัน

โดยรวมแล้ว รูปแบบของหนังสือทางการแพทย์ที่เขียนโดยแพทย์ต่างสาขานั้นแตกต่างกันมาก ถือเป็นเรื่องยากถ้าจะเชี่ยวชาญในทุกศาสตร์ด้วยตัวเองอย่างสมบูรณ์

"มันน่าปวดหัวนิดหน่อย...ดูไปก่อนละกัน ดีกว่าไม่มีอะไรเลย"

ไป๋ซานรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้กลับไปอยู่มหาลัยในโลกเดิมของเขา อยู่ในห้องสมุดในช่วงก่อนสอบ พยายามอ่านและท่องจำเนื้อหาให้ได้มากที่สุด

ผลก็คือหลังจากอ่านมาเป็นเวลานาน เขายังจำเนื้อหาไม่ได้เลยแม้แต่หน้าเดียว อย่าว่าแต่อ่านเข้าใจเลย

“ปวดหัวโว้ย ปวดหัวจริงๆ อันนี้หมายถึงอะไรวะเนี่ยย...”

“ความคืบหน้าในการอ่านหนังสือทางการแพทย์ของโฮสต์นั้นช้ามาก ความสามารถในการเข้าใจ จดจำ และอ่านได้ถูกบัพมืด ได้รับความสามารถในการเรียนรู้ขั้นสุดยอด เห็นเพียงหนึ่งครั้งก็จำไม่เคยลืม”

โอ้โหเห๊ะ กว่าจะบัพได้นะไอระบบนี่ รอตั้งนานแหน่ะ

ช่วงเวลาต่อมา ไป๋ชานเริ่มรู้สึกว่าตัวของเขาเริ่มสนชื่นและสมองปรอดโปร่งมากขึ้น

จากนั้นเขาก็ก้มหัวลงอ่านหนังสือ เขาสามารถเข้าใจทุกคำและทุกประโยคได้อย่างรวดเร็ว และเขาสามารถจดจำได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาสามารถอ่านหนังสือ1หน้าด้วยการมองเพียงครั้งเดียว และภายในสิบนาทีเขาก็อ่านจบทั้งเล่ม!

จากหนังสือทางการแพทย์สองร้อยเล่มนี้ แค่ใช้เวลาอ่านหนังสือวันละสิบชั่วโมง คงได้สัก50เล่ม

แค่4วันก็จะอ่านครบ200เล่ม แล้วก็ค่อยมานั่งทบทวนเนื้อหา

ถ้ามันไม่เวิร์ค ก็รอระบบบัพมืดอีกรอบ ถึงเวลานั้นทักษะการแพทย์คงกลายเป็นระดับเทพไปแล้ว

อนาคตสดใสรอเราอยู่!

เมื่อนึกได้แบบนี้ ไป๋ซานก็ไม่รอช้ารีบอ่านต่อทันที

หลังจากผ่านไประยะหนึ่งโดยไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้ว ดร.คุเรฮะมองช็อปเปอร์แล้วถามขึ้นมา

"เด็กคนนั้นยังอ่านหนังสืออยู่อีกหรอ?"

"ใช่ครับ ตอนนี้ยังอ่านอยู่เลยอ่ะ"

"เขาอยากเรียนแพทย์จริงๆ เหรอ?"

ช็อปเปอร์ลังเลและพยักหน้า “ผมรู้สึกว่าเขาต้องการเป็นจริงๆ...แต่เขาอ่านเร็วเกินไปจนผมเริ่มไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรอยู่”

หนังสือทางการแพทย์ทั้งเล่มใช้เวลาสิบนาทีในการอ่าน พูดไปใครจะเชื่อว่าเขาตั้งใจเรียนจริงๆ

“ช่างมันเถอะ เรียกเขามากินข้าวเย็นก่อน คนหนุ่มน่ะอดข้าวไม่ได้หรอกนะ”

“ครับผม ดร.”

จากนั้นไม่นาน ไป๋ชานก็ถูกพาไปกินข้าวเย็นจนได้

ระหว่างมื้ออาหาร ดร.คุเรฮะไม่ถามอะไร ไป๋ซานเองก็ไม่ได้พูดอะไร

ไม่กี่วันต่อมา ไป๋ซานยังคงใช้ชีวิตแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก

อ่านหนังสือ กินข้าว เล่านิทานให้ช็อปเปอร์

อิ่มเอมกับความสุข

ไป๋ซานอ่านเพลินจนลืมเวลาไปเลย จนกระทั่งเขาอ่านหนังสือเล่มสุดท้ายจบ เขาก็หยิบหนังสือเล่มใหม่มาอีกเล่ม แต่กลับพบว่ามันเป็นเล่มเดิมที่เขาอ่านไปแล้ว

“เอ่อ หมดแล้วหรอ? มีหนังสืออีกไหม?”

เขาพบว่าหลังจากได้รับความสามารถของระบบ เขาก็เริ่มชอบอ่านหนังสือ

การอ่านหนังสือดูเหมือนจะไม่น่ารำคาญอย่างที่เคยคิดมาก่อน (อยากได้แบบนี้มั่ง)

ทุกถ้อยคำ ทุกบรรทัด ฝังลึกอยู่ในใจ

เกิดการรู้แจ้งในขณะที่ัน่งคิดไตร่ตรอง

ตอนนี้เขาอยากได้คนไข้สัก2-3คนเพื่อจะได้ทดสอบวิชาการแพทย์ของเขาที่ได้เรียนตลอด4วันที่ผ่านมา

"อ่าา เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ"

หลังจากยืนยันว่าเขาได้อ่านหนังสือทางการแพทย์ครบสองร้อยเล่มแล้ว ไป๋ซานก็ยืนขึ้นและยืดตัว

“ใกล้จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้วเหรอ? ไปกินข้าวกันดีกว่า”

ที่โต๊ะอาหาร ดร.คุเรฮะกำลังฟังรายงานของช็อปเปอร์

"พี่ไป๋ซานอ่านหนังสือทางการแพทย์ไปแล้วสองร้อยเล่ม!"

"อืม... มันแปลกจริงๆ จะบอกว่าเขาแค่อ่านมันผ่านๆ แต่เขากลับคลุกตัวอยู่แบบนั้นตั้ง4วัน ถ้าอ่านแค่ผ่านๆจะทำถึงขนาดนั้นไปทำไม"

"แต่ถ้าบอกว่าเขาตั้งใจอ่านแบบจริงจังมันก็... "

คุเรฮะส่ายหัว

"ไม่มีทางที่ใครจะอ่านหนังสือเสร็จภายในสิบนาทีได้จริงๆหรอก ถูกไหม?"

“ผมก็ไม่รู้ครับดร.คุเรฮะ”

หลังจากได้ฟังนิทานเรื่องเล่าจากไป๋ซานแล้ว ช็อปเปอร์ก็เริ่มชื่นชอบทหารเรือคนนี้ที่มีเรื่องเล่าของโจรสลัดมากมาย

“ช่างเถอะ วันนี้มาทดสอบเขาระหว่างมื้อเย็นกันดีกว่า บางทีในโลกนี้อาจมีอัจฉริยะแบบนั้นจริงๆ”

ตอนนี้เองไป๋ซานก็เดินเข้ามา

“โอ้ มากันครบแล้ว กินข้าวกันเถอะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด