ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 454 - ค่อยคุ้มค่าที่เจ็บตัวหน่อย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 456 - สมบัติจ๋า! พี่มาแล้ว!!

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 455 - ประตูสมบัติ!!


ใช่! ทักษะระดับปฐพีที่ฝึกฝนได้อย่างยากเย็นแสนเข็ญสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเดวิด แม้จะไม่เรียกว่าง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก แต่ก็ไม่ได้ยากเหมือนกับการปอกทุเรียน เขามีข้อได้เปรียบที่ทำให้ใช้เวลาฝึกฝนกระบวนท่าน้อยมาก สามารถทุ่มเทสมาธิไปที่การควบคุมคลื่นสมองได้ทั้งหมด

ทักษะทั้ง 3 ที่ฝึกฝนได้สำเร็จเป็นเพียงทักษะระดับปฐพีขั้นกลางและขั้นต่ำเท่านั้น เดวิดเลือกทักษะที่จะช่วยให้ตัวเองเคลื่อนไหวในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างสะดวกสบาย และจัดการกับภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วเป็นหลัก

‘ท่องสายลม’ ทักษะระดับปฐพีชั้นต่ำ คุณสมบัติก็เหมือนกับชื่อของมัน ผู้ฝึกฝนจะสามารถลอยตัวและเคลื่อนไหวกลางอากาศได้อย่างอิสระ จุดเด่นที่ทำให้มันเป็นทักษะระดับปฐพี คือการที่มันไม่ต้องใช้อาวุธหรือดาบบินเป็นสื่อกลางในการเหาะเหิน ใช้เพียงแค่คลื่นสมองสำหรับการสร้างสนามพลังงานขึ้นมาเท่านั้น เดวิดเลือกทักษะนี้เพราะไม่ต้องการที่จะตัดหญ้าถางเถาวัลย์สร้างทางเดินในป่าอีกแล้ว เขาจะบิน!!

‘อนธการ’ ทักษะการโจมตีที่ซ่อนเร้น ดาบบินจะกลืนหายไปในความมืดมิด เมื่อฝึกฝนจนสำเร็จขั้นแรก การโจมตีในยามค่ำคืนจะไม่มีทางถูกสังเกตเห็นได้ แต่มันจะไม่มีผลในตอนกลางวัน ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นที่ 2 ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะทำให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงเป็นมืดสลัวลงเพื่อปิดบังดาบบินได้ และที่มันเป็นทักษะระดับปฐพีชั้นกลาง นั่นเพราะถ้าฝึกฝนได้จนสมบูรณ์แบบแล้ว ผู้ใช้จะสามารถสร้างความมืดมนอนธการมาครอบคลุมพื้นที่การต่อสู้ได้ ในรัศมี 1 กิโลเมตรจะกลายเป็นยามค่ำคืนที่ไร้หมู่ดาว แม้ว่าดวงอาทิตย์จะลอยอยู่กลางท้องฟ้าก็ตาม

‘บุบผาโลหิต’ กลีบดอกไม้สีเลือดที่ทักษะนี้สร้างขึ้นนั้นโหดเหี้ยมชั่วร้ายเป็นอย่างยิ่ง มันจะล่องลอยปกคลุมไปทั่วบริเวณ ลองนึกภาพสะเก็ดโลหะอันแหลมคมพุ่งเข้าใส่ตัวเองจากทุกทิศทุกทางดูก็ได้ว่ามันจะโหดร้ายขนาดไหน ยิ่งไปกว่านั้น บาดแผลที่เกิดจากการโจมตีจะไม่สมานตัวง่าย ๆ เลือดจะถูกยับยั้งไม่ให้แข็งตัว ไม่ว่าจะเป็นแผลเล็กน้อยแค่ไหน เลือดจะไหลออกมาจนกว่าคู่ต่อสู้จะแห้งตายไปในที่สุด

เดวิดพอใจกับทักษะทั้ง 3 ชนิดนี้มาก และแน่นอน! เขายังฝึกฝนทักษะระดับปฐพีขั้นสูงไปพร้อมกันด้วย ทั้งอสรพิษเพลิง 2 หัวและดาบทะลวงมิติ แต่เนื่องจากขั้นตอนการเคลื่อนไหวควบคุมคลื่นสมองที่ละเอียดซับซ้อน ทำให้พวกมันบรรลุแค่ระดับถึงขั้นที่ 2 ถึง 3 เท่านั้น จากการประเมินแบบคร่าวจากความก้าวหน้าที่มี เดวิดคิดว่าต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1-2 เดือนเลยทีเดียวกว่าจะสามารถฝึกฝนจนบรรลุขึ้นสมบูรณ์ได้

ยากและซับซ้อนอย่างไร? ยกตัวอย่างทักษะอสรพิษเพลิง 2 หัว ผู้ฝึกฝนต้องเคลื่อนไหวมือร่ายกระบวนท่าประสานเข้ากับคลื่นสมองเพื่อทำงาน 2 อย่างพร้อมกัน อย่างแรกคือสร้างประกายไฟอันร้อนแรงขึ้นมาจากดาบบิน 2 เล่มที่กระแทกขัดถูกันอย่างรุนแรง ในเวลาเดียวกันนั้น คลื่นสมองอีกส่วนต้องแปรเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเหมือนเชื้อเพลิงคุณภาพสูง เผาผลาญจนก่อร่างสร้างขึ้นมาเป็นอสรพิษเพลิง 2 หัวที่ร้อนแรง นี่ยังไม่นับการคงสภาพมันเอาไว้จนสามารถส่งมันพุ่งออกไปโจมตีด้วยความเร็วสูง เดวิดทำได้อย่างเดียวเท่านั้นเมื่อตอนที่อ่านวิธีการฝึกฝนและทำงานของทักษะนี้ ก่นด่าและเยินยอในอัจฉริยะภาพของผู้คิดค้นทักษะ ต้องเป็นคนที่มีจิตนาการบรรเจิดแค่ไหนกันถึงจะคิดมันออกมาได้? ถ้าไม่สติเฟื่องก็คงจะมีเวลาว่างมากจริง ๆ

หลังจากลุกขึ้นยืนขยับร่างกายยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลาย และจัดการหาอาหารใส่ท้องของทั้งตัวเองและเจ้าฟลินท์น้อยที่ตื่นขึ้นมาได้ในที่สุด เดวิดก็นั่งครุ่นคิดถึงแผนการฝึกฝนของตัวเองในขั้นต่อไป พร้อมกับใช้มือหยอกล้อล่อให้เจ้าฟลินท์ไล่กัดนิ้วมือไปเรื่อย ๆ ขนาดของเจ้าเสือดำตัวน้อยไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่ดูเหมือนว่ามันจะรู้ความขึ้นไม่น้อย เสียงคำรามข่มขู่ลดลงไปจนแทบจะไม่เกิดขึ้นเลยในระยะหลัง ๆ มันใช้เวลาส่วนใหญ่วิ่งเล่นอยู่ในระยะใกล้ ๆ และกลับมาฝังคมเขี้ยวที่หัวเข่าของเดวิดเมื่อรู้สึกหิวเท่านั้น ไม่มีการกัดแทะวุ่นวายไร้สาระอะไรอีก

และเดวิดที่กำลังจมอยู่ในภวังค์ความคิดก็ต้องชะงักและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างกะทันหัน คลื่นพลังที่รุนแรงและผันผวนกำลังก่อตัว แสงสว่างเจิดจ้าทอประกายอยู่บนท้องฟ้า ลำแสงขนาดใหญ่พุ่งตรงลงมาสู่พื้นดิน และคงตัวอยู่เป็นเหมือนเสาแห่งแสงที่ค้ำยันทองฟ้าเอาไว้ แสงสว่างที่ส่องประกายระเรื่อดูนุ่มนวลสบายตา แม้ว่าจะเป็นเวลากลางวัน มันก็จะยังเห็นได้ชัดเจนจากทุกมุมทุกบริเวณของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

เดวิดรีบชักนิ้วออกมาจากปากของฟลินท์ ก่อนจะพุ่งตัวลอยขึ้นไปยืนอยู่บนยอดไม้เพื่อสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนทันที และกลายเป็นว่าเขาคิดถูกที่ทำอย่างนั้น เพราะเพียงไม่ถึง 15 วินาที เสาแห่งแสงก็ค่อย ๆ จางลงและสลายตัวไปในที่สุด เดวิดขมวดคิ้วแน่นอย่างขบคิด ก่อนจะพุ่งตัวกลับลงมาในถ้ำชั่วคราวของตนเอง และเริ่มลงมือโยนข้าวของทุกอย่างกลับเข้าไปในแหวนเก็บของอย่างรวดเร็ว

การฝึกฝน!? ฝันไปเถอะ!! สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณของสมบัติล้ำค่าชัด ๆ มันอาจจะเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เลยด้วยซ้ำ ถ้าวัดจากความแข็งแกร่งของคลื่นพลังที่กระจายตัวออกมา อย่างน้อย ๆ แล้วมันต้องเป็นอาวุธระดับตำนาน หรือไม่ก็สมุนไพรระดับ 7 สักต้น แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร เดวิดคิดเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องมาอยู่ในแหวนของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น!

เดวิดประมาท? ลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นกังวลกับผู้ก่อปฐพีชั้นสมบูรณ์? ไม่เลย! เขาครุ่นคิดอย่างรอบคอบแล้ว สถานการณ์ตอนนี้มันแตกต่างออกไปแล้ว ถึงแม้ว่าเดวิดจะยังไม่สามารถจัดการสังหารพวกคนแก่ที่อาจจะแอบเข้ามาได้ แต่! การแย่งชิงสมบัติไม่จำเป็นต้องจัดการกับอีกฝ่ายให้เด็ดขาดเลยแม้แต่น้อย แค่ใช้ความเร็วที่เหนือชั้นกว่าไปหยิบมันมาก็พอแล้ว ความเร็วของเขาในตอนนี้ไม่ได้ต่ำต้อยอีกแล้ว หรือต่อให้ว่าถูกตามติดได้ทัน ใครจะทำอะไรเดวิดได้?

“ฟลินท์! ไป! ไปเที่ยวเล่นกันสักรอบก่อน!”

เดวิดเรียกเจ้าเสือดำตัวน้อยที่วิ่งวนอยู่ในถ้ำไปทั่วให้เข้ามาหา ก่อนจะจับมันขึ้นมาวางเอาไว้บนไหล่เหมือนกับทุกครั้ง คลื่นสมองอันเข้มข้นหมุนวนทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว เขากระตุ้นใช้ทักษะท่องสายลมพาตัวเองพุ่งทะยานเข้าไปในป่าลึก ความรวดเร็วนั้นไม่ต่างกับการกระตุ้นใช้พลังพันธุกรรมเลยแม้แต่น้อย

และเดวิดยังใช้ช่วงเวลาในการเดินทางสร้างความคุ้นเคยกับทักษะใหม่ชนิดนี้ ด้วยดวงตาที่คมกริบและปฏิกิริยาตอบสนองที่เหนือชั้น เขาเปลี่ยนทิศทางหลบพุ่มไม้ พุ่มหญ้า และต้นไม้ใหญ่ได้อย่างคล่องแคล่วโดยที่เท้าไม่แตะพื้น ถ้าเดวิดไม่กลัวว่าฟลินท์จะเกาะเอาไว้ไม่อยู่ เขาคงเร่งความเร็วจนถึงระดับสูงสุดเพื่อทดลองประสิทธิภาพไปแล้ว

...................

เป้าหมายที่เดวิดกำลังมุ่งหน้าไปคือพื้นที่โล่งอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ประตูสีทองขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงใจกลางของทุ่งกว้างแห่งนี้พอดี

ช่วงเวลาที่แสงสว่างเจิดจ้าบังเกิดขึ้นบนท้องฟ้า และชักนำให้ประตูขนาดใหญ่บานนี้ผุดขึ้นมาจากพื้นนั้น ที่กลางทุ่งแห่งนี้คือสมรภูมิของการแย่งชิง ‘อรุณรุ่งแห่งโลหิต’ เม็ดยาที่สร้างขึ้นมาจากสมุนไพรระดับ 3 ของกลุ่มคน 2 กลุ่ม มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดและเหี้ยมโหดดุร้ายเป็นอย่างมาก เพราะเม็ดยาที่เป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะนั้นสามารถกระตุ้นศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ในร่างกายออกมาได้เกือบทุกหยาดหยด หากคนธรรมดาได้กินมันเข้าไป เขาจะกลายเป็นอัจฉริยะที่ฝึกฝนทักษะต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ถ้าอัจฉริยะได้กินมันเข้าไป พรสวรรค์ของเขาจะยกระดับขึ้นไปอย่างไร้ผู้ต่อกรเลยทีเดียว

แต่การแย่งชิงก็หยุดลงโดยไม่มีใครให้ความสนใจกับยาเม็ดนั้นอีกเลย เมื่อพื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนจะค่อย ๆ แยกออกจากกัน ประตูสีทองที่โผล่ขึ้นมาพร้อมกับคลื่นพลังงานอันมหาศาลผลักดันให้ทุกคนที่อยู่ในทุ่งกว้างแห่งนี้ต้องถอยกลับไปยืนสังเกตการณ์อยู่ที่ราวป่า จนเมื่อเสาแห่งแสงสลายตัวไป แรงกดดันในทุ่งกว้างแห่งนี้ลดลงกลับมาอยู่ในระดับปกติ พวกเขาถึงได้กล้ากลับเข้าไปสำรวจดูประตูนี่อีกครั้ง และเป็นไปตามความคาดหมาย แสงสีสว่างที่เกิดขึ้นตอนที่ประตูโผล่ออกมาจากพื้นดินเรียกความสนใจของผู้ฝึกฝนที่อยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ให้มุ่งมาที่นี่อย่างพร้อมเพรียงกัน ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ผู้คนจำนวนเกือบ 200 คนก็ผลัดกันเข้าไปสำรวจประตูสีทองอย่างละเอียด แม้ว่าบรรยากาศจะตึงเครียดเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่มีใครกล้าอาละวาดท้าตีท้าต่อยอย่างวุ่นวายเลย

ก่อนที่จะรู้ว่าประตูบานนี้หมายถึงอะไร? ไม่มีใครคิดจะทำสิ่งที่ไร้สาระแบบนั้นแน่นอน

“ทางเข้าดินแดนลับ? หรือว่าประตูนี้จะเป็นสมบัติด้วยตัวของมันเอง!? ไม่น่าใช่! ขนาดใหญ่แบบนี้ใครจะไปถือไหว ต้องเป็นประตูที่นำไปสู่ที่เก็บสมบัติอย่างแน่นอน!” เดวิดที่ยืนอยู่บนยอดไม้ตรงชายขอบของทุ่งกว้างพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด