ตอนที่แล้วCD บทที่ 435 เจ้าอ่อนจ้าว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 437 นักฆ่าวัวที่ติดหนี้ เขามาพร้อมกับความฉลาด

CD บทที่ 436 คลี่คลายคดีฆาตกรรมวัว


“เฮ้! เธอหมายความว่าอะไร!? ทำไมต้องไปดูที่เกิดเหตุด้วย!?” หลี่เอ๋อร์กั๋วพูดอย่างหัวเสีย “ดูพูดเข้าสิ ทำเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เธอรู้ไหมว่าวัวของฉันมีมูลค่าเท่าไร!? เธอมีปัญญาจ่ายรึเปล่า!? หรือที่ทำเป็นพูดพล่ามเพราะตั้งการเบี้ยวค่าชดเชยของฉัน!”

เหมี่ยวอิงสังเกตจากด้านหลัง เธอมองเห็นได้ชัดเจนว่าแก้มของจ้าวหยู่ขยับ อาจเป็นเพราะเขากัดฟันและเตรียมพร้อมที่จะโจมตี

อย่างไรก็ตาม ความอดทนของจ้าวหยู่มีมากจนเหมี่ยวอิงคาดไม่ถึง เธอไม่คิดว่าจ้าวหยู่จะยังยิ้มและพูดอย่างใจเย็นว่า

"ลุงเอ๋อร์กั๋ว ฉันไม่รู้ว่าวัวของคุณมีค่าเท่าไหร่ แต่พอดีฉันนำเงินติดตัวมาด้วย ฉันไม่แน่ใจว่ามันพอชดเชยให้คุณได้มั้ย?”

ขณะที่เขาพูด จ้าวหยู่ก็เปิดประตูรถและหยิบกระเป๋าใส่เงินสดหนึ่งล้านหยวนออกมา เพื่อสร้างความประทับใจให้มากขึ้น ในขณะที่เอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบเงินสด เขาได้จงใจปล่อยกระเป๋าใส่เงิน ทำให้ธนบัตรหลายใบตกลงบนพื้น!

“เอ้ย!”

“ว้าว!”

“โอ้พระเจ้า!”

ทุกคนที่เห็นเงินต่างก็อุทานด้วยความตกใจ ไม่มีใครคาดคิดว่าจ้าวหยู่จะนำเงินมามากมายขนาดนี้ มันเป็นภาพที่ทำให้ต้องอ้าปากค้างและทำให้เกิดเสียงฮือฮาในหมู่ฝูงชน

หลี่เอ๋อร์กั๋วจ้องมองอย่างไม่วางตา เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองเลย

“มะ… มันเยอะมาก…”

“ลุงเอ๋อร์กั๋ว ฉันรู้ว่าวัวส่วนใหญ่ในหมู่บ้านของเรามีราคาไม่เกินสองหมื่นหยวน” จ้าวหยู่ก้มลงหยิบเงินจากพื้นดินและยิ้มอย่างพึงพอใจ “ถ้าฉันจะชดเชยคุณสักห้าหมื่นหยวน มันก็ควรจะเกินพอใช่ไหม?”

"อะไรนะ? ห้าหมื่นหยวน?” หลี่เอ๋อร์กั๋วกลืนน้ำลายอย่างแรง

ในความเป็นจริง วัวของเขามีมูลค่าเพียงประมาณหนึ่งหมื่นหยวนเท่านั้น เมื่อได้ยินข้อเสนอของจ้าวหยู่ที่จะชดเชยเขาห้าหมื่นหยวน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจมาก เขายิ้มกว้างและพูดว่า

“เยี่ยม… ฉันไม่ได้คิดว่าเจ้าอ่อนจะรวยขนาดนี้! เอาล่ะ ในเมื่อเราเป็นเพื่อนบ้านเก่า ฉันจะรับห้าหมื่นหยวนไว้ก็ได้ ฮ่าฮ่าฮ่า!”

"ดี!" เมื่อจ้าวหยู่รวบรวมเงินทั้งหมดเสร็จแล้ว เขาก็ชี้ไปที่สวนข้างบ้านแล้วพูดว่า “เอาล่ะ เราไปดูที่เกิดเหตุก่อน ฉันอยากจะค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าวัวตายได้อย่างไร ก่อนที่ฉันจะชดเชยให้คุณ”

“แน่นอน… แน่นอน…” หลี่เอ๋อร์กั๋วได้รับอิทธิพลจากเงินอย่างง่ายดาย จึงตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อมถ่อมตน

จ้าวหยู่ยื่นกระเป๋าที่บรรจุเงินให้เหมี่ยวอิงแล้วหันกลับไปเดินไปที่สวน

“เดี๋ยวสิ! เสี่ยวหยู่! ลูกอย่าให้เงินพวกเขานะ! เรื่องทั้งหมดนี้ฟังดูน่าสงสัยมาก!” แม่ของจ้าวหยู่ต้องการรีบไปหยุดเขา แต่เหมี่ยวอิงที่มีไหวพริบเฉียบแหลมหยุดเธอไว้

“ไม่ต้องห่วงค่ะ คุณป้า จ้าวหยู่เขามีแผนการบางอย่างในใจ เรามาดูกันว่าเขาจะแก้ไขปัญหาได้ยังไงดีกว่าค่ะ” เหมี่ยวอิงยิ้มและพูดปลอบใจอีกฝ่าย ดังนั้นแม่ของจ้าวหยู่จึงค่อย ๆ สงบลง

ที่ดินตรงบริเวณข้างบ้านจของครอบครัวจ้าวหยู่ถูกซื้อครั้งแรกในราคาต่ำมากเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่ราคาของที่ดินกลับเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เนื่องจากการปรับขึ้นของที่ดินในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

หลังจากซื้อที่ดินแล้ว ครอบครัวของจ้าวหยู่ไม่มีเงินเหลือที่จะสร้างบ้านหลังใหม่ พ่อของจ้าวหยู่จึงเริ่มปลูกผักบนพื้นดิน และค่อย ๆ เปลี่ยนให้เป็นสวนผักเล็ก ๆ

บังเอิญฝั่งตรงข้ามของสวนผักคือบ้านของหลี่เอ๋อร์กั๋ว ระยะห่างระหว่างโรงเลี้ยงวัวในบ้านของหลี่เอ๋อร์กั๋วและสวนผักนั้นใกล้กันมาก

เมื่อจ้าวหยู่เข้าใกล้สวนผัก เขาเห็นฉากตรงหน้าซึ่งงมันตรงกับที่หลี่เอ๋อร์กั๋วพูด มีกุญแจล็อคอยู่ที่ประตูรั้ว แต่กุญแจถูกเปิดออกแล้ว

ก่อนที่จ้าวหยู่จะก้าวเข้าไปในสวนผัก เขาได้ตรวจสอบตัวล็อคประตู เขาสังเกตเห็นว่าสามารถดึงล็อคออกได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้ลูกกุญแจ

"เห็นมั้ย! กุญแจมันพังไปตั้งนานแล้ว!“พ่อของจ้าวหยู่ชี้แจงอย่างรวดเร็ว”ใคร ๆ ก็สามารถเปิดประตูรั้วเข้าไปง่าย ๆ นอกจากนี้ฉันปลูกผักเพียงบางส่วนเท่านั้นและไม่มีค่าอะไร บางครั้งฉันก็ไม่ได้ล็อคประตูรั้วด้วยซ้ำ!”

“เฮ้! หยุดหาข้อแก้ตัวได้แล้ว!” หลี่เอ๋อร์กั๋วโต้กลับ “เมื่อฉันมาถึงเมื่อเช้า ฉันเห็นได้ชัดเจนว่ากุญแจยังล็อคอยู่เลย!”

จ้าวหยู่สังเกตทางเข้าประตูอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในสวนผัก เขาเห็นวัวสีเหลืองตัวใหญ่นอนอยู่ในทุ่งผักตรงทางเข้าสวน และคอของวัวก็ถูกเชือด เลือดไหลซึมออกมาจากรอยแผล และผืนดินที่อยู่รอบ ๆ ก็เปื้อนสีแดงด้วยเลือด กลิ่นเลือดลอยอบอวลไปทั่ว

"โธ่!" จ้าวหยู่ก้มลงแล้วพูดว่า "น่าเสียดายที่ต้องเสียวัวตัวใหญ่นี้ไป!"

“มันคือวัวหลู่ซื่อพันธุ์แท้!” หลี่เอ๋อร์กั๋วโพล่งขึ้นมา “มันทำให้ใจฉันปวดร้าวที่ต้องเห็นวัวของฉันตายไป!”

"เอาล่ะ!" จ้าวหยู่สังเกตเหตุการณ์อย่างรอบคอบ และเริ่มวิเคราะห์ว่า “นี่เป็นวัวตัวใหญ่มาก ถ้ามันตายไปแล้วก่อนที่จะมาอยู่ตรงที่เกิดเหตุ การขนย้ายมันมาที่นี่คงจะเป็นเรื่องยากลำบากมาก แสดงว่าต้องมีคนนำวัวมาที่นี่เพื่อฆ่ามัน ดังนั้นที่นี่คือที่เกิดเหตุของคดีนี้”

เมื่อได้ยินการวิเคราะห์ของจ้าวหยู่ ทุกคนก็รู้สึกตื่นตัวมาก เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากเกินไป ผู้ที่ไม่สามารถเข้าไปได้จึงต้องเขย่งเท้าและมองเข้าไปด้านในจากรั้ว

“รอยเท้าจากสถานที่เกิดเหตุถูกเหยียบจนไม่สามารถนำมาใช้อ้างอิงได้แล้ว และการแยกลายนิ้วมือออกมาก็คงเป็นเรื่องยากเช่นกัน” จ้าวหยู่พึมพำกับตัวเอง เขาสวมถุงมือสีขาวและตรวจดูวัวที่ตายแล้ว

“อืม…” จ้าวหยู่ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ดูสิ! มีรอยบุบตามผิววัวเยอะมาก รอยบุบเหล่านี้คงถูกทิ้งไว้โดยคนที่คุกเข่าตรงนี้ นี่แสดงให้เห็นว่าน่าจะมีคนสี่ถึงห้าคนจับวัวไว้ เพื่อที่วัวจะได้ไม่ดิ้นรนเพื่อดึงดูดความสนใจ และให้หนึ่งในนั้นทำการเชือดคอมัน!”

ขณะที่เขากำลังพูด จ้าวหยู่หันไปทางบาดแผลกรีดที่คอของวัว เขากล่าวเสริมว่า

“บาดแผลตัดอย่างประณีต นี่แสดงให้เห็นว่าฆาตกรมีประสบการณ์ในการฆ่าวัว นอกจากนี้ คุณจะเห็นว่าไม่มีรอยเปื้อนหรือคราบเลือดกระจายอยู่รอบ ๆ นี่ยังแสดงให้เห็นว่าตอนวัวกำลังจะตายต้องมีคนคอยจับมันอยู่”

หลี่เอ๋อร์กั๋วและคนอื่น ๆ ตั้งใจฟัง แต่ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าจ้าวหยู่หมายถึงอะไร จ้าวหยู่คลำดูรอบๆ ตัวของวัว จากนั้นเขาง้างปากของวัวออกมาดู

โดยไม่คาดคิด หลังจากมองดูไม่กี่ครั้ง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจว่า

"ว้าว! ฉันเจออะไรเข้า! มาดูสิ! ปากวัวมีตุ่มพองจำนวนมาก และยังมีแผลที่ผิวหนังซึ่งเกิดจากการแตกของตุ่มพองด้วย นี่เป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรียอย่างชัดเจน ลุงเอ๋อร์กั๋ว วัวของลุงติดโรค!”

"ห๊ะ?"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ทั้งหลี่เอ๋อร์กั๋วและภรรยาของเขาก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

“นี่…” หลี่เอ๋อร์กั๋วกล่าวในการปฏิเสธครั้งแรก “เธอต้องเข้าใจผิดแน่ ๆ วัวของเรามีสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ มันจะป่วยได้อย่างไร?”

"ใช่ ๆ!" ภรรยาของหลี่เอ๋อร์กั๋วสนับสนุนอย่างรวดเร็ว

"ไม่เป็นไร!" จ้าวหยู่กล่าวว่า “ฉันเป็นนักสืบที่รับผิดชอบคดีอาญา ถ้าฉันสามารถคลี่คลายคดีลักพาตาเมียนหลิง รวถึงคดีพิเศษอื่น ๆ ได้ กะอีแค่คดีฆาตกรรมวัวธรรมดานี้ ฉันสามารถคลี่คลายได้อย่างแน่นอน

ฉันจะขอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของสถานีตำรวจของเรามาทดสอบดูว่าวัวป่วยดีมั้ย? ลุงเอ๋อร์กั๋ว ถ้าวัวของคุณไม่ได้ป่วย นี่คงเป็นเรื่องเข้าใจผิด มันหมายความว่าวัวที่ตายตัวนี้ไม่ใช่วัวของคุณ”

“ไม่ มัน… มันอาจจะป่วย!” ภรรยาของหลี่เอ๋อร์กั๋วรีบพูดขึ้นมาทันควัน "เมื่อไม่นานมานี้ วัวดูกระสับกระส่ายเล็กน้อย แต่… เกี่ยวอะไรกับการที่ครอบครัวของเธอขโมยและการฆ่าวัวด้วย?”

“มันจะไม่สำคัญได้ยังไง?” จ้าวหยู่พูดอย่างรวดเร็ว “มันยังชัดเจนไม่พอเหรอ? วัวอาจจะตายในบ้านของคุณ และคุณจงใจพามันมาที่บ้านของเราเพื่อฆ่ามัน โดยวางแผนที่จะรีดไถเงินจากเรา มันไม่มากเกินไปเหรอ!?”

“จ้าวหยู่ แกกำลังใส่ร้ายฉัน!” หลี่เอ๋อร์กั๋วตะโกน “อย่างที่แกพูด เราต้องการหลักฐานในคดีนี้ ตอนนี้ไม่มีหลักฐานในสิ่งที่แกเพิ่งพูดมาเลย ไม่ว่ายังไงครอบครัวของแกจะต้องรับผิดชอบ!”

“ใจเย็น ๆ ฟังฉันก่อน!” จ้าวหยู่ยกมือขึ้นแล้วพูดว่า “อันที่จริง มีหลักฐานมากมายที่นี่ คุณไม่เห็นเหรอ? โดยทั่วไปเมื่อคุณฆ่าวัว คุณจะต้องใช้เชือกมัดวัวก่อน อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ มันเกี่ยวข้องกับวัวป่วย ดังนั้นจึงไม่เห็นร่องรอยใด ๆ เลยที่วัวถูกมัดไว้ล่วงหน้า”

“อีกนัยหนึ่ง การจะฆ่าวัว มันต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการจับวัวไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้วัวดิ้น มันต้องมีรอยบุบหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทันทีที่ฉันพาเพื่อนร่วมงานจากแผนกนิติเวชมาทำการทดสอบ ฉันก็สามารถหาฆาตกรตัวจริงเจอแล้ว”

"ห๊ะ?" หลี่เอ๋อร์กั๋วสะดุ้งและหยุดชั่วขณะหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ถามว่า “เป็นไปได้อย่างไร? มีรอยบุบเพียงไม่กี่รอย เธอก็จะหาฆาตกรตัวจริงได้ยังไง?”

"ได้แน่นอน!" จ้าวหยู่ยืนยันว่า “การทดสอบสามารถจับคู่ตัวอย่าง DNA และสะเก็ดผิวหนังได้อย่างง่ายดาย เมื่อถึงเวลาตรวจสอบ ครอบครัวของฉันจะให้ความร่วมมือในการสอบอย่างแน่นอน แล้วครอบครัวของคุณล่ะจะร่วมมือด้วยใช่ไหม?”

“มันทำได้จริงเหรอ?” หลี่เอ๋อร์กั๋วไม่เชื่อ เขาพูดด้วยน้ำเสียงขาด ๆ หาย ๆ “แน่นอน เราจะให้ความร่วมมือ แต่มันจะยุ่งยากหรือเปล่า?”

"อะไรนะ? คุณกังวลเรื่องความยุ่งยากงั้นเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า!“จ้าวหยู่หัวเราะและพูดว่า”อันที่จริง ฉันมีหลักฐานเด็ดอยู่นะ อยากรู้ว่ามันคืออะไร?”

ขณะที่จ้าวหยู่พูด เขาก็หันไปทางร่างของวัวแล้วพูดว่า

"ฉันรู้แล้วว่าฆาตกรซ่อนอาวุธสังหารไว้ที่ไหน คุณจะเชื่อที่ฉันพูดมั้ย?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด