ตอนที่แล้วตอนที่ 8
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10

ตอนที่ 9


"เข้ามา." (เคานต์)

นางเคาะประตูและได้ยินเสียงเย็นชาจากข้างใน. โมลิเทียรู้สึกว่าไหล่ของนางหดโดยไม่รู้ตัว. ไม่ว่าข้าพยายามแค่ไหน พ่อของข้าก็เป็นคนเอาแต่ใจอยู่ดี.

นางเคยพยายามเรียกร้องความสนใจจากเขาครั้งหนึ่ง แต่หลังจากตระหนักว่าสีหน้าของเคานต์เปลี่ยนไปเมื่อเห็นหน้าของนางแล้ว เทียบกับตอนที่เคานต์เห็นใบหน้าของพี่ชายของนางก็ดูแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด. นับแต่นั้นโมลิเทียก็หยุดพยายาม.

เมื่อนางเปิดประตู สีหน้าของเจ้าเคานต์ผู้สูงศักดิ์ก็บิดเบี้ยวเล็กน้อย.

“สำหรับคนที่จะแต่งงานวันพรุ่งนี้แล้ว เจ้าดูไม่ดีเลยนะ” (เคานต์)

การเดาะลิ้นอย่างไม่หยุดยั้งทำให้หูของนางอึดอัด แม้ว่าเขาจะกังวลเกี่ยวกับการยกเลิกพิธีแต่งงาน แต่โมลิเทียก็ยังคงนิ่งเงียบ.

“โชคดีที่ดยุคมีความอดทนมาก ดังนั้นเจ้าควรรู้ไว้ว่ากำหนดการยังคงเป็นดังเดิม” (เคานต์)

“เจ้ารู้ไหมว่าข้าป่วย” (โมลิเทีย)

“เมื่องานเลี้ยงจบลง มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วราวกับไฟป่าว่าเจ้าถูกชายคนหนึ่งพาตัวไปจากงานเลี้ยง เจ้ารู้ไหมว่าข้ากังวลแค่ไหนเมื่อได้ยินข่าวลือนั้น. ข้าคิดว่าดยุคจะยกเลิกงานแต่งงานเมื่อเขาได้ยินข่าวลือเหล่านั้นแล้วเสียอีก! จำใส่กระโหลกไว้ด้วยล่ะว่าดยุคจัดงานหารือเช่นนี้เพราะเขาต้องการดำเนินการงาน

ดยุคไม่เคยก้าวไปที่บ้านของเคานต์เลยแม้ว่านางจะป่วย ดังนั้นนางจึงมีความคิดที่คลุมเครือเกี่ยวกับตัวของดยุค.

ดยุคน่าจะเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับตารางงานมากกว่าคู่หมั้นของเขา เขาเป็นเหมือนเคานต์คลีเมนซ์ โมลิเทียมองเห็นอนาคตอันริบหรี่ของนางที่ใกล้เข้ามาแล้ว.

โมลิเทียเคยคิดจะวิ่งหนี แต่นางก็อ่อนแอราวกับกระจก แม้ว่านางจะสามารถหนีไปได้ แต่ก็ไม่มีที่ไหนให้นางหลบได้เลย หากไม่ใช่เพราะบารมีของเคานต์ตั้งแต่แรก นางอาจจะเสียชีวิตอย่างโหดร้ายตั้งแต่อายุยังน้อยเลยก็ได้.

'นางเป็นลูกที่สมบูรณ์แบบที่พร้อมจะถูกทิ้ง' (เจ้าเคานต์)

นางรู้สึกอึดอัดมากเมื่อนึกถึงประโยคที่เคานต์เคยพูดเหมือนเป็นนิสัย น่าเศร้าที่โมลิเทียไม่เคยคิดหาวิธีที่จะปฏิเสธคำพูดของเขาได้เลย.

นางนั่งลงในห้องนั่งเล่น มีเครื่องดื่มเบาๆ เตรียมไว้ล่วงหน้าเสมอสำหรับโอกาสง่ายๆ โมลิเทียหยิบชาอุ่น ๆ ขึ้นมาแล้วนำเข้าปากของนาง แก้มสีซีดของนางเปลี่ยนเป็นสีดอกกุหลาบเล็กน้อยจากความอบอุ่นของชา.

ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูห้องรับแขก โมลิเทียตัวแข็งทื่อเมื่อจู่ๆ นางก็ได้ยินเสียงเคาะประตูนั้น.

“เจ้าเคานต์ ดยุคลิเนริโอมาแล้วค่ะ” (คนรับใช้)

“พาเขาเข้ามา” (เคานต์)

"ค่ะ." (คนรับใช้)

แขนของนางสั่นเมื่อเสียงฝีเท้าด้านนอกประตูหายไป เมื่อเห็นถ้วยน้ำชาที่กำลังสั่นทำให้ลิ้นของเคานต์เดาะไปมา.

“อย่าทำผิดพลาดใดๆล่ะ. หากเจ้าพลาดการแต่งงานครั้งนี้ มันก็ยากที่จะหาคนอื่นที่ยินดีจะแต่งงานกับเจ้าอีกแล้ว.” (เคานต์)

"…ค่ะ เจ้าพ่อ." (โมลิเทีย)

“เนื่องจากเจ้าไม่สามารถมีลูกได้ ข้าจึงสงสัยอย่างยิ่งว่าจะมีใครยินดีรับเจ้าเป็นภรรยาของพวกเขาอีกมั้ย” (เคานต์)

จากคำพูดของเคานต์ โมลิเทียก็ก้มหน้าลงอย่างขมขื่น นางอ่อนแอเกินไป ดังนั้นการมีลูกจึงเป็นอันตรายต่อนางมาก.

ตัวตนของโมลิเทียเริ่มจางหายไปเมื่อนางได้ยินคำพูดของเขา นางเป็นเด็กที่ไม่สามารถทำอะไรที่ถูกต้องและไม่สามารถช่วยเหลือครอบครัวของนางได้เลย. ความรู้สึกไร้ประโยชน์ลากอารมณ์ของนางลงสู่หลุมลึก.

"เจ้าเคานต์." (ดยุคลิเนริโอ)

โมลิเทียได้ยินเสียงที่แตกต่างจากครั้งก่อน.

“ข้าคือดยุคแห่งลิเนริโอขอรับ” (ดยุคลิเนริโอ)

"เข้ามาสิ." (เคานต์)

สีหน้าหงุดหงิดของเคานต์เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและมีความอ่อนโยนในขณะที่เขาลุกจากที่นั่งเพื่อทักทายดยุคเป็นการส่วนตัว.

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่นางจะได้พบกับฆาตกรเลื่องชื่อและสามีในอนาคตของนาง โมลิเทียเม้มริมฝีปากของนางขณะที่นางรีบดื่มชาเพื่อทำให้คอที่แห้งของนางชุ่มชื้นขึ้น.

"โอ…?" (โมลิเทีย)

“ข้าไม่รู้เลยว่าเจ้าจะมีอัธยาศัยดีขนาดนี้ เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ” (ดยุคลิเนริโอ)

"เจ้าพูดอะไรกัน? เราจะใกล้ชิดกันมากขึ้นเมื่อเจ้าแต่งงานกับลูกสาวของข้า แล้วเจ้าก็จะกลายเป็นลูกเขยของข้าในไม่ช้านี้แล้วด้วย” (เจ้าเคานต์)

โมลิเทียอ้าปากค้างเมื่อเห็นชายที่ปรากฏตัวต่อหน้านาง ถ้านางไม่บ้าไปแล้ว คนที่ทักทายเจ้าเคานต์ก็คือผู้ชายที่นางค้างคืนด้วย.

'ทำไมกัน?' (โมลิเทีย)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด