ตอนที่แล้วบทที่ 26 ตอน คุณเข้าใจไหมว่าแมวตัวหนึ่งไม่รับใช้เจ้านายสองคน?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 28 ตอน ข้าชื่อ…

บทที่ 27 ตอน นักสืบหลินเสวี่ย


“เทเลพอร์ต พี่หมายถึงสิ่งนี้ใช่ไหม?”

  หลังจากที่หลินไห่คุยจบ เสียงของน้องสาวก็ดังออกมาจากโทรศัพท์ในที่สุด

   “ฮะ?” หลินไห่รู้สึกสับสน

   เป็นผลให้ช่างภาพหนุ่มที่อยู่ข้างๆ เขาตะโกนออกมาทันที “ให้ตายเถอะ ดูสิ คุณชายหลิน!”

  หลินไห่ติดตามสายตาของเขาโดยไม่รู้ตัว และตกตะลึงด้วยความประหลาดใจทันที

  ในเงามืดที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตร ร่างสง่างามผมยาวและผ้าคลุมไหล่เดินออกมาจากความมืด

   สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเพรียวบางภายใต้ผ้าคลุม กระโปรงยาวสีดำหรูหรา และรองเท้าส้นสูงสีแดงคู่หนึ่ง เธอเดินช้าๆ ไปหาพวกเขา เธอคือ หลินเสวี่ยน้องสาวของเขา

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้พวกเขาทั้งสองตกใจคือเมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้ ร่างของเธอดูเหมือนจะเคลื่อนย้ายได้ และเปลี่ยนจากตำแหน่งหนึ่งไปอีกตำแหน่งหนึ่งอยู่ตลอดเวลา ดูเหมือนสไลด์โชว์ที่กำลังเล่นอยู่ ไม่ใช่กำลังเดิน แต่เหมือนเป็นการฉายภาพทีละเฟรม มาจากระยะไกล

“เป็นไปไม่ได้!”

  หลินไห่ตะโกนออกมาตามสัญชาตญาณ ถึงชายลึกลับคนนั้นจะสามารถเทเลพอร์ตได้ก็ไม่ได้แปลกอะไร แต่น้องสาวของเขาเป็นแค่คนธรรมดามาก แล้วเธอจะเทเลพอร์ตได้อย่างไร?

  “ไม่มีสิ่งที่อธิบายไม่ได้ในโลกนี้ ปรากฏการณ์ที่คุณคิดว่าอธิบายไม่ได้นั้นเป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดจากวิธีพิเศษ”

  เสียงของหลินเสวี่ย ยังคงดังออกมาจากโทรศัพท์ ด้วยน้ำเสียงสงบ ราวกับว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องเล็กน้อย

  ในระหว่างการสนทนา หลินไห่และช่างภาพหนุ่มรีบวิ่งเข้ามา และหลินไห่แทบรอไม่ไหวที่จะถาม “น้องพี่ เธอทำได้ยังไง”

  หลินเสวี่ยไม่ได้อธิบายอะไร แต่มองขึ้นไปบนท้องฟ้า “ถ้าพี่มองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างถี่ถ้วน พี่จะเข้าใจโดยธรรมชาติ”

  ทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้ตัว และเมื่อพวกเขาเห็นรูปร่างของเพดานเหนือหัว พวกเขาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และในไม่ช้าก็ตระหนักได้ทันที

สถานที่แห่งนี้เป็นเพียงเส้นแบ่งระหว่างสวนสนุกและโรงงานไม้ เพดานเหนือศีรษะมีลักษณะเป็นรอยเเยกเพื่อให้แสงที่สาดส่องจากสวนสนุกฝั่งตรงข้ามเกิดเป็นแสงและเงาที่สว่างและมืดสลับกันบนถนนส่วนนี้ ดังนั้น เมื่อมีใครคนหนึ่งเดินผ่านถนนส่วนนี้อย่างรวดเร็ว มันจะบดบังแสงไปชั่วขณะแล้วจึงสว่างขึ้น มองจากระยะไกลจึงเหมือนเป็นการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว...

   หลังจากเข้าใจหลักการแล้ว ทั้งสองก็มองหน้ากันด้วยรอยยิ้มเบี้ยว โดยไม่คาดคิด การเทเลพอร์ตอย่างน่าอัศจรรย์ในดวงตาของพวกเขาเมื่อครู่นี้เป็นเพียงจิตนาการที่เกิดจากแสงและเงาบนเพดาน...

“แล้วเรื่องนี้ละเธออธิบายสิ่งนี้ได้ไหม” หลินไห่ถามอีกครั้ง “ตอนนี้คนๆ นั้นยิงเลนส์กล้องของเราอย่างแม่นยำจากระยะหลายสิบเมตร! นี่อาจหมายความว่าเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาใช่ไหม”

หลินเสวี่ยดันแว่นตาบนดั้งจมูกของเธอ มองดูรูลูกธนูจากเลนส์กล้องในมือของช่างภาพ แล้วส่ายหัวแล้วพูดว่า “นี่แสดงให้เห็นว่าเขาเก่งเรื่องยิงธนู และเขาก็ยิงเข้าเลนส์พอดีจากระยะห่างออกไปหลายสิบเมตร นักยิงมืออาชีพหลายคนก็ทำได้ มันไม่ได้ยากอะไรเลยสำหรับพวกเขา?”

   “แล้ว... วิชาตัวเบาล่ะ? เราสองคนเห็นเขาบินข้ามกำแพงด้วยตาของพวกเราสองคนเลยนะ!” หลินไห่แย้ง

   “แล้วมันอยู่ตรงไหนละ?” หลินเสวี่ยถาม

   “ที่นี่…”

  เช่นเดียวกับเด็กที่กระตือรือร้นที่จะพิสูจน์ตัวเอง หลินไห่รีบพาหลินเสวี่ยไปที่ชั้นล่างของอาคารเมื่อสักครู่นี้ โดยชี้ไปที่ท่อนไม้ที่ล้มเเละวางไว้ข้างกำแพง และหลินไห่ก็บรรยายฉากก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน

โดยไม่คาดคิดหลินเสวี่ยเพียงเหลือบมองท่อนไม้อย่างคราวๆ แล้วพูดอย่างไม่แสดงสีหน้า “พื้นผิวของท่อนไม้นี้ไม่เรียบและมีรอยขรุขระตามธรรมชาติอยู่ทุกหนทุกแห่ง ตราบใดที่เขาเป็นปรมาจารย์ปาร์กัวที่มีสมรรถภาพทางกายเพียงพอ เขาก็สามารถใช้งานมันได้อย่างง่ายดาย ไม้ท่อนนี้พาดขึ้นไปบนชั้นสอง นอกจากนี้ ถ้าเขามีวิชาตัวเบาจริงๆ ทำไมเขาต้องใช้มันด้วย ก็แค่ 'บิน' ขึ้นไปชั้นสองก็พอเเล้วไม่ใช่เหรอ?”

“อันนี้ก็…”

  หลินไห่ไม่สามารถตอบได้ชั่วขณะหนึ่ง ใช่ ถ้าเขามีวิชาตัวเบา แล้วทำไมยังต้องเหยียบท่อนไม้เพื่อขึ้นไปชั้นบนด้วย? ในภาพยนตร์ นักแสดงก็บินขึ้นไปบนหลังคาโดยไม่ต้องมีตัวช่วย

ยิ่งหลินไห่คิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าคำพูดของน้องสาวของเขามีเหตุผลมากขึ้นเท่านั้น เขาตกใจมากเมื่อเห็นฉากที่ไม่น่าเชื่อเหล่านั้นในทันที จนไม่ได้คิดถึงเหตุผลที่เป็นไปได้...

   “แต่ต่อมาอาจารย์ก็จับผีขึ้นไปชั้นบนได้ จะว่ายังไงดี?” หลินไห่ต้องการโต้แย้ง

  เขามักจะรู้สึกเสมอว่าเรื่องของวันนี้ไม่ง่ายขนาดนั้น ชายสวมผ้าคลุมคนนี้แตกต่างจาก ‘ปรมาจารย์เจียงหู’ ที่เขาเคยเจอมาก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่สามารถบอกได้ว่าความแตกต่างที่รู้สึกนี้คืออะไรมาสักระยะหนึ่งแล้ว

   “พี่เห็นผีที่เขาจับได้ด้วยตาของพี่เองหรือเปล่า” ผลก็คือหลินเสวี่ยทำให้เขาติดอยู่กับคำถามเชิงวิเคราะห์อีกครั้ง

“ไม่…”

  หลินไห่ส่ายหัวอย่างหดหู่ เขาจำได้แล้วว่าเมื่ออาจารย์มาถึงที่นี่ท้ายที่สุด ในมือของเขาก็ว่างเปล่า เขาบอกว่าเขาจับ ‘ผี’ ได้ แต่เขาไม่ได้แสดงสิ่งที่ดูเหมือน ‘ผี’ ให้พวกเขาดู เห็นได้ชัดว่าไม่น่าเชื่อเลย...

   “ฉันจัดการกับตำรวจให้แล้ว เอาล่ะ พาคนของพี่กลับบ้านเดี๋ยวนี้ และอย่ามาทำอะไรแบบนี้อีก” หลินเสวี่ยมองหลินไห่อย่างจริงจัง

“ได้…”

  หลินไห่ไม่กล้าหักล้างน้องสาว

   ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากประสบกับเหตุการณ์นี้ เขาก็ไม่มีอารมณ์ที่จะไลฟ์สตรีมต่อในวันนี้

  เมื่อมองทั้งสามออกไปหลินเสวี่ยก็ไม่รีบร้อน เธอหันศีรษะไปมองอาคารร้างที่อยู่ด้านหลังเธอแทน ใบหน้าอันงดงามของเธอก็บูดบึ้งเล็กน้อย

  ถึงเธอจะพูดกับหลินไห่ไปอย่างนั้น แต่จริงๆ แล้ว หัวใจของเธอก็ไม่ได้สงบอย่างที่เห็น

   “ถ้าสิ่งที่พี่ใหญ่เพิ่งพูดเป็นความจริง ก็ยังมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้…”

   หลินเสวี่ยขมวดคิ้วและมองไปที่ชั้นสามของอาคาร

   ‘แสงแฟลชสีขาว’ ที่เขาพูดถึงคืออะไร?

  ช่างภาพที่ขึ้นไปชั้นบนทำไมจู่ๆ ถึงเป็นลม?

นอกจากนี้ยังมีชายที่ทำตัวแปลกๆ สวมผ้าคลุมสีแดง เขาใช้ธนูและลูกธนูเป็นอาวุธ แต่ตามที่หลินไห่บอก เขามีโอกาสได้สัมผัสใกล้ชิดกับชายคนนี้ถึงสองครั้ง แต่กลับไม่พบว่าเขาได้ถืออะไรไว้ในมือเลย... ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ลืมไปแล้วหรอว่าเขาใช้ธนูเป็นอาวุธ?

  ด้วยคำถามมากมาย หลินเสวี่ยก็เดินขึ้นไปบนอาคาร

  เวลา 2:00 น. ที่มืดสนิท เมื่อเข้าไปในอาคารร้างซึ่งมี ‘ผี’ อยู่ สำหรับผู้หญิงธรรมดาทั่วไป ก็คงกลัวและไม่กล้าที่จะเดินขึ้นไป

   แต่หลินเสวี่ยเป็นข้อยกเว้น เธอไม่เคยเชื่อเรื่องเทพเจ้าและผีเหล่านั้นเลย

  เมื่อเดินตามบันไดไปจนถึงชั้น 3 ซึ่งน่าจะเป็นสนามรบระหว่างชายสวมผ้าคลุมกับผี

  หลินเสวี่ยสำรวจชั้นสามทั้งหมดอย่างระมัดระวังด้วยแสงจากโทรศัพท์มือถือของเธอ และพบร่องรอยแปลกๆ

   บนผนังตรงหัวมุมบันไดชั้นสามมีรูลูกศรลึก แต่ไม่พบเศษลูกศรอยู่รอบๆ กลับมีของเหลวสีแดงอ่อนสองสามหยดอยู่บนพื้นใต้รูลูกศร

  หลินเสวี่ยโน้มตัวไป จุ่มนิ้วของเธอลงในของเหลว วางไว้ตรงหน้าจมูกของเธอแล้วดมมัน

   “ก็แค่ยาชาธรรมดา...แต่มันเกิดจากการหกไม่ใช่การฉีด...”

  หลินเสวี่ยขมวดคิ้ว

  ตามรูปทรงของรูลูกศร จุดยิงควรอยู่ที่ราวกั้นชั้นสี่ด้านบน

  แต่ในระยะใกล้ขนาดนั้น ลูกธนูของชายสวมผ้าคลุมก็ไม่โดนอะไรเลยเหรอ ทั้งที่สามารถยิงเลนส์กล้องได้จากระยะไกลโดยไม่พลาด?

  เขากำลังล่าอะไรกันแน่?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด