ตอนที่แล้วบทที่129 : คุณค่าและความไร้ค่า (4-1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 131 : ดันเจี้ยนสำรวจ (1-1)

บทที่ 130 : คุณค่าและความไร้ค่า (4-2)


บทที่ 130 : คุณค่าและความไร้ค่า (4-2)

ฉันชี้ดาบของฉันไปที่ตรงเท้าของซิตัน ไม่มีใครสนใจดาบที่ฉันผลักไปข้างหน้า

“ตัดแขนข้างหนึ่งของนายออกด้วยดาบนี้ แล้วฉันจะลองคุยกับนายท่านให้”

"อะไรนะ?!"

“ฉันไม่ได้บอกนายก่อนหน้านี้เหรอ? ราคานายต้องจ่ายนั้นมันถูกมากเลยนะ”

ถ้าเขาทำจริง ฉันอาจจะคุยกับนายท่านให้เขาก็ได้

ชายคนนั้นอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

“บ้าไปแล้วเหรอ! ให้ฉันตัดแขนของตัวเองแบบนั้นเนี่ยนะ?”

"แล้วยังไง…"

พวกเขาสร้างปัญหาแล้ว เพื่อนาคตที่ดีขึ้น ฉันจะปล่อยพวกเขาไปเฉยๆ ไม่ได้

อย่างไรก็ตาม หากมีคนบ้าพอที่จะตัดแขนของตัวเองออก ถึงมันจะดูบ้ามาก แต่มันก็คงจะดีกว่าที่จะสังเคราะห์พวกเขาแน่นอน เพราะการตัดส่วนต่างๆ ของร่างกายออกไปไม่ใช่เรื่องง่าย

ดูเหมือนชายคนหนึ่งจะตัดสินใจและกำลังจะตัดแขนของเขาออกเมื่อเขากรีดร้องและขว้างดาบออกไปทันที เลือดหนึ่งเส้นปรากฏบนแขนของเขา ชายคนนั้นได้แต่สะอื้นออกมา

“มันไม่มากเกินไปเหรอ… มันไม่ใช่นิ้ว มันคือแขนเลยนะ!”

“นายพูดว่าพร้อมเอาชีวิตของตนมาเสี่ยงไม่ใช่งั้นเหรอ?”

“ถ้างั้น ช่วยตัดมันให้ฉันได้ไหม? ฉันทำไม่ได้”

“ฉันทำแบบนั้นให้ไม่ได้หรอก”

“หรือนายกำลังบอกให้พวกเราทุกคนไปตายกันหมดเหรอ?”

“แบบนั้นก็ไม่แย่นะ”

อีกสองสามคนพยายามตัดแขนของตนออก แต่ก็ไม่มีใครทำสำเร็จ

หากต้องการตัดแขนออกในจังหวะเดียว จำเป็นต้องมีทักษะการใช้ดาบหรือค่าความแข็งแกร่งสูง มิฉะนั้นคงจะได้แค่แผลเท่านั้น ทว่าในสายตาของฉัน คงไม่มีใครบ้าพอสำหรับเรื่องนั้น พวกเขาพยายามซ้ำแล้วซ้ำอีก จนยอมแพ้แล้วเข้าห้องสังเคราะห์

ตอนนี้เหลือเพียงคนเดียวเท่านั้น

ที่เป็นต้นตอของเหตุการณ์นี้

[ฮาน ซิตัน!]

"อื้อ"

ฉันเดินเข้าไปในห้องสังเคราะห์

เมื่อห้องรอกลายเป็นชั้นสอง โครงสร้างของห้องสังเคราะห์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ที่ชั้นหนึ่งเป็นห้องเลื่อนระดับ และชั้นสองเป็นห้องสังเคราะห์ หลังจากนั้นไม่นานซิตันก็ถูกลากเข้าไปในห้องสังเคราะห์อย่างไม่เต็มใจด้วยสายตาที่หวากกลัว เมื่อประตูปิดลงวงกลมเวทมนตร์ก็เริ่มเรืองแสง

“จะ จะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน?”

"ไม่ต้องกังวล มันจะไม่เจ็บขนาดนั้น”

“เราก็แค่…”

ซิตันที่กำลังจะพูดต่อ แต่เขาก็สลายเป็นอนุภาคเปล่งแสงไปทุกทิศทุกทาง

อนุภาคแสงซึมเข้าสู่ร่างกายของฉัน พร้อมกับมีข้อความปรากฏขึ้นระบุว่าการสังเคราะห์เสร็จสมบูรณ์

[การสังเคราะห์เสร็จสมบูรณ์!]

['ซิตัน (★)' กลายเป็นแสงสว่างและหายไป]

['ฮาน (★★)' ได้รับคะแนนประสบการณ์เพิ่มขึ้น!]

พลังงานแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของฉัน

ระดับความแตกต่างระหว่างเป้าหมายและตัวสังเคราะห์นั้นมีความแตกต่างกันอยู่

ฉันได้รับคะแนนประสบการณ์จำนวนหนึ่งเท่านั้น เลเวลของฉันไม่เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ

เมื่อออกจากห้องสังเคราะห์ คนสามสิบคนก็ลดลงเกือบครึ่งหนึ่ง มีคนสิบคนเสียชีวิตเนื่องจากการสังเคราะห์ มันเป็นเพียงเรื่องธรรมดา ฉันเก็บดาบที่ร่วงหล่นห้อยไว้กับเข็มขัด

ฉันสำรวจรอบๆ จัตุรัส

ทุกคนนิ่งเหมือนถูกแช่แข็ง แม้ว่าฉันจะไม่ได้อธิบายกระบวนการสังเคราะห์ แต่พวกเขาก็เข้าใจว่าพวกเขาไม่สามารถกลับมาได้ หากถูกสังเคราะห์แล้ว

'ครั้งต่อไปจะทำอะไรก็ช่วยศึกษาเพิ่มเติมอีกสักหน่อยเถอะ'

การปฏิเสธการเข้าร่วมเป็นวิธีการที่เสี่ยง แม้กระทั่งสำหรับฉันเอง

สำหรับพวกเขาที่เป็นเพียงฮีโร่ระดับ 1 ดาวทั่วไปจากการอัญเชิญฟรี การลงเอยเช่นนี้ถือเป็นปลายทางสุดท้าย มันเป็นผลจากการยอมรับเอาแต่ความสะดวกสบายโดยไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างถูกต้อง

ไม่ว่าในกรณีใด พวกเขาก็คงกลายเป็นสื่อการสอนที่ดีให้กับคนอื่นๆ

ผู้ที่รอดชีวิตต่างก็คงตระหนักแล้วว่ามีช่องว่างระหว่างนายท่านและฮีโร่ สิทธิ์ในการปฏิเสธเป็นเพียงแค่เหมือนการประท้วงเท่านั้น ดังนั้นในความเป็นจริง มันก็คือการฆ่าตัวตาย

“สรุปว่าตอนนี้เหลืออยู่ 25 คน”

ฉันเดินผ่านใจกลางจัตุรัส

มันจบแล้ว ฉันตั้งใจที่จะตรวจสอบสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พักและศูนย์ฝึกอบรมตอนนี้อยู่ที่ชั้น 3 และมีโรงอาบน้ำและห้องนั่งเล่นเพิ่มเข้ามา ผู้คนแหวกเส้นทางให้ฉันในขณะที่ฉันเดินผ่านไป

“พวกคุณมันบ้าไปแล้ว! พวกตัวประหลาด!”

ฉันหยุดเดิน

คนที่ตะโกนถูกซ่อนอยู่ในฝูงชน และมองไม่เห็นใบหน้าของพวกเขา

"ว่าไงนะ?"

เวคิสลุกขึ้นจากที่นั่ง

เขาชักดาบออกจากฝักไปแล้วครึ่งหนึ่ง

"หยุด"

“เราแสดงตัวอย่างให้พวกเขาเห็นเรียบร้อยแล้วเหรอ? ดูเหมือนว่าจะมีแต่พวกเหลือขอที่เอเห่านะ”

“ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย แล้วทำไมนายถึงต้องทำตัวอยากมีปัญหาทั้งๆ ที่ฉันก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไร?”

“ดูใจเย็นจังนะ ถ้าเป็นผม ผมคงจะขยี้พวกมันไปแล้ว”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเวคิส

"ผมไปก่อนนะ ไว้เจอกันที่ชั้นสอง”

เวคิสเข้าไปที่ชั้นหนึ่ง

เขามุ่งตรงไปยังศูนย์ฝึก ดูเหมือนเขาจะทดสอบพลังและทักษะที่เขาได้รับจากการสังเคราะห์ คนอื่นๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน ในไม่ช้าฮีโร่ในห้องรอก็แบ่งออกเป็นชั้น1และชั้น2อย่างชัดเจน

ผู้มีคุณค่าทั้งหลาย

และพวกไร้ค่า

“นายท่านเริ่มการอัญเชิญติดต่อกัน 10 ครั้ง ตื่นเต้นจังว่าฮีโร่คนไหนจะออกมา!”

และมีข้อความแจ้งการอัญเชิญปรากฏขึ้น

*ตึกตึก ดูรูรูรู*

*แท้นนน!*

*ทั่วไป!*

*นายท่าน 'ไรก็ได้'…*

ฉันมองลงไปที่ชั้นแรกผ่านพื้นโปร่งใส

แท่นอัญเชิญบนชั้นหนึ่งเปิดออก แสงสีขาวส่องออกมาจากประตู เขากำลังอัญเชิญฮีโร่เพิ่มหลังจากผ่านการสังเคราะห์เมื่อกี้

จากนี้ไปพวกเขาจะถูกส่งไปตามระดับ

ฮีโร่อัญเชิญมาฟรีอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ฮีโร่ที่เสียเงินอัญเชิญจะอยู่ชั้นสอง

ชายคนหนึ่งที่เพิ่งถูกอัญเชิญมาก้าวเข้าสู่ลานจัตุรัส

ใบหน้าของเขามีสีหน้างุนงงซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮีโร่ระดับ 1 ดาว มีหญิงสาวเดินตามหลังชายคนนั้น ดูเหมือนเธอกำลังตะโกนอะไรบางอย่าง แต่ฉันไม่ได้ยินเสียงนั้น

เอี๊ยด

รอยแยกของมิติและเวลาเปิดออก

อย่างน้อยสองคนที่มาใหม่ก็อาจจะตายทันที

ดูเหมือนว่าจะมีการมอบหมายงานหลังจากการกวาดล้างครั้งใหญ่เมื่อกี้ ไอเซลล์ปรากฏตัวขึ้นและต้อนพวกมาใหม่เข้าไปในรอยแยก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถขึ้นไปชั้นสองได้

'เขาบอกว่าฉันบ้าเหรอ?'

ฉันยิ้ม

สามัญสำนึกของโลกความเป็นจริงใช้ไม่ได้ที่นี่

เรากลืนกินกันและกันผ่านการสังเคราะห์ ต่อสู้เพื่อชีวิตของเรากับพวกสัตว์ประหลาดที่พยายามจะฆ่าเรา หากการปรับตัวเข้ากับกฎเหล่านั้นหมายถึงการเป็นคนบ้า นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องทำ

“อย่าได้ใจไปนะ เธอก็สามารถลงไปที่ชั้น 1ได้ตลอดเวลา”

“เป็นแบบนั้นเหรอ?”

เจนน่าหัวเราะพลางเกาแก้มของเธอ

อารอนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

“ถ้ามีชั้นสองได้ ก็หมายความว่าชั้นสามคงจะถูกสร้างด้วยเช่นกัน”

“จำนวนชั้นจะเพิ่มขึ้นสินะ”

“ระดับชั้นก็จะแตกต่างกันด้วย”

อีดิสกล่าว

ฉันพยักหน้า ห้องรับรองปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็นชั้นบนและชั้นล่าง แต่สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นโครงสร้างพีระมิด เช่นเดียวกับนิฟม์เฮม แม้ว่าสถานที่นั้นจะใช้ระบบขั้นสูงกว่าที่นี่มาก แต่แก่นหลักก็คล้ายกัน

ฉันมองไปที่ประตูหน้าจัตุรัสชั้นสอง

แผ่นป้ายที่มีคำว่า “รอยแยกของมิติแและเวลา” เขียนไว้ติดอยู่กับประตูที่ปิดอย่างแน่นหนา

ฉันมุ่งหน้าไปยังที่พักของฉัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด