ตอนที่แล้วตอนที่ 469 สงครามที่เอนิเอส ล็อบบี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 471 อย่าเป็นศัตรูกับหลี่ฟาน

ตอนที่ 470 จงจู่โจม ทีบูรอน


“ฮ่าฮ่าฮ่า ลุจจิ เป็นไปตามที่นายพูดไว้จริงๆ”

“เมื่อเราโจมตีเอนิเอส ล็อบบี้ รายการทองคำก็จะหันมาถ่ายทอดสดพวกเรา”

หลังจากใช้พลังของผลปีศาจ จาบราที่กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า ก็หัวเราะและหันไปมองลุจจิ

เห็นได้ชัดว่าเขามีความสุขมาก ที่รายการทองคำหันมาถ่ายทอดสดสถานการณ์ของเอนิเอส ล็อบบี้

“ตราบใดที่นายเข้าใจกฎของรายการทองคำ นายก็สามารถคาดเดาสิ่งนี้ได้”

ลุจจิเงยหน้าขึ้นเหลือบมองไปยังหน้าจอของรายการทองคำ ที่กำลังถ่ายทอดสดภาพของพวกเขาอยู่ในขณะนี้ และใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความหนาวเย็น

“พวกนายต้องการจะทำอะไร!”

“กล้าที่จะโจมตีเอนิเอส ล็อบบี้ พวกนายอยากตายมากใช่ไหม!”

“คนที่ถูกขับไล่ออกจากรัฐบาลโลก กล้ากลับมาที่นี่อย่างงั้นหรอ!”

เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลโลกกลุ่มหนึ่ง พากันล้อมคาลิฟาและคนอื่นๆ ขณะตะโกนออกมาเสียงดัง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะโกรธมาก แต่ใครก็ตามที่มีสายตาที่เฉียบแหลม ก็สามารถเห็นความกลัวในใจของพวกเขาได้

เรื่องนี้มันไม่น่าแปลกใจเลย เพราะหลังจากที่คาลิฟาและคนอื่นๆ ปรากฏตัวเพียงไม่กี่นาที เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลโลกหลายร้อยคนก็พากันล้มลง

“แม้ว่าพวกเราจะห่างหายไประยะหนึ่ง แต่พวกนายก็ควรจะรู้ว่าพวกนายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเรา”

ร่างกายที่แข็งแกร็งของบลูโน่เคลื่อนไปข้างหน้า และออร่าอันน่าสะพรึงกลัวของเขาก็เปล่งประกายออกมา

แม้ว่าหลี่ฟานจะใช้เวลาไม่นานในการฝึกฝนพวกเขา แต่ในฐานะลูกศิษย์นอกของหลี่ฟาน บลูโน่กับลุจจิที่สามารถทนต่อการฝึกฝนที่ยากลำบากได้ ก็พากันก้าวหน้าขึ้นไปมาก

พวกเขาคนใดคนหนึ่งก็สามารถที่จะทำลายเอนิเอส ล็อบบี้ได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง

เจ้าหน้าหลายคนที่พึ่งกลายมาเป็นสายลับคนใหม่ของ cp9 ต่างมองหน้ากันเพราะความกลัว และมีความกลัวที่จะก้าวออกไปข้างหน้า

บลูโน่ส่ายหัว “ในเมื่อพวกนายไม่ขยับ ถ้างั้นฉันจะเป็นคนเริ่มเอง”

หลังจากพูดจบ นัยน์ตาของบลูโน่ก็เบิกกว้าง และการโจมตีอันน่าสยดสยองก็มุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่ทั้งหกที่อยู่ข้างหน้าเขา

เมื่อคิดว่าบลูโน่กำลังจะโจมตีพวกเขา เจ้าหน้าที่ทั้งหกก็กระโดดขึ้นไปกลางอากาศทันที

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่ได้สังเกตก็คือ อากาศด้านหลังพวกเขากลับถูกเปิดออกเหมือนกับเปิดประตู

“ประตูอากาศ” บลูโนกระซิบ และที่ด้านหลังของเขามันก็มีประตูที่เหมือนกับเจ้าหน้าที่ทั้งหกปรากฏอยู่

แม้พวกเขาจะรู้ตัวว่ามันผิดปกติ แต่มันก็สายเกินไป

พวกเขาทั้งหกหายเข้าไปในประตูอากาศที่อยู่ข้างหลังพวกเขา และในที่สุดก็บินออกมาจากประตูอากาศที่อยู่ด้านหลังบลูโน่

“เป็นไปได้ยังไง?” ดวงตาของเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเบิกกว้าง

“พวกนายยังอ่อนแอเกินไป ดัชนีพิฆาต” ลุจจิส่ายหัว

ทันใดนั้นนิ้วของเขาก็เริ่มแข็งตัว ก่อนที่มันจะแทงผ่านหัวใจของเจ้าหน้าที่ทีละคน

ดวงตาของเจ้าหน้าที่เบิกกว้าง พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่ง พวกเขาจะตายด้วยน้ำมือของลุจจิและคนอื่นๆ ที่เป็นคนที่รัฐบาลโลกต้องการตัว

ไกลออกไป ในห้องสำนักงานประธานของเอนิเอส ล็อบบี้

มือของสแปนดัมที่ถือกล้องส่องทางไกลสั่น และใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“มันเป็นไปได้ยังไงกันเนี่ย!”

“ลุจจิและคนอื่นๆ ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่กัน?”

“ไอ้พวกกองทัพเรือมันกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมพวกมันถึงไม่ส่งกำลังมาสนับสนุนสักที!”

เมื่อรู้ว่าลุจจิและคนอื่นๆ บุกมาที่เอนิเอส ล็อบบี้ สแปนดั้มก็รีบขอกำลังสนับสนุนจากกองทัพเรือทันที

อย่างไรก็ตาม แม้แต่สาขากองทัพเรือที่ใกล้ที่สุด ก็ยังอยู่ห่างจากเอนิเอส ล็อบบี้ไประยะหนึ่ง

ในเวลาอันสั้น มันจึงไม่มีการสนับสนุนจากกองทัพเรือมาถึงเอนิเอส ล็อบบี้ได้

“ฉันเองก็ควรจะเคลื่อนไหวด้วย” คาลิฟาก้าวออกมา

“ในเมื่อพวกเราได้รับโอกาสดีๆ แบบนี้ มันก็น่าเสียดายที่จะไม่ให้โลกได้รับรู้ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเรากับอาจารย์หลี่ฟาน”

มองดูรายการทองคำที่สะท้อนร่างของเธอบนท้องฟ้า คาลิฟาก็โบกมืออย่างมีความสุข

การกระทำของเธอ ดูเหมือนกำลังจะทักทายใครซักคน

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของรัฐบาลโลกและกองทัพเรือ นี่เป็นการยั่วยุอย่างสมบูรณ์

จากนั้น คาลิฟาก็ค่อยๆ ดึงดาบฟันวิญญาณที่ผูกไว้ที่เอวของเธอออกมาช้าๆ ด้วยรอยยิ้มที่สวยงามแต่ก็อันตราย

[ตาเหยี่ยว มิฮอว์ค: นั่นมัน ดาบฟันวิญญาณใช่ไหม?! ]

[หนวดขาว นิวเกต: กู ลา ลา ลา ถ้าอย่างนั้นในกรณีนี้ เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ก็คงจะเป็นลูกศิษย์ของหลี่ฟาน! ]

[ราชานรก เรย์ลี่: ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสนใจ นี่ควรเป็นดาบฟันวิญญาณแบบเดียวกันกับเด็กสาวเผ่ามิงค์ที่ชื่อแครอท ]

เมื่อเห็นดาบฟันวิญญาณปรากฎขึ้นในมือคาลิฟา ทุกคนก็เข้าใจได้ในทันที

เซ็นโกคุที่พึ่งได้รับคำสั่งให้ส่งทหารเรือไปสนับสนุนเอนิเอส ล็อบบี้ ได้แต่นิ่งเงียบ

เขาค่อยๆ หยิบทากสื่อสารขึ้นมาอย่างช้าๆ และกดหมายเลขติดต่อทหารเรือที่ถูกส่งไปสนับสนุนเอนิเอส ล็อบบี้

“จงจู่โจม ทีบูรอน!”

ขณะที่คาลิฟาคร่ำครวญ แรงดันวิญญาณจำนวนมหาศาลก็แผ่ออกมาจากร่างของเธอ

ต่างจากแครอทที่เคยปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณด้วยพลังทางกายภาพ ในขณะนี้ คาลิฟามีแรงดันวิญญาณอยู่มากมายในร่างกายของเธอ

แม้ว่าจะยังไม่ถึงระดับของ ‘อารันคา’ ในต้นฉบับ แต่นี่ก็เพียงพอแล้วที่เธอจะใช้จัดการกับพลเรือเอกได้

“อ๊ะ! ต้องรีบถอยออกไปห่างๆ แล้วสิ ฉันไม่ต้องการที่จะโดนลูกหลงของเธอหรอกนะ”

เท้าของจาบรากระโดดขึ้นอย่างแรง และตรงไปยังพื้นที่ที่อยู่ห่างจากคาลิฟาหลายสิบเมตร

เช่นเดียวกับเขา ลุจจิและคนอื่นๆ ก็เลือกที่จะออกไปจากที่นี่ชั่วคราวเช่นกัน

แรงดันวิญญาณที่อยู่บนร่างของคาลิฟาได้เปลี่ยนเป็นกระแสน้ำ และดาบในมือของเธอก็กลายเป็นชุดเกราะสีขาว ที่เข้าปกคลุมร่างกายของเธอ

จากนัั้นดาบสองคมขนาดใหญ่สีขาวที่มีรูปร่างคล้ายกับฉลาม ก็ปรากฏขึ้นในมือของคาลิฟา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด