ตอนที่แล้วบทที่ 141 ลัคกี้ลุค
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 143 พูดออกมา (ตอนที่ 1)

บทที่ 142 การประลองการ์ด


บทที่ 142 การประลองการ์ด

[โชคดีที่หนึ่ง]...

ทักษะติดตัวที่มาพร้อมกับตัวละคร [ลุค] ที่สามารถเพิ่มโชคของผู้ใช้ได้อย่างมากในการต่อสู้ หรือแม้อาจสามารถเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นโชคดีได้เลย

น่าเสียดายที่โชคนี้ส่งผลในระหว่างการต่อสู้เท่านั้น ความสามารถของมันไม่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้ อาจเพราะมันกลัวว่าไรอันจะใช้ประโยชน์จากความสามารถนี้ในทางที่ผิดกระมัง อีกส่วนหนึ่งก็คงเพราะมันเป็นทักษะของการ์ดตัวละคร ดังนั้นมันจึงมีข้อจำกัดอยู่ ไม่มีทางที่ระบบจะทิ้งช่องโหว่ที่ชัดเจนเช่นนี้ไว้ให้เขาใช้ประโยชน์อยู่แล้ว

ทว่าฝูงชนโดยรอบต่างก็ประทับใจกับโชคที่เหลือเชื่อของไรอัน

"โชค? ไม่มีใครโชคดีได้ตลอดเวลาหรอก!”

เมื่อฟื้นคืนจากความตกใจ บูลส์อายก็มองไปที่ไรอัน ซึ่งกำลังมองมาที่เขาและคล้ายตกอยู่ในห้วงภวังค์

ตามที่บูลส์อายพูดมา [โชคดีที่หนึ่ง] ไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน โชคจากความสามารถนั้นทำให้ไรอันมีความสามารถในการต่อสู้มากขึ้นเล็กน้อย ซึ่งมันอาจจะลดความอันตรายของการโจมตีจากศัตรูลงเล็กน้อย แต่มันไม่ใช่ว่าเขาจะใช้มันได้ตลอดไป

ไรอันคาดเดาว่าความสามารถเช่นนี้อาจมีอยู่จริงและใช้ได้ตลอด แต่อย่างน้อยมันก็คงเป็นการ์ดระดับ A

[ลัคกี้ลุค] เป็นการ์ดระดับกลาง ดังนั้นจึงมีโชคเพียงนิดหน่อยเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ บูลส์อายจึงดึงลูกดอกออกมาและโยนไปทางไรอัน

"อึก!"

เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชได้ดังขึ้น คราวนี้ชายชาวรัสเซียคนหนึ่งก็ดันเผลอพุ่งเข้ามาในการต่อสู้และรับลูกดอกไป

ไรอันเลิกคิ้ว มองไปที่ชายผู้โชคร้ายที่ล้มลงกับพื้น เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและหลังจากเงียบไปสองสามวินาที เขาก็เล็งปืนลูกโม่ที่เขาถืออยู่เล็งไปที่บูลส์อายและยิงออกไป

เขาไม่ลืมว่านอกจากความสามารถแบบติดตัวของ [โชคดีที่หนึ่ง] แล้ว ลุคยังมีทักษะ [สิงห์ปืนไว] อีกด้วย

“อะไรกัน?!”

ด้วยความตกตะลึงกับโชคที่น่าทึ่งของไรอัน บูลส์อายก็ลืมความเป็นนักแม่นปืนที่อีกฝ่ายเคยเผยฝีมือออกมาก่อน ตอนนี้เมื่อเห็นมือของอีกฝ่ายขยับ บูลส์อายก็ตั้งสติได้และพยายามหลบมัน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไรอันยิงได้เร็วกว่าที่บูลส์อายคิดไว้ ด้วยการมองเห็นแบบไดนามิกที่เหนือมนุษย์ เขาจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากระสุนที่ส่องประกายออกมาจากปากกระบอกปืนลูกโม่กำลังกระทบไหล่ของเขาด้วยความแม่นยำอย่างน่าเหลือเชื่อ ในวินาทีต่อ เลือดและความเจ็บปวดอย่างรุนแรงของเขาก็ปรากฏอยู่ในกระดูกของเขา

"..."

เขากัดฟันแน่นและปิดบาดแผลบนแขนของเขา สีหน้าของบูลส์อายเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด

ด้วยการถูกยิงไปที่แขนซ้ายของเขา ความสามารถในการขว้างปาที่เขาภาคภูมิใจก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน มันลดพลังการต่อสู้ของเขาลงไปอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง

"ดูเหมือนว่าฉันคงจะต้องถอนตัว"

บูลส์อายหันไปมองชิชิโอะที่ยังคงต่อสู้กับลุคเคจ บูลส์อายถูกโจมตีจนต้องล่าถอยด้วยตัวเอง ก่อนที่เขาจะได้ทำตามที่คิด กระสุนนัดต่อไปก็ถูกยิงออกมา เลือดสีแดงและรอยกระสุนที่ชัดเจนก็ปรากฏขึ้นบนแขนอีกข้างของบูลส์อาย

ด้วยการยิงครั้งนั้น ความสามารถของเขาจึงไม่มีอยู่แล้ว

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาของบูลส์อาย ไรอันก็ค่อยๆ ผลักหมวกคาวบอยของเขาขึ้น เขาพูดอย่างใจเย็นว่า “สมดุลที่สมบูรณ์แบบ หนึ่งซ้ายและหนึ่งขวา”

"..."

[คะแนนชื่อเสียงจากบูลส์อาย +245]

ถ้าหากดวงตาสามารถใช้โจมตีได้ สายตาของบูลส์อายคงทำให้ไรอันกลายเป็นขนมปังหั่นแผ่นแล้ว

"คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน"

เจสซิก้าที่เฝ้าดูสถานการณ์ในการต่อสู้มานาน ก็สังเกตเห็นว่าบูลส์อายได้รับบาดเจ็บ เธอจึงลงมาจากกลางอากาศทันที เธอจ้องไปที่ชายที่ถูกยิงที่แขนทั้งสองข้าง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอ เธอยังไม่ลืมที่จะแก้แค้นให้กับอาซิง

'ไม่จำเป็นต้องพูดถึงจริยธรรมในการต่อสู้กับพวกชั่วหรอก โจมตีมันด้วยกันเลย!'

เมื่อเห็นเจสซิก้าลงมาช่วยสู้ คำพูดนี้ก็ได้ผุดขึ้นมาในใจของไรอัน

เจสซิก้ายืนกราน ดังนั้นไรอันจึงเล่นด้วยการปล่อยบูลส์อายให้

พอมองย้อนกลับไปที่ชิชิโอะที่ไม่สามารถทำลายการป้องกันของเคจได้ เขาก็ขมวดคิ้วจากจิตใต้สำนึก พยายามปิดบังสีหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว ขณะที่ใช้ไฟโจมตีพวกมาเฟียรัสเซีย เขาก็ลอบคิดอะไรบางอย่าง

'ดูเหมือนว่าคงจะต้องใช้มาตรการพิเศษบางอย่างแล้ว'

ไม่ว่ายังไง จิ่วโยวก็ยังเป็นองค์กรลับที่ไรอันคิดขึ้นมา มีภูมิหลังลึกลับที่ดูเหมือนจะซ่อนตัวตนอันยิ่งใหญ่เอาไว้ ซึ่งหาก [มาโคโตะ ชิชิโอะ] ไม่สามารถแม้แต่จะรับมือกับลุคเคจด้วยความแข็งแกร่งของเขา ตัวตนที่สูงส่งอย่างจิ่วโยวคงมีความน่าหวาดกลัวลดลง

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ไรอันก็ตัดสินใจใช้การ์ดของเขา

อันที่จริง นับตั้งแต่ปลดล็อคช่องเสียบการ์ดใหม่ ไรอันก็ได้ทดลองความเป็นไปได้ในการแยกร่างแยก เพื่อให้มีความสามารถเหมือนกันในการใช้การ์ดสองใบในเวลาเดียวกัน

หลังจากการทดลองบางอย่าง เขาก็ได้ยืนยันว่าร่างแยกมีความสามารถในการซ้อนทับความสามารถของการ์ดสองใบ

ทว่าเนื่องความแข็งแกร่งของจักระในร่างแยก พลังของการใช้การ์ดสองใบในเวลาเดียวกันจึงเกินขีดจำกัดของสิ่งที่ร่างแยกปัจจุบันของไรอันสามารถทนได้ กล่าวโดยสรุปก็คือ ความสามารถของมันไม่ยั่งยืน พอผ่านช่วงเวลาที่กำหนดไปแล้ว ร่างแยกก็จะ 'ระเบิดตัวเอง'

ซึ่งหมายความว่า ไม่มีวิธีที่จะแบกรับความสามารถของการ์ดสองใบและปิดใช้งานความสามารถการ์ดอีกใบได้

แม้ว่าการใช้ 'การ์ดคู่' แบบนี้จะมีช่องโหว่จำนวนมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะแย่กับสถานการณ์ยามนี้

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ไรอันก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาเปิดระบบเพื่อค้นหาการ์ด [ศิษย์พี่เหลา] ที่เขาหลอมรวมไว้ก่อนหน้านี้และชี้ไปที่ [มาโคโตะ ชิชิโอะ] ซึ่งอยู่ไม่ไกล จากนั้นเขาก็เห็นการ์ดระดับ D ในระบบเปลี่ยนเป็นแสงสีขาวที่ไม่มีใครสามารถรับรู้ได้เข้าสู่ร่างแยก

"ฮืมมมม?"

ถึงจะไม่มีทางเห็นว่าไรอันกำลังทำอะไรกับระบบ แต่แมตต์ก็ตระหนักได้ทันทีว่าชิชิโอะที่กำลังต่อสู้กับเคจได้เปลี่ยนไป เขาไม่เข้าใจ แต่ก็ยังร้องเตือนว่า “เคจ! ระวัง!”

เมื่อได้ยินคำเตือนของแมตต์ เคจก็ตอบสนองตามสัญชาตญาณด้วยความระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าทำไมก็ตาม

ในขณะที่การ์ดศิษย์พี่เหลาได้ถูกเสียบเข้าไปในร่างกายของเขา ชิชิโอะก็เข้าสู่โหมดเต็มพิกัด การรวมกันของความสามารถของการ์ดระดับ D ทั้งสองทำให้ชิชิโอะมีทั้งความแข็งแกร่งและความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยไม่ต้องสงสัย เคจมองมาที่อีกฝ่ายด้วยความระมัดระวัง มุมริมฝีปากของเขายกขึ้นคล้ายรอยยิ้มของปีศาจ "ถ้าอย่างนั้นคงถึงเวลาที่ฉันจะเอาจริงแล้วสินะ"

...

[คะแนนชื่อเสียงจากลุค เคจ +125]

“อะไรนะ?!”

เมื่อได้ยินคำพูดของชิชิโอะ สีหน้าประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเคจ ทันใดนั้นเขาก็เห็นชิชิโอะยกดาบในมือขึ้น ร่างกายบางที่เดิมห่อด้วยผ้าพันแผลก็เริ่มบวม กล้ามเนื้อขยายตัว ผ้าพันแผลบนร่างกายของเขาหลุดออกทีละชิ้น เผยให้เห็นผิวที่ไหม้เกรียมอยู่ใต้นั้น

"ตาย! ทวินาคาอสุนิบาต!”

เมื่อเห็นเคจที่ถอยไป ชิชิโอะก็พุ่งเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว ดาบในมือของเขาพลุ่งพล่านเป็นไฟ มันฟาดลงบนร่างอมตะของเคจอย่างรวดเร็ว

เคจรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังที่มาจากใบมีดของชิชิโอะนั้นมหาศาลกว่าเดิม ความเร็วของใบมีดก็เร็วกว่าเดิมเช่นกัน เขาพยายามยกมือขึ้นและยกแขนเพื่อป้องกันการฟัน แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์

แรงของชิชิโอะยามนี้อยู่คนละระดับความเร็วในการตอบสนองของเขาแล้ว

สักพักหนึ่ง เคจที่ยังสามารถต่อสู้กับเขาได้ก่อนหน้านี้กลับเป็นฝ่ายที่กำลังถูกทุบตี

ด้วยโหมดร่างแยก 'การ์ดคู่'  [มาโคโตะ ชิชิโอะ] ที่ใช้พลังเต็มพิกัด ไรอันก็ไม่สามารถยืดระยะเวลาการต่อสู้ได้อีก

เขาสั่งให้ [มาโคโตะ ชิชิโอะ] ยุติการต่อสู้โดยเร็วที่สุด ในชั่วพริบตาถัดมา เขาก็เห็นร่างแยกเหวี่ยงใบมีดเพลิงสีแดงของเขาลงไปที่เคจ

“นรกโลกัน ดวงวิญญาณลุกโชน!”

พลังขนาดใหญ่ที่มาจากดาบ ส่งร่างขนาดใหญ่ของเคจบินไปในทันที ในขณะเดียวกัน เปลวไฟก็จุดไฟเผาทุกสิ่งรอบตัวเขา ห่อหุ้มเขาไว้ด้วยเปลวเพลิง

[คะแนนชื่อเสียงจากแดร์เดวิล +175]

[คะแนนชื่อเสียงจากลุค เคจ +200]

[คะแนนชื่อเสียงจากแดนนี่ แรนด์ +145]

"เคจ!"

เมื่อสังเกตเห็นภาพที่ชิชิโอะส่งเคจบินขึ้นไปในอากาศ สีหน้าของกลุ่มดีเฟนเดอร์สก็เปลี่ยนไปทันที พลังของไอรอนฟิสต์ได้โผล่ออกมาจากมือของแดนนี่ในขณะที่เขาล้มมาเฟียรัสเซียลงไป จากนั้นเขาก็หันกลับมาและพุ่งเข้าหาชิชิโอะทันที เขารู้สึกว่าเขานั้นนิ่งนอนใจเกินไป เมื่อเห็นทั้งสองเผชิญหน้ากันก่อนหน้านี้ เขาก็มองข้ามอีกฝ่ายที่เป็นคนของจิ่วโยวไปโดยไม่รู้ตัว

"มาได้เวลาพอดี"

เมื่อเห็นไอรอนฟิสต์พุ่งเข้าหาเขา ชิชิโอะก็อ้าปาก เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เป็นลางร้าย

ตอนนี้เขามีเวลาไม่มาก ดังนั้นไรอันจึงหวังว่าจะได้คะแนนมากขึ้นเพื่อชดเชยสิ่งที่เขาต้องเสียไป

ชิชิโอะยิ้มออกมา เขาเหวี่ยงดาบคมกริบในมือออกไป มันขูดพื้นและเป็นประกายขณะที่มันพุ่งเข้าหาแดนนี่

"ดาบลับสุดท้าย เทพวิญญาณแห่งไฟ!"

เมื่อเสียงของชิชิโอะเบาลง เปลวไฟจำนวนมากก็ปรากฏออกมาจากดาบ พอต้องเผชิญหน้ากับเปลวไฟที่ใกล้เข้ามา สีหน้าของแดนนี่ได้เปลี่ยนไปทันที เขาเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็วในขณะที่หันหน้าไปทางเปลวไฟที่พุ่งเข้ามา

เขาไม่มีร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างเคจ คงไม่อาจต้านทานไฟนี้ได้เด็ดขาด

“จะหนีไปทำไมล่ะ? ทำไมล่ะ? ทำไมล่ะ...?”

ขณะที่ถือใบมีดคมกริบในมือของเขา ชิชิโอะก็เห็นว่าไอรอนฟิสต์กำลังหลบเลี่ยงอยู่ตลอดเวลา เสียงหัวเราะจากปากของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ

“ในเมื่อแกไม่ต้องการต่อสู้กับฉันอย่างตรงไปตรงมา ทำไมแกไม่กลับไปยังนรกที่พิฆาตไร้เทพส่งแกไปล่ะ?”

เมื่อได้ยินชิชิโอะเอ่ยถึงพิฆาตไร้เทพ สีหน้าของแดนนี่ก็เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัวชั่วขณะหนึ่ง เท้าของเขาได้ชะงักไปครู่หนึ่ง ซึ่งชิชิโอะก็รู้ได้ในทันที เขายกใบมีดขึ้นเพื่อฟันลง

หากดาบครั้งนี้ได้ฟาดลงมา แม้ว่าแดนนี่จะไม่ตาย แต่เขาจะสูญเสียความสามารถในการต่อสู้อย่างแน่นอน

แกร๊ง--

ทว่าในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ แมตต์ก็ใช้ไม้กระบองของเขาเพื่อป้องกันดาบที่พุ่งเข้ามาอย่างยากลำบาก

ถึงเขาจะป้องกันการฟันของชิชิโอะได้สำเร็จ แต่แรงจากใบมีดคมนั้นมากกว่าที่แมตต์จะรับไหวอย่างเห็นได้ชัด เขาก้าวถอยหลังเพื่อลดแรงกระแทกโจมตี ยกมือขึ้นและแตะไม้กระบองนำทางที่ถูกตัดขาดด้วยสีหน้าแข็งค้างคล้ายดั่งก้อนหิน เมื่อชิชิโอะและเคจกำลังต่อสู้กัน เขาไม่สามารถบอกได้ แต่ตอนนี้เขาได้เผชิญหน้ากับอีกฝ่ายแล้ว ทำให้เขาตระหนักได้เลยว่าวิชาดาบเพลิงของฝ่ายตรงข้ามนั้นน่ากลัวเพียงใด

หากไม่มีการป้องกันที่ทรงพลังของเคจ เพียงการฟันครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะสร้างความเสียหายอันร้ายแรงได้แล้ว

“ไม่เอาน่า พวกแกทุกคน ฆ่าพวกแกทีละคน มันก็แค่เสียเวลาเปล่า”

พอมองไปที่แมตต์ ชิชิโอะก็โบกคาตานะพลางหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

ตู้ม--

ในยามนั้น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ก็ลอยมาจากระยะไกลและกระแทกร่างของชิชิโอะ

“เกิดอะไรขึ้นกัน?”

เจสซิก้าบินไปมองเคจที่กระเด็นไปไม่ไกลนัก จากนั้นก็หันหน้าไปถามแมตต์และคนอื่นๆ

เจสซิก้ารู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างมากในตอนที่เธอกำลังจัดการอยู่กับบูลส์อาย

“เขาทรงพลังมากกว่าที่เราคิด” แดนนี่ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เขาล้มเคจลงได้”

“ดูเหมือนว่าที่เขาพูดจะไม่ได้โกหกเลย” หลังจากนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของอีกฝ่าย เจสซิก้าก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

ตู้ม--

เมื่อถือใบมีดคมกริบในมือของเขา ชิชิโอะก็ฟันป้ายโฆษณาให้กลายเป็นเศษซากชิ้นๆ ด้วยการใช้การ์ดซ้อนสองใบ พลังป้องกันของชิชิโอะจึงได้รับการเพิ่มพลังอย่างมาก ทำให้เขาไม่ได้มีปัญหาเลยพอต้องเจอกับการโจมตีเช่นนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่า คิงพินพูดถูกจริงด้วย แกเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมดี งั้นฉันจะแสดงความเคารพด้วยการฆ่าพวกแกทีละคน” ชิชิโอะตะโกนออกมาจากปากของเขา พุ่งเข้าหาแมตต์และคนอื่นๆ อีกครั้ง

"มาช้าไปหน่อยนะ"

อีกด้านหนึ่ง ไรอันหมุนลูกโม่ของเขาและยิงย้อนกลับไปโดยไม่มองข้ามไหล่ของเขาไป กระสุนบินพุ่งออกจากกำแพง ฆ่าแก๊งมาเฟียด้วยความแม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อ ความสนใจของเขาตอนนี้มุ่งเน้นไปที่การควบคุมร่างแยก [มาโคโตะ ชิชิโอะ] ของเขา จากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในจักระ เขาจึงรู้สึกได้ว่า [มาโคโตะ ชิชิโอะ] เริ่มใกล้จะถึงขีดจำกัดที่ร่างแยกจะคงสภาพได้แล้ว

แมตต์ยกมือขึ้นและใช้ไม้นำทางครึ่งบนเพื่อป้องกันการฟันที่กำลังฟาดลงมา แมตต์กัดฟันและทนต่อการโจมตีอันทรงพลังจากชิชิโอะ เปลวไฟร้อนแรงพวยพุ่งจากคมดาบพาดผ่านผิวหนังของเขา แมตต์ตะโกนออกมาทันที โดยไม่สนใจกลิ่นที่แผดเผายังปลายจมูกของเขา "ตอนนี้เลย!"

พอได้ยินคำสั่งของแมตต์ แดนนี่ก็เหวี่ยงหมัดเหล็กของเขาและจัดการกับชิชิโอะทันที

“อะไรกัน?!”

ชิชิโอะรีบดึงคาตานะออกเพื่อพยายามป้องกันการโจมตีของไอรอนฟิสต์ เสียงร้องที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจได้ออกมาจากปากของเขา

ซึ่งตั้งแต่ที่พิฆาตไร้เทพได้หักแขนของเขา แดนนี่จึงเข้าใจเรื่องพลังของหมัดไอรอนฟิสต์มากยิ่งขึ้น คาตานะในมือของชิชิโอะแตกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นแสงเจิดจ้าจากหมัดสีทอง ในเวลาเดียวกัน พลังที่มาจากคาตานะก็ทำให้เขาพุ่งกระเด็นออกไป

ไรอันขมวดคิ้ว หยุดสิ่งที่เขากำลังทำ แต่ก็กลับไปพร้อมต่อสู้อย่างรวดเร็ว

เมื่อครู่นี้ พลังของไอรอนฟิสต์เกือบจะทำให้ร่างแยกสลายไป

ชิชิโอะเงยหน้าขึ้น มองดาบที่หักอยู่ในมือและเงยหน้าขึ้นมองแมตต์และคนอื่นๆ เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะออกมา "งั้นฉันก็เป็นคนอ่อนแอสินะ..."

ในขณะที่หัวเราะ [มาโคโตะ ชิชิโอะ] ก็ปลดปล่อยพลังของดาบลับเล่มสุดท้ายของเขา เทพวิญญาณแห่งไฟออกมา แต่คราวนี้เขาไม่ได้โจมตีแมตต์และคนอื่น เขากลับใช้มันกับตัวเอง ไฟที่ลุกโชนจากคาตานะที่หักไปได้ห่อหุ้มร่างแยกอย่างรวดเร็ว ผ้าพันแผลที่ฉีกขาดที่เหลืออยู่บนร่างกายของเขาได้กลายเป็นเชื้อไฟอย่างสมบูรณ์แบบ

ในกองไฟ ชิชิโอะลุกขึ้นยืนและตะโกนด้วยรอยยิ้มที่บ้าคลั่ง "คนอ่อนแอย่อมไม่มีคุณค่าในตัวเอง"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด