ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 403 - เรื่องกวนใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 405 - มีดบิน!

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 404 - บรรลุขั้นก่อพลังชั้นต้น!


“แดนเวอร์! ไม่ต้องพูดแล้ว” หญิงร่างอ้วนตวาดห้ามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด แก้มที่เต็มไปด้วยไขมันของเธอกระเพื่อมอย่างหนักด้วยโทสะที่พุ่งสูงขึ้นอย่างฉับพลัน

สายตาที่มองมายังเดวิดเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นอย่างไม่ปิดบัง และรอยยิ้มที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ “นายพูดถูก! นี่ยังไม่ครบกำหนดระยะเวลา 3 วัน แต่มันก็แค่ยืดเวลาออกไปเล็กน้อยเท่านั้น หรือถ้าจะให้พูดอย่างแม่นยำ นายเหลือเวลาที่จะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จภายใน 15 ชั่วโมงจากนี้ไป ขอให้โชคดีก็แล้วกัน”

หลังจากกล่าวจบ เธอก็สะบัดแขนเสื้อแล้วหมุนตัวเดินกลับไปทันที เหล่าลูกสมุนทั้ง 4 คนรีบเดินตามไปติด ๆ แต่ไม่ก่อนที่พวกเขาจะมองจ้องมายังเดวิดอย่างอาฆาตแค้นเช่นกัน

เดวิดยืนมองตามหลังพวกเขาเดินลับตาไปอย่างเงียบ ๆ ภายในใจกำลังครุ่นคิดวิเคราะห์ถึงความแข็งแกร่งของศิษย์รับใช้กลุ่มนี้อยู่ ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาสัมผัสคลื่นพลังไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ร่างกายของคนกลุ่มนี้อ่อนแอเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แค่เดวิดกระดิกนิ้วก็สามารถบดขยี้ทั้ง 5 คนลงได้ในพริบตา

แต่นั่นหมายถึงในกรณีที่พวกเขาไม่ได้ปล่อยคลื่นสมองที่เข้มข้นออกมาจากหน้าผากแบบนี้ ใบหน้าของเดวิดเริ่มเปลี่ยนเป็นครุ่นคิดอย่างจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าลูกสมุนทั้ง 4 คนน่าจะอยู่ในระดับก่อพลังชั้นต้น ที่หมายถึงการฝึกฝนทักษะประสาทสัมผัสพิเศษเบื้องต้นสำเร็จแล้ว ในขณะที่หญิงอ้วนที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม ดูจะมีคลื่นสมองที่แข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้น บางทีอาจจะอยู่ในระดับก่อพลังชั้นกลางแล้วก็ได้

และจากการควบคุมมีดบินที่พวกเขาแสดงออกมาเพื่อเป็นการขมขู่ ความรวดเร็วและแม่นยำนั้นไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย คนทั่วไปคงจะไม่ทันกระพริบตาตอนที่มีดบินเหล่านั้นพุ่งเข้าใส่ร่างกาย หรือแม้กระทั่งตอนที่โดนตัดหัวหลุดออกจากบ่า ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะต้านทานการโจมตีเอาไว้ได้เลย

เดวิดไม่ได้มีความกังวลอะไรมากนักหากจะต้องต่อสู้ขึ้นมาจริง ๆ เพราะถึงแม้ว่าจะยังไม่บรรลุถึงขั้นก่อพลัง ยังไม่สามารถใช้คลื่นสมองในการต่อสู้ได้ แต่เขาก็มีวิธีอีกมากมายในการที่จะจัดการกับคนพวกนั้น

แต่ตอนนี้สิ่งที่เดวิดจะต้องจัดการก่อน คือการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาให้เสร็จลงไปโดยเร็วไว หลังจากนั้นจะได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ตัวเองบรรลุถึงขึ้นก่อพลังได้ เขาเริ่มอยากลองควบคุมมีดบินขึ้นมาบ้างแล้ว

เดวิดหันหลังเดินกลับไปที่เตียง คว้าชุดคลุมสีดำขึ้นมาใส่ แล้วเป็นหน้าต่างโฮโลแกรมขึ้นมาตรวจสอบสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้ทำ ก่อนที่ประกายในดวงตาจะแวววับขึ้นเมื่อเห็นหน้าที่ของตัวเองในนั้น

“เตรียมพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตรให้เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกพืช กำจัดวัชพืชในพื้นที่รับผิดชอบให้สะอาดอย่างนั้นหรือ? 1 ตารางกิโลเมตร!? คนธรรมดาที่ไหนจะทำได้สำเร็จภายใน 3 วัน?” คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะยักไหล่เบา ๆ โชคดีที่เขาไม่ใช่คนธรรมดาเลย

เดวิดเดินไปตามทิศทางที่ลูกศรชี้จนถึงเป้าหมายได้ในที่สุด แล้วเขาก็ต้องหัวเราะออกมาด้วยความโกรธเมื่อเห็นสภาพพื้นที่ที่ตัวเองต้องจัดการ “วัชพืช!? ให้ตายเถอะ นี่มันป่าชัด ๆ!”

หลังจากระงับโทสะของตัวเองลงได้ เดวิดก็ขมวดคิ้วครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะยักไหล่ออกมาเบา ๆ “ช่างมัน! ไม่ต้องคิดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพราะว่าฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน หรือว่าเจ้าพวกนั้นเป็นคนทำให้งานมันยากขึ้น รีบ ๆ ทำงานดีกว่า” กล้ามเนื้อทั่วตัวของเขาสั่นไหวทันทีที่พึมพำจบ ขนาดตัวขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อยพร้อมกับเส้นเลือดที่ผุดขึ้นมาใต้ผิวหนัง เดวิดสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะเรียกให้ปีกที่ซ่อนอยู่กลางหลังปรากฏตัวออกมา

และด้วยปีกสีดำขนาดมหึมา เขากระพือมันเพื่อสร้างลมพายุที่รุนแรงออกมา พร้อม ๆ กับการกระทืบเท้าลงบนพื้นจนแผ่นดินสะเทือนไปทั่ว ต้นไม้บริเวณรอบ ๆ เริ่มสั่นไหว และโดนลมพายุพัดโหมกระหน่ำซ้ำเข้าไปจนลอยถอนรากถอนโคนขึ้นมาจากพื้น ก่อนที่จะถูกพัดพาให้ออกจากพื้นที่ไปอย่างรวดเร็ว

เพียงแค่การระเบิดพลังออกมา 1 ครั้ง เดวิดก็สามารถทำความสะอาดพื้นที่ไปได้ 1 ใน 4 ส่วนอย่างรวดเร็ว และเขายังใช้วิธีเดิมซ้ำ ๆ ไปรอบ ๆ พื้นที่เป้าหมาย ในเวลาไม่นานนัก เดวิดก็หยุดการเคลื่อนไหวของตัวเองลง เปิดหน้าต่างโฮโลแกรมออกมาบันทึกภาพ และรายงานเข้าระบบไปว่าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว

........................

“ศิษย์พี่หญิง! ผมเพิ่งได้รับข้อมูลมาว่าเจ้านั้นทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จแล้ว เมื่อสักครู่นี่เอง!” สมุนคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาในห้องโถงที่ตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหราสวยงาม และเอ่ยกล่าวรายงานกับหญิงร่างอ้วนด้วยน้ำเสียงที่เร่งร้อน และค่อนข้างจะแปลกใจ

เช่นเดียวกันกับพี่หญิงควิน เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยอาการอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะขยับขาของตัวเองออกมาจากตักของลูกสมุนอีกคนที่คอยช่วยบีบนวดให้อยู่

“เป็นไปได้ยังไง?” หญิงร่างอ้วนคำรามถามออกมาด้วยเสียงที่แหลมเล็กอย่างไม่พอใจ ผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนไขมันในตัวกระเพื่อมรุนแรง ก่อนจะคว้าแขนของลูกสมุนเข้ามาตรวจสอบหน้าต่างโฮโลแกรมที่ยังเปิดข้างอยู่

หลังจากที่ยืนยันได้ว่าเดวิดส่งมอบงานที่เรียบร้อยแล้ว สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป “ให้ตายเถอะ! มันทำสำเร็จได้ยังไง งานนี้ฉันอุตส่าห์ใช้บุญคุณที่มีกับอาจารย์เฉิงแลกเปลี่ยนให้มันเลยเชียวนะ งานที่เยอะขนาดนี้มันยังทำได้สำเร็จอีกอย่างนั้นหรือ?”

แล้วสีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยอาการครุ่นคิด ก้มหน้าพิจารณารูปถ่ายที่ประกอบเข้ามาเป็นหลักฐานว่างานเสร็จเรียบร้อยอย่างละเอียดอีกครั้ง

“ศิษย์พี่หญิง! ผมว่าเจ้านั่นต้องมีคนคอยช่วยอยู่แน่ ๆ แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ทำไมนักเรียนใหม่ชุดนี้ทั้ง 5 คนถึงได้แปลกประหลาดกันหมด ทำไมถึงได้โผล่มาพร้อมกันแบบนี้ได้ อาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” ลูกสมุนอีกคนเอ่ยข้อสังเกตของตัวเองออกมา

“นายพูดไม่ผิดหรอก! ดูเหมือนว่าเจ้าพวกนี้จะมีความลับอะไรซ่อนอยู่ พวกมันไม่ให้ความเคารพกับศิษย์รุ่นพี่เลย แม้แต่หัวหน้าศิษย์รับใช้ก็ไม่เข้าพบเพื่อแสดงความคารวะ”

“ฉันคิดว่าพวกเราต้องหาวิธีจัดการสั่งสอนพวกมันโดยเร็วที่สุด ปล่อยเอาไว้อย่างนี้ไม่ได้แน่ ไม่อย่างนั้นพวกลูกศิษย์รับใช้จะคิดว่าพวกเราหมดน้ำยาเอาได้ ยังไงก็ต้องสั่งสอนให้พวกมันได้รู้สำนึกเสียบ้าง ว่าที่นี่ใครเป็นผู้ดูแลอยู่” เสียงอันดุร้ายเอ่ยออกมาจากปากของลูกสมุนที่นิ่งเงียบอยู่ตลอด

พี่หญิงควินทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง สีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ ก่อนที่ตาจะเป็นประกาย พร้อมกับร้อยยิ้มที่ดูชั่วร้ายจะปรากฏเด่นขึ้นบนใบหน้า เธอคิดวิธีจัดการกับเจ้าพวกไม่รู้ที่ต่ำที่สูงได้หลายวิธีเลยทีเดียว

..................

กลางดึก..

ดวงตาของเดวิดเปิดลืมขึ้นอย่างกะทันหันจากการทำสมาธิ เขารู้สึกเหมือนกับว่าได้ยินเสียงรบกวนอะไรบางอย่างดังเข้าหู รีบกวาดสายตามองไปรอบห้องพักขนาดเล็กเพื่อหาสิ่งผิดปกติทันที

“เกิดอะไรขึ้น!?”

ทั้งห้องยังว่างเปล่า ประตูและหน้าต่างยังคงปิดสนิทอยู่เหมือนเดิม แต่เสียงที่เดวิดได้ยินนั้นชัดเจนเหมือนกับมีใครมากระซิบอยู่ที่ข้างหู เขารีบตั้งสมาธิอยู่ที่ประสาทการรับรู้ของตัวเองอย่างเร่งรีบ แล้วก็พบว่าตัวเองได้ยินเสียงต่าง ๆ รอบตัวอย่างชัดเจน ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเดินของมดตัวเล็ก ๆ เลยด้วยซ้ำ

“ไม่ใช่! ไม่ได้มีเรื่องอะไร ไม่ได้มีใครทำเสียงดังอึกทึกขึ้นมา แค่ประสาทการได้ยินของฉันดีมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น หืม? สายตา กับจมูกก็ดีขึ้นด้วยอย่างนั้นหรือ?” เดวิดยกมือขึ้นอุดจมูก กลิ่นที่หมักหมมอยู่ให้ห้องลอยทะลุการป้องกันของเขาเข้ามาแบบเต็ม ๆ มันทำให้เกิดอาการเวียนหัวขึ้นเล็กน้อย

เดวิดรีบลุกขึ้นจากเตียงหินที่นั่งอยู่ เดินออกไปเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศในห้องพักถ่ายเทขึ้นมาบ้าง เขาหยุดยืนจ้องมองบรรยากาศที่เงียบสงบภายนอกอยู่นิ่ง ๆ สักพัก ดวงจันทร์ที่สวยงามกำลังส่องประกายอยู่บนท้องฟ้าที่ไร้หมู่ดาว สายตาของเดวิดเริ่มเคลื่อยย้ายลงมาจากท้องฟ้าที่ห่างไกล เปลี่ยนเป็นจับจ้องเขม็งอยู่ก้อนหินเล็ก ๆ ที่ตั้งนิ่งอยู่ข้างทางเดิน ก่อนจะเริ่มรวบรวมสมาธิอย่างตั้งมั่น พยายามสัมผัสรับรู้คลื่นสมองที่ก่อตัวเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะชักนำให้มันไหลพุ่งออกไปจากศีรษะของตัวเอง

“ยอดเยี่ยม! นี่มันคลื่นพลังแบบไหนกัน ทำไมถึงได้ยอดเยี่ยมน่าอัศจรรย์แบบนี้” เขารู้สึกได้ว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วขึ้นมาเล็กน้อย เดวิดรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าตัวเองสามารถควบคุมคลื่นสมองที่ก่อตัวขึ้นได้อย่างอิสระ มันไม่ต่างจากการควบคุมมืออีกข้างของตัวเองเลย

หวือ!!

หินเล็ก ๆ ก้อนนั้นลอยสูงขึ้นมาจากพื้น และเพียงด้วยความคิดที่วาบเข้ามาในหัวของเดวิด มันพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลอยฉวัดเฉวียนเปลี่ยนทิศทางไปมาราวกับแมลงที่บินอยู่อย่างเป็นอิสระด้วยตัวเอง มันเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและราบรื่นไม่มีสะดุดเลยแม้แต่น้อย...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด