ตอนที่แล้วบทที่ 39 : [ด่าน 2] กำแพงทรุดตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 41 : [ด่าน 2] ภาระที่แบกรับ

บทที่ 40 : [ด่าน 2] สิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 40 : [ด่าน 2] สิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้

ชาร์เลส ครอสได้ใช้เวลาประมาณหนึ่งเพื่อต่อสู้กับจิตใจของตนเอง

เขาเกิดในป้อมปราการ มีจุดประสงค์เพื่อสังหารสัตว์ประหลาดทั้งหมด

ก่อนที่เขาจะเข้าใจอะไรได้มากนัก เขาก็เดินตามรอยพ่อของเขาไปยังแนวหน้า เติบโตท่ามกลางฝูงสัตว์ประหลาดที่พยายามจะเจาะกำแพงป้อมปราการ

เมื่อพ่อของเขาล่วงลับไป เมื่อเขาสืบทอดตำแหน่งของมาร์คกราฟ เมื่อเขากลายเป็นเจ้าเมืองป้อมปราการในวัยเยาว์

ทุกวันเขาต้องต่อสู้กับสัตว์ประหลาด

อันที่จริง นี่คือทั้งหมดที่เขาต้องการ การต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเป็นจุดแข็งของเขา และเป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถเข้าใจได้อย่างแท้จริง

กำจัดศัตรูที่พยายามจะหมายสังหารข้า

เป็นโลกที่ตรงไปตรงมาและชัดเจน

’สวัสดีค่ะ นายท่าน!'

จนกระทั่งนางได้มาถึงเมือง

’เจ้าตั้งใจจะขายอะไรในที่แห่งนี้กัน?'

’ดอกไม้ค่ะ นายท่าน’

แม่ค้าสาวได้ยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจในใจกลางเมือง

การปรากฏตัวของนางทำให้มาร์คกราฟแห่งตระกูลครอสตกตะลึง

’ที่นี่คือแนวหน้าต้านสัตว์ประหลาด เราต้องการเพียงดาบ หอก ลูกศรและกระสุน เจ้าจะมาขายดอกไม้ที่นี่ทำไมกัน? มีแต่พวกมันจะเหี่ยวเฉาไปเท่านั้น'

’แม้นพวกมันดูไร้ประโยชน์ แต่พวกมันก็มีเหตุผลในการมีอยู่ของมัน! มนุษย์ต้องการดอกไม้นะคะ นายท่าน’

’…?’

’ความงามชั่วขณะนี้ได้เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว นั่นแหละคือเหตุผลที่ดอกไม้สวยงามยิ่ง!'

เขาไม่สามารถเข้าใจได้เลย

ในตอนแรก เขาจึงสงสัยในตัวนาง เขาสงสัยว่านางอาจเป็นสายลับจากอาณาจักรข้างเคียง

มาร์คกราฟครอสได้แวะไปที่ร้านของนางบ่อยๆ ที่นั่นเต็มไปด้วยดอกไม้และหญ้า แต่เขาก็ยังพยายามหาหลักฐานที่จะสื่อว่านางเป็นสายลับ

ทุกครั้งที่เขาไปเยี่ยม นางจะคอยให้ความรู้เรื่องดอกไม้แก่เขา

นางอธิบายรายละเอียดเรื่องภาษาดอกไม้ ทำให้เขาคุ้นเคยกับกลิ่นหอมและเฉดสีของพวกมัน

มาร์คกราฟครอสได้เรียนรู้ที่จะแยกแยะความแตกต่างของสีและกลิ่นของดอกไม้ จดจำดอกไม้ได้ทุกชนิด

แต่เขาก็ยังคงไม่เข้าใจความงดงามของพวกมัน

หนึ่งปีต่อมา ชาร์เลส ครอสได้ขอนางแต่งงาน

และนางก็ยอมรับ

***

กร็อบ กร็อบ กร็อบ กร็อบ-!

มาร์คกราฟครอสสวมชุดเกราะและถือหอกพร้อมโล่ กระตุ้นม้าของเขาไปที่กำแพงป้อมปราการ

มาเพียงผู้เดียว

ไร้ซึ่งผู้คุ้มกัน

“นี่มันบ้าอะไรกัน… เขากำลังทำอะไรอยู่ ?”

เขาอยู่บนม้าที่แก่ชรา สวมชุดเกราะที่ไม่ได้รับการบำรุงรักษาจนมีสนิม ถือโล่ขนาดใหญ่และหอกที่ดูเหมือนจะไม่สอดคล้องกับร่างกายผอมแห้งของเขา

ด้วยสภาพนั้น เขากลับกำลังพุ่งเข้าหาพวกหนูเป็นพันอย่างเด็ดเดี่ยว

คิดว่าเป็นดอนกิโฆเต้ที่กำลังพุ่งใส่กังหนลมหรือไงกัน

“เจ้าคิดอะไรอยู่ มาร์คเกรฟ! เจ้ากำลังคิดที่จะตายหรือไงกัน-!”

ราวกับว่าเสียงร้องของข้าไม่ได้ถึงหูของเขา มาร์คกราฟครอสยังคงพุ่งเข้าใส่อย่างไม่หยุดยั้ง

"ย๊ากกก-!"

เสียงร้องของเขาดังก้องออกมาจากหมวกขึ้นสนิมที่เขาสวมใส่

หนูแต่ละตัวที่พยายามจะเจาะหรือขุดโพรงใต้กำแพงอย่างกระตือรือร้นก็หันกลับมามอง

พฤติกรรมขอสัตว์ประหลาดเป็นไปตามที่ข้าได้อธิบายไปหลายสิบครั้ง พวกมันนั้นตรงไปตรงมา

– กำจัดมนุษย์ที่อยู่ใกล้ที่สุด

จิ๊ด!

จิ๊ด จิ๊ด!

เมื่อมาร์คกราฟพุ่งเข้ามา พวกหนูก็เปล่งแสงในดวงตาเป็นสีแดง ความเป็นปรปักษ์ของพวกมันสามารถมองเห็นได้ชัดเจน

ทว่ามาร์คกราฟครอสไม่ได้ลดความเร็วลง เขาพุ่งเข้าใส่พวกมัน

เขากู่ก้องตะโกนขณะที่นำหอกพุ่งเข้าใส่กลางฝูงหนู

แล้วต่อจากนั้น

“หันมามองข้าสิ ไอ้พวกบัดซบ!”

เขาเปิดใช้งานทักษะเยาะเย้ยของเขา ซึ่งเป็นทักษะที่มีชื่อเสียงยิ่งของอัศวินโล่

เขาไม่แน่ใจว่าระดับทักษะเยาะเย้ยที่อีกฝ่ายฝึกฝนมันมานับครั้งไม่ถ้วนในป้อมปราการด้านหน้ามีระดับสูงเท่าไร

แต่สายตาของหนูเกือบพันตัวที่เคยโจมตีกำแพงกลับหันไปมองตัวเขาที่จุดเดียว...มันเป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อสายตาเป็นอย่างยิ่ง

“…”

ข้ายืนนิ่ง พูดไม่ออกมองดูมาร์คกราฟครอส

อะไรกัน?

เขากำลังจะทำอะไร?

ตาของข้ากับมาร์คกราฟครอสได้สบตากัน

ดวงตาสีเขียวเข้มและใหญ่ของเขาเปล่งแสงเป็นประกายบางเบาใต้เงาหมวกของเขา

ข้าพยายามหาแรงจูงใจของเขา แต่ข้าก็สับสนยิ่ง

จิ๊ด!

จิ๊ด!

ทันใดนั้นพวกหนูก็พุ่งเข้าหามาร์คกราฟครอส

***

เวลาผ่านไปนาน ตั้งแต่ทั้งคู่ได้แต่งงานกัน

แม้จะกลายเป็นภรรยาของเจ้าเมืองแล้ว แต่นางก็ยังคงปลูกดอกไม้และตัดแต่งต้นไม้ต่อไป

จากเมล็ดพันธุ์ที่เบ่งบานเป็นชีวิตใหม่ ลำต้นที่บอบบางก็เอื้อมมือไปรับแสงตะวันในฤดูร้อน

ดอกไม้บาน ผลไม้เติบใหญ่ ใบไม้ร่วงและจากนั้น -

ลูกสาวของพวกเขาก็ได้ลืมตาสู่โลก

“ดูสิ ที่รัก”

ภรรยาที่เหน็ดเหนื่อยจากการคลอดบุตรก็ได้ยื่นห่อผ้าที่เต็มได้เลือดออกมา

“ลูกสาวของท่าน”

มันเป็นวันที่สัตว์ประหลาดได้เลือกโจมตี

ชาร์เลส ครอสได้กลับมาอย่างเร่งรีบ โดยไม่แม้แต่จะทำความสะอาดเลือดและคราบสกปรก เขาค่อยๆ ประคองห่อผ้าเล็กๆ นั้น

ทารกหลับสนิท

ตัวเล็กและบอบบางมาก ดูเหมือนว่านางอาจแตกสลายภายใต้การสัมผัสเพียงเล็กน้อยของเขา

“เอวานเจลีน”

ภรรยากระซิบชื่อทารก

“ลูกสาวของเรา นางสวยเหมือนชื่อของนางเลยไม่ใช่หรือ?”

“…”

ด้วยความสับสน ชาร์เลส ครอสจึงยังคงไม่ตอบกลับ

เขายังไม่เข้าใจ

สิ่งมีชีวิตที่ตัวเล็กและบอบบาง มีความอบอุ่นอันเล็กน้อยและดูเหมือนจะเลือนหายไปได้ทุกเมื่อ มันได้ทำให้หัวใจของเขารู้สึกผิดแปลกไป

เมื่อสักครู่ก่อนหน้านี้ในแนวหน้า เขายังคงสังหารพวกสัตว์ประหลาดโดยไม่สนใจอะไรอยู่เลย

ทว่ายามนี้ เขากลับรู้สึกสับสนอย่างยิ่ง

***

“จัดกลุ่มใหม่! เดี๋ยวนี้เลย!”

ข้ารีบถ่ายทอดคำสั่ง

หนูที่เจาะกำแพงและเข้ามาภายในทั้งหมดได้ถูกกำจัดไปส่วนใหญ่ เป็นเพราะไม่มีพวกที่เข้ามาอีก

หนูทั้งหมดได้ถูกผลักกลับออกไปนอกกำแพง มาร์คกราฟแห่งตระกูลครอสยืนตระหง่าน

“อย่าใช้ปืนใหญ่หรือคันศรยักษ์! มันอาจโจมตีถูกมาร์คกราฟได้ ใช้เพียงหน้าไม้และคันธนูเล็งไปที่หนูที่มุ่งหน้าเข้ามาก่อน!”

"ขอรับองค์ชาย!"

นักธนูรับคำสั่งและเริ่มกำจัดหนูทีละตัว

“ลิลลี่! สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์เปลวไฟพร้อมแล้วหรือยัง?”

“พร้อมแล้วค่ะ!”

“เมื่อถึงระยะก็ใช้ได้เลย!”

ในขณะที่สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์กำลังแผดเผาพวกหนู ข้าก็ตะโกนเรียกลูคัสที่พื้นดิน

“ลูคัส!”

“ขอรับฝ่าบาท!”

“รวบรวมทหารทั้งหมดที่มีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้แบบประชิด ให้ออกไปนอกปราสาท! เราต้องช่วยมาร์คกราฟ”

“ไม่ พะยะค่ะฝ่าบาท มันไม่ใช่แค่การช่วยเหลือ”

ลูคัสปรับหมวก ดวงตาสีฟ้าสดใสของเขาเป็นประกาย

“มันเป็นการซุ่มโจมตีไอ้หนูพวกนั้นจากด้านหลังด้วย เราสามารถจัดการพวกมันได้ในคราวเดียว เราจะกวาดล้างพวกมันและกลับไปพร้อมกับมาร์คกราฟ”

“…เช่นนั้นก็จงทำให้มันเกิดขึ้น ไปได้แล้ว”

"ขอรับ!"

ครืนนน

ประตูเปิดออก ลูคัสที่เกาะอยู่บนหลังม้าก็ยกดาบขึ้นสูง

"พุ่งทะลวงไป! ฆ่าไอ้พวกบัดซบพวกนั้นและช่วยมาร์คเกรฟ!”

เฮ้!

คล้ายดั่งเกลียวคลื่นมหึมา ทหารได้พุ่งออกมาอย่างพร้อมเพรียง พวกเขาตะโกนจนสุดเสียง

ทหารผ่านศึกที่เคยรับใช้มาร์คกราฟได้เป็นหัวหอกในการโจมตี

’ขอให้ทันทีเถอะ!'

ข้ากำหมัดแน่น

’ได้โปรดขอให้ทันทีเถอะ!'

***

“ย๊ากกกกก!”

มาร์คกราฟครอสตะโกน

แต่ละครั้งที่หอกทหารม้าขนาดใหญ่ของเขาเฉือนผ่านอากาศ หนูประมาณสิบตัวได้พ่นเลือดและกลิ้งไปบนพื้น

แต่กองทัพหนูที่มีจำนวนมากกว่าก็กำลังแทะเนื้อของเขา

แม้ว่าชุดเกราะของเขาจะหมดสภาพ แต่มันก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ชั้นยอด นอกจากนี้ทักษะของเขายังมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการป้องกันทั้งหมด

ถึงจะมีของเหล่านี้อยู่ แต่เขาก็ยังได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง

ทว่าแม้จะอยู่ท่ามกลางความทรมานจากการถูกกัดโดยฝูงหนู แต่มาร์คกราฟก็ยังคงพุ่งทะยานไปพร้อมหอกของเขา

’ข้ายังหยุดไม่ได้’

มาร์คกราฟครอสไม่เข้าใจแล้วว่าด้วยเหตุอันใดเขาถึงตัดสินใจเช่นนี้

ทำไมเขาถึงเลือกเมืองนี้อีกครั้ง ทั้งที่ตัวเขาตัดสินใจจะจบชีวิตของตนเคียงข้างภรรยา

คล้ายถูกล่อลวงโดยบางสิ่งบางอย่างของเมืองนี้ … ทไมเขาถึงต่อสู้อีกครั้งกัน

’ข้าไม่อาจรู้ได้เลย’

แม้จะถึงวัยชรา เขาก็รู้สึกว่าโลกใบนี้ยังคงเป็นปริศนา

ทำไมเขาถึงตัดสินใจสู้เพื่อเมืองบัดซบนี้

เขาได้แต่ไถ่ถามใจของเขา

แม้จะทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อมัน แต่มาร์คกราฟก็ยังคงไร้เงื่อนงำว่าไฉนเขาถึงตัดสินใจเช่นนี้

…แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาเข้าใจมันดี

“อ๊ะ อึก-!”

ดอกไม้ ลูกสาวของเขา

ของอันแสนบอบบางที่อาจเลือนหายได้ตลอดเวลา เขาต้องปกป้องพวกนางจากสัตว์ร้ายเหล่านี้

ซึ่งานที่เขาถนัดสุดคือการสังหารพวกสัตว์ประหลาด

“ลูกสาวของข้าอาศัยอยู่หลังกำแพงนี้”

นั่นแหละเป็นเหตุผลที่เขาได้สู้

“โลกที่ลูกสาวของข้าอยู่”

เพราะเขาไม่รู้อะไรอีกแล้ว นอกจากการต่อสู้ เขาได้ต่อสู้อย่างดันทุรัง สิ้นหวังและโง่เขลา

“หากพวกแกสักตัวเดียวเข้าไปเด็ดขาด…!”

มาร์คกราฟตะโกนออกมาอีกครั้ง เขามุ่งมั่นที่จะป้องกันสัตว์ร้ายเหล่านี้ให้ออกห่างจากกำแพง

หนูหลายสิบตัว อาจเป็นหลายร้อยตัวได้พุ่งเข้าใส่มาร์คกราฟพร้อมกัน

มาร์คกราฟไม่สามารถต้านทานการโจมตีของมันได้ จึงเดินโซเซกลับไป

หมวกกันของเขาเปื้อนด้วยเลือดสัตว์ประหลาด ขัดขวางการมองเห็นของเขา

แขนที่แก่ชราของเขาไม่สามารถรวบรวมความแข็งแกร่งได้อีกต่อไป ขาของเขาได้ถึงขีดจำกัดมานานแล้ว มันยอมขยับเขยื้อนไปไหนเลย

"อั๊ก...!"

ข้ารู้อยู่แล้ว

ไม่ว่าข้าจะอยู่ที่นั่น หรือจะต่อสู้อยู่ที่นี่

ไม่ว่าข้าจะเอาชนะสัตว์ประหลาดที่นี่ไปได้กี่ตัว

วันคืนเหล่านั้นย่อมไม่หวนคืนกลับมา

ภรรยาของเขาได้จากไปแล้ว ลูกสาวของเขาก็หายไป ความสุขทุกอย่างได้เลือนหาย ยากเกินจะสามารถฟื้นคืนกลับมาได้

"แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก!

แต่ชายผู้นี้ไม่มีทางอื่นนอกจากต้องต่อสู้ เขาฝืนยกหอกของตนอีกครั้ง

คล้ายกับว่ามันเป็นจุดจบของเขา

ทันทีที่เขาลุกขึ้น เหวี่ยงหอกและผลักโล่ไปข้างหน้า

กึก

แต่ถึงกระนั้นมาร์คกราฟครอสก็พร้อมจะทุ่มทุกอย่าง

เขาไม่รู้สึกอะไรแล้ว ร่างกายของเขาคล้ายถูกกลืนไปโดยชุดเกราะ ความเจ็บปวดที่เกินขีดจำกัดไม่อาจรับรู้ได้ด้วยสมองของเขาอีก

สายตาของเขาพลันพร่ามัว

มาร์คกราฟครอสสัมผัสได้ถึงความตายของเขา

’อีกแค่ตัวเดียว... !'

เพื่อคุ้มกันสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตของเขา มาร์คกราฟครอสกัดฟันแน่นและยังคงฝืนต่อสู้ต่อไป

…แต่ยามนี้ทุกอย่างกลับเงียบสงบ

ไม่มีหนูที่พุ่งเข้ามาจัดการเขาอีกต่อไป

มาร์คกราฟครอสรู้สึกสับสน

ทำไมสัตว์ประหลาดถึงหยุดโจมตีเขา?

หรือว่าเขาได้ตายไปแล้ว?

“มาร์คกราฟครอส”

ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้นมา

มันเป็นเสียงของอัศวินหนุ่มที่เป็นผู้ติดตามของเจ้าเมืองคนใหม่

“เราเอาชนะสัตว์ประหลาดทั้งหมดได้แล้ว การต่อสู้จบลงแล้ว”

“…”

“ท่านสามารถ…พักผ่อนได้แล้ว”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น หอกของทหารม้าที่กำอยู่ในมือของเขาก็ร่วงหล่นลงกับมัน

จากนั้นมาร์คกราฟครอสก็ได้ทรุดตัวลงไปข้างหน้า ราวกับหุ่นเชิดที่ถูกตัดสายออก

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด