ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 392 - ช็อก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 394 - การต่อสู้ที่เงียบงัน

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 393 - เวเธอร์!


เสียงระเบิดที่สั่นสะเทือนได้ทั้งสนามประลอง และการที่ม่านพลังป้องกันแห่งหนึ่งถูกโจมตีจนสลายตัวไป เรียกความสนใจจากนักเรียนทุกคนที่อยู่ในสนามประลองแห่งนี้ให้หันมองมาทางเวทีประลองของนักเรียนชั้นปี 1 เป็นตาเดียวกัน ในแววตาของนักเรียนชั้นที่สูงขึ้นไปทุกคนเต็มไปด้วยความสับสนสงสัย ทำไมการประลองของเด็กใหม่ในปีนี้ถึงได้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายนัก แล้วคลื่นพลังที่ยังหลงเหลืออยู่อากาศนี่คืออะไร มีครูฝึกคนไหนลงมืออีกอย่างนั้นหรือ?

แน่นอน! เหตุการณ์ที่แปลกประหลาดและน่าสนใจแบบนี้ แม้แต่นักเรียนชั้นปี 5 ก็ต้องสนใจ ไม่สิ! พวกเขาสงสัยและสนใจเป็นพิเศษยิ่งกว่านักเรียนปีอื่น ๆ เสียด้วยซ้ำ เหตุผลก็เป็นเพราะพวกเขาสัมผัสพลังที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ว่ามันไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขา ไม่ได้ด้อยไปกว่าเฟสเซอร์ระดับ 6 ยีนเลย

การที่มันถูกปล่อยออกมาจากเวทีประลองของนักเรียนชั้นปี 1 เป็นเรื่องที่น่าตื่นตกใจมากเกินไป ในเวลาไม่ถึงปี มีนักเรียนที่พัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งระดับนี้ได้อย่างไร? แม้แต่ผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับ 7 ดาวยังต้องใช้เวลามากกว่านี้อีกเป็นเท่าตัวไม่ใช่หรือ?

“หือ? การโจมตีที่มีอำนาจทำลายล้างรุนแรงแบบนี้! เป็นฝีมือของนักเรียนชั้นปี 1 อย่างนั้นหรือ? ไม่น่าใช่! คงต้องมีคนโกงใช้อุปกรณ์อะไรสักอย่างแน่” ผู้ชายคนหนึ่งที่หันหน้ามองจ้องตามเสียงการโจมตีไป เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแบบเยาะเย้ยให้กับเพื่อนร่วมทีม อีก 4 คนที่นั่งอยู่ข้างฟัง

“ไม่แน่หรอก! อาจจะเด็กอัจฉริยะระดับนั้นอยู่จริง ๆ ก็ได้ อย่าเพิ่งรีบตัดสินเองอยางนั้นสิ!” เสียงชายอีกคนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ เขากล่าวเสริมออกมาต่ออย่างคนที่มองเหตุการณ์ได้ละเอียดกว่า “ศาสตราจารย์อาวุโสเกือบทั้งหมดก็กำลังจับจ้องไปทางนั้นเหมือนกัน ถ้ามีการโกงเกิดขึ้น พวกเขาทั้งหมดคงจะไม่อยู่เฉยแบบนี้แน่”

“อืม? จริงด้วย! พวกเขาไม่ขยับตัวกันเลยสักนิดเดียว แถมไม่มีการออกคำสั่งให้ครูฝึกหรือศาสตราจารย์ทำอะไรด้วย บางทีอาจจะเป็นอย่างที่นายพูดจริง ๆ ก็ได้” อีกคนกล่าวขึ้นมาอย่างเห็นด้วย หลังจากที่เธอมองตามไปยังตำแหน่งที่ศาสตราจารย์อาวุโสนั่งอยู่

“แล้วถ้ามันเป็นอย่างนั้น! เด็กปี 1 ที่มีความแข็งแกร่งได้ถึงระดับนี้ บางทีอาจจะมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมกลุ่มกับพวกเราได้เลยนะเนี่ย พวกนายไม่คิดอย่างนั้นหรือ” หญิงสาวคนนั้นถอนสายตากลับไปจากการจ้องมองเดวิดอย่างพิจารณา และหันหน้ามองเพื่อนร่วมทีมอย่างขอความคิดเห็น

“อย่ามาพูดเรื่องไร้สาระน่า! จากคลื่นพลังที่แผ่กระจายออกมา ไม่ได้มีความพิเศษอะไรแฝงอยู่เลย มีแค่พละกำลังล้วน ๆ เธอคิดจะเอาคนเถื่อนบ้าพลังมารวมกลุ่มด้วยอย่างนั้นหรือ? เลิกคิดไปเลย” ชายคนแรกแสดงความไม่เห็นด้วยออกมาทันที ถ้าฟังจากน้ำเสียงที่ใช้ เขาหมายความตามที่พูดทุกคำจริง ๆ

“นายปฏิเสธออกมาเร็วไปหน่อยมั้ย? ลืมเหตุผลที่พวกเรามาที่นี่อย่างนั้นไปแล้วหรือ ผู้ฝึกฝนที่นี่มีความรู้ทุกอย่างที่จำเป็นอยู่แล้ว ถ้าเกิดมีอัจฉริยะที่โดดเด่นอยู่จริง ๆ ขั้นแรกพวกเราก็ต้องดึงเข้ามาเป็นพวกก่อนใช่หรือเปล่า ส่วนวิธีการฝึกฝนที่ถูกต้อง มันสามารถค่อย ๆ สอนกันทีหลังได้” สาวสวยโต้เถียงและอธิบายออกมาพร้อมกัน

“ไม่! ฉันรู้ว่าพวกเรามาทำอะไร แต่เธอก็ต้องดูสภาพของเจ้าหมอนั่นด้วย! พื้นฐานของคลื่นพลังที่ปล่อยออกมายังไม่ชัดเจนเพียงพอหรือยังไง นี่มันคนเถื่อนที่ใช้เป็นแต่กำลังแท้ ๆ ต่อให้สอนยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จแน่! พวกนักเรียนคนอื่น ๆ ก็เหมือนกัน ที่นี่มันชุมนุมคนเถื่อนแท้ ๆ” ชายคนเดิมคำรามออกมา

“อ้อ! อย่างนั้นหรือ? แสดงว่าที่พวกเรามาที่นี่ก็เสียเปล่าแล้วสิ!” หญิงสาวเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

มันเป็นคำถามที่ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นอึ้งไป คำพูดโต้เถียงมากมายที่คิดเอาไว้ติดอยู่ที่ลำคอ ไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้อีกเลยแม้แต่คำเดียว

“เอาน่า! ไม่ต้องเถียงกันแล้ว จะรับใครเข้าร่วมกลุ่มหรือไม่? เป็นอำนาจการตัดสินใจของ ‘เวเธอร์’ คนเดียวเท่านั้น พวกเธอจะเถียงกันไปทำไม?” อีกเสียงหนึ่งขัดขึ้นมาเบา ๆ ก่อนที่จะหันหน้ามองไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงกลาง

นักเรียนปี 5 กลุ่มนี้มีกันอยู่ทั้งหมด 5 คน กลิ่นอายที่พวกเขาเปล่งออกมาจากร่างกายเต็มไปด้วยความลึกลับและกดดันที่แปลกประหลาด มันกีดกันไม่ให้คนนอกสามารถเข้ามาร่วมสนทนาหรือแม้แต่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ได้ แม้ว่าพวกเขาจะนั่งอยู่บนอัฒจันทร์ที่จัดเตรียมเอาไว้สำหรับนักเรียนชั้นปี 5 แต่ก็เหมือนว่าพวกเขานั่งอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวก็ไม่ปาน

ผู้ชายคนที่นั่งไขว่ห้างอยู่ตรงกลางด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่าย ‘เวเธอร์!’ เป็นชายหนุ่มผมสีบลอนด์ที่หน้าตาหล่อเหลา ดวงตาสีน้ำเงินนั้นเจิดจ้าเป็นประกายเหมือนกับเต็มไปด้วยหมู่ดาวอยู่ภายใน เป็นดวงตาที่ดูมีอำนาจและเปี่ยมไปด้วยพลังที่แทบจะหลุดล้นออกมา

“ค่อย ๆ ดูกันไป ยังไม่ต้องรีบร้อนหรอก! อีกอย่าง การแข่งขันของพวกเรายังไม่จบลงเลยนะ มาช่วยฉันภาวนาให้คู่ต่อสู้ไม่ยอมแพ้ทันทีที่เห็นหน้าฉันจะดีว่า” เวเธอร์กล่าวออกมาเบา ๆ ด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก ก่อนจะลุกขึ้นยืนตามเสียงเรียกชื่อให้ขึ้นเวทีประลอง

......................

อีกราว ๆ 3 ชั่วโมงหลังจากนั้น การประลองคู่สุดท้ายของกิจกรรมการประลองประจำปีระหว่างชั้นเรียนของทางสถาบันแทมเบรียก็จบลง การประลองของนักเรียนชั้นปี 5 ได้ผู้ชนะเลิศออกมาในท้ายที่สุด

“ตอนนี้ได้เวลาแล้ว! ขอเชิญตัวแทนของทีมชนะเลิศขึ้นมารับรางวัลที่เวทีกลางด้วย!” เสียงประกาศดังก้องออกมาจากปากของศาสตราจารย์ผู้หนึ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการเรื่องการแจกรางวัล และมีศาสตราจารย์อาวุโสอีกท่านหนึ่งเริ่มขยับตัวลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อเดินลงมาที่เวทีแล้ว

เดวิดหันหน้าไปมองที่ครูฝึกเอลล่า เธอพยักหน้าที่ยั้งยิ้มแย้มชื่นบานอยู่ให้เขาเบา ๆ มันเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ‘ใช่! นายนั่นแหละ! รีบ ๆ ไปได้แล้ว!’

หลังจากสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด เดวิดก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเริ่มเดินมุ่งหน้าไปยังเวทีกลางที่อยู่ด้านล่างของอัฒจันทร์ด้านเดียวกับที่มีที่นั่งพิเศษตั้งอยู่ ภาพเดียวกันเกิดขึ้นกับอัฒจันทร์ของนักเรียนชั้นปี 2 ปี 3 ปี 4 และปี 5 ตัวแทนของทีมที่ชนะเลิศต่างพากันเดินไปที่เวทีเพื่ออย่างพร้อมเพรียงกัน

พวกเขาทั้ง 5 คนยืนเรียงอยู่เป็นแถวหน้ากระดาน แต่ระยะห่างระหว่างแต่ละคนนั้นกว้างเกิน 1 เมตร บรรยากาศนั้นเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง มันทำให้เดวิดแทบไม่กล้าหันหน้ามองซ้ายมองขวาดูตัวแทนจากชั้นเรียนอื่น ๆ เลย เขาได้แต่ยืนทำหน้าเรียบเฉยรอเวลาอยู่เงียบ ๆ

แล้วเดวิดก็ต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัย สายลมพัดผ่านมาเบา ๆ พร้อมกับกลิ่นหอมที่คุ้นเคย!? เขาใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นานพอสมควร ก่อนจะนึกออกว่ามันเป็นกลิ่นที่ตัวเองเคยสัมผัสมาตอนไหน แต่มันยิ่งทำให้คิ้วของเดวิดขมวดแน่นขึ้นไปอีก แล้วเธอมาทำอะไรอยู่ที่นี่?

เขาอดใจเอาไว้ไม่ไหว ตัดสินใจชะโงกไปข้างหน้าเล็กน้อย ก่อนจะใช้หางตาเหลือบมองออกไป ในที่สุดก็พบกับใบหน้าที่คุ้นเคย ‘เฟรต้า’ เจ้าหน้าที่ต้อนรับของห้องสมุด คนที่ช่วยเดวิดทะลวงสภาวะคอขวดในครั้งแรก แม้ว่าจะไม่ได้สนิทกันมากเท่าไร แต่ก็ยังนับว่าอีกฝ่ายมีบุญคุณกับตัวเองอยู่เล็กน้อย เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เขารู้จักในสถาบันแห่งนี้ ถ้าไม่นับเพื่อนร่วมรุ่นที่เรียนด้วยกัน

‘ใช่เธอจริง ๆ! แต่ทำไมถึงได้มาร่วมการประลองได้ล่ะ? นึกยังถึงได้ออกมาจากห้องสมุดแบบนี้?’ จากบุคลิกของเฟรต้าที่เดวิดจำได้ เธอไม่น่าใช่คนที่อาสามาร่วมการประลองด้วยตัวเองแน่! ‘หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น?’ เขาคิดต่ออย่างสงสัย ก่อนที่จะถูกขัดจังหวะด้วยเสียงประกาศที่ดังขึ้นมาเสียก่อน

“ขอเสียงปรบมือแสดงความยินดีให้กับผู้ชนะเลิศของนักเรียนชั้นปีที่ 1 ด้วย ตัวแทนของอดีตชั้นเรียนหมายเลข 12 นี้ ได้ทุ่มเทต่อสู้อย่างกล้าหาญตลอดการประลอง พวกเขาเอาชนะมาจนถึงตำแหน่งชนะเลิศได้อย่างขาวสะอาดและสมควรกับความสามารถแล้ว เดวิด ซินเทค! ได้โปรดก้าวออกมาเป็นตัวแทนรับรางวัลไปด้วย”

เสียงประกาศจากศาสตราจารย์ที่ทำหน้าที่เป็นโฆษกกังวานก้องไปทั่วสนามประลอง เดวิดก้าวออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม โค้งศีรษะทำความเคารพศาสตราจารย์อาวุโสที่ยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับยื่นมือออกไปรับกล่องของรางวัลเอาไว้

“ขอบคุณมากครับ!” หลังจากกล่าวขอบคุณเสร็จ เดวิดก็ถอยหลังกลับไปยืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิมอย่างไม่ชักช้า รางวัลที่เขาได้รับบนเวทีตอนนี้ เป็นรางวัลส่วนบุคคลที่มอบให้ผู้ชนะในการประลองรอบสุดท้ายของแต่ละชั้นปี ส่วนรางวัลสำหรับชั้นเรียนหมายเลข 12 คือการเปลี่ยนตำแหน่งไปเป็นชั้นเรียนหมายเลข 1 แทนแล้ว

ผลของการเปลี่ยนแปลงหมายเลขประจำชั้นเรียน ถ้าจะให้ระบุออกมาให้เข้าใจ ก็คงเป็นจำนวนคะแนนจีโนที่นักเรียนจะได้รับในแต่ละเดือน มันเพิ่มจาก 100 คะแนนจีโนเป็น 10,000 คะแนนจีโนทันที สิทธิในการเข้าไปใช้ห้องฝึกฝนควอนตัมฟรีเพิ่มจาก 10 ครั้งต่อเดือนเป็นไม่จำกัด ข้อจำกัดในการซื้อทักษะการฝึกฝนจากหอสมุดจาก 5 ทักษะถูกยกเลิก พวกเขาจะสามารถซื้อทักษะการฝึกฝนออกมาเท่าไรก็ได้ ตราบใดที่มีคะแนนจีโนจ่ายค่าธรรมเนียม นี่เป็นสิทธิพิเศษที่ชั้นเรียนหมายเลข 1 เคยได้รับมาตั้งแต่เปิดเรียน...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด