ตอนที่แล้วตอนที่ 229 กองทัพเรือมาสาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 231 สวัสดีผู้สร้าง

ตอนที่ 230 หมายเลข 18


ถ้าบอนนี่สามารถรวบรวมหมู่เกาะชาบอนดี้ทั้งหมดให้กลายเป็นพื้นที่ของเธอได้ล่ะก็ เขาก็สามารถที่จะสำเร็จภารกิจของโรงฝึกได้!

และนี่ก็คือสิ่งที่หลี่ฟานต้องการใช้บอนนี่ทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สำหรับการที่กองบัญชาการกองทัพเรือและแมรี่จัวส์ อยู่ไม่ไกลจากเกาะแห่งนี้ หลี่ฟานไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด

อย่างไรก็ตาม บอนนี่ก็ไม่ได้รู้ความคิดของหลี่ฟาน เธอจึงมองเขาขึ้นและลง ก่อนจะพูดออกมา

"อาจารย์หลี่ฟาน คุณอยากจะโจมตีกองบัญชาการกองทัพเรือ หรือแมรี่จัวส์อย่างงั้นหรอ?”

“โจมตีกองบัญชาการกองทัพเรือหรือแมรี่จัวส์?” หลี่ฟานเลิกคิ้วขึ้น

“ฉันแค่ต้องการทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆ โรงฝึกของฉันดูสะอาดขึ้นเล็กน้อย สำหรับโจมตีกองบัญชาการกองทัพเรือ แมรี่จัวส์ หรืออะไรก็ตาม ฉันก็ขอให้เธอลืมมันไปเถอะ”

“ก่อนจะคิดถึงเรื่องนั้น ทำไมเธอถึงไม่คิดที่จะตั้งใจทำภารกิจแรก ที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ของเธอให้สำเร็จก่อนล่ะ บอนนี่?”

“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจๆ!” บอนนี่โบกมือไปมา

“ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่า กองทัพเรือและรัฐบาลโลกจะรู้สึกยังไง เมื่อพวกเขารู้ว่านายอยู่ใกล้กับพวกเขามากแบบนี้!”

“แน่นอนว่า ก่อนหน้านั้นนายจะต้องสอนฉันให้มีพลังที่มากพอ จะจัดการกับหมู่เกาะชาบอนดี้ให้ได้ซะก่อน”

หลี่ฟานยักไหล่ และคลังสมบัติของบาบิโลนก็ปรากฎขึ้นมาข้างๆ เขา

จากนั้นการ์ดที่มีสัญลักษณ์คล้ายกับลูกแก้วสีส้ม ก็ลอยออกมาจากจากคลังสมบัติ และตกอยู่ภายในมือของหลี่ฟาน

“การ์ดสืบทอดศิลปะการต่อสู้ของ มนุษย์จักรกลหมายเลข 18!” บอนนี่จ้องไปที่การ์ดในมือของหลี่ฟานด้วยดวงตาที่สดใส

“ก่อนที่ฉันจะให้สิ่งนี้กับเธอบอนนี่ เธอต้องตามฉันไปยังสถานที่หนึ่งก่อน เพราะฉันจะพาเธอไปพบกับเธอ”

หลี่ฟานเก็บการ์ดในมือของเขาใส่กระเป๋า ก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องวิจัยทางวิทยาศาสตร์

บอนนี่พูดบางอย่างกับลูกเรือของเธอเล็กน้อย และรีบตามหลี่ฟานไปทันที

หลังจากที่เห็นบอนนี่และหลี่ฟานหายเข้าไปในประตูมืด เหล่าลูกเรือก็ชำเลืองมองกันและกัน และไม่รู้ว่าพวกเขาต้องทำอะไรต่อไป

“งั้น… ทำไมพวกเราไม่มาทำความสะอาดโรงฝึก ให้กับหัวหน้าหลี่ฟานกันล่ะ?”

“ใช่แล้ว มาทำความสะอาดโรงฝึกกันเถอะ!”

"โอ้! เริ่มกันเลย!"

หลังจากค้นพบสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้แล้ว เหล่าลูกเรือของบอนนี่ก็พากันลงมือทำทันที

อีกด้านหนึ่ง กองบัญชาการกองทัพเรือ

หลังจากจัดการกับปัญหาของเซเฟอร์แล้ว เซ็นโกคุก็กลับไปที่ห้องของเขา

[ อันดับศิลปะการต่อสู้ ] สิ้นสุดลงแล้ว สำหรับ [ อันดับชุดเกราะต่อสู้ ] ที่กำลังจะได้รับการประกาศในอีก 10 วันต่อมา เซ็นโกคุและกลุ่มผู้บริหารของกองทัพเรือ ยังมีเรื่องที่ต้องให้ประชุมหารือกันอยู่อีกมาก

ในทำนองเดียวกัน เกี่ยวกับสถานการณ์ในท้องทะเลในอนาคต เกี่ยวกับสถานการณ์ของหลี่ฟาน

พวกเขาก็ต้องพากันหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้อย่างถี่ถ้วน!

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เซ็นโกคุจะได้นั่งลงบนเก้าอี้ของเขา ทากสื่อสารที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้นมาทันที

เซ็นโกคุขมวดคิ้ว ขณะมองดูทากสื่อสาร เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่เขากำลังมีความรู้สึกแย่อยู่ในใจ

"เกิดอะไรขึ้น?" เซ็นโกคุรับการติดต่อสื่อสารและถามอย่างใจเย็น

“รายงานครับจอมพล เซ็นโกคุ ผมเป็นrลเรือตรีที่ประจำการอยู่ที่หมู่เกาะชาบอนดี้!” ผ่านทากสื่อสาร เสียงที่เต็มไปด้วยความร้อนรนก็ดังออกมาทันที

“โรงฝึกของหลี่ฟานปรากฎขึ้นที่หมู่เกาะชาบอนดี้ และโจรสลัด ‘จอมเขมือบ จีเวลรี่ บอนนี่’ ก็ได้กลายเป็นลูกศิษย์คนล่าสุดของหลี่ฟานครับ”

“จอมพล เซ็นโกคุ ขอคำสั่งให้พวกเราด้วยครับ!!”

หลังจากฟังรายงานของพลเรือตรี เซ็นโกคุและเหล่าผู้บริหารที่กำลังนั่งอยู่ภายในห้องนี้ ต่างก็กำลังตกตะลึงตาค้าง

“หลี่ฟานสร้างโรงฝึกในหมู่เกาะชาบอนดี้ และลูกศิษย์คนล่าสุดของเขาก็คือโจรสลัดอย่างงั้นหรอ!!” น้ำเสียงของเซ็นโกคุเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“ผู้ชายคนนั้น เขาต้องการให้หมู่เกาะชาบอนดี้ เป็นอาณาเขตของเขาอย่างงั้นหรอ?”

“เซ็นโกคุ สถานการณ์ในตอนนี้มันแย่มาก” สายตาของซึรุดูเคร่งขรึม

“หมู่ชาบอนดี้ มันอยู่ใกล้กับกองบัญชาการกองทัพเรือ และดินแดนศักดิ์สิทธิ์แมรี่จัวส์มากเกินไป หากหลี่ฟานสามารถทำให้หมู่เกาะชาบอนดี้เป็นอาณาเขตของเขาได้”

“ในการณีนี้ กองทัพเรือของพวกเราไม่สามารถที่จะอยู่เฉยๆ ได้!”

“และถ้าหากเขาทำสำเร็จขึ้นมาล่ะก็ มันก็อาจจะกลายเป็นสงครามเต็มที่ระหว่างพวกเรากับหลี่ฟานก็ได้!”

ถึงแม้ซึรุจะบอกว่าเป็นสงครามเต็มรูปแบบ แต่เธอก็รู้ว่าถ้าหลี่ฟาน ไม่ได้มีใจที่จะต่อสู้กับพวกเขาอย่างเด็ดขาด มันก็จะไม่กลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ

แต่ด้วยพลังของหลี่ฟานและเหล่าลูกศิษย์ของเขา มันจึงมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปถึงสงครามอย่างเต็มรูปแบบได้!

แม้ว่ากองกำลังของหลี่ฟานจะมีไม่มาก แต่พวกเธอก็เป็นพลังต่อสู้ชนชั้นสูงทั้งหมด อีกทั้งนามิและยามาโตะ ที่สามารถเอาชนะหนึ่งในสี่จักรพรรดิได้ ก็กำลังเดินอยู่ต่อหน้าผู้มรเดรซโรซ่า

ควบคู่ไปกับระดับเทคโนโลยีที่หลี่ฟานเคยแสดงออกมา แม้แต่ซึรุที่สงบอยู่ตลอด ก็ไม่รู้ว่าจะต่อสู้กับหลี่ฟานได้ยังไง

‘ฉันเกรงว่าคงมีแต่การร่วมมือกันระหว่างกองทัพเรือ รัฐบาลโลก และสี่จักรพรรดิเท่านั้น ถึงจะสามารถเอาชนะหลี่ฟานได้!’ ซึรุคิดในใจ

"ฉันรู้!" เซ็นโกคุพยักหน้า

"หลี่ฟานไม่เคยยอมรับโจรสลัดเป็นลูกศิษย์มาก่อน? แต่ทำไมเขาถึงยอมรับบอนนี่เป็นลูกศิษย์ของเขากัน?”

“เป็นไปได้ไหมว่า หลี่ฟานไม่ได้สนใจว่าคนๆ นั้นจะเป็นใครจริงๆ และขอแค่เพียงคนๆ นั้น เป็นคนที่ค้นพบโรงฝึกของเขาเป็นคนแรก?”

“ถ้ากองทัพเรือสามารถค้นหาโรงฝึกของหลี่ฟานได้ก่อนล่ะก็…”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซ็นโกคุก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวของเขาเบาๆ

แม้ว่าบอนนี่จะเป็นโจรสลัด แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่มีความขัดแย้งกับหลี่ฟาน

ตรงกันข้าม มันมีความขัดแย้งมากมายระหว่างกองทัพเรือกับหลี่ฟาน

นึกไปถึงรางวัลค่าหัวนับหมื่นล้านของหลี่ฟาน เซ็นโกคุก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาอีกครั้ง

เดิมที มันเป็นไปได้ที่พวกเขาจะทำการร่วมมือกับหลี่ฟาน เพื่อทำการฝึกฝนทหารเรือในอนาคต

แต่รางวัลค่าหัวนี้ ก็ทำลายความเป็นไปได้ของเขาจนแหลกละเอียด!

เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซ็นโกคุก็มักจะรู้สึกเจ็บปวดอยู่ภายในใจเป็นเวลานานอยู่เสมอ

“เซ็นโกคุ ‘จีเวลรี่ บอนนี่ คนนี้’ เธอเป็นผู้หญิงที่พิเศษมาก”

“และตอนนี้เธอก็ได้กลายเป็นลูกศิษย์ของหลี่ฟานไปแล้ว การไล่ตามเธอก็คงจะเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้นเรื่อยๆ” ซึรุพูด

เซ็นโกคุก็กัดฟันและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจพูดในสิ่งที่เขาคิด

“ทหารเรือทั้งหมดขอให้รักษาความระมัดระวังสูงสุดเอาไว้ และพลังการต่อสู้ระดับสูงของกองทัพเรือ ไม่สามารถออกไปจากมารีนฟอร์ดในช่วงนี้ได้”

“นอกจากนี้ การประชุมนี้จะสิ้นสุดลงชั่วคราว ฉันต้องติดต่อรัฐบาลโลกสำหรับเรื่องนี้ก่อน”

หมู่เกาะชาบอนดี้อยู่ใกล้กับแมรี่จัวส์มาก เซ็นโกคุคิดว่าบางทีคราวนี้อาจเป็นเวลาที่ดีที่สุด สำหรับห้าผู้เฒ่าที่จะเพิกถอนรางวัลค่าหัวของหลี่ฟาน

หลังจากได้ยินคำตัดสินของเซ็นโกคุ เหล่าพลเรือโทก็พากันเดินออกไปทีละคน ท้ายที่สุดก็มีเพียงซึรุ เสนาธิการของกองทัพเรือเท่านั้น ที่ยังนั่งอยู่ภายในห้องนี้

เซ็นโกคุหยิบทากสื่อสารขึ้นมา และรีบติดต่อไปหาห้าผู้เฒ่าอย่างรวดเร็ว เกี่ยวกับการที่หลี่ฟานก่อตั้งโรงฝึกบนหมู่เกาะชอบอนดี้

และรับโจรสลัด ‘จีเวลรี่ บอนนี่’ เป็นลูกศิษย์คนล่าสุดของเขา จากนั้นเซ็นโกคุจึงขอเสนอให้ทำการเพิกถอนรางวัลค่าหัวของหลี่ฟาน

“อะไรนะ เซ็นโกคุ นายไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม? ผู้ชายคนนั้นพึ่งจะยึดครองอิมเพลดาวน์ไปเมื่อไม่นานมานี้เองนะ!”

“แล้วใบหน้าของพวกเรา มันจะไปเอาไว้ที่ไหน!”

ผู้เฒ่าผมหยิกหงุดหงิดมาก จนต่อยไปที่โต๊ะโดยตรง ในณะที่แสดงสีหน้าโกรธเคืองต่อหน้าเซ็นโกคุ ผ่านทากสื่อสาร

“เซ็นโกคุ นายต้องรู้จักตำแหน่งของตัวเอง พวกเราได้ให้สัญญากับนายเกี่ยวกับเรื่องของเซเฟอร์แล้ว และได้ทำการเลื่อนเวลาการกลายเป็น 7 เทพโจรสลัดของ ‘เอ็ดเวิร์ด วีเบิ้ล’ ไป”

“ตอนนี้เพียงเพราะโรงฝึกของหลี่ฟานปรากฎขึ้นที่เกาะชาบอนดี้ นายก็ถึงกลับขอให้พวกเรายกเลิกรางวัลค่าหัวของหลี่ฟานเลยงั้นหรอ?”

“อย่าบอกนะว่า นายจะให้พวกเรายอมแพ้น่ะ!”

“ถ้าเขาต้องการหมู่เกาะชาบอนดี้ ก็ให้เขาไป!”

“เพราะการที่กรงฝึกของหลี่ฟานตั้งอยู่ที่นั่น มันก็จะสะดวกสำหรับพวกเราในการตรวจสอบเขาด้วย”

“เรื่องนี้จบลงแล้ว อย่าพูดถึงมันอีกเด็ดขาด เซ็นโกคุ!”

พูดจบ ผู้เฒ่าผมหยิกก็วางสายไปทันที

มองไปที่ทากสื่อสารที่ถูกตัดการเชื่อมต่อ เซ็นโกคุก็เงียบไปพักหนึ่ง

“แน่นอน ว่านี่คือผลลัพธ์” หลังจากผ่านไปนาน เซ็นโกคุก็ถอนหายใจยาว

“ทำไมพวกเขาถึงคิดไม่ได้กันล่ะ!?”

“ถ้าไม่ใช่เพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดในตอนนั้น หลี่ฟานก็ควรจะได้เป็นเพื่อนกับกองทัพเรือและรัฐบาลโลกไปแล้ว!”

มีเพียงซึรุเพื่อนแท้ที่อยู่กับเขามานานหลายทศวรรษเท่านั้น ที่อยู่ภายในห้องนี้ ดังนั้นเซ็นโกคุจึงสามารถแสดงความกังวลนี้ได้ด้วยความอุ่นหัวใจอย่างเต็มที่

“นายรู้จักห้าผู้เฒ่า และนิสัยของพวกเขาดี ดังนั้นไม่ต้องกังวลมากไปหรอก” รุปลอบโยน

“บางทีรัฐบาลโลกอาจมีอำนาจบางอย่างที่กงทัพเรือไม่รู้อยู่ก็ได้”

“พลังที่สามารถต่อต้านหลี่ฟานได้น่ะ…”

หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ซึรุก็คิดได้เพียงแค่ว่า

การที่รัฐบาลโลกและห้าผู้เฒ่ายืนกรานที่จะมอบค่าหัวของหลี่ฟานต่อไป มันก็อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขามั่นใจว่าสามารถจัดการกับหลี่ฟานได้

“ฉันหวังว่าพวกเขาจะมีพลังในการจัดการกับหลี่ฟานอยู่จริงๆ” เซ็นโกคุส่ายหัว

“ผู้ชายคนนั้น พวกเราไม่สามารถฆ่าเขาให้ตายได้ง่ายๆ แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ แต่เขาก็สามารถเลือกที่จะถูกขังอยู่ได้ และถึงเขาจะถูกขังอยู่เป็นระยะเวลานาน แต่อย่างน้อยพลังของเขาก็ไม่สมควรที่จะลดลง”

“เขา… เธอรู้ไหมว่าฉันกังวลอะไรเกี่ยวกับหลี่ฟานมากที่สุด”

โดยไม่รอให้ซึรุตอบ เซ็นโกกุก็พูดต่อ

“ชุดเกราะเหล็กที่ชายคนนั้นนำออกมา ตามคำแนะนำของรายการทองคำ บางทีมันควรจะเรียกถูกเรียกว่า ชุดเกราะเหล็กซีรี่ ‘Mark’”

“สิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุดไม่ใช่พลังของหลี่ฟ่าน แต่เป็นระดับของเทคโนโลยีที่น่าสะพรึงกลัวของเขามากกว่า”

“จากที่ฉันเห็นในรายการทองคำ พลังของชุดเกราะเหล็กสีน้ำเงิน มันก็มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับพลเรือโทแล้ว แล้วพลังของชุดเกราะเหล็กสีแดงขนาดใหญ่ ที่เฝ้าประตูของอิมเพลดาวน์อยู่ล่ะ?”

“อย่างน้อย พลังของมันก็คงจะไม่ด้อยไปกว่า ‘แปซิฟิสต้า’ ที่กำลังพัฒนาขึ้นโดย กองกำลังวิทยาศาสตร์ของพวกเราอย่างแน่นอน”

“หลี่ฟานมีชุดเกราะ ‘Mark’ อยู่มากแค่ไหน? และเขาจะมีอาวุธที่ทรงพลังยิ่งกว่านี้อยู่รึเปล่า?”

“แม้ว่าฉันจะไม่รู้ในเรื่องนี้ แต่ถ้าเขาสามารถนำชุดเกราะเหล็ก ‘Mark’ ออกมาได้มากกว่านี้ นั่นมันก็เป็นปัญหาที่ใหญ่มากเพียงพอสำหรับพวกเราแล้ว”

“อย่างน้อย ประเทศเล็กๆ ก็ไม่สามารถหยุดหลี่ฟานได้”

ซึรุเงียบไป สิ่งที่เซ็นโกคุคิดได้ เธอก็สามารถคิดได้ตามปกติ และนี่ก็คือสิ่งที่พวกเธอกำลังกังวล

“ดูจากสถานการณ์ของหลี่ฟานแล้ว ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้มีความคิดที่จะครอบครองโลกเลย” ซึรุกล่าว

"อาณาเขตที่เขาครอบครอง มันก็เป็นการป้องกันไม่ให้พวกเราเข้าไปรบกวนโรงฝึกของเขา"

“ทั้งอลาบาสต้า อาณาจักรดรัม หรือเดรสโรซ่า หลี่ฟานก็ไม่ได้แสดงเจตนา ที่อยากจะเป็นราชาเลยสักนิด”

“ผู้ชายคนนั้น บางทีเขาอาจจะเห็นสิ่งเหล่านี้ เป็นแค่เรื่องที่น่าสนใจก็ได้”

“และเมื่อพูดถึงอาวุธสงคราม เซ็นโกคุ รายการทองคำเคยพูดถึงอาวุธสงครามมาแล้วสองครั้ง”

“นายคิดว่ารายการทองคำ จะประกาศ [ อันดับอาวุธสงคราม ] ออกมาในอนาคตไหม?”

เซ็นโกคุชะงักไปครู่หนึ่ง เขาขมวดคิ้วขึ้นช้าๆ แล้วค่อยพูดออกมา

“ไม่ใช่ว่ามันไม่มีความเป็นไปได้แบบนั้น นอกจากอาวุธโบราณแล้ว รายการทองคำยังแยกชุดเกราะเหล็ก ‘Mark’ ออกไปจาก [ อันดับชุดเกราะต่อสู้ ] ด้วย”

“และนอกเหนือจากการกล่าวถึงอาวุธสงครามเป็นพิเศษแล้ว รายการทองคำก็มีโอกาสที่จะประกาศ [ อันดับอาวุธสงคราม ] ออกมาจริงๆ”

“เดี๋ยวก่อน! อย่าบอกนะว่า รัฐบาลโลกมีอาวุธโบราณอยู่เบื้องหลัง!”

“ถ้ารัฐบาลโลกมีอาวุธโบราณอยู่ในครอบครองจริงๆ มันก็อาจจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของรายการ [ อันดับอาวุธสงคราม ]!”

“เป็นไปได้ไหมว่า ห้าผู้เฒ่าตั้งใจที่จะรอจนกว่าพวกเขา จะได้รับรางวัลสูงสุดของรายการทองคำก่อน แล้วค่อยมาคิดถึงเรื่องการจัดการกับหลี่ฟานในภายหลัง!”

ยิ่งเขาพูดออกมามากเท่าไหร่ เซ็นโกคุก็จะยิ่งคิดมากขึ้นเท่านั้น

ในฐานะจอมพลของกองทัพเรือ เขารู้ความลับบางอย่างที่ทหารเรือธรรมดาๆ ไม่รู้

รัฐบาลโลกกำลังมองหาอาวุธโบราณอยู่ ในเหตุการณ์ของ cp9 ก่อนหน้านี้ ที่ปรากฏขึ้นในรายการทองคำ รัฐบาลโลกก็กำลังตามหาอาวุธโบราณ ‘พลูตัน’ อยู่

และนอกจากพลูตันแล้ว เซ็นโกคุยังรู้อีกด้วยว่า รัฐบาลโลกให้ความสนใจเป็นพิเศษกับ ‘โพไซดอน’ ที่เป็นหนึ่งในสามอาวุธโบราณ

‘บางที พวกเขาอาจจะมีเบาะแสเกี่ยวกับ ‘โพไซดอน’ และ ‘ยูเรนัส’ อยู่แล้ว’

เซ็นโกคุคิดในใจ

ในเวลาเดียวกัน หลังจากที่เดินตามหลี่ฟานผ่านทางเดินที่มืดมิดเข้ามา สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าของบอนนี่ ก็เป็นฉากที่ดูน่าเหลือเชื่อมากๆ

“นี่มันอะไรกัน!” ดวงตาของบอนนี่เบิกกว้าง

“ยินดีต้อนรับสู่ห้องวิจัยของฉัน และนี่ก็เป็นผลงานบางส่วนของฉันด้วย” หลี่ฟานหัวเราะเบาๆ

"นั่นคือชุดเกราะเหล็กซีรี่ ‘Mark’ เธอน่าจะเคยเห็นพวกมันผ่านรายการทองคำมาแล้ว"

“นี่คือชุดเกราะเหล็กซีรี่ ‘Mark’ ของอาจารย์หลี่ฟาน?”

“นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง มันยังมีผลงานของฉันอยู่อีกมากมายในห้องนี้”

"เข้าใจแล้ว เดี๋ยวก่อนอาจารย์หลี่ฟาน! ทำไมคุณถึงแสดงพวกมันให้ฉันเห็น? อย่าบอกนะว่าคุณต้องการที่จะมอบมันให้กับฉัน?” บอนนี่ถามด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

“ถ้าเธอต้องการ มันก็เป็นไปได้ที่ฉันจะมอบชุดเกราะเหล็กซีรี่ ‘Mark’ ให้กับเธอชุดหนึ่ง”

“แต่เมื่อเธอได้เรียนรู้ทักษะของเธอ เธอก็จะพบว่าชุดเกราะ ‘Mark’ ที่ฉันมอบให้เธอไปนั้น มันไม่ได้มีอะไรดีเป็นพิเศษเลย”

หลี่ฟานโบกมือให้กับบอนนี่ ก่อนจะพาเธอเดินลึกเข้าไปด้านใน

“เอาล่ะ มาถึงแล้ว” หนึ่งนาทีต่อมา หลี่ฟานก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานหนึ่ง ที่มีคำว่า ‘หมายเลข 18’ เขียนเอาไว้อยู่

“อาจารย์หลี่ฟาน ฉันมีคำถาม ทำไมพื้นที่ที่นี่มันถึงดูกว้างใหญ่นัก เพราะโรงฝึกที่อยู่ด้านนอกมันดูไม่ค่อยใหญ่เลย?”

ในขณะที่เดินอยู่ในนี้ บอนนี่รู้สึกว่าระยะการมองเห็นของเธอนั้น มันกว้างใหญ่กว่าขนาดของโรงฝึก ที่เธอเห็นมาจากโลกภายนอกมาก

สิ่งนี้จึงทำให้บอนนี่รู้สึกแปลกใจจริงๆ

“เธอจะคิดว่ามันเป็นความสามารถพิเศษของฉันก็ได้” หลี่ฟานพูดกับบอนนี่ ขณะกดปุ่มที่อยู่ด้านข้างของประตู

บอนนี่หน้ามุ่ยเล็กน้อย และเมื่อเขามองไปที่ประตู เธอก็พบว่าประตูได้ถูกเปิดออกแล้ว

เธอจึงรีบเดินตามหลี่ฟานเข้าไปทันที

"เอ๊ะ! นี่มันหมายเลข 18 ไม่ใช่หรอ?”

"อาจารย์หลี่ฟาน คุณกำลังสร้างหุ่นยนต์หมายเลข 18 ในรายการทองคำขึ้นมาใช่ไหม?”

ทันทีที่เธอเดินเข้าไปด้านในของประตู บอนนี่ก็ถูกดึงดูดโดยร่างที่อยู่ในหลอดทดลองขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยของเหลวสีเขียว

และร่างที่อยู่ภายในหลอดทดลองขนาดใหญ่นี้ ก็เป็นผู้หญิงผมสีเหลืองที่สวยงามเอามากๆ

และดูเหมือนว่า เธอจะกำลังหลับลึกอยู่ โดยไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาเลยสักนิด

“หึ! อาจารย์หลี่ฟาน นี่เป็นงานอดิเรกของคุณรึเปล่า ทำไมคุณถึงไม่แต่งตัวให้เธอสักหน่อยล่ะ”

“เดี๋ยวนะ คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม อย่าบอกนะว่า คุณจะให้ชั้นเข้าไปในหลอดทดลองนี้ด้วยน่ะ!” บอนนี่เบิกตากว้าง ขณะมองไปที่หลี่ฟาน

“เป็นไปได้ไหมว่า นี่คือความลับที่ยิ่งใหญ่ของคุณ สิ่งทำให้พลังของลูกศิษย์ทุกคน แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยการใช้งานหลอดทดลองพวกนี้!!!”

“ถ้าแบบนี้ มันก็ดูสมเหตุสมผลแล้ว ว่าทำไมลูกศิษย์ของคุณ ถึงแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างรวดเร็วแบบนั้น”

“ปรากฎว่าคุณได้ใช้สิ่งเหล่านี้ และด้วยวิธีนี้ คุณก็จะสามารถสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งละยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้!”

เมื่อเห็นว่าบอนนี่กำลังพยักหน้า และพูดออกมาไม่หยุด หลี่ฟานก็จิ้มนิ้วไปที่หน้าผากของเธอสองสามที

“เธอคิดแบบนี้ได้ยังไง? การฝึกฝนที่เธอจะต้องพบเจอก็คือ การฝึกฝนที่แสนจะโหดร้ายที่สุดในโลก มันไม่ได้อาศัยอุปกรณ์เหล่านี้ เพื่อทำให้พลังของเธอแข็งแกร่งขึ้นเลยสักนิด”

“อีกอย่าง รุ่นพี่ของเธอก็ไม่ได้แข็งแกร่งขึ้นด้วยการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ พอฉันพูดถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนแรกที่ได้มาที่นี่ และแม้แต่นามิและคนอื่นๆ ก็ยังไม่เคยมาที่นี่เลย”

“แต่ถ้าเธอต้องการสัมผัสประสบการณ์การฝึกฝนที่เต็มไปด้วยเลือด ฉันสามารถช่วยเธอในการฝึกฝนแบบนั้นได้นะ และแน่นอนว่ามันจะต้องเป็นการฝึกฝนแบบไม่มีเสื้อผ้า”

พูดจบ หลี่ฟานก็มองขึ้นลงไปที่บอนนี่ ด้วยสายตาที่เฉียบคม

หลี่ฟานต้องขอยอมรับในใจเลยว่า ถึงแม้บอนนี่จะไม่ได้มีคุณธรรมมากนัก แต่สไตล์การแต่งตัวของเธอ ก็สอดคล้องกับความสนใจของหลี่ฟานเข้าเต็มๆ

การจัดระเบียบชุดที่เผยให้เห็นสะดือ และกางเกงขายาวเผยให้เห็นสไตล์ที่ดุร้าย

เพียงแค่มองไปที่รูปลักษณ์ของบอนนี่ ในหัวใจของหลี่ฟานก็ให้คะแนนเธออย่างน้อยเก้าสิบคะแนนไปแล้ว

“ลืมมันไปเถอะ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปในหลอดทดลองพวกนี้หรอก เพราะมันคงจะทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดมากๆ” บอนนี่โบกมือของเธอไปมา

เมื่อคิดถึงการเข้าไปอยู่ในของเหลวสีเขียวภายในหลอดทดลอง มันก็ดูเหมือนจะให้ความรู้สึกของการจมอยู่ในน้ำทะเลกับเธอ

และความรู้สึกแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยสักนิด สำหรับคนที่ใช้พลังผลปีศาจแบบเธอ

“จริงเหรอ น่าเสียดายจริงๆ” หลี่ฟานยักไหล่ มันเป็นเพียงเรื่องตลกสำหรับเขา ที่บอกว่าจะให้บอนนี่เข้าไปอยู่ภายในหลอดทดลอง

“หมายเลข 18 ที่อยู่ในหลอดทดลองนี้ เธอไม่ใช่หมายเลข 18 คนเดียวกันกับที่แสดงในรายการทองคำ”

“บางทีอาจจะพูดได้ว่าหมายเลข 18 ของฉัน ได้รับการพัฒนาโดยอ้างอิงมาจากรายการทองคำก็ได้”

“แล้วก็… มันก็เป็นอย่างที่เธอเห็น หมายเลข 18 เธอยังอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์”

“และเธอก็จะสามารถออกจากหลอดทดลองนี้ได้ จนกว่าเธอจะตื่นขึ้นมาแล้วเท่านั้น”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด