ตอนที่แล้วตอนที่ 11 : เจ้าของห้องสาวสวยมาทวงหนี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 : ผู้เคลียร์ดันเจี้ยนป่านิรันดร์โหมดแอดเวนเจอร์ได้เป็นกลุ่มแรก

ตอนที่ 12 : สกิลสุดท้าย! พลิกปฐพี!


กูล ซึ่งสามารถสังหารคนได้ถึงสี่คนติดต่อกัน ก็ยกกริชในมือของเขาและตะโกนออกมาด้วยความภาคภูมิใจ

"ไอ้เจ้าพวกมนุษย์ นี่คือราคาที่พวกนายต้องจ่ายในการบุกรุกเข้ามาในป่าแห่งนิรันดร์แห่งนี้!"

หลังจากนั้นมันก็เข้าสู่โหมดต่อสู้และกระโจนใส่แม็คเรย์ในทันที

แม็คเรย์มองไปที่บอสก็อบลินที่พุ่งเข้าใส่อย่างใจเย็น

มันหมายจะแทงเขาด้วยกริชในมือ

แต่แม็คเรย์ก็หลบด้วยการย่อตัวลงเล็กน้อย ทำให้แขนสีดําของกูลและกริชที่แหลมคมของมันฟันผ่านศีรษะของเขาไปจนเกิดเป็นลมกรรโชกแรง

แม็คเรย์ที่เกือบจะถูกบอสฆ่า ก็หันหลังและวิ่งในทันที

“สเตตัสของตัวละครในตอนนี้แตกต่างจากชีวิตก่อนหน้านี้ของฉันมากเกินไป”

แม็คเรย์บ่นออกมาอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่เขาหลบการโจมตีของบอสไปด้วย

นอกจากเลเวล 80 แล้วตัวละครนี้ก็ไม่มีอะไรเลย รวมถึงไอเทมหายากอื่นๆที่เขามีในชีวิตก่อนหน้านี้ด้วย...

จังหวะในการเคลื่อนไหวและพลิกตัว การแกว่งอาวุธก่อนและหลังที่สกิลจะถูกปล่อยออกมา... ทั้งหมดมันแตกต่างจากในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เนื่องจากค่าความคล่องตัว ความต้านทาน ระยะเวลาหน่วงสกิลและอื่นๆ เขายังห่างไกลจากสเตตัสในชีวิตก่อนหน้านี้มากเกินไป

นี่มันเหมือนกับ ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ที่ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในวัยเด็ก แม้ว่าเขาจะเข้าใจในการเคลื่อนไหวและศาสตร์การต่อสู้ทั้งหมด แต่ร่างกายของเขาก็ยังห่างไกล ที่จะตามความสามารถนั้นให้ทัน เขายังต้องใช้เวลาในการปรับตัวอย่างช้าๆ

...

ในสายตาของบิลและคนอื่นๆ แม็คเรย์กำลังวิ่งหนีและหลบการโจมตีของบอสอย่างงุ่มง่าม

ทุกครั้งที่พวกเขาคิดว่า หมอนั่นจะต้องตายภายใต้การโจมตีที่ดุเดือดของบอสเป็นแน่

แต่พวกเขากลับพบว่า แม็คเรย์ใช้เพียงการเคลื่อนไหวพื้นฐานในเกม เช่น กลิ้ง เลี้ยว และกระโดด ก็สามารถหลบการโจมตีของบอสได้แล้ว

ยิ่งบิลมองมันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเท่านั้น

ทำแบบนี้ก็ได้ด้วย?!

ช่างเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้ แม้แต่ท่าทางสงบนิ่งนั่น!

บิลอดที่ตะเปรียบเทียบตัวเองกับแม็คเรย์ไม่ได้

จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่า ตัวเองที่เป็นคลาสโจร กลับไม่สามารถเทียบกับผู้เล่นที่เป็นสายสนับสนุนได้ ความว่องไวยังได้ไม่ถึงครึ่งของนักบวชที่หยิ่งผยองคนนี้เลยด้วยซ้ำ!

ถ้าเขาได้รู้ว่า แม็คเรย์ยังอยู่ในช่วงทําความคุ้นเคยกับสเตตัสของตัวละครอยู่จึงทำให้ตอนนี้เขาแค่หยอกบอสไปมาเท่านั้น เขาจะไม่สติแตกไปเลยหรือ?

สำหรับแม็คเรย์...

แม้ว่า บอสก็อบลิน จะเป็นมอนสเตอร์ประเภทที่มีความว่องไวเป็นหลัก แต่ความคล่องตัวและความถี่ในการโจมตีก็สูงเช่นกัน...

ระยะหน่วงในการโจมตีแต่ละครั้งอยู่ที่ประมาณหนึ่งวินาที นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นแค่เพียงดันเจี้ยนระดับต่ำ บอสจะไม่ได้อยู่ในสถานะคลั่ง

ดังนั้น วิธีจัดการคือการโจมตีด้วยการฟันง่ายๆ

สําหรับแม็คเรย์ การชิ่งหลบนั้นไม่ได้ยากอะไรเลย มันเหมือนกับว่าเขากำลังเดินเล่นในป่าแห่งนิรันดร์กับบอสก็เท่านั้น

ดังนั้น ฉากแปลกๆนี้ จึงได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าสมาชิกที่ตายไปแล้วทั้งสี่คน

มอนสเตอร์ที่เอาแต่ไล่ต้อนพวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวตัวนี้... กลับไม่สามารถแม้แต่จะสัมผัสตัวของแม็คเรย์ได้เลยด้วยซ้ำ

...

หลังจากนั้นไม่กี่นาที

เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง สาวสวยที่ยืนอยู่ข้างหลังก็อดไม่ได้ที่จะพูดมันออกมา

เสียงของเธอยังเย็นชาเหมือนเดิม

“แม้ว่าการเคลื่อนไหวของนายจะน่าประทับใจมาก แต่หากนายยังทำแบบนี้ต่อไป นายก็คงไม่มีวันฆ่าบอสได้อยู่ดี ฉันพูดถูกไหม?”

โดยไม่ต้องหันหลังกลับ แม็คเรย์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเธอ แต่แล้ว ในวินาทีถัดมา ตัวของเขาในเกมก็หยุดวิ่งและหันกลับไปเผชิญหน้ากับบอสก็อบลิน—กูลผู้หลอกลวง เขายกไม้เท้าขึ้นมา และใช้สกิลโจมตีระยะไกลกับบอสที่อยู่ข้างหลัง

ตัวเลขปรากฎขึ้นเหนือหัวของบอส

-37

"ด้วยวิธีนี้ ฉันก็สามารถฆ่ามันได้แล้ว"

บอสก็อบลินเป็นมอนสเตอร์ประเภทความคล่องตัวสูง ดังนั้นการป้องกันและ HP ของมันจึงค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับมอนสเตอร์ประเภทเกราะหนักในระดับเดียวกัน

บอสก็อบลินที่ถูกโจมตีคํารามด้วยความโกรธและเปลี่ยนวิธีการโจมตี!

ไซม่อนซึ่งเสียชีวิตในสนามรบร้องออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“เช**ยเอ้ย! บอสเข้าสู่สภาวะคลั่งแล้ว ทีนี้มันก็อยู่ที่เขาแล้ว ว่าจะหลบได้กี่ครั้งกัน!

เมื่อไซม่อนพูดจบ การโจมตีของบอสก็พลาดอีกครั้ง และแมคเรย์ก็ถือโอกาสหันหลังกลับและโจมตีบอสอีกครั้ง

"แม่ง!"

"เจ๋งมาก!"

"นี่คือปฏิกิริยาในการตอบสนองแบบไหนกัน!"

แม็คเรย์ประสบความสําเร็จในการโจมตีอีกครั้งด้วยการตอบสนองของเขา

แต่ในวินาทีถัดมา กูลที่เข้าสู่สภาวะคลั่งก็หยุดไล่ตาม มันยืนหยั่งรากกับพื้นและโบกกริชในมือใบมา จากนั้นก็สวดพึมพำเป็นภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจออกมา

ในชั่วพริบตา โดยมี กูล เป็นศูนย์กลาง พื้นดินภายในรัศมีสิบเมตร ก็เริ่มสั่นช้าๆ ราวกับว่ามีบางอย่างกําลังจะแยกออกจากพื้น

“ไอ้พวกมนุษย์เจ้าเล่ห์! ไปตายซะ!”

[พลิกปฐพี!]

หลังจากร่ายคาถาจบ กูลก็คํารามออกมาด้วยความโกรธ

พื้นดินสั่นสะท้าน เถาวัลย์มากกว่าสิบเส้นที่มีความหนาหนึ่งฟุต ระเบิดพุ่งขึ้นไปบนอากาศและตรงไปที่แม็คเรย์เหมือนงูเหลือมที่ว่องไว

ดวงตาของแม็คเรย์พบันเปลี่ยนเป็นดุร้าย

“มาแล้ว! สกิลสุดท้ายของกูล [พลิกปฐพี!]”

ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา สกิลนี้เปรียบดั่งการปรากฏตัวความทรงจําอันเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้สําหรับผู้เล่นมือใหม่หลายร้อยล้านคน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากปราศจากสกิล [ชำรำล้าง] ของผู้เล่นสายสนับสนุน แล้วล่ะก็

สกิลโจมตีหมู่เช่นนี้ แค่ห้าวินาทีก็เป็นเหมือนฝันร้ายแล้ว

เขาคงตายแน่ ถ้าโดนมันเข้า!

...

เถาวัลย์ที่หนาและรวดเร็วเหล่านี้ได้ล็อคเป้ามาที่แม็คเรย์ พวกมันพุ่งเข้าหาเขาเหมือนโซ่มรณะ

แม็คเรย์ ขยับข้อมือของเขาและพึมพําเบา ๆ

“ในที่สุดฉันก็คุ้นเคยกับสเตตัสของขยะนี่ซะที”

~มีแก้ไขนิดหน่อย ขอเปลี่ยนคำว่าคุณสมบัติ คุณลักษณะเป็นคำว่า สเตตัสนะคะ~

ความว่องไว,ความคล่องตัว = AGI

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด