ตอนที่แล้วChapter 26: สอนบทเรียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 28: แต้มความบ้าคลั่งระลอกใหม่!

Chapter 27: ได้รับอาวุธต้องสาป!


“เปิดประตู!” วัลสั่ง

“ครับ นายท่านวัล”

ริชาร์ดปลดผนึกทางเข้าระเบียงแห่งความเสื่อมทรามก่อนที่จะออกแรงผลักประตูที่หนักอึ้ง

ฟิ้วว!

ทันใดนั้นเอง สายลมสีดำที่น่าขนลุกก็พัดออกมาห้อมล้อมพวกเขาเหมือนกับฝูงผีค้างคาว ริชาร์ดด้วยกันกับผู้คุ้มกันอีกคน ตัวสั่นด้วยความกลัวที่แผ่ซ่านมาจากส่วนลึกในจิตใจของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับพวกเขา แต่วัลก็ยังคงนิ่งเฉยไม่ได้สะทกสะท้านกับการเผชิญหน้าพลังเสื่อมทรามของระเบียง

เขาต่อสู้กับมันด้วยความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียวและก้าวเข้าไปในสภาพแวดล้อมที่มืดมนของระเบียงด้วยความแน่วแน่

ทันใดนั้นเอง แจ้งเตือนระบบก็ดังขึ้นในหัวของเขา

[เข้าสู่ระเบียงแห่งความเสื่อมทราม แนะนำให้ใช้ความระมัดระวังเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีระดับความเสื่อมทรามสูง]

วัลรับฟังคำเตือนจากหูข้างหนึ่งและปล่อยมันออกไปทางหูอีกข้างหนึ่ง เขาไม่สนใจมัน ถึงยังไง ด้วยคุณสมบัติไร้ความรู้สึกของเขา เขาจึงต้านทานความเสื่อมทรามได้อยู่แล้ว

ข้างในระเบียง มันมืดเหมือนกับหุบเหวลึก คนธรรมดาคงจะมองอะไรไม่เห็นในวินาทีที่พวกเขาเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับวัล ด้วยคุณสมบัติมองกลางคืนสายตาของเขาได้ปรับเข้ากับความมืดในทันที

ทุกสิ่งที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดเริ่มชัดเจนขึ้นมาสำหรับเขา

ในขณะที่เขาเดินลึกเข้าไปในระเบียงแห่งความมืด เขาได้เห็นวัตถุต้องสาปหลากหลายประเภท บ้างก็กระจัดกระจายอยู่บนพื้น บ้างก็ถูกจัดวางเอาไว้ในชั้นไม้เก่าๆ มีป้ายชี้บ่งติดเอาไว้เพื่อแสดงระดับและประสิทธิภาพของพวกมันด้วย

วัลไม่ได้สนใจมองพวกวัตถุที่ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนอาวุธ เรื่องของเรื่องคือ เขาไม่ได้มามองหาวัตถุต้องสาปชิ้นไหนก็ได้ เขามองหาอาวุธ และถ้าได้ดาบก็คงจะดี

ทันใดนั้นเอง ภาพที่แปลกประหลาดก็ได้ดึงดูดสายตาของเขา

เขาสังเกตเห็นดาบเล่มหนึ่งที่อบอวลไปด้วยพลังงานมืด ที่พำนักของมันคือแท่นวางเล็กๆ ที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่มุมห้อง พลังเสื่อมทรามที่แผ่ออกมาจากมันนั้นชัดเจน, หนักหน่วง, หนาแน่น, และแข็งแกร่งพอที่จะผลักดันให้คนที่มีจิตใจอ่อนแอกลายเป็นบ้าไปในทันที

และที่น่าสนใจที่สุดก็คือ มันไม่มีป้ายชี้บ่ง!

ซึ่งนี่เป็นการบ่งบอกว่าไม่มีใครจากตระกูลไวท์มอร์ที่สามารถครอบครองมันได้ และน่าจะเป็นเพราะพลังเสื่อมทรามที่รุนแรงของมัน

“นี่จะต้องเป็นวัตถุต้องสาปที่สูงกว่าขั้น -4 อย่างแน่นอน” วัลวิเคราะห์

ในตระกูลไวท์มอร์ ผู้ใช้สายเลือดส่วนใหญ่สามารถรับมือได้แค่อาวุธต้องสาปขั้น -5 เท่านั้น

ส่วนโจชัวที่เป็นหัวหน้าตระกูลสามารถควบคุมวัตถุต้องสาปขั้น -3 ได้

แม้กระทั่งพี่ชายของวัลก็สามารถสยบอาวุธต้องสาปขั้น -3 ได้เช่นเดียวกับพ่อของเขาก่อนที่จะเดินทางออกจากฐานที่มั่นเพื่อไปตั้งกลุ่มทหารรับจ้างพร้อมกับเพื่อนพ้องของเขา และมองหาการขยับขยาย

วัลมีความตั้งใจที่แน่วแน่ว่าจะไม่ยอมถูกเงาของพวกเขาบดบัง ดังนั้นแล้ว ในเมื่อเขาได้รับโอกาสนี้มาจากการแลกเปลี่ยนสมุนไพรชำระล้างเลือดอันมีค่า เขาก็ตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ให้ถึงที่สุดและหาอาวุธที่ดูน่าจะเหนือกว่าขั้น -4 ไม่ว่าจะต้องสูญเสียอะไรก็ตาม

ความทะเยอทะยานของเขาลุกโชนในใจเหมือนกับเปลวเพลิง และมันก็กระตุ้นให้เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อไขว่คว้าหาพลัง

การเข้าไปใกล้อาวุธต้องสาปที่แผ่พลังเสื่อมทรามออกมาให้เห็นกันชัดๆ นั้นเป็นงานที่เป็นไปไม่ได้สำหรับคนส่วนใหญ่ แต่วัลไม่ใช่ คุณสมบัติไร้ความรู้สึกทำให้เขามีความต้านทานต่อความกลัวและความเจ็บปวดที่พลังเสื่อมทรามมักจะปลูกฝังเข้าไปในหัวใจและร่างกายของคน!

แม้ว่าดาบจะพยายามกัดกร่อนเขา แต่เขาก็ไม่ได้รับผลกระทบ

เขาค่อยๆ เข้าไปหาดาบทีละก้าว ทีละก้าว

เขายื่นมือออกไป ในตอนที่มือของเขาจับด้ามดาบ เขาก็พยายามจะดึงมันให้หลุดออกจากแท่น

[ติ๊ง! เข้าสู่กระบวนการสยบวัตถุต้องสาป...]

[วัตถุต้องสาปเริ่มต่อต้าน!]

ดาบต่อต้านด้วยการเร่งขยายพลังเสื่อมทรามที่มันปล่อยออกมาเพื่อตอบสนองต่อความพยายามของเขาในการที่จะยึดครองมัน

มันพยายามทำอันตรายเขาอย่างเต็มที่ แต่มันก็ต้องผิดหวัง วัลไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย เขาไม่สะทกสะท้านเหมือนกับภูเขา มันดูเหมือนกับว่าต่อให้ฟ้าเกิดถล่มลงมา เขาก็คงจะไม่กลัว มันดูเหมือนกับว่าไม่มีอะไรในโลกนี้สามารถทำให้เขารู้สึกกลัวหรือเจ็บปวดได้!

“แกจะต้องมาอยู่กับฉัน!” วัลประกาศกร้าวด้วยบรรยากาศของผู้มีอำนาจ ผ่านการดึงที่มั่นคงและทรงพลัง เขาดึงดาบออกมาจากแท่น และในจังหวะเวลาเดียวกันนั้นเอง กลิ่นอายของความเสื่อมทรามก็หายไปราวกับถูกลบออกไปด้วยมือที่มองไม่เห็น

[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีด้วย! ท่านได้รับวัตถุต้องสาป!]

ตอนนี้อาวุธถูกสยบแล้ว มันอยู่ในมือของเขาเหมือนกับสัตว์เลี้ยงที่เชื่อง การต่อต้านต่อหน้านี้ได้ถูกแทนที่ด้วยบรรยากาศของความเป็นเจ้าของราวกับว่ามันตั้งใจจะอยู่กับเขาไปตลอด

ขั้นตอนต่อไปก็คือการสร้างความสัมพันธ์กับวัตถุต้องสาปที่สยบได้

เขารู้จักความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้สายเลือดกับปีศาจ รู้ว่าความสัมพันธ์จะเกิดขึ้นได้ผ่านการแลกด้วยเลือด ดังนั้นเขาจึงกรีดนิ้วของเขา และปล่อยให้หยดเลือดหยดลงไปที่ด้ามจับของดาบ

[การเชื่อมต่อถูกสร้างขึ้น ตอนนี้ท่านได้กลายเป็นเจ้าของอาวุธต้องสาปขั้น-3ที่มีชื่อว่าดาบอควาเรียสแล้ว]

ทันใดนั้นเองการเชื่อมต่อก็ถูกสร้างขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสอง

ดาบอควาเรียสได้เสริมพละกำลังและการตอบสนองขึ้นอีก 4 และ 2 แต้มตามลำดับ มันเหมือนกับว่าอาวุธได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัล!

และในเวลาเดียวกันนั้นเอง มันก็ส่งข้อมูลจำนวนมากเข้ามาในหัวของวัลโดยตรงผ่านการเชื่อมต่อที่พวกเขามีร่วมกัน

และก็ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงค้นพบคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของดาบอควาเรียส

มันมีความสามารถในการกลืนกินของเหลว และจะปล่อยออกมาได้ก็ต่อเมื่อกลืนกินจนเต็มแล้ว ซึ่งการปลดปล่อยออกมานั้นจะเป็นลักษณะของของเหลวทรงจันทร์เสี้ยวที่มีความเข้มข้นและแรงดันสูง มันมีพลังมากพอที่จะตัดเหล็กกล้าได้เหมือนกับมันเป็นแค่เศษดิน!

วัลยิ้มอย่างผู้มีชัย “ฉันได้ไพ่ตายที่แข็งแกร่งมาอีกแล้วสินะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด