ตอนที่แล้วบทที่ 300: ทดสอบความแข็งแกร่ง เมืองร้าง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 302: หนีจากอาคารร้าง สร้างแท่นพิธีเสร็จแล้ว!

บทที่ 301: แท่นพิธีหล่อหลอมวิญญาณ มีคนมาเที่ยวเมืองร้าง!


เมืองร้างที่ถังเจิ้นกำลังจะไปนั้นหลายคนเรียกมันว่า ‘เมืองผี’!

แม้ว่าตัวเมืองและหมู่บ้านในบริเวณนี้จะถูกภัยพิบัติทำลายล้างไปอย่างจนหมดสิ้นแล้วก็ตาม แต่ตลอดหลายปีมานี้ก็ยังคงมีคนกลับมาอยู่อาศัยเพราะเป็นบ้านเกิดบ้างเหมือนกัน

ถังเจิ้นขับรถราบรื่นไปตลอดทางจนในที่สุดก็มาถึงจุดหมายปลายทางของตน

ถังเจิ้นลงรถมาแล้วก็เอารถไปไว้ยังโลกโหลวเฉิงแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วเริ่มมองหาสถานที่เหมาะ ๆ

ด้วยมุมมองแผนที่ทำให้ถังเจิ้นสามารถมองเห็นพื้นที่ทั้งหมดในรัศมี 100 กิโลเมตรและมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีการพลาดรายละเอียดใด ๆ

ดังที่คาดไว้ตั้งแต่แรก นั่นคือเมืองร้างแห่งนี้มันรกร้างเหลือจะกล่าว

มีอาคารที่ชำรุดทรุดโทรมอยู่เพียบข้างในผืนป่าและทุ่งหญ้าเขียวสูงขนาดมหึมา

มีอาคารและซากรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากการตาดแดดลมฝนมากมายนับไม่ถ้วน

ในพื้นที่ขนาดใหญ่เช่นนี้นอกเหนือจากอาคารที่สภาพทรุดโทรมแล้วก็ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ที่นี่

แต่ถ้าสังเกตดูดี ๆ จะพบเห็นร่องรอยกิจกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์อยู่เหมือนกัน โดยห่างจากจุดที่เขาอยู่ไปไม่ไกลมีหมู่บ้างแห่งหนึ่งซึ่งเห็นชัดเลยว่าเป็นหมู่บ้านที่มีคนอยู่ ทะเลสาบที่อยู่ไกล ๆ ก็เห็นคนกำลังตกปลาด้วย

หลังจากที่พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วในที่สุดถังเจิ้นก็เลือกสถานที่ที่ต้องการใช้ได้

จากนั้นก็มีลมพัดอยู่ใต้ฝ่าเท้าแล้วถังเจิ้นก็เริ่มออกวิ่งด้วยความเร็วสูงผ่านบริเวณอาคารรกร้างแห่งหนึ่งตรงไปยังจุดที่เลือกเป็นเป้าหมาย โดยจุดหมายปลายทางอยู่ที่อาคารร้างขนาดใหญ่ที่มีสภาพทรุดโทรมหลังหนึ่ง

ขณะที่เดินทางไปนั้นเองจู่ ๆ ก็ได้มีหมาป่าฝูงหนึ่งวิ่งออกมาขวางทางซะอย่างนั้น ซึ่งหมาป่าพวกนี้ทั้งตัวใหญ่และดูดุร้าย สายตาที่จับจ้องมองเขานั้นราวกับว่าตัดสินใจแล้วว่าวันนี้จะได้กินเนื้อเขาสด ๆ เป็นอาหาร

ส่วนถังเจิ้นก็ไม่ได้อะไรมากเขาแค่มุ่งหน้าตรงไปยังจุดหมายของตัวเองต่อไป

ด้านไอ้พวกหมาป่ามันก็กระโจนเข้ารุมกัดถังเจิ้นทั้งแบบนั้นเลย

“หาที่ตายกันจังวะ!”

ถังเจิ้นแค่นเสียงแล้วต่อยออกไปทีหนึ่งส่งหมาป่าสองตัวบินไปไกล ซึ่งพวกมันที่บินอยู่กลางอากาศยังไม่ทันได้ไปกระแทกโดนอะไรก็ร่างระเบิดซะก่อนแล้ว เลือดเนื้อและเครื่องในสกปรกสาดเปรอะไปทั่วพื้น

จากนั้นเขาก็ซัลโวไปอีกทีส่งพวกมันอีกหลายตัวไปกระแทกอาคารข้างทางแปรสภาพกลายเป็นประติมากรรมพายเนื้อแปะติดอยู่กับผนังอาคารทันที

ฝูงหมาป่าตอนนี้เหลือแค่ 2 ตัวแล้ว พวกมันร้องเอ๋ง ๆ รีบเผ่นหางจุกตูดกันไปอย่างไว

พวกมันรู้ตัวแล้วว่า ‘เหยื่อ’ ที่พวกมันล่านั้นน่าสะพรึงกลัวขนาดไหนจึงได้ตัดสินใจเลือกตัวเลือกที่ฉลาดที่สุดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย

ถังเจิ้นไม่ได้ตามฆ่าพวกมัน เขายังคงมุ่งหน้าตรงไปยังจุดหมายต่อไปและใช้เวลาอีกเพียงไม่นานก็ได้มาอาคารดังกล่าว

ถังเจิ้นขมวดคิ้วใส่อาคารหลังนั้นเล็กน้อย แต่ก็ยังตัดสินใจเดินเข้าไปข้างในอยู่ดี

อาคารหลังนี้ผ่านแดดผ่านฝนผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสิบปีโดยไม่มีการบำรุงดูแลดังนั้นจึงมีสภาพที่ทรุดโทรมเป็นอย่างยิ่ง รอบ ๆ ทุกหนแห่งมีฝุ่นเกาะเต็มและมีขยะเกลื่อนไปหมด

ในปีนั้นมีการอพยพกันอย่างเร่งด่วน ผลคือมีสิ่งของมากมายถูกทิ้งระเกะระกะตามพื้น

มีนกพิราบฝูงหนึ่งมายึดพื้นที่ชั้น 1 ทำเป็นบ้านไปแล้ว และพวกมันยังไม่กลัวถังเจิ้นซะด้วย

ถังเจิ้นใช้เวลาตรวจสอบอาคารร้างหลังนี้อย่างละเอียดอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจว่าจะสร้างวงเวทหล่อหลอมวิญญาณขึ้นที่นี่แหละ

ขั้นแรกคือเขาได้เลือกห้องชั้นบนที่ใหญ่พอจากนั้นก็จัดการเคลียร์เศษขยะภายในห้องออกให้หมด

ขั้นต่อไปคือสร้างแท่นพิธี

เนื่องจากที่นี่เป็นอาคารร้างและยังมีอาคารร้างหลังอื่นข้าง ๆ กันอีกหลายหลังทำให้เขาไม่ขาดแคลนวัสดุที่จะใช้ในการสร้างแท่นพิธีขึ้นมา

ถังเจิ้นวิ่งไปที่จัตุรัสแล้วใช้กริชจื่อเตี้ยนตัดก้อนคอนกรีตจำนวนมากแล้วเอาใส่ลงในช่องเก็บของ

จากนั้นก็กลับไปยังอาคารดังกล่าวแล้วเอาบล็อกคอนกรีตออกมาวางเรียงซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่งขอบมุมด้วยกริชจื่อเตี้ยนอีกรอบ

หลังจากที่ส่วนฐานของแท่นพิธีเสร็จแล้วก็เทเลพอร์ตไปยังเมืองเชิ่งหลง เอาซีเมนต์คุณภาพสูงมาผสมกับสารเร่งการเซตตัวแล้วฉาบให้ทั่วเพื่อปรับพื้นผิวของแท่นพิธีให้เรียบ

เสร็จจากตรงนี้ก็ต้องรอให้ซีเมนต์แห้ง เพียงแต่ว่าระหว่างรอก็ใช่ว่าจะนั่งงอมืองอเท้าอยู่เฉย ๆ เพราะยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ

ถังเจิ้นเดินออกจากอาคารร้างแล้วไปยังเสากระจายเสียง จากนั้นก็เอากริชจื่อเตี้ยนตัดเสาเหล็กออกแล้วเอาใส่ช่องเก็บของ

กลับไปถึงอาคารร้างก็ทำการเจาะด้านบนของแท่นพิธีให้เป็นรูแล้วเอาเสาเหล็กนั้นเสียบลงไปครึ่งเสา จากนั้นเขาได้ปรับเสาให้ตั้งตรง ๆ แล้วหาของมาปิดขอบหลุมให้แน่นไม่ให้เสาขยับได้

ทีนี้ก็ได้แท่นพิธีเวทหล่อหลอมวิญญาณมาแล้ว โดยเสากระจายเสียงจะทำหน้าที่เป็นตัวรวมรับเอาพลังวิญญาณที่กระจัดกระจายกันอยู่ และพลังวิญญาณที่ถูกหล่อหลอมแล้วจะไหลผ่านเสาอีกครึ่งที่อยู่เหนือพื้นแล้วยิงออกไปเป็นลำแสงวิญญาณสู่อวกาศอันไกลโพ้นไร้สิ้นสุด

หลังจากปักเสาอากาศเสร็จแล้วรออีกไม่นานคอนกรีตก็เซตตัวถึงระดับที่ต้องการ จากนั้นถังเจิ้นก็สงบสติแล้วเริ่มขีดเขียนวงเวท

ขั้นตอนนี้เป็นงานที่ยุ่งยากมาก ต่อให้ใช้ความเร็วระดับถังเจิ้นแล้วก็ตามกว่าจะเสร็จก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งวัน

****************

ในขณะที่ถังเจิ้นกำลังโฟกัสกับการสร้างแท่นพิธีหล่อหลอมวิญญาณอยู่นั้นเองก็ได้มีรถ 2 คันบุกเข้ามาในเมืองร้างแห่งนี้

หลังจากรถหยุดได้มีวัยรุ่นหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งกระโดดลงรถมา

ดูจากสภาพแล้วไอ้พวกนี้ต้องมาเที่ยวเล่นไม่ก็มาล่าท้าผีกันชัวร์ ๆ เลย ของที่พวกมันเอามาคงกะมาพักแรมกันที่นี่ซักพักหนึ่ง

ถึงจะเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนแต่ก็ไม่ได้ประมาท เพราะถึงยังไงพวกมันก็รู้ดีว่าสถานที่แห่งนี้เกิดภัยพิบัติขึ้นซึ่งยังมีหลาย ๆ จุดที่เป็นจุดอันตรายถึงตาย

พวกมันใช้เครื่องมืออะไรบางอย่างจากนั้นก็เดินตามเครื่องมือนั่นด้วยความตื่นเต้น และแน่นอนว่าจุดหมายที่เครื่องนั่นชี้ก็คืออาคารร้างทรุดโทรมที่ถังเจิ้นกำลังสร้างแท่นพิธีหล่อหลอมวิญญาณอยู่นั่นเอง!

ไม่นานหลังจากที่วัยรุ่นกลุ่มนี้จากไปก็ได้มีรถยนต์อีกลหายคันส่งเสียงคำรามวิ่งเข้ามายังจุดที่พวกมันเคยอยู่อย่างเร็ว

หลังจากที่รถพวกนั้นได้เห็นรถของพวกวัยรุ่นที่จอดอยู่ข้างถนนแล้วก็หยุดกึกอย่างกะทันหันแล้วก็มีชายฉกรรจ์ร่างกำยำกลุ่มหนึ่งกระโดดลงรถมา

พอเห็นไอ้พวกนี้แค่แวบเดียวก็บอกได้เลยว่าไม่ใช่คนดี เพราะทุกหน่อล้วนมีใบหน้าดุร้ายและแววตาก็ส่อเจตนาชั่วแบบไม่รู้จักปกปิด

และหลักฐานสำคัญคือพวกมันได้เอาปืนกับเครื่องกระสุนสารพัดชนิดออกมาจากท้ายรถ ภาพนี้ทำให้พวกมันดูเหมือนผู้ก่อการร้ายสุด ๆ ไปเลย

หัวหน้าของพวกมันเป็นไอ้หนุ่มหัวโล้นจมูกแหลม ๆ มันได้โยนก้นบุหรี่ในมือทิ้งแล้วโบกมือออกคำสั่งลูกน้อง จากนั้นมันก็หยิบเอาปืนไรเฟิลอัตโนมัติกระบอกหนึ่งเดินตามไปยังทิศทางที่พวกวัยรุ่นเดินหายไป

น่าเสียดายที่ถังเจิ้นมัวแต่โฟกัสอยู่กับการวาดวงเวทเลยไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้ข้างนอกเกิดอะไรขึ้น ไม่งั้นเขาคงถอนหายใจยาวออกมาอย่างแน่นอน

เพราะไอ้พวกเวรนี่มันเจี่ยป้าบ่อสื่อ (กินอิมไม่มีไรทำ) กันรึไงถึงได้มาวิ่งเล่นกันในที่ที่แม้แต่นกยังไม่อยากมาขี้แบบนี้

ที่ที่ทั่งทรุดโทรม ทั้งรกร้าง แถมยังไกลปืนเที่ยงแบบนี้มันมีดีให้สมควรมาเที่ยวตรงไหน

พวกวัยรุ่นเดินผ่านจัตุรัสที่เต็มไปด้วยไม้เลื้อยจนมาถึงใต้อาคารร้างและชี้มือชี้ไม้กันเข้าไป

มีเด็กสาวสองนางเอามือถือออกมาถ่ายเซลฟี่แล้วอัปขึ้นโซเชียล

การสำรวจเมืองร้างเช่นนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าตัวเองโคตรเท่ได้เสมอ และทำให้คนดูต้องฮือฮาได้ตลอด นั่นแหละสาเหตุที่พวกมันมาที่นี่กัน

“ฉันกะจะค้างคืนที่นี่เลย พวกนายล่ะว่าไง”

เด็กหนุ่มร่างสูงชาวหมีน้ำแข็งหันกลับไปถามเพื่อน ๆ

“เอาดิ!”

“ฉันว่าก็ดีเหมือนกัน!”

“ดูดิ ๆ มีคนเม้นว่าชอบเพียบเลย!”

“...”

ไอ้หนุ่มนั่นเห็นเพื่อน ๆ ดีใจก็ยักไหล่แล้วเดินเข้าอาคารร้างไป เพื่อนที่ถือของอยู่ข้าง ๆ ก็เดินตามเข้าไปด้วย

เพียงแต่... พวกมันไม่ได้คิดฝันเลยว่าในอาคารร้างแห่งนี้จะมีฝันร้ายอันไม่รู้จบรอพวกมันอยู่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด