ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 365 - ส่งมอบภารกิจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 367 - คำแนะนำและคำขู่

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 366 - การประลองระหว่างชั้นเรียน


เด็กหนุ่มที่เพิ่งมาถึงไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเดวิดที่เพิ่งตื่นนอนมาได้ไม่นานนัก เขาใช้เวลา 3-4 วันที่ผ่านมาพักผ่อนฟื้นฟูร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้าอย่างเต็มที่ อันที่จริง เดวิดตื่นขึ้นมาก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่งแล้ว แต่หลังจากที่สั่งอาหารมากินเข้าไปแบบเต็มคราบ เขาก็ตัดสินใจที่จะนอนต่อ ถ้าเฮเซลไม่พยายามปลุกเดวิดให้ตื่นขึ้นเมื่อถึงกำหนดเวลา ยังไม่แน่เหมือนกันว่าเขาจะนอนต่อไปได้อีกกี่วัน?

ดูเหมือนว่าทั้งเฮเซลจะดูถูกอาการสมองล้าจากการใช้งานอย่างต่อเนื่อง 3 อาทิตย์จนเกินไป แม้ว่าเธอจะเริ่มปลุกเดวิดก่อนจำถึงกำหนดนัดหมายนานพอสมควร แต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะรู้สึกตัวเลยแม้แต่นิดเดียว จนสุดท้ายต้องตัดสินใจใช้กระแสไฟฟ้าช็อตปลุก เดวิดถึงได้สะดุ้งตื่นขึ้นมาได้

และนั่นก็ใกล้เวลานัดหมายเต็มทีแล้ว เขาไม่กล้ารอเรียกใช้เรือเหาะโดยสารในการเดินทางเสียด้วยซ้ำ หลังจากล้างหน้าล้างตาและคว้าเสื้อตัวเก่งติดมือมาได้ เดวิดก็รีบเหาะด้วยชุดสกายวอคเกอร์ตรงบึ่งมาที่นี่โดยตรงเลย ดูเหมือนว่ามันจะทันอย่างหวุดหวิด แม้ว่าจะช้ากว่าครูฝึกเอลล่า พวกเขาก็ยังไม่ออกเดินทาง แบบนี้ถือว่าทันเวลา ใช่มั้ย!?

ทั้งสนามฝึกซ้อมมีแต่ความเงียบอยู่เกือบ 10 วินาที ครูฝึกสาวยังมีใบหน้าและแววตาที่เรียบเฉย แต่มือของเธอดูจะกำแน่นกว่าปกติเล็กน้อย และในที่สุด คำพูดที่ไม่น่าเชื่อก็หลุดมาจากปาก

“ไม่เป็นไร! เอาล่ะ ในเมื่อมากันครบแล้ว พวกเราก็จะออกเดินทางไปที่สนามประลองกันเลย” ระหว่างที่พูด หน้าต่างโฮโลแกรมก็เปิดตัวขึ้นมา นิ้วของครูฝึกเอลล่ากดปุ่มคำสั่งที่เตรียมเอาไว้ล่วงหน้า เรียกให้เรือเหาะขนาดใหญ่บินร่อนลงมาจากท้องฟ้า

อ้าปากค้าง! ดวงตาเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมาจากเบ้า! นี่คืออาการของนักเรียนคนอื่น ๆ ที่อยู่ในบริเวณสนามฝึกซ้อมแห่งนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ครูฝึกเอลล่าเป็นอะไร? เธอไม่สบาย? หรือว่านี่เป็นตัวปลอม? ทำไมเจ้าเดวิดนี่ถึงรอดจากการลงโทษไปได้ ไม่! นี่ไม่ยุติธรรมเลย!!

และกลุ่มนักเรียนที่สับสนและประหลาดใจกับเรื่องแบบนี้มากที่สุด ก็ไม่พ้นนักเรียนที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนของชั้นเรียนทั้ง 4 คน พวกเขารู้ดีว่าเดวิดไม่เคยมาเข้าเรียนวิชาทักษะการต่อสู้อีกเลยในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อรวมกับความผิดที่มาสายแบบนี้ โทษที่ได้รับควรจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณไม่ใช่หรือ อย่างน้อย ๆ ครูฝึกก็ไม่ควรจะปล่อยให้คนไร้ความรับผิดชอบแบบนี้เป็นกัปตันทีมต่อไป ไม่ใช่หรือ?

ไม่! ไม่มีปฏิกิริยาอย่างอื่นจากครูฝึกผู้เคยเข้มงวดคนนี้อีก เธอเพียงยืนมองเรือเหาะร่อนลงจอดอย่างเงียบ ๆ เหมือนว่ามันไม่มีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้นเลย

ดิวอส นาร์เฟ นอร์มาส์ และฟิลลิดา ทั้ง 4 คนหันมองหน้ากันอย่างพูดอะไรไม่ออก เป็นฟิลลิดาที่ทนไม่ได้ ขยับปากเพื่อจะลองทำการใส่เชื้อไฟเข้าไปดู เธอไม่เชื่อว่าครูฝึกสาวจะทนได้ถ้าถูกกระตุ้นอีกครั้ง

“ครูฝึกค่ะ! หนู..”

“ไม่ต้องพูดอะไร! รีบขยับตัวกันได้แล้ว มัวชักช้าอะไรกันอยู่!! ขึ้นเรือเหาะเดี๋ยวนี้ พวกเราเสียเวลากันมากเกินไปแล้ว ถ้าช้ากว่านี้จะไปไม่ทันการประลอง รีบ ๆ ขึ้นเรือเร็ว ๆ” แต่ฟิลลิดาก็ไม่สามารถกล่าวออกมาได้ตามที่ตั้งใจ เพราะเสียงตวาดอย่างเกรี้ยวกราดดังออกมาจากปากของครูฝึกเอลล่าเสียก่อน

นักเรียนในชั้นรีบขยับตัวอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครกล้าทดสอบความอดทนของครูฝึกสาวเลยแม้แต่น้อย พากันเดินมุ่งหน้าผ่านประตูห้องโดยสารของเรือเหาะอย่างเร่งรีบ สีหน้าของฟิลลิดาในตอนนี้บิดเบี้ยวจนหน้าเกลียด ในขณะที่ยังมีอีกคนที่สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน ตอนที่เดวิดยังไม่ยอมโผล่หน้าออกมา ดิวอสมีความหวังว่าเขาจะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปเป็นกัปตันทีมอย่างเต็มตัว แต่จากสิ่งที่ฟิลลิดาแสดงออกมา มันหมายความว่าเธอก็หวังที่จะเป็นกัปตันทีมเหมือนกัน นี่เป็นสิ่งที่ดิวอสไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่

เขามองตามหลังฟิลลิดาไปด้วยสายตาที่เป็นประกาย ริมฝีปากถูกแลบลิ้นออกมาเลียอย่างหื่นกระหาย สีหน้าแสดงความเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายออกมาอย่างชัดเจน ‘รอก่อนเถอะแม่ตัวดี! คิดจะข้ามหน้าข้ามตากันอย่างนั้นหรือ รอให้เสร็จการประลองนี้ก่อน ฉันจะจัดการลิ้มรสเธอให้รู้ซึ้งไปถึงทรวงในเลย’

ส่วนนาร์เฟ! หญิงสาวอีกคนที่อยู่ในทีมก็มองจ้องไปที่เดวิดพร้อมกับทำหน้าเบ้ ในใจกำลังคิดว่าตัวเองทำพลาดไปตรงไหน ทำไมเขาถึงได้ไม่ไปตามนัด?

เดวิด? สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉยไร้ความรู้สึก ก้มหน้าก้มตาเดินขึ้นเรือเหาะไปโดยไม่สนใจจะมองหน้าหรือสบสายตากับใครอีก ตอนแรกเดวิดก็คิดว่าตัวเองจะถูกทำโทษ หรือถูกปลดออกจากตำแหน่งกัปตันทีมเหมือนกัน แต่แวบหนึ่งที่สบสายตากับครูฝึกสาว เขาก็รู้ตัวว่าแค่โดนคาดโทษเอาไว้ก่อนเท่านั้น เพราะความหมายที่เธอสื่อออกมานั้นชัดเจนเป็นอย่างมาก ‘ถ้าแพ้ขึ้นมา! นายตายแน่!!’ เดวิดได้แต่พยักหน้าเป็นการรับรู้เบา ๆ

มันไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรที่จะเอาชนะการแข่งขัน แถมเขายังอยากที่จะลองวัดความแข็งแกร่งของตัวเองดูอยู่แล้วเหมือนกัน ถ้าจะต้องเอาจริงสักเล็กน้อยก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร เดวิดรู้ตัวอยู่แล้วว่าตัวเองแข็งแกร่งเกินกว่าที่นักเรียนปี 1 ทุกคน แค่ไม่รู้ว่าความแตกต่างนั้นมีมากแค่ไหนเท่านั้น

เมื่อนักเรียนทุกคนขึ้นมานั่งประจำที่เรียบร้อย เรือเหาะก็พุ่งทะยานขึ้นจากพื้น ความเร็วของมันพุ่งสูงขึ้นจนห้องโดยสารเริ่มสั่น เดวิดและนักเรียนอีกหลายคนเริ่มคว้าเข็มขัดนิรภัยมารัดตัวเองเอาไว้กับเก้าอี้ทันที ความคิดเหมือน ๆ กันผุดขึ้นมาในหัวของพวกเขา ‘ครูฝึกเป็นคนขับใช่มั้ย? ระวังเอาไว้ก่อนดีกว่า’

การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาไป 20 นาทีแบบไม่ขาดไม่เกิน การร่อนลงพื้นค่อนข้างจะกระแทกกระทั้นจนทำให้นักเรียนทุกคนสะดุ้ง และพวกเขาก็ไม่กล้าชักช้า รีบทยอยกันเดินออกจากห้องโดยสารทันทีที่ประตูเปิดออก ดูเหมือนว่าครูฝึกของพวกเขาจะอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก เธอคงไม่ทนให้ใครขัดคำสั่งหรือทำอะไรผิดพลาดอีกครั้งแน่

ทันทีที่เดวิดเดินออกมาจากห้องโดยสารของเรือเหาะ เขาก็ได้ยินเสียงอื้ออึงของคนจำนวนมากดังเข้าหู เมื่อหันไปก็พบว่าลานจอดเรือเหาะนั้นอยู่ไม่ไกลจากสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายกับโคลอสเซี่ยมมากนัก และในลานจอดแห่งนี้เหมือนจะเต็มไปด้วยเรือเหาะขนาดใหญ่อยู่ทุกลานแล้ว มันหมายความว่าพวกเขามาถึงที่นี่เป็นกลุ่มสุดท้าย เดวิดเริ่มรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ตัวเองมาสาย แต่ช่วยไม่ได้! ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษเฮเซลด้วย เธอปลุกเขาช้าไป เดวิดไม่ยอมรับผิดคนเดียวอย่างแน่นอน

“เอาล่ะ! ยกเว้นตัวแทนทั้ง 5 คน ที่เหลือมุ่งหน้าเข้าไปที่สนามประลองได้เลย บนอัฒจันทร์จะมีป้ายระบุตำแหน่งที่นั่งเอาไว้แล้ว ชั้นเรียนของพวกเราคือหมายเลข 12 อย่าไปนั่งผิดที่เด็ดขาด ส่วนพวกตัวแทน! ตามฉันมา” ครูฝึกเอลล่าที่เดินออกมาจากห้องควบคุมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด ก่อนจะเดินนำหน้าออกไปอย่างไม่รอคำตอบรับสักนิดเลยด้วยซ้ำ

เหล่านักเรียนมองหน้ากันไปมา ก่อนที่จะปฏิบัติตามคำสั่งอย่างไม่ลังเล พากันเดินไปที่ประตูทางเข้าสนามประลองอย่างพร้อมเพียง ส่วนเดวิดและเพื่อนร่วมทีมรีบจ้ำอ้าวตามหลังครูฝึกไปแบบเร่งรีบ แม้ว่าท่าทางการเยื้องย้ายของเธอจะนุ่มนวลชวนมอง แต่การก้าวเท้าแต่ละครั้งพาตัวเองไปได้เกือบ 5 เมตร เหล่าตัวแทนทั้ง 5 คนเกือบจะต้องใช้ทักษะการเคลื่อนไหวออกมาแล้วเพื่อตามให้ทัน

โชคดีที่ครูฝึกเอลล่าหยุดรออยู่ที่ประตูทางเข้าอันเงียบสงบหลังจากออกจากลานจอดเรือเหาะมาได้ไม่ถึง 2 นาที มันเป็นประตูทางเข้าสนามประลองเช่นกัน แต่มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดกว่าประตูทางเข้าอื่น ๆ มีเฟสเซอร์เกือบ 10 คนทำหน้าที่เป็นยามรักษาการณ์อยู่ สีหน้าท่าทางของพวกเขาดูเคร่งขรึมจริงจัง ไม่มีการระงับกลิ่นอายอันดุร้ายของตัวเองเลยแม้แต่น้อย และนั่นทำให้บรรยากาศบริเวณหน้าประตูแห่งนี้เต็มไปด้วยแรงกดดัน พวกเขาคนใดคนหนึ่งก็น่าเกรงกลัวมากพออยู่แล้ว ยิ่งยืนอยู่ด้วยกันจำนวนมากแบบนี้ มันสามารถขู่ขวัญนักเรียนธรรมดา ๆ คนหนึ่งให้ตกใจฉี่ราดได้แบบไม่ยากนัก

ครูฝึกเอลล่ายืนรอจนพวกเดวิดทั้ง 5 คนตามมาทัน ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับผู้ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าชุดเบา ๆ แล้วก้าวเท้าผ่านประตูเข้าไปโดยไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด