ตอนที่แล้วตอนที่ 16 ดวงดาวไม่เคยโกหก?!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 เงาดำปริศนา

ตอนที่ 17 ภัย ณ ป้อมร้าง


"ตาแก่ เราถึงที่ไหนกันแล้ว"

เด็กชายถามขึ้น

"ข้าชื่อออสบอร์น"

"ตาแก่"

"ข้าคือพ่อมดสีเงิน"

"ตาแก่"

โรอายังไม่ยอมแพ้ ออสบอร์นเองก็จนใจ

ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ออสบอร์นก่อกองไฟขึ้นง่ายๆ รอบตัวพวกเขาล้วนเป็นป่าสูงใหญ่ แม้ยามกลางวันแสงอาทิตย์ก็ส่องไปไม่ถึง

โรอาติดตามพ่อมดเฒ่ามาสิบสองวันแล้ว ทุกครั้งพวกเขาจะคอยสอดส่องทั่วบริเวณป่าเพื่อป้องกันเหตุร้ายให้กับคาราวานคนแคระที่อยู่ด้านหน้า

ตราบใดที่ไม่เจอกับอันตรายระดับเหนือมนุษย์ ออสบอร์นก็ไม่ค่อยเป็นห่วงมากนักเพราะว่าคนแคระเหล่านั้นมีน้ำพุวิเศของเขาอยู่ ขอให้เป็นแค่สัตว์มีพิษ โรคประหลาด คำสาบ ปีศาจล่อลวงจิตร ก็กำจัดได้ทั้งนั้น

นอกจากนี้เขายังมีไพ่ตายที่แอบใส่ลงไปในเสื้อของกอแท็บอีกด้วย มันเป็นผลงานชิ้นโบแดงของเขาเลยละ

ออสบอร์นไม่ใช่คนโง่ ค่าสติปัญญาระดับเกินร้อยของเขาไม่ใช่แค่เครื่องประดับ ระบบก็ดีอยู่หรอกแต่เขาไม่อยากฝากทั้งชีวิตไว้กับมัน และไม่อาจรอเพียงรางวัลจากมันอย่างเดียวเท่านั้น

การศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองจึงจะเป็นหลักประกันสูงสุดของเขา

อย่าหวังพึ่งคนอื่น จงพยายามให้สุดความสามารถเสียก่อน

"ถึงป้อมร้างแล้ว พวกเราเดินทางไวกว่าที่คิดเอาไว้"

พ่อมดเฒ่าหยิบไม้เท้าของเขาขึ้นมาและลุกเดินออกไป ทุกครั้งก่อนที่พวกเขาจะนอน ออสบอร์นไม่ลืมป้องกันความปลอดภัยของกองคาราวาน เขาจะเดินไปให้ใกล้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และร่ายคาถาอัญเชิญโกเลมดินออกมา

โกเลมดินไม่ต้องนอน ไม่ต้องกินและแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง หากเจออันตรายอันใดมันสามารถต้านทานเอาไว้ได้ จนกว่าออสบอร์นจะมาช่วยเหลือได้ทัน แต่แน่นอนว่าเป็นความลับเขาต้องสั่งให้มันซ่อนตัวในพื้นดินและคอยสังเกตการณ์

เวลาเรียกโกเลมดินมีมากถึงสิบชั่วโมงเพียงพอให้พวกเขาได้พัก

โรอาไม่รู้ว่าพ่อมดเฒ่าชอบออกไปไหนก่อนนอน แต่เขาก็ขี้เกียจเกินจะถาม

"นอนได้แล้ว และเธอก็ควรกินขากระต่ายให้หมด อย่าได้เก็บมันเอาไว้เชียว ไม่อย่างนั้นออกัสคงเกลียดเจ้าไปทั้งชีวิต"

ออสบอร์นมองไปยังขากระต่ายย่างบนกองไฟ นับแต่เขาข้ามมายังโลกใบนี้ก็เลิกกินเนื้อสัตว์ไปโดยปริยาย ใครจะรู้ว่า กระต่าย นก หมูป่า หรือสัตว์กินได้อื่นใด จะเป็นลูกหลานหรือเพื่อนหรือพี่น้องของสัตว์ที่ปลุกสติปัญญาแล้วบางตัวหรือเปล่า

เขาไม่อยากมีโมเมนต์ที่กำลังแทะขากระต่ายอยู่แล้วออกัสเดินมาบอกว่า "เฮ้ พ่อมด ท่านกำลังกินหลานคนที่เจ็ดของลูกคนที่เจ็ดของข้าอยู่" อะไรแบบนั้น ซึ่งมันออกจะโหดร้ายเกินไป

แต่โรอานั้นต่างกันเขากำลังโต ออสบอร์นทนเห็นเด็กคนนี้กินแต่มันต้มมันเผาไม่ได้ ดังนั้นเมื่อเย็นวันนี้ เขาเลยไปล่ากระต่ายป่ามาให้เด็กชาย

โรอาที่ไม่ได้กินเนื้อสัตว์มานานก็อดเสียดายไม่ได้ เขากะว่าจะเก็บไว้กินวันอื่นแต่เมื่อคิดดูแล้วก็กินให้หมดเลยดีกว่า

เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน เด็กชายหลับไปตอนไหนไม่ทราบ แต่พ่อมดเฒ่ายังคงตื่นอยู่ เขาหลับตาก็จริงแต่จิตรใจของเขาตอนนี้กำลังตั้งมั่นในสมาธิ

ในความทรงจำของร่างเก่า การฝึกสมาธิของพ่อมดนั้นแบ่งออกเป็นหลายระดับ เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว พ่อมดแข็งแกร่งมากจนมีทักษะทำสมาธิสูงถึงระดับตำนานหรือมากกว่า แต่เมื่อเวลาผ่านไป การสืบทอดเหล่านั้นก็ขาดหาย หรือต่อให้ไม่ขาดหายพวกเขาก็ไม่อาจฝึกได้

คุณสมบัติของคนรุ่นหลังๆต่ำเกินไป

ออสบอร์นลืมตาขึ้น คืนนี้เขารู้สึกไม่สบายใจผิดปกติเหมือนว่ามีอะไรให้ห่วงกังวล เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามดึกแสงดาวที่เคยส่องเต็มท้องนภากำลังหรี่แสงซบเซา เหมือนมีพลังบางอย่างพยายามกดทับพวกมันเอาไว้

ในมุมหนึ่งที่เกือบมืดมืดมีดาวดวงน้อยกำลังดิ้นรนส่องแสง พยายามกะพริบไปมาเหมือนกำลังบอกอะไรบางอย่าง เป็นเช่นนั้นครู่เดียวก็ดับแสงไปอีกดวง

เมฆดำขนาดมหึมาเคลื่อนตัวมาตอนไหนไม่มีใครทราบ มันบดบังพื้นที่โดยรอบนับร้อยตารางกิโลเมตรจนมืดมิดหม่นมัว ดุจยืนอยู่ท่ามกลางฟ้าดินสีหมึกดำ

พ่อมดเฒ่าตรวจสอบคาถาลวงตา คาถาม่านพลัง คาถาเขาวงกตรอบที่พักของพวกเขาอีกครั้งและกำลังกลับไปนอนที่เดิม

ตอนนั้นเองฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงสนั่นหวั่นไหว เหมือนผ่าลงไปกลางจิตรใจของเขา

โกเลมดินพังแล้ว!

สลายไปในพริบตาเดียว ไม่อาจต้านทานได้แม้แต่วินาทีเดียว

นี่มันบ้าอะไรกัน พวกคนแคระเจอกับอะไรเข้า?

พ่อมดเฒ่ารีบวิ่งออกไปยังทิศทางของกองคารวาน ในความรู้สึกของเขาไพ่ตายที่มอบให้กับกอแท็บยังไม่ได้เปิดใช้งาน หมายความว่าสิ่งนั้นยังไม่ได้ลงมือกับคนอื่นๆ เขาต้องรีบไปให้ทันเวลา

ไกลออกไปยังทุ่งกว้าง ณ ป้อมร้างที่สร้างมาตั้งแต่ยุคกลางของมหาทวีป

ร่างเงาสีดำชูมือของมันไปออกไปที่ทิศทางหนึ่ง ที่นั่นมีแสงกองไฟกะพริบวิบวับเหมือนดวงตาสัตว์ร้ายยามค่ำคืน เขาได้กลิ่นพวกคนแคระเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำที่ใช้ชีวิตไม่ต่างกับหนู

ในความทรงจำของมันกลิ่นสาบของคนแคระเป็นสิ่งที่ไม่นาอภิรมย์เลย แต่ก็ช่วยไม่ได้ มันพึ่งตื่นจากการหลับไหล มันต้องกินให้มากเข้าไว้

เงาดำคิดได้ดังนั้นจึงใช้พลังของมันโจมตีไปยังทิศของกองคาราวานที่อยู่ไกลกว่าสามกิโลเมตรเบื้องหน้า แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น มีบางสิ่งมาขัดขวางมันไว้

โกเลมดิน!

โกเลมตัวนี้อยู่ในระดับพื้นฐานเท่านั้นไม่อาจเอามาเทียบกับมันได้ทั้งในตอนนี้และในอดีต โกเลมพังทลายลงในพริบตา แตกสลายกลายเป็นก้อนดินอีกครั้ง

แต่ก็ใช่ว่าโกเลมดินตัวนี้จะไร้ประโยชน์เสียทีเดียว มันที่รับการโจมตีแทนครั้งนี้ ทำให้พวกคนแคระตื่นตัวและเตรียมหลบหนี

"ฝันไปเถอะ"

เงาดำวูบไหวและเคลื่อนที่ผ่านความืดมิดมาในพริบตา อึดใจเดียวก็มาถึงหน้ากองคาราวานเสียงกรีดร้องของเด็กคนแคระดังขึ้น พร้อมกับความืดมิดที่กลืนกินเข้าไปในจิตรใจพวกเขา

กองไฟดับมอด ไม่ต้องใช้น้ำ ไม่ต้องใช้ลม มันดับลงโดยการกลืนกินของความมืดที่เงาดำพามา

ความสิ้นหวังปรากฎอยู่บนใบหน้าของเหล่าคนแคระทุกคน พวกเขาไม่รอดแน่

"จับกลุ่มกันเอาไว้ หยิบแต่เฉพาะของที่มีประโยชน์เตรียมตัวหาจังหวะหลบหนี"

กอแท็บก้าวออกมาเบื้องหน้ากองคาราวาน เขาค่อยๆผลักคนอื่นไปด้านหลัง แต่ตนเองยืนประจันหน้ากับเงาดำเพียงผู้เดียว เขาเตรียมพร้อมจะตายได้ทุกเมื่อ

"ใครเป็นคนเสกโกเลมนั่น"

เสียงแหบแห้งเหมือนเสียงภูตผีดังมาจากเงาดำ ไม่มีใครเห็นปากมัน ใบหน้ามัน แต่เมื่อมันพูดทุกคนรู้ว่ามันอยู่ตรงนั้น

"พูดเรื่องอะไรของเจ้า ถ้าจะสู้ก็มาเถอะคนแคระไม่เคยเกรงกลัว"

กอแท็บก้าวออกไปเบื้องหน้าอีกหนึ่งก้าว คาราวานเบื้องหลังของก็ถอยหลังไปอีกหนึ่งก้าวเช่นกัน

"ช่างอวดดี"

เสียงดังมาจากเงาดำอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันมาพร้อมกับฝ่ามือดำสนิทที่เอื้อมออกไปยังวิญญาณของคนตรงหน้า

กอแท็บรวบรวมพลังระดับครึ่งก้าวเหนือมนุษย์มาไว้ที่มือทั้งสองข้าง สายลมหวีดหวิวดังรอบตัวเขาคล้ายบอกว่าพลังของเขามาถึงขีดสุดแล้ว ไม่อาจสะสมไปมากกว่านี้

เมื่อฝ่ามือสีดำสัมผัสลงใกล้เบื้องหน้าเขา กอแท็บก็ออกดาบไปที่ฝ่ามือนั้นทันที

ฉับเดียว!

ดาบทะลุผ่านเงาไป ไม่อาจสร้างบาดแผลแม้แต่รอยถลอก

ฝ่ามือดำแตะลงไปที่หัวใจของกอแท็บ เสียงแหลมดังฟี่ๆดุจกิ่งไม้เผาไฟสัมผัสกับน้ำเย็นจัด ดังขึ้นก่อนที่มือสีดำนั้นจะถอยออกไปพร้อมเสียง อุทานแปลกใจ

"เป็นไปไม่ได้"

ไม่ทันให้เงาดำได้ขบคิดม่านพลังสีเงินก็ปรากฎขึ้นซ้อนทับกันนับสิบชั้น ปกคลุมกองคาราวานทั้งหมดเอาไว้

การสัมผัสของเงาดำคล้ายกับเป็นกุญแจเปิดใช้ม่านพลังบางอย่างที่มันเองก็ไม่อาจเข้าใจ

"พ่อมด? เป็นพ่อมดไม่ผิดแน่ พวกเจ้าซ่อนพ่อมดเอาไว้!"

เงาดำตะโกนขึ้น กองคาราวานทั้งหมดแสดงสีหน้าแปลกใจ มีแค่กอแท็บคนเดียวที่ตาเป็นประกาย เขาสัมผัสลงไปในกระเป๋าเสื้อด้านหน้าที่ก่อนหน้านี้เหมือนจะว่างเปล่าแต่เมื่อคลำดีๆแล้วเขาก็พบเศษแผ่นหนังแผ่นหนึ่ง

แผ่นหนังที่สลักวงแหวนเวทมนตร์เอาไว้ ท่านพ่อมดช่วยเหลือพวกเขาอีกครั้ง!

"ฮ่าๆ เจ้าคนชั่ว ท่านพ่อมดจะจัดการเจ้าแน่ เจ้ามันเป็นแค่หนูตัวน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่"

กอแท็บเอ่ยท้าทายเงาดำ

"หึ กะอีแค่คาถาระดับพื้นฐานต่อให้ผสมเแสงสีเงินที่บริสุทธิ์เอาไว้ก็ไม่นับเป็นอันใดต่อหน้าข้า"

เงาดำขยายร่างของมันให้ใหญ่ขึ้นอีกหลายเท่าตัว พื้นที่นอกม่านพลังกลายเป็นดำมืดจนมองไม่เห็นแม้แต่มือตนเอง

ความมืดเหมือนมีน้ำหนักหลายสิบตัน มันกดทับจนม่านพลังเริ่มแตกร้าวไปที่ละอัน กอแท็บและกองคาราวานเริ่มใจเสีย

"หยุดนะเจ้าคนชั่ว หากเราตายที่นี่เจ้าจะถูกไม้เท้าของท่านพ่อมดเจาะทะลุจนเหี้ยวแห้งและแห้งเหี้ยวเป็นหมื่นๆครั้ง ข้าเคยเห็นมากับตา"

ขุนนางควบคุมแร่ทำใจกล้าขึ้นมาอีกครั้ง

"ฮ่าๆ วันนี้ข้าจะให้เจ้าดูว่า อะไรที่เรียกว่าผู้ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง ต่อให้พ่อมดของเจ้ามายืนต่อหน้าข้าตอนนี้ ข้าก็จะทำให้มันทุกข์ทรมานจนต้องร้องขอความตาย"

เสียงจากเงาดำดังสะท้อนไปทั่ว พวกคนแคระเริ่มหวีดร้องและกอดกันกลม

"เจ้าพูดจริงหรือ?"

ในตอนนั้น ร่างที่สวมชุดสีเงินส่องสว่างประดุจดวงดาวก็ก้าวเดินเข้ามา ไม้เท้าสีขาวที่คนผู้นั้นถือเปร่งพลังงานที่ศักดิ์สิทธิ์จนมิอาจเอื้อม ผมและหนวดเคราสีขาวโพลนปลิวไสวไปกับสายลม เหมือนเทพเจ้าที่เสด็จเยือนลงมายังโลกมนุษย์

เขาคือออสบอร์น พ่อมดสีเงิน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด