ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 359 - ออกแบบโครงข่ายดีเอ็นเอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 361 - ความสำเร็จ!

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 360 - การควบคุมที่ละเอียดระดับโมเลกุล


เดวิดสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง ถอยกลับมานั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้น เขาพยายามทำให้จิตใจของตัวเองสงบลงมากที่สุด ก่อนที่ข้อมูลเกี่ยวกับการดัดแปลงยีนด้วยมือผ่านเครื่องไจโนสโคปจะผุดขึ้นมาในหัว เดวิดเรียบเรียงขั้นตอนที่สำคัญ ข้อจำกัด ข้อควรระวังและเงื่อนไขต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ก่อนค่อย ๆ ทำความเข้าใจกับกระบวนการที่ตัวเองจะต้องทำไปทีละอย่าง

การดัดแปลงยีนด้วยตัวเอง! เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างยีนต้นแบบขึ้นมา เครื่องไจโนสโคปมีการพัฒนาฟังก์ชันนี้ออกมาเพื่อรองรับการผลิตเซรั่มพันธุกรรมระดับสูง โดยเฉพาะเซรั่มพันธุกรรมที่จะใช้ในการเติมเต็มโครงข่ายดีเอ็นเอ และแผนที่พันธุกรรมให้สมบูรณ์ โครงสร้างของยีนที่จะต้องใช้ในการผสานเข้าไปในลำดับหลัง ๆ มีความซับซ้อนอย่างน่าเหลือเชื่อ นักพันธุศาสตร์ระดับสูงเท่านั้นที่มีความสามารถในการใช้ฟังก์ชันนี้ได้ มันไม่เพียงจะต้องมีความรู้ทางด้านทฤษฎียอดเยี่ยมมากเท่านั้น การควบคุมร่างกายต้องอยู่ในระดับสุดยอดด้วยเช่นกัน เพราะถ้าพูดง่าย ๆ มันคือการต่อจิ๊กซอว์ที่มีขนาดเล็กเท่ากับโมเลกุลนั่นเอง

หลังจากเดวิดมั่นใจว่าสมองของตัวเองแจ่มใสเพียงพอแล้ว เขาก็เริ่มขยับไปที่เครื่องไจโนสโคปอีกครั้ง พิมพ์คำสั่งลงไปอย่างยาวเหยียดเพื่อเปิดการใช้งานฟังก์ชันดัดแปลงยีนด้วยตัวเอง เสียงเครื่องทำงานดังกระหึ่มออกมาครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงสังเคราะห์จะดังรายงานออกมา

“ระบบดัดแปลงด้วยตนเองเปิดใช้งาน กำลังคัดแยกและจัดเตรียมยีนสังเคราะห์ การคัดแยกเสร็จสิ้น! กำลังคัดแยกและจัดเตรียมชิ้นส่วนอาร์เอ็นเอ การคัดแยกเสร็จสิ้น กำลังสร้างพื้นที่ทำงาน เชื่อมต่อระบบควบคุมแขนกล!”

เดวิดยืนฟังเสียงรายงานด้วยสีหน้าสงบ สายตากำลังจ้องไปอยู่ที่ภาพจำลองที่สมบูรณ์แบบบนหน้าจอโฮโลแกรม เขาทบทวนโครงสร้างและลำดับเบสของมันอยู่ในหัว จนเมื่อเสียงสัญญาณดังขึ้น เดวิดก็ขยับตัวไปยืนประชิดกับเครื่องไจโนสโคปอย่างไม่ลังเล

ที่ด้านบนของเครื่องสร้างยีนเปิดตัวออกมาเป็นหลุมลึกขนาบอยู่ 2 ข้างของกล้องจุลทรรศน์ เขายังไม่ได้ทำอะไรกับมัน แต่วางทาบดวงตาของตัวเองลงไปที่ช่องมองภาพก่อน มือถูกใช้หมุนปรับปุ่มโฟกัสที่อยู่ด้านข้างลำกล้องจนเห็นยีนเป้าหมายได้อย่างชัดเจน หลังจากนั้นมือทั้งคู่ถึงได้ถูกยื่นลงไปในหลุมลึกจนถึงข้อศอก เสียงกลไกดังขึ้นมาเบา ๆ ปากหลุมและผนังด้านในบีบตัวเข้ามาจนแนบสนิทกับมือและแขนของเดวิด สภาพของเขาในตอนนี้เหมือนต่อแขนของตัวเองกับเครื่องไจโนสโคปจนเป็นเนื้อเดียวกันไม่มีผิด

ทันที่เดวิดรู้สึกว่าแขนของตัวเองถูกปกคลุมด้วยของเหลวหรือวัสดุอ่อนนุ่มอะไรบางอย่างแบบสมบูรณ์ มือขนาดเล็ก 2 ข้างก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกันในกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง ขนาดของมันเล็กจนสามารถหยิบจับโมเลกุลของเบสได้อย่างไม่ลำบากมากนัก ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เขาควบคุมมันการเคลื่อนไหวมันได้อย่างสมบูรณ์ก็จริง แต่ควบคุมความหนักเบาของการหยิบจับไม่ได้ ทันที่ที่มือแตะถูกกลุ่มยีนเป้าหมาย เส้นสายดีเอ็นเอก็แตกหักลงไปคามือแบบทันตา

คิ้วของเดวิดขมวดแน่นแต่ไม่ได้ตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากนัก เรื่องแบบนี้เขารู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดขึ้น สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการฝึกควบคุมการใช้กำลังให้เหมาะสมกับความบอบบางของยีนเป้าหมาย มือกลขนาดเล็กตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวมือจริง นิ้วมือขยับด้วยความแรงแค่ไหน มือกลก็จะเปลี่ยนการเคลื่อนไหวพวกนั้นมาเป็นแรงจับ เดวิดแค่ต้องรู้ว่ากำลังแค่ไหนถึงจะเหมาะสมเท่านั้น ส่วนการควบคุม? มันไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับเขาอยู่แล้ว

มือกลขนาดเล็กยังคงบีบทำลายยีนเป้าหมายไปเรื่อย ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สายดีเอ็นเอเริ่มพังทลายในอัตราที่ช้าลงบ้างแล้ว เดวิดสามารถจับกลุ่มของยีนให้หมุนไปรอบ ๆ โดยไม่ทำให้รยางค์ของพวกมันเสียหาย แต่เมื่อทดลองเล็กไปยังส่วนที่เล็กกว่านั้นอย่างโมเลกุลของเบสที่เรียงต่อกันอยู่ มันยังไม่ได้ผล! เขาไม่สามารถหยิบจับมันอย่างเบามือเพื่อพลิกหาลำดับเบสที่ต้องการได้ การแตกหักยังเกิดขึ้นมาไม่หยุด แม้ว่าเดวิดจะควบคุมการเคลื่อนไหวของนิ้วมือให้เหลือเบาที่สุดจนแทบจะไม่ขยับแล้ว แต่มันก็ยังรุนแรงเกินไปอยู่ดี ในที่สุดกลุ่มยีนที่อยู่ในมือก็แหลกสลายจนไม่เหลือสภาพ การทดลองดัดแปลงยีนด้วยตัวเองยังไม่ทันได้เริ่มต้น เขาก็พบกับความล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าเสียแล้ว

เดวิดถอนสายตาและดึงมือของตัวเองออกมาจากเครื่องไจโนสโคป ป้อนคำสั่งให้เตรียมยีนสังเคราะห์สำหรับการดัดแปลงเพิ่ม ก่อนจะเดินถอยหลังออกมายกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมองอย่างพิจารณา รวบรวมสมาธิทั้งหมดเอาไว้ที่ความเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เขายืนนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้นเกือบ 2 นาที ก่อนจะส่ายหน้าและถอนหายใจยาวออกมา มันไม่มีทางจะขยับนิ้วให้เบาไปกว่านี้แล้ว แต่มันยังไม่เพียงพออย่างนั้นหรือ? ไม่น่าจะเป็นไปได้ หรือว่ามันต้องเคลื่อนมือกลนั่นด้วยวิธีอื่นไม่ใช่การขยับนิ้ว? แล้วอย่างไรล่ะ?

เขาขยับตัวกลับเข้าไปที่เครื่องไจโนสโคปอีกครั้ง แต่คราวนี้เดวิดไม่ได้รีบบังคับให้มือกลเคลื่อนไหวมาจับกลุ่มยีนสังเคราะห์ในทันที แต่เลือกที่จะนำมือกลทั้ง 2 ข้างมาไว้ในตำแหน่งที่สังเกตได้อย่างไกล้ชิด และเริ่มขยับนิ้วเพื่อตรวจสอบทีละนิ้ว เขาเริ่มจากขยับมือแบบธรรมดา และค่อย ๆ ขยับช้าลงเรื่อย ๆ สายตาจับจ้องและจดจำการตอบสนองของมือกลเปรียบเทียบกับการเคลื่อนไหวของมือจริง จนในที่สุด เดวิดก็สามารถสรุปเงื่อนไขการขยับตัวของมือกลออกมาได้ ตัวเซ็นเซอร์นั้นไวมากพอที่จะจับการสั่นสะเทือนเพียงเล็กน้อยได้ เขาไม่ต้องขยับนิ้ว แค่สั่นไหวกล้ามเนื้อหรือผิวหนังที่นิ้วก็เพียงพอแล้ว

สิ่งที่เดวิดต้องทำต่อไป คือเริ่มสั่นกล้ามเนื้อด้วยความถี่ที่ต่ำสุด ก่อนจะค่อยเพิ่มความถี่ขึ้นมาทีละน้อย จนในที่สุดก็พบคลื่นความถี่ที่ทำให้มือกลเคลื่อนไหวได้ เขาค่อย ๆ พื้นที่การสั่นไหวลงจนเหลือแค่พื้นที่เล็ก ๆ และเริ่มไล่การสั่นไหวจากโคนนิ้วไปปลายนิ้ว มันได้ผล! มือกลแบออกอย่างนุ่มนวล เดวิดบังคับให้มือกลกำเป็นกำปั้นขนาดเล็ก ก่อนจะค่อย ๆ ยืดนิ้วออกทีละนิ้ว พยายามจดจำตำแหน่งของกล้ามเนื้อที่ต้องสั่นไหว ยอมเสียเวลาฝึกฝนอยู่เกือบ 10 นาที ก่อนที่จะตัดสินใจคว้าจับกลุ่มยีนสังเคราะห์อีกครั้ง

นุ่มนวล! มันเป็นการคว้าจับที่ถนุถนอมและนุ่มนวล เส้นสายดีเอ็นเอไม่ได้รับการกระทบกระเทือนเลยแม้แต่นิดเดียว เดวิดจับมันพลิกซ้ายพลิกขวาไล่ตรวจสอบรูปทรงลำดับเบสที่ผิดพลาดได้อย่างสบาย กลุ่มยีนสังเคราะห์ไม่มีทีท่าว่าจะเสียหายเลยแม้แต่น้อย ‘ยอดเยี่ยม! ต่อไปก็ลองตัดลำดับเบสออกเลยแล้วกัน’

มันยังคงเป็นแค่การทดลอง เดวิดไม่คิดที่จะดัดแปลงยีนให้สำเร็จตั้งแต่ครั้งนี้ เขาแค่เลือกสายยาวของดีเอ็นเอออกมาเส้นหนึ่ง บังคับให้มือกลคลี่มันออกจากสภาพบิดเกลียว ก่อนที่จะใช้นิ้วชี้สะกิดให้โมเลกุลของเบสหลุดออก ผลงานที่ออกมาทั้งน่าพอใจและน่าผิดหวัง เดวิดสามารถคลี่สายดีเอ็นเอออกได้โดยไม่สร้างความเสียหาย แต่ตอนที่สะกิดโมเลกุลเบส แรงที่ใช้ยังมากเกินไป โมเลกุลเบสถูกทำลายลงไปเกือบ 10 โมเลกุลในแต่ละครั้ง อันที่จริง! ความสามารถระดับนี้สามารถใช้ดัดแปลงจุดผิดพลาดทั้ง 8 จุดที่เกิดขึ้นได้แล้ว แต่เขายังไม่พอใจ เดวิดคิดว่าตัวเองทำได้ดีกว่านี้

จากการสั่นไหวด้วยกล้ามเนื้อ เขาทำให้การเคลื่อนไหวของมือกลนุ่มนวลขึ้นอีกโดยการสั่นไหวแค่เพียงผิวหนังเท่านั้น ความถี่ที่ต้องใช้เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ตำแหน่งที่ต้องสั่นไหวไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก และผลที่ได้นั้นเรียกว่าสุดยอด มือกลสามารถถอดดึงโมเลกุลของเบสออกมาและต่อกับเข้าไปได้เหมือนกับตัวต่อเลโก้ มันไม่มีร่องรอยของความเสียหายเลยแม้แต่นิดเดียว

เดวิดยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เขาทดสอบคลายเกลียวของดีเอ็นเอออกมาทั้งสาย และพยายามแยกมันออกเป็นเส้นดีเอ็นเอสายเดี่ยว ดึงให้ขาดออกจากกันเป็นเส้นสั้น ๆ ก่อนจะต่อกลับมาให้เป็นสายยาวเหมือนเดิม การทดสอบและฝึกฝนการเคลื่อนไหวมือกลครั้งนี้ใช้เวลาไปอีกเกือบ 20 นาที ในที่สุดเดวิดก็ถอนสายตาออกมาจากกล้อง ดึงมือออกมาจากเครื่องไจโนสโคป ดวงตานั้นเต็มไปด้วยประกายอันเจิดจ้า เขาพิมพ์คำสั่งซ้ำลงไปอย่างไม่รอช้า ก่อนจะหลับตาลงทบทวนโครงสร้างยีนที่สมบูรณ์แบบอยู่ในหัว รอเวลาที่จะเริ่มทำการดัดแปลงยีนอย่างจริงจัง...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด