ตอนที่แล้วตอนที่ 197 ศิลาจารึกลูกบาศก์หิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 199 สัญญาณเครือข่ายไกอาและชนเผ่าหัวปลา

ตอนที่ 198 สุสานทวยเทพเอแจ็กซ์และบันทึกที่ทิ้งไว้(อ่านฟรี)


ตอนที่ 198 สุสานทวยเทพเอแจ็กซ์และบันทึกที่ทิ้งไว้

ลุครีบเข้าไปที่ศิลาจารึกลูกบาศก์หินคุกเข่าลง ก่อนจะขุดที่พื้นตรงขอบข้างล่าง ทำให้เขาเห็นว่าที่ฐานรากของศิลาจารึกลูกบาศก์หินมีแผ่นหินรองไว้อีกชั้นหนึ่งและยังมีช่องว่างเล็ก ๆ ที่ดินอัดเข้าไปแสดงให้เห็นว่าด้านล่างยังมีช่องว่างอยู่

“เป็นอย่างที่คิด” ลุคพึมพำ ก่อนจะสอดมือเข้าไปที่ช่องว่างเล็ก ๆ พอนิ้วขึ้นเข้าไปได้สักเล็กน้อยก็ออกแรงยกศิลาจารึกลูกบาศก์หินให้พลิกกลับด้านออกไป

ปึง!

ศิลาจารึกลูกบาศก์หินพลิกไปอีกหน้าหนึ่ง ก็เผยให้เห็นเส้นทางลงไปด้านล่าง ที่แท้นอกจากจะเป็นศิลาจารึกแล้ว มันจะมีหน้าที่เป็นประตูของสุสานด้วย

ด้านล่างนี้คือสุสานของเอแจ็กซ์

ที่ลุคคิดออกเพราะคำพูดของไอรินและภาพหน้าบนสุดของลูกบาศก์หินที่เป็นรูปของคนนอนอยู่ การเปิดมันออกมาก็ยืนยันได้อีกครั้งหนึ่ง เพราะหน้าศิลาจารึกลูกบาศก์หินที่พลิกขึ้นมาก็มีตัวอักษรเขียนไว้ด้วย

“สุสานแห่งทวยเทพเอแจ็กซ์”

เป็นประโยคสั้น ๆ ที่ก็ชัดเจนมาก

ลุคมองลอดเข้าไปด้านใน เขาเห็นว่าที่นี่เก่าและเต็มไปด้วยฝุ่นราวกับว่าไม่มีใครเข้ามาที่นี่มานานแล้ว เขาเดินลงไปตามขั้นบันไดที่ลดหลั่นลงไปยังสุสานใต้ดินด้านล่าง โดยด้านหลังมีไอรินติดตามมาใกล้ ๆ

พอเดินพ้นแสงที่ส่องเข้ามาตามทางเดินด้านในก็มืดสนิทในทันที แต่แสงไม่มีความจำเป็นสำหรับทั้งสองคน พวกเขามีไอเทมหินตาเดียวและยังเป็นไอเทมที่ลุคยกระดับมันจนถึงระดับ D แล้วด้วยความสามารถมันแทบจะเกินระยะ 5 กิโลเมตรแล้ว

ทางเดินไม่ยาวมากนัก แต่20 กว่าเมตรก็ไปถึงห้องสุสานที่ดูเรียบง่าย ลุคเปิดแหวนเครือข่ายไกอาเพื่อสแกนโครงสร้างรอบ ๆ เพราะกลัวว่าจะมีกับดัก

แต่เขาคิดมากไป สุสานแห่งนี้สร้างอย่างเรียบง่าย จากสิ่งที่สแกนแสดงให้เห็นว่ามันน่าจะถูกขุดจากด้านบนลงมา ก่อนจะใช้หินเรียงเป็นกำแพง จากนั้นก็เอาดินอัดรอบ ๆ ให้แน่นส่วนด้านบนก็หาหินแผ่นใหญ่ ๆ มาปิดเป็นเพดาน แค่นี้ก็ทำสุสานใต้ดินได้แล้ว

แม้จะมองเรียบง่าย แต่ว่าทุกอย่างเหมือนจะคำนวณมาอย่างดี ไม่อย่างนั้นมันไม่มีทางอยู่รอดมาเป็นเวลายาวนานแบบนี้แน่นอน

ในห้องสุสานเพียงหนึ่งเดียวของที่นี่กลับมีเพียงโลงศพเดียวเท่านั้นที่ตั้งอยู่ เมื่อลุคเข้าไปใกล้ ๆ โลงศพ ก่อนจะใช้มือปัดฝุ่นด้านบนออก โลงศพก็เผยให้เห็นว่ามันคือโลหะ

เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย แท้ที่จริงนี่ไม่ใช่โลงศพทั่วไป แต่มันคือแคปซูล

ลุคค่อนข้างมีความหวังขึ้นมา แต่พอเขาเปิดแคปซูลออกมาได้ก็ต้องเผยสีหน้าผิดหวัง ในความคาดหวังของเขาคิดว่าเอแจ็กซ์อาจจะแช่แข็งตัวเองและหลับลึกผ่านกาลเวลา แต่ช่างน่าผิดหวังด้านในมีเพียงศพเท่านั้น

ศพที่แห้งจนแทบเป็นฝุ่นและเมื่อถูกลุคเปิดฝ่าแคปซูลออกมาสัมผัสกับอากาศศพก็สลายเป็นผงอย่างรวดเร็วทันที

“นั้นคือทวยเทพเอแจ็กซ์อย่างนั้นเหรอ” ไอรินที่เห็นทุกอย่างรวมทั้งใบหน้าก่อนจะสลายไปของเอแจ็กซ์ด้วย

ลุคมองในแคปซูลอย่างละเอียด ก่อนจะเห็นลูกบาศก์เล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งที่วางไว้ด้านใน พอลุคหยิบขึ้นมาก็พบว่าเป็นของที่คล้ายกับลูกบาศก์มืด

แต่มันไม่เหมือนกันซะทีเดียว เพราะมันสามารถเปิดขึ้นมาได้ นี่เป็นเพียงอุปกรณ์บันทึกข้อมูลเท่านั้น พอเปิดออกมาก็มีภาพปรากฏที่พื้นผิวของมัน เป็นภาพของมนุษย์วานรหญิงที่แก่ชราคนหนึ่ง

“เผ่าพันธุ์มนุษย์วานรในอนาคต ข้าคือเอแจ็กซ์ ข้านั้นมาจากโลกที่เป็นของมนุษย์สามตาและมายังโลกนี้ได้ 507 ปีแล้ว ข้าไม่รู้ว่าอนาคตพวกเจ้าจะพัฒนาอารยธรรมไปถึงระดับของโลกมนุษย์เผ่าสามตาหรือไม่ แต่ถ้าวันนั้นมาถึงพวกเจ้าอาจจะค้นพบว่าโลกนั้นช่างไม่เหมือนที่พวกเจ้าเข้าใจ เมื่อไหร่ที่พวกเจ้าติดต่อกับดินแดนอื่นจงระวังไว้ อย่าได้ผิดพลาดเหมือนกับเผ่ามนุษย์สามตาที่ชักนำความตายเข้ามาสู่อารยธรรมของตัวเอง พวกเราจงเรียนรู้จากความผิดพลาดของพวกเขา จงจำไว้อย่าไว้ใจดินแดนอื่น นี่คือสิ่งที่เจ้านายของข้ามอบให้แก่เผ่าพันธุ์มนุษย์วานรและข้าก็หวังว่าพวกเจ้าจะใช้ชีวิตในแบบที่พวกเจ้าต้องการได้...”

บันทึกข้อความเสียงและภาพสิ้นสุดตรงนี้

ลุคมองดูภาพที่ลูกบาศก์หยุดค้างไว้ ก่อนจะเปิดภาพของศพก่อนที่จะสลายไป ยังมีภาพจากกาลเวลาที่ฉายอยู่ที่ยานรบเป็นภาพของเอแจ็กซ์ตอนที่อยู่กับไมร่า โดยเขาใช้แหวนเครือข่ายไกอาสแกนเก็บไว้ได้

หลังเปิดภาพทั้งสามเทียบกันก็พบว่ามันเป็นใบหน้าที่เหมือนกันมาก ๆ

“เอแจ็กซ์คงตายไปแล้วจริง ๆ” ลุคถอนหายใจออกมา พอนึกไปถึงตำนานที่บันทึกไว้ก็เรียบง่ายมาก บางที่นี่อาจจะเป็นความปรารถนาของเอแจ็กซ์ที่ต้องการใช้ชีวิตแบบนี้ก็ได้

เธอแค่ต้องการเลี้ยงดูต้นกล้าในเผ่ามนุษย์วานรและปล่อยพวกเขาให้เติบโตกันไปเอง

ลุคหันมาสนใจคำพูดของเอแจ็กซ์ที่บันทึกไว้ เพื่อให้กับลูกหลานในอนาคตของมนุษย์วานร

โลกมนุษย์สามตาน่าจะเจริญทางด้านเทคโนโลยีจนสามารถติดต่อกับดินแดนอื่นหรือก็คือโลกต่างมิติได้ การติดต่อไม่ได้หมายถึงแค่การสื่อสารกับสิ่งมีชีวิต แต่หมายถึงการเชื่อมต่อกับโลกต่างมิติ

แน่นอนว่าการติดต่อก็หมายถึงการติดต่อกับตัวตนอื่นในดินแดนอื่นด้วย

เผ่ามนุษย์สามตาน่าจะทำแบบนั้นได้จนกระทั่งได้ตัดสินใจทำบางอย่างลงไป สุดท้ายการกระทำบางอย่างก็ชักนำหายนะมาสู่โลกมนุษย์สามตา

และเจ้านายของเอแจ็กซ์ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไมร่า ท่านหญิงไมร่ามีความคิดที่จะมอบโอกาสให้กับเผ่ามนุษย์วานร เพื่อให้พวกเขามีโอกาสในการใช้ชีวิตของตัวเอง ส่วนเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ใช่เผ่ามนุษย์สามตา น่าจะเกี่ยวกับการกระทำต่อบางสิ่งที่เผ่ามนุษย์สามตาทำไปตอนติดต่อกับดินแดนอื่น

เอแจ็กซ์ไม่กล่าวถึง เธอไม่รู้หรือรู้แต่ไม่สามารถบอกได้กันแน่ แต่จากประโยคที่เตือนไว้ เอแจ็กซ์คงรู้บางอย่าง แต่ทำไมถึงไม่บอกไว้ในนี้

ไม่มีใครรู้ได้ เพราะเจ้าตัวก็นอนกลายเป็นฝุ่นอยู่ด้านหน้าของลุคแล้ว

ถึงอย่างนั้นคำเตือนของเอแจ็กซ์ก็เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่น “เมื่อติดต่อกับดินแดนอื่นจงระวังไว้ จงจำไว้อย่าไว้ใจดินแดนอื่น”

“มันหมายความว่ายังไงกัน ไม่ใช่แค่ดินแดนเดียว แต่หมายถึงดินแดนอื่นหรือเผ่าพันธุ์จากดินแดนอื่น มีความเป็นไปได้ที่จะหมายถึงเผ่าพันธุ์ในโลกต่างมิติอื่น ๆ”

ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเป็นกังวล โลกมนุษย์สามตาเชื่อมต่อกับประตูมิติโลกสมบูรณ์สองบานคือโลกยุคโบราณกับโลกนรกแห่งนั้นก็ยังนำความล่มสลายมาสู่อารยธรรมของพวกเขา

แล้วโลกมนุษย์ของลุคละ ตอนนี้โลกเชื่อมต่อไป 3 โลกแล้ว...

‘ไม่ว่าโลกจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่สำคัญ ถ้าฉันแข็งแกร่งมากพอ’ ลุคจะโยนเรื่องนี้ออกไปก่อน เมื่อถึงเวลาก็จะรู้เอง ส่วนตอนนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าจะทะลวงระดับ B ก่อน

“ไอรินเธอควรเก็บ”

“แต่นี้เป็นของทวยเทพเอแจ็กซ์” เธอกำลังปฏิเสธ

“เอแจ็กซ์ต้องการมอบมันให้กับลูกหลานของเธอ เธอเองก็เป็นมนุษย์วานรด้วยรับมันไปเถอะ” ลุควางลูกบาศก์บันทึกไว้ที่มือของไอริน จากนั้นก็หันไปปิดแคปซูลลงและออกไปจากสุสาน

ไอรินประคองลูกบาศก์ด้วยความระมัดระวังออกมาจากสุสาน

...

10 วันผ่านไปในพริบตา

เหล่าสาวกมนุษย์วานรและกองทัพเทพวานรของลุคได้ทำการลงหลักปักฐานกันที่นี่ชั่วคราวในระหว่างที่มองหาทางกลับไปยังแผ่นดินใหญ่

อันที่จริงแล้วเกาะแห่งนี้ก็เป็นเหมือนสวรรค์สำหรับมนุษย์วานรที่พบแต่เพียงความแห้งแล้งและความตายของโลกล่มสลายมาตลอดทั้งชีวิต ซึ่งจากคำสัญญาที่ลุคเคยให้ไว้ถือว่าเขาทำสำเร็จแล้ว

มีต้นไม้ทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่มให้อยู่ มีน้ำสะอาดที่ได้จากทะเลสาบให้ดื่มไม่อั้น มีเนื้อจากสัตว์ทะเลให้กินไม่ขา ทุกคนพึงพอใจกับสิ่งนี้มากแล้ว

หลายคนไม่ได้พูดถึงเรื่องแผ่นดินใหญ่ด้วยซ้ำ

แน่นอนว่ากองทัพเทพวานรยังคงส่งหน่วยออกไปสำรวจในระยะทางต่าง ๆ ด้วยยานไรเดอร์ เพราะลุคจำเป็นต้องกลับไปยังแผ่นดินใหญ่ ประตูมิติที่กลับไปยังของเขาอยู่ที่นั่น

อีกอย่างลุคค่อนข้างกังวลว่าอาจจะเกิดสงครามระหว่างมนุษย์และมนุษย์วานรขึ้นมาแล้ว เขาไม่รู้ข่าวคราวของที่นั่นเลย ว่าตกลงแล้วสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง

ในเรื่องของการทะลวงระดับลุคตัดสินใจไม่ใช่ไอเทมรูปสลักไททัน เพราะเขารู้สึกเสียดาย เนื่องจากว่ายากมากที่เขาจะมีโอกาสได้ฆ่าซอมบี้ไททันอีก ลุคเลยเปลี่ยนมาล่ามอนสเตอร์ในทะเลแทน

ที่นี่มีมอนสเตอร์มากมายและไอเทมหลากหลายชนิดบางอย่างก็มีประโยชน์เช่น ไอเทมเกราะมังกรทะเล ซึ่งได้มาจากกุ้งมังกรยักษ์ที่พากันยกกองทัพขึ้นมาที่นี่

พวกมันคิดจะไล่กินมนุษย์วานรสุดท้ายกลับเป็นกุ้งเผาแทน

ยังมีงูทะเลที่มอบความสามารถครึ่งงูให้ด้วย มันเป็นไอเทมที่ชื่อว่า ลาเมีย แต่ข้อจำกัดคือใช้ได้แค่เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น

มีไอเทมอีกชนิดที่ลุคว่ามันคือไอเทมที่สุดยอดมาก เขาได้มาจากปลาดาวแสงจันทร์ ซึ่งหายากและปรากฏออกมาภายใต้แสงจันทร์เท่านั้น

“ไอเทมเม็ดยาแสงจันทร์ ระดับ C ผลพิเศษสามารถงอกอวัยวะขึ้นมาใหม่ได้ในระดับของเม็ดยา”

นี่เป็นไอเทมที่ใช้ได้ครั้งเดียวและเขาก็มีไม่เกินหลักหน่วย ลุคถือมันไว้และคิดไปถึงคนหนึ่งตาแก่ขาพิการ ถ้าเขาได้เห็นยานี้จะต้องจ่ายให้ลุคอย่างงามแน่นอน

“ว่าแต่ตาแก่นั้นมีพลังระดับอะไรกันแน่จะเกินระดับ C ไหม”

ลุคค่อนข้างสงสัยระดับพลังของชายชรา เพราะที่ผ่านมาชายชราก็ไม่เคยเปิดเผยต่อเขา ลุคตั้งใจว่าถ้ากลับไปได้แล้วจะมอบยาเม็ดนี้ให้ เพราะเขาติดหนี้ชายชราอยู่

นอกจากไอเทมเหล่านี้ก็มีอีกหลายชนิด แต่ว่าในที่สุดลุคก็รวบรวมไอเทมในระดับ C เกรดสีส้มจนครบแล้ว

“ทะลวงระดับ B”

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด