ตอนที่แล้วบทที่ 71 : ภารกิจปกป้อง (1-2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 73 : ภารกิจปกป้อง (2-2)

บทที่ 72 : ภารกิจปกป้อง (2-1)


บทที่ 72 : ภารกิจปกป้อง (2-1)

ภารกิจนั้นหินมาก ไม่มีเวลาให้คร่ำครวญแล้ว ฉันจึงรีบลงจากระฆังที่สูงตระหง่านเพื่อมาหาสมาชิกที่รออยู่พื้นเบื้องล่าง

ตอนนี้พอรวมกับสมาชิกปาร์ตี้ที่ 1 และ 2 ก็มีทั้งหมดสิบคน NPC พันธมิตรประมาณ 350 คน กองกำลังในการต่อสู้ทั้งหมดจึงอยู่ที่ประมาณ 360 คน

แม้ว่าใบหน้าของฉันจะเผยให้เห็นถึงความกังวล แต่ฉันก็สามารถปกปิดอารมณ์ของตัวเองได้ดี ถึงมันอาจจะดูยาก แต่ต่อให้เป็นภารกิจที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ มันก็มีหนทางสู่ชัยชนะ นั่นคือกฎของเกมพิกมีอัพ

“ในที่สุดทุกคนก็รวมตัวกันแล้วสินะ” ฉันพูดพลางกวาดสายตาที่มองสมาชิกทั้งหมด

ตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องมาที่ฉัน ฉันจึงก้าวไปข้างหน้า

“หลังจากรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว เราจะคุยกันเรื่องรายละเอียดภารกิจ เป้าหมาย และหน้าแต่ล่ะคนของเราไปตามลำดับ เริ่มจากทางซ้าย เธอสังเกตเห็นอะไรบ้าง?”

“ฉันขอเริ่มก่อน” เจนน่ากล่าว

เธอเริ่มเล่าถึงความพยายามของเธอในการสื่อสารกับผู้คนในเมือง แต่ไม่มีใครตอบเธอ แม้เธอจะมองเห็นและสามารถสัมผัสชาวบ้านได้ แต่กลับกัน พวกเขาไม่สามารถสื่อสารหรือตอบสนองกลับมาได้ การพูดคนเดียวทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดมาก

'แสดงว่าใช้ประโยชน์จาก NPC ไม่ได้'

ลำดับถัดมาคืออารอนที่เริ่มพูดในสิ่งที่เขาค้นพบ ผู้ลี้ภัยมารวมตัวกันในย่านใจกลางเมือง ทว่าเส้นทางการหลบหนีดูเหมือนจะไม่มี  เนื่องจากไม่มีประตูทางทิศใต้หรือทิศตะวันตก ทำให้ประตูทางเหนือและตะวันออกเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากก็อบลิน

อารอนสรุปรายงานของเขาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “ถ้าเมืองล่มสลาย ทุกคนที่นี่จะต้องพบกับจุดจบแน่”

ทุกคนก็เริ่มเล่าในสิ่งตัวเองพบเจอ

จากยอดกำแพงเมือง ฉันมองเห็นภาพที่น่าตื่นตะลึงของฝูงก็อบลินนับพันที่อยู่ข้างนอก กองกำลังป้องกันของเมืองมีจำนวนน้อยกว่าเป็นอย่างมาก และชาวบ้านต่างก็หวาดกลัว ขวัญกำลังใจในหมู่กองทัพลดลง สถานการณ์ดูเลวร้าย ทว่าจากที่ฉันขึ้นไปตรงหอระฆังนั้น ฉันก็ได้เข้าใจสถานการณ์อย่างท่องแท้แล้ว

ในที่สุด ก็คงถึงเวลาที่ฉันจะต้องบอกทุกคน

ฉันบอกพวกเขาถึงภารกิจของภารกิจด้วยความมั่นใจ “คราวนี้ภารกิจของเราคือการปกป้อง”

"ปกป้อง?" อีดิสถามทวน

ฉันพยักหน้ายืนยัน "ใช่ เป้าหมายของเราคือการปกป้องเมืองนี้จากการรุกรานของศัตรู มันไม่เหมือนการเผชิญหน้าครั้งก่อนบนชั้น 5 เราไม่สามารถเข้าไปรวมกันในที่เดียวและยึดพื้นที่ของเราไว้เหมือนคราวก่อน คราวนี้เราจะต้องต่อสู้เพื่อปกป้องเมือง”

“แต่มันน่าแปลกไม่ใช่เหรอ? ก็อบลินไม่เคยบุกมายังขอบเขตของดินแดนมนุษย์มาก่อนเลยนะ แถมไอ้หอคอยประชิดเมืองนั่นมันอะไรกัน?”

“แปลกหรือไม่ก็ไม่สำคัญหรอก เราค่อยไปหาคำต้องในภายหลัง แต่ถ้าเราล้มเหลวในภารกิจ…”

ฉันนึกถึงชะตากรรมที่รอคอยเหล่าฮีโร่ในกรณีที่ภารกิจล้มเหลว

“เราทุกคนจะต้องตาย”

“แม้ว่าเราจะสามารถหลบหนีออกจากเมืองได้ก็ไม่รอดงั้นเหรอ?”

"ใช่ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเมื่อภารกิจล้มเหลว ชีวิตเราก็จะสูญสิ้นแบบไม่มีข้อยกเว้น”

“โหดร้ายมาก”

ตัวโรเดอริคแข็งทื่อไปแล้ว

“ฉันเชื่อว่าเงื่อนไขของความสำเร็จภารกิจนี้คือการทำลายล้างกองทัพศัตรูที่บุกรุกเข้ามา ส่วนเงื่อนไขที่จะทำให้เราล้มเหลว….ลองดูข้างๆ  หอคอยสิ”

ตรงนั้นคือหอระฆัง มันมีวิหารเล็กๆ อยู่ ลานภายในประดับด้วยรูปปั้นที่สร้างจากปูนปลาสเตอร์ รูปปั้นเหล่านี้กำลังเรืองแสงเปล่งประกาย

“รูปปั้นเรืองแสงพวกนั้นคืออะไรกัน?”

เด็กสาวมีปีกสองคนโอบกอดกัน ดวงตาของพวกเธอจับจ้องไปที่สวรรค์เบื้องบน

พวกมันเป็นที่รู้จักในนามรูปปั้นฝาแฝดเทพธิดา ซึ่งจะที่พบได้บ่อยในระหว่างภารกิจพิเศษเมื่อฉันยังเป็นนายท่าน

ฉันจึงอธิบายต่อ

“หากรูปปั้นนั้นพัง ภารกิจจะถือว่าล้มเหลว”

“ไม่อยากจะเชื่อ…”

“มันอาจจะดูไม่มีเหตุผลและตรรกะ แต่ถ้าหากเราต้องการหลีกเลี่ยงการพบกับจุดจบ เราก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเผชิญหน้ากับความท้าทายนี้”

“แล้วนายมีความรู้แบบนี้ได้ยังไงกเนี่ย”

“แค่เข้าใจว่าประสบการณ์ของฉันในการทำภารกิจนั้นเหนือกว่าเธอมาก รู้ไว้แค่นั้นก็พอแล้ว ถ้าฉันต้องอธิบายเรื่องนี้ให้ฟัง เราคงใช้เวลาทั้งคืน”

"รู้แล้วน่า…"

“เอาล่ะ ต่อไป”

ฉันวาดภาพวงกลมขนาดใหญ่บนพื้นด้วยความรวดเร็ว

ภายในวงกลมที่ล้อมรอบ ฉันวาดภาพวงกลมที่เล็กกว่า โดยวางจุดไว้ภายในขอบเขตของมัน

“วงกลมขนาดใหญ่หมายถึงการป้องกันด้านนอก วงกลมเล็กเป็นสัญลักษณ์ของการป้องกันภายใน และจุดคือรูปปั้นเทพธิดา”

แม้ว่าจำนวนกองกำลัง NPC พันธมิตรอาจจะน้อย แต่โครงสร้างการป้องกันภายในของเรายังคงมั่นคง

กำแพงเมืองตั้งตระหง่าน และประตูก็ถูกล็อคอย่างแน่นหนา ถือเป็นอะไรที่พอช่วยได้อยู่บ้าง

ฉันร่างภาพวงกลมไปทางเหนือและตะวันออกของเมือง

สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงกองกำลังก็อบลินที่กำลังรุกคืบ ภายในวงกลมทิศเหนือ ฉันสลักรูปเหมือนบันไดเอาไว้

“หลังจากขึ้นไปบนหอระฆังและสำรวจบริเวณโดยรอบ ฉันค้นพบว่าถึงแม้ว่าพวกก็อบลินอาจมีจำนวนที่มากกว่าเรา แต่การโจมตีเข้ามาข้างในของพวกมันก็จำกัดอยู่แค่บันไดประชิดเมืองเท่านั้น นอกจากนี้อุปกรณ์นี้ยังมีเฉพาะในฝั่งเหนือเท่านั้น ดังนั้นหากเราสามารถทำลายบันไดของพวกมันที่อยู่ทางตอนเหนือได้ เราก็จะมีเวลาเหลือเฟือที่จะชะลอการรุกคืบของพวกมัน”

“แต่นายบอกว่ามันแตกต่างจากชั้น 5 ไม่ใช่เหรอ? เราไม่สามารถยื้อเวลาเพียงอย่างเดียวได้นิ?”

“แน่นอน อีดิส เธอพูดถูกแล้ว การยื้อเวลาเพียงอย่างเดียวจะไม่นำเราไปสู่ชัยชนะ”

“ดังนั้นความรุนแรงและการบุกเข้าทำลายอาจเป็นคำตอบ'

“เราจะแบ่งออกเป็นกลุ่ม โชคดีที่เรามีกลุ่มสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งจะมุ่งหน้าไปยังแนวป้องกันด้านนอกทางตอนเหนือของเมืองและให้การสนับสนุนช่วยเหลือทหารในแนวป้องกัน ทำลายหรือผลักบันไดที่พาดติดกับกำแพงเมืองซะ” ฉันอธิบายพร้อมมองดูอีดิส

“นายจะมอบหมายหน้าที่นั้นให้เราเหรอ?”

“ถ้าใครมีข้อโต้แย้งก็พูดออกมาได้เลย”

“แต่เรามีกันแค่ห้าคน แม้ว่าเราจะเพิ่มตัวเองเข้าไปในทหาร 300 นาย แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เพียงพอที่จะปกป้องเมืองทั้งเมืองได้หรอก” อีดิสเผยถึงความกังวลในใจของเธอ

"พูดถูกแล้ว"

เมื่อคิดจากหลักเหตุผล แม้ฮีโร่จะมีพลังมากกว่า NPC พันธมิตรมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกฮีโร่สามารถรับมือกับศัตรูนับร้อยหรือพันได้อย่างง่ายดาย ถึงกลุ่มของอีดิสจะเข้าร่วมการป้องกัน พวกเขาก็มีกำลังเท่ากับทหาร 50 นายเท่านั้น

แต่หากเวลาผ่านไป การที่จะแข็งแกร่งจนเทียบเท่าทหารนับพันหรือนับหมื่นก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

ฉันจึงอธิบายต่อไป

“วิธีเดียวที่มันจะเจาะกำแพงเมืองได้คือบันได อีกทั้งกำแพงยังสูงและแคบอีกด้วย หากเราสามารถคุ้มกันจุดที่เป็นอันตรายที่สุดของกำแพงได้ มันจะเพิ่มประสิทธิภาพของการป้องกันของเราอย่างมาก”

“นั่นคือสิ่งที่นายต้องการจทำใช่ไหม?” อีดิสขอคำชี้แจง

“กำลังบอกเป็นนัยว่าถึงแม้เราจะซื้อเวลาได้ แต่เราก็คงไม่สามารถคว้าชัยชนะได้งั้นเหรอ?” เธอถามต่อ

ฉันเลือกที่จะไม่ตอบ

“ฉันรู้เรื่องนั้นดี” ฉันแทรก

แม้ว่าทั้งสองปาร์ตี้จะร่วมมือกัน แต่ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม พวกเขาสามารถต้านทานการโจมตีได้แค่ทำให้มันนานขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วศัตรูก็จะทะลุแนวป้องกันของพวกเขามาได้อยู่ดี

มีความแตกต่างกันมากระหว่างทัพศัตรูและฝั่งพวกเขา

ฉันจึงบอกออกไปอีกว่า

“เราต้องชะลอกองกำลังศัตรูให้นานที่สุด หากการป้องกันภายนอกถูกทำลาย เราจะถอยกลับไปที่การป้องกันด้านใน ยึดประตูและรักษาตำแหน่งของพวกเธอไว้ หากจำเป็นก็สามารถใช้ทหารและชาวบ้านเป็นตัวล่อได้ ต้องยึดพื้นที่ไว้จนกว่าเราจะกลับมา”

“จนกว่าเราจะกลับมา? เราจะไปที่อื่นเหรอ?” เจนน่าถามเพื่อขอคำยืนยัน

"ใช่"

“…ฉันเข้าใจแล้ว” อีดิสพยักหน้า และเข้าใจถึงความรุนแรงของสถานการณ์ในทันที

“เข้าใจแล้ว.. เราจะรักษาจุดประจำการของเราให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้” เธอให้คำมั่นและระดมสมาชิกอีกสี่คนทันที

เมื่อกลุ่มทั้งห้าคนรวมตัวกันแล้ว อีดิสก็พาพวกเขาไปยังถนนทางเหนือของจัตุรัส

แม้จะไม่ได้ให้รายละเอียดที่ซับซ้อนมากนัก แต่พวกเขาก็เข้าใจแผนการของฉันได้ทันที

มีไหวพริบมากจริงๆ

"โอ้? ลืมผมแล้วหรือยังครับ? บทบาทของผมคืออะไรเหรอ?” อาเชอร์และสมาชิกที่เหลือถามขึ้นมา

“เตรียมตัวให้พร้อม เรากำลังมุ่งหน้าไปยังประตูตะวันออก” ฉันตอบ

“พี่ทำไมเราถึงออกไปข้างนอกล่ะ? มีก็อบลินหลายพันตัวอยู่ที่นั่น มันไม่อันตรายเกินไปเหรอ?” อารอนรู้สึกกังวลยิ่ง

“เราจะแก้ปัญหายังไงหากเรายังคงยึดที่มั่นอยู่ที่นี่อย่างเดียว?” ฉันเงยหน้าขึ้น มองท้องฟ้าที่มีเมฆปกคลุม เม็ดฝนหล่นลงมากระทบแก้มฉันเบาๆ

“ไม่ว่านายจะมีมุมมองยังไง แต่การอยู่ที่นี่ก็รังแต่จะส่งผลให้ทุกคนตายกันหมด”

อัตราศัตรูมากกว่าเราจำนวนสิบต่อหนึ่ง แม้ว่าเราจะเข้ามาช่วย แต่อัตราระหว่างทั้งสองฝั่งก็จะเปลี่ยนเป็นสิบต่อสองเท่านั้น

เมื่อนึกถึงการโจมตีอย่างบ้าคลั่งที่เราเผชิญบนชั้น 5 ก็ดูเหมือนว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ศัตรูจะล่าถอย มันเป็นการต่อสู้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย

ทว่าพวกเรายังมีเบาะแสอยู่

“ทางทิศตะวันออกของเมืองมีแม่น้ำอยู่ เหมือนตอนที่เราอยู่ชั้น 7” ฉันพูดขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเจนน่า

“หมายถึงแม่น้ำบนชั้น 7 ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเหรอ?” เจนน่าครุ่นคิด และพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว

"ใช่แล้ว"

จากชั้น 5 จนถึงชั้น 9 ด่านที่หลากหลายที่เราพบทั้งหมดได้มารวมกันเป็นด่านหนึ่งเดียวบนชั้น 10

“ก่อนที่เราจะออกจากชั้น 7 จำเสียงแปลกๆ ได้ไหม เจนน่า? ลองนึกดูสิ”

เจนน่าขมวดคิ้ว จมอยู่กับห้วงภวังค์ จากนั้น ประกายแห่งความรู้ก็ถูกจุดในตัวเธอ เธอได้ปรบมือขึ้นมาในทันที

“คิดออกแล้ว!”

"ตอนนี้เข้าใจไหม?"

"ใช่! ฉันเข้าใจแล้ว!"

“เข้าใจว่า?”

“มันเป็นเสียงกีบเท้า ฉันได้ยินเสียงม้า เสียงควบม้าดังก้องมาจากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ”

บนชั้น 7 ที่เต็มไปด้วยฝน เขื่อนถล่ม ทำให้น้ำล้นจนเกิดน้ำท่วม

“ภารกิจของเราคือเราต้องออกไปทางประตูตะวันออก ฝ่ากลุ่มก็อบลินที่กำลังทำลายเขื่อน” ฉันอธิบาย

"แล้ว…"

“เดี๋ยวเราก็จะได้กำลังเสริมมา”

ฉันปลดดาบออกจากฝักแล้วรัดสายรัดของโล่ไว้รอบแขนซ้าย

"อะไรเนี่ย? ผมงงไปหมดแล้ว” อารอนยังคงสับสนอยู่

“เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้นายฟังระหว่างทาง…”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด