ตอนที่แล้วตอนที่ 10 : พวกเขาอยากจะทำร้ายฉัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12 : วิวัฒนาการ!

ตอนที่ 11 : โจมตีก่อนได้เปรียบ


ตอนที่ 11 : โจมตีก่อนได้เปรียบ

เมื่อเธอถูกปิดปาก หลิวอ้ายหยวนจึงไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้และเธอก็ไม่กล้าส่งเสียงออกมาด้วย

หลังจากถูกพาตัวเข้ามาในเซฟเฮาส์ที่ชายทั้งสี่เลือกไว้แล้ว หลิวอ้ายหยวนก็ส่งเสียงครวญครางอยู่สองครั้ง

เหยาเจิ้งพูดออกมาเบาๆ “อย่าร้อง ถ้าพวกเราดึงดูดซอมบี้เข้ามา พวกเราจะตายกันหมดได้ เข้าใจไหม?”

หลิวอ้ายหยวนพยักหน้าซ้ำๆ

แต่แววตาของเธอก็ฉายแววความเกลียดชังขึ้นมา

มันก็จริง…

ด้วยนิสัยของหลิวอ้ายหยวน เธอจะไม่แค้นได้ยังไง? เธอจะไม่โมโหได้ยังไง?

อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอดึงดูดซอมบี้เข้ามา เธอก็อาจจะตายเพราะพวกมันได้ เธอย่อมไม่อยากตายไปพร้อมกับผู้ชายทั้งสี่คนนี้

นี่คือความกลัวตายที่สามารถก้าวข้ามได้ทุกสิ่ง

เธอกลอกตาและคิดแผนการ

หลิวอ้ายหยวนตัดสินใจที่จะยอมคนทั้งสี่นี้ไปก่อน แล้วค่อยคิดหาวิธีแก้แค้นทีหลัง

ในทันทีที่เธอปรับอารมณ์ได้แล้ว เธอก็เริ่มเร่าร้อนขึ้นมา

เสื้อผ้าเริ่มหลุดออกไปจากตัวเธอทีละชิ้น เมื่อรวมกับท่วงท่าอันมีเสน่ห์ของเธอ เหยาเจิ้งและชายอีกสามคนจึงถูกหลิวอ้ายหยวนดึงดูดไว้อย่างรวดเร็ว

เหยาเจิ้งกลืนน้ำลายเสียงดังและกล่าวว่า “ประตูกับหน้าต่างล่ะ…”

“ปิดหมดแล้ว”

“งั้นพวกเราจะรออะไรอีกล่ะ!”

เหยาเจิ้งเป็นคนแรกที่กระโจนเข้าใส่เธอ ทำให้หลิวอ้ายหยวนหัวเราะออกมาอย่างมีเสน่ห์

เธอสามารถบอกได้เลยว่าสภาพจิตใจของเหยาเจิ้งและชายอีกสามคนนั้นผิดปกติเล็กน้อย บางทีมันอาจจะเป็นเพราะพวกเขาอยู่ภายใต้แรงกดดันและความตื่นตระหนกมากเกินไป

วิธีการของเธอย่อมไร้ประโยชน์ต่อหน้าคนที่มีจิตใจที่ไม่ปกติแบบนี้

แต่นั่นก็ไม่สำคัญเลย

หลังจากปลอบใจสัตว์ร้ายเหล่านี้แล้ว หลิวอ้ายหยวนก็มีวิธีมากมายที่จะจัดการกับพวกเขา

ในขณะที่เธอให้ความร่วมมือ เธอก็จินตนาการไปไกล

ในไม่ช้า มันก็ไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์ในบ้านได้อีก

ถนนเงียบมาก

ฝีเท้าของลู่หมิงเองก็เบามากด้วย

ต้องขอบคุณกองทัพอีกครั้ง

แม้ว่าลู่หมิงจะไม่รู้ว่ากองทัพทำอะไร แต่การปรากฏตัวของพวกเขาก็ได้ล่อซอมบี้เกือบทั้งหมดไปแล้ว ซึ่งมันก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลู่หมิงได้เป็นอย่างดีในการออกมาข้างนอก

ลู่หมิงต้องจดจำความเมตตาของพวกเขาเอาไว้ที่ทำให้เขาไม่เจอซอมบี้ระหว่างทางเลย

ในไม่ช้าลู่หมิงก็มาถึงมินิมาร์ทวานด้า

มินิมาร์ทวานด้าเป็นร้านสะดวกซื้อเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านในเมือง มันมีขนาดแค่ประมาณ 50 ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งชั้นล่างใช้สำหรับขายสินค้า ส่วนชั้นสองใช้เป็นห้องนอนของเจ้าของร้าน

ในช่วงเวลาปกติ ลู่หมิงก็เคยมาซื้อของเบ็ดเตล็ดเช่นหลอดไฟจากที่นี่มาก่อนและค่อนข้างคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้

แต่ในตอนนี้ ประตูกระจกของมินิมาร์ทแห่งนี้ก็ได้ปิดอยู่ แต่ประตูเหล็กม้วนด้านบนก็ยังปิดไม่สนิท หูของลู่หมิงดีมาก และเขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากชั้นสองเบาๆ

เสียงนี้ทำให้ลู่หมิงต้องเกาหัว

คนพวกนี้ไม่กลัวซอมบี้กันเลยเหรอ?

เสียงนี่ดังมากจนแม้แต่ฉันยังได้ยิน งั้นพวกซอมบี้ก็น่าจะได้ยินด้วยเหมือนกัน

โชคดีที่ทหารล่อซอมบี้ออกไป ไม่เช่นนั้นเหล่าคนที่อยู่บนชั้นสองก็คงจะกลายเป็นอาหารของซอมบี้ไปแล้ว

ลู่หมิงไม่เข้าใจเลยว่าคนพวกนี้กำลังคิดอะไรอยู่

และเขาก็ไม่อยากคิดด้วยเหมือนกัน

ขึ้นไป จัดการพวกมัน แล้วก็กลับบ้าน!

ง่ายๆ แค่นั้น!

เขาดันประตูเปิดเบาๆ

ประตูปิดอยู่ แต่มันก็ไม่ได้ล็อค

เขาหยิบหน้าไม้ออกมาและบรรจุลูกศร จากนั้นเขาก็ย่องขึ้นไปบนชั้นสอง

ภาพอันวุ่นวายได้ปรากฏขึ้นในสายตาของลู่หมิง

เมื่อมองดูกลุ่มชายสี่คนและผู้หญิงหนึ่งคนที่กำลังพัวพันกัน ลู่หมิงก็ขมวดคิ้ว

“พวกมันสำส่อนกันจัง…”

เขาแสดงความเห็นอยู่ภายในใจ แต่การกระทำของเขาก็รวดเร็วมาก

ลู่หมิงยกหน้าไม้ขึ้นและมองผ่านศูนย์เล็ง เขาเพ่งสมาธิทั้งหมดของเขา

จนกระทั่งได้โอกาส

ฟิ้ว!

ลูกศรพุ่งออกไป!

พลังของหน้าไม้เทียบได้กับอาวุธปืนธรรมดาในระยะใกล้

คนทั้งห้าที่กำลังมีความสุขอยู่นั้นไม่อาจตอบสนองได้ทันเลย!

ลูกศรพุ่งทะลุคอของเหยาเจิ้งที่อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุด

ลูกศรยังไม่หยุดลงหลังจากทะลุคอของเหยาเจิ้งไปแล้ว มันพุ่งทะลุเข้าไปเสียบใบหน้าของเว่ยไคต่อ

ฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว!

ทันใดนั้นเลือดก็กระเซ็นออกมาและขัดภาพแห่งความสุขบนชั้นสอง

อย่างไรก็ตาม อีกสามคนที่เหลือก็อึ้งจนไม่อาจตอบสนองได้ทัน…

ภาพการสังหารอย่างกะทันหันนี้ทำให้ทั้งสามนิ่งไป มันมีแค่ลู่หมิงที่ทำการโจมตีอย่างเย็นชาเท่านั้นที่ยังคงเงียบขรึม

เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา ลู่หมิงโยนหน้าไม้ทิ้งไป หยิบหนังสติ๊กขึ้นมา และเริ่มโจมตีต่อ

เศษโลหะมีคมพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงมาก มันกระแทกเข้าใส่เบ้าตาของเฟิงฉินอย่างแม่นยำ

โลหิตสีแดงและเศษเนื้อสีขาวสาดกระเซ็นออกมาอีกครั้ง

ในขณะที่หวังกังและหลิวอ้ายหยวนกำลังจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ เสียงเบาๆ เขาลู่หมิงก็ดังขึ้นซะก่อน

“อย่าร้อง นี่คือการปล้น”

ความตกใจถูกระงับไว้ทันที และหวังกังที่กำลังจะยอมจำนนก็ถูกกระสุนพุ่งเข้าใส่เป้าตาเต็มๆ

เห็นได้ชัดว่าการปล้นเป็นแค่ข้ออ้างเพื่อลดความวุ่นวายเท่านั้น

ลู่หมิงคิดที่จะฆ่าพวกเขามาตั้งแต่ต้นแล้ว

หลิวอ้ายหยวนดูเหมือนจะเข้าใจถึงเจตนาของลู่หมิง

จากมุมมองของลู่หมิง เขาก็มองเห็นเพียงปากของหลิวอ้ายหยวนที่เปิดกว้างเท่านั้น และครู่ต่อมา เสียงโซปราโนที่แหลมเสียดแก้วหูก็ดังก้องไปทั่วถนน

“ช่างน่าเสียดายจริงๆ”

เขาถอนหายใจออกมาจากภายในใจเมื่อรู้ว่าฝูงซอมบี้กำลังจะมาถึงสมรภูมินี้ ลู่หมิงเร่งการเคลื่อนไหวของเขาอีกครั้ง

เขาบรรจุกระสุนและยิงหนังสติ๊กออกไป

เศษโลหะพุ่งออกมาอีกครั้ง และพุ่งเข้าสู่ร่างกายของหลิวอ้ายหยวนผ่านทางปากที่เปิดอ้าของเธอ

“แค่ก!”

หลิวอ้ายหยวนกระอักเลือดออกมาเต็มคำซึ่งก็มีฟันของเธอปนออกมาด้วย หลังจากนั้นเธอก็ตาเหลือก และทรุดตัวลงไปบนเตียงทันที

กระสุนนี้พุ่งทะลุปากของเธอ ทำลายกระดูกสันหลังส่วนคอของหลิวอ้ายหยวนทันที และก็พุ่งทะลุคอของเธอ และทำให้หน้าต่างที่อยู่ด้านหลังของเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ

เมื่อเห็นเช่นนี้ ลู่หมิงก็คว้าหน้าไม้อย่างแน่วแน่และวิ่งลงไปชั้นล่างโดยไม่ต้องคิดอีก

เขาไม่คิดที่จะตรวจสอบความเรียบร้อยอีก

เพราะลู่หมิงได้ยินเสียงฝีเท้าของซอมบี้ที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ระยะทางจากที่นี่ถึงบ้านน่าจะประมาณร้อยเมตร

ในทันทีที่ลู่หมิงก้าวออกมาจากมินิมาร์ท เขาก็เริ่มวิ่งสุดกำลังทันที

ด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขา ในเวลาแค่สิบวินาที ลู่หมิงก็มาถึงหน้าประตูบ้านของเขาแล้ว

เขาคว้าที่จับประตู ดึงมันออกแรงๆ แล้วรีบเข้าไปในบ้าน เขาปิดประตูอย่างระมัดระวังและล็อคมัน จากนั้นลู่หมิงก็ได้ยินเสียงฝูงซอมบี้วิ่งไปตามถนนด้านนอก

“โชคดีจริงๆ ที่ทันเวลา!”

หลังจากลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้ว ลู่หมิงก็เดินขึ้นไปที่ชั้นสอง เขาเปิดช่องสังเกตการณ์ขึ้นมาและมองออกไปข้างนอก เขาเห็นซอมบี้หลายสิบตัวกำลังวิ่งไปทางวานด้ามินิมาร์ทตามเสียงกรีดร้องของหลิวอ้ายหยวน อย่างไรก็ตาม มันก็มีซอมบี้เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ดูเหมือนจะได้ยินเสียงปิดประตูของลู่หมิง พวกมันอ้อยอิ่งอยู่หน้าบ้านของลู่หมิงโดยไม่เต็มใจที่จะจากไป

“สี่ตัว พอรับมือไหว”

การถูกซอมบี้สี่ตัวขวางประตูไว้ถือเป็นประสบการณ์ที่แย่มาก

แต่หลังจากการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ลู่หมิงก็ยังเชื่อว่าการตัดสินใจที่เด็ดขาดของเขาในครั้งนี้มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย

“ถ้ามีใครคิดจะทำร้ายฉัน ฉันก็จะตอบโต้ก่อนและดับไฟตั้งแต่ต้นลม”

ความรู้สึกผิดที่ได้ปลิดชีพของคนอื่นสลายไปภายในใจของเขา

ลู่หมิงพยักหน้าอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ “ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด!”

จากนั้นเขาก็มองไปทางวานด้ามินิมาร์ท

ซอมบี้ที่เก่งกาจได้ทำลายประตูกระจกของร้านวานด้าแตกเป็นเสี่ยงๆ และกรูเข้าไปข้างในเพื่อเริ่มงามเลี้ยงของพวกมัน

ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าจะมีผู้รอดชีวิต แต่พวกเขาก็คงไม่สามารหลบหนีออกมาได้

หลังจากกินกล้วยเข้าไปลูกหนึ่งแล้ว ลู่หมิงก็ปิดช่องสังเกตการณ์และเตรียมที่จะเริ่มการออกกำลังกายในตอนบ่ายของเขา

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด