ตอนที่ 109 คำชักชวนของแชงค์
[หนวดขาว นิวเกต: กู ลา ลา ลา สาวน้อยคนนี้ ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะท้าทายแชงค์โดยตรง ]
[บิ๊กมัม ชาร์ล็อตต์ หลินหลิน: เธอกล้าท้าทายผมแดงแบบนี้ แสดงว่าเธอได้พัฒนาความแข็งแกร่งของเธอ ให้ไปถึงระดับนั้นได้แล้วใช่ไหม? ]
[ราชสีห์ทองคำ ชิกิ: ฉันคิดไว้แล้วว่าด้วยรางวัลของแชงค์ จะต้องมีคนมาท้าเขาอย่างแน่นอน แต่ฉันก็ไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะเป็นลูกศิษย์ของหลี่ฟาน ที่เป็นคนมาท้าทายเขาคนแรก! ]
[ฟาวเวอร์ วิสต้า: ถ้านามิสามารถเอาชนะผมแดงได้ มันก็หมายความว่า หลี่ฟานสามารถฝึกสอนผู้ที่มีพลังระดับเดียวกันดับสี่จักรพรรดิได้โดยตรงสินะ?! ]
[คิซารุ โบซาริโน่: หากเป็นกรณีนี้ มันก็คงจะแย่มาก ตอนนี้หลี่ฟานก็มีลูกศิษย์มากกว่า 3 คนแล้ว เป็นไปได้ไหมที่เขาจะสร้างสี่จักรพรรดิอีกกลุ่มขึ้นมาในอนาคต? ]
[โมโมะอุซางิ กิออน: มันคงเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม? ถึงแม้ว่านามิจะแข็งแกร่งขึ้นถึงขนาดไหนก็ตาม แต่เธอก็คงจะไม่สามารถเอาชนะแชงค์ได้ ]
แชงค์ไม่ได้เป็นผู้ใช้พลังของผลปีศาจ เขาเป็นเหมือนนักดาบผู้บริสุทธิ์คนหนึ่ง
หากนามิสามารถเอาชนะแชงค์ได้ในการท้าทายครั้งนี้ มันก็แสดงว่านามิมีชัยชนะเหนือแชงค์ ในด้านพลังการต่อสู้อย่างแท้จริง
หญิงสาวอายุน้อยที่มีพลังการต่อสู้ที่เหนือกว่าสี่จักรพรรดิ แค่คิดมันก็ดูจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า นามิได้เริ่มต้นการฝึกฝนมานานแค่ไหนแล้วเลย?
หากผลลัพธ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงๆ มันจะทำให้ผู้ที่ออกตามหาโรงฝึกของหลี่ฟาน และวางแผนที่จะกลายเป็นลูกศิษย์ของเขามากยิ่งขึ้น
“ฉันไม่คิดเลยว่า ฉันจะถูกเธอท้าทาย” แชงค์ผู้ซึ่งถูกส่งไปยังสนามประลองของรายการทองคำ มองขึ้นไปบนบัลลังก์นักดาบที่เป็นของตัวเอง ก่อนที่จะหันไปมองที่นามิ
“ยังไงก็ตาม ถ้าฉันแพ้เธอจริงๆ ฉันก็ควรจะตกลงไปนั่งบนบัลลังก์ของรองกัปตันเรย์ลี่แทน และเขาก็จะตกลงไปอยู่ในอันดับที่ห้า”
[ราชานรก เรย์ลี่: ผู้ชายคนนี้ เขายังคงโง่เหมือนเดิม แชงค์ถ้านายแพ้เธอจริงๆ อย่ามาโทษฉันที่จะไปสั่งสอนนายใหม่อีกครั้งนะ ]
[คิซารุ โบซาริโน่: ราชานรก เรย์ลี่ คุณเข้มงวดจริงๆ แต่ฉันคิดว่ามันจะเป็นการดีกว่า ที่จะให้นามิได้นั่งอยู่ในอันดับนั้นนะ ]
[ นิวเกตหนวดขาว: กองทัพเรือกลัวว่าแชงค์จะใช้รางวัลนี้เพื่อชุบชีวิตโรเจอร์ขึ้นมา ดังนั้นมันจึงเป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะต้องการให้นามิชนะ
และตั้งแต่ที่โรเจอร์บอกว่า เขาจะใช้ม้วนคัมภีร์คืนชีพเพื่อชุบชีวิตภรรยาที่ตายไปแล้วของเขาขึ้นมา ฉันก็คิดว่ามันจะต้องเป็นความจริงแน่นอน เพราะนั่นคือแม่ของเอส
คราวนี้ฉันอยู่ข้างนายนะไอ้หนูผมแดง ถ้านายแพ้ขึ้นมาจริงๆ ถึงเรย์ลี่จะไม่พูดอะไร แต่ฉันก็จะเข้าไปคุยกับนายแน่นอน ]
[ชาร์ล็อตต์ สมูทตี้: ในสนามประลองนี้จะไม่มีใครที่ไม่เห็นข้อความที่ปรากฏบนรายการทองคำ เพื่อทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถมุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้ได้อย่างเต็มที่ ]
ในขณะที่ฝากข้อความเอาไว้ ดวงตาของชาร์ล็อตต์ สมูทตี้ ไม่ได้ละออกไปจากร่างของนามิเลยแม้แต่น้อย
ถ้าหลี่ฟานสามารถฝึกฝนนักดาบที่สามารถก้าวข้ามหนึ่งในสี่จักรพรรดิได้จริงๆ เธอก็จะมีความต้องการที่จะค้นพบโรงฝึกของหลี่ฟานมากยิ่งไปขึ้น
แม้แต่ตาเหยี่ยว มิฮอว์คที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการท้าทายหลี่ฟาน ก็ยังให้ความสนใจกับการต่อสู้ในครั้งนี้
ในโรงฝึกแห่งที่หนึ่งของหลี่ฟาน
หลี่ฟานมองไปที่โนจิโกะ ที่ซึ่งกำลังเต็มไปด้วยความประหม่าและจับแขนของเขาเอาไว้แน่น
“อย่ากังวลไปเลยโนจิโกะ ในเวลานี้เธอต้องเชื่อใจนามิสิ…”
โนจิโกะยิ้มออกมาอย่างไม่เต็มใจ “ฉันเข้าใจแล้ว อาจารย์หลี่ฟาน”
ถึงแม้ว่าเธอจะพูดอย่างนั้น แต่เหงื่อจากความตึงเครียดก็ยังไหลออกมาบนหน้าผากของเธออย่างต่อเนื่อง และแรงบีบในมือของเธอก็กำลังเพิ่มขึ้น
เขารู้ดีว่าความตึงเครียดของเธอไม่ได้ถูกขจัดออกไปเลยสักนิด ตรงกันข้ามมันกลับถูกเพิ่มขึ้นมามากกว่า
หลี่ฟานส่ายหัวและมองไปที่ซาดี้ ซึ่งกำลังจับแขนอีกข้างของเขาเอาไว้อยู่
“แล้วเธอล่ะ เธอก็ประหม่าด้วยงั้นหรอซาดี้”
ซาดี้ยิ้มให้กับหลี่ฟาน
“ตอนนี้ฉันเองก็เป็นพี่น้องกับโนจิโกะไปแล้ว นามิเลยเป็นพี่น้องของฉันโดยธรรมชาติ มันจึงเป็นเรื่องปกติสำหรับฉันที่จะประหม่าไปพร้อมกับเธอ อาจารย์หลี่ฟาน”
“พี่น้อง?” หลี่ฟานเลิกคิ้ว
“พวกเธอเป็นพี่น้องกันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ตั้งแต่ที่คุณและนามิเข้าไปในห้องศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำการฝึกฝนนะ” โรบินมองไปที่หลี่ฟานด้วยใบหน้าที่สงบ
“พวกเราต่างก็เป็นลูกศิษย์ของคุณทั้งหมด ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว พวกเราก็คงจะสามารถพูดได้ว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันได้ใช่ไหม อาจารย์หลี่ฟาน?”
“คิดๆดูแล้ว มันก็คงเป็นไปได้ล่ะนะ” หลี่ฟานพยักหน้า และดวงตาของเขาก้มลงมองไปที่ขาที่แกว่งไปมาของโรบิน
หลังจากที่นึกถึงเรื่องในอดีตของเธอ หลี่ฟานก็พูดขึ้นมา
“ใจเย็นๆ โรบิน...”
“รายการทองคำจะไม่มีม้วนคัมภีร์ฟื้นคืนชีพแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเหรอก”
“รายการแบบนี้จะต้องปรากฏขึ้นมาอีกในอนาคตอย่างแน่นอน”
“ตอนนี้เธอควรจะเตรียมพร้อมสำหรับการฝึกฝนของเธอเอาไว้ และเมื่อวันนั้นมาถึง เธอก็จะสามารถที่จะเอาชนะอันดับนั้นๆ เพื่อรับม้วนคัมภีร์ฟื้นคืนชีพได้ไป และชุบชีวิตแม่ของเธอขึ้นมา”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลี่ฟาน โรบินก็มองไปที่เขาอย่างประหลาดใจ
"อาจารย์หลี่ฟาน คุณรู้…”
“ฉันรู้อดีตของเธอค่อนข้างดี โรบิน” หลี่ฟานส่ายหัวเบาๆ
“แม่ของเธอเป็นนักโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่มากคนหนึ่ง”
“โรบิน เธอมีใครที่อยากจะฟื้นคืนชีพด้วยงั้นหรอ?” ยามาโตะหันไปถามโรบิน
“ไม่ต้องห่วงนะโรบิน ฉันจะช่วยเธอในอนาคตเอง”
“ขอบคุณนะยามาโตะ” โรบินยิ้มให้กับเธอ และมีความรู้สึกอบอุ่นเป็นพิเศษในหัวใจ
ในเวลาเดียวกัน ที่สนามประลองของรายการทองคำ นามิก็สูดหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง เพื่อทำให้ความกังวลใจของเธอสงบลง
เธอรู้ว่าการเผชิญหน้ากับแชงค์ ผู้เป็นหนึ่งในสี่จักรพรรดิ ความประมาทจะทำให้การท้าทายของเธอจบลงด้วยความล้มเหลว
หลังจากที่ได้เห็นใบหน้าที่สงบลงของนามิ ดวงตาของแชงค์ก็เปล่งประกายไปด้วยความชื่นชม
ตั้งแต่ที่แชงค์ได้เข้ามาในสนามประลอง ฮาคิราชันย์ของเขามันก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว
แต่เมื่อนามิต้องเผชิญหน้ากับฮาคิราชันย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในท้องทะเลตอนนี้ เธอก็ทำเพียงสูดหายใจเข้าลึกๆ เพียงไม่กี่ครั้ง และสามารถปรับสภาพจิตใจของตัวเองได้ มันจึงทำให้แชงค์ชื่นชมเธอมากๆ
แต่ในเวลาเดียวกัน มันก็ทำให้เขาตื่นตัวกับนามิมากขึ้นไปอีก
หากนามิมีเพียงร่างกายและวิชาดาบที่แข็งแรง มันก็คงจะไม่เพียงพอ ที่จะทำให้แชงค์มอบความสนใจให้เธอถึงขนาดนี้
เพราะการที่เธอไม่ได้รับผลกระทบจากฮาคิราชันย์ของเขา มันจึงทำให้แชงค์มีความจริงจังเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในท้องทะเลตอนนี้ มีผู้ที่ไม่ได้ผลกระทบจากฮาคิราชันย์ของเขาอยู่เพียงไม่กี่คน และมันก็สามารถนับได้ด้วยนิ้วของเขา แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเพิ่มนามิเข้าไปด้วยอีกคน
“เธอแข็งแกร่งมากจริงๆ คุณหนูนามิ ไม่สิ นามิ” แชงค์ดึงดาบกริฟฟินของเขาออกมา และรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็ได้หายไป
ตอนนี้เขามีการแสดงออกที่จริงจังอย่างยิ่ง และในเวลาเดียวกัน ฮาคิราชันย์ที่รุนแรงยิ่งกว่าก็ได้ระเบิดออกไปทั่วสนามประลอง ทำให้อากาศโดยรอบดูเหมือนจะถูกกดดันด้วยฮาคิราชันย์ที่ยิ่งใหญ่แบบนี้
อากาศที่มองไม่เห็นแต่แรกเริ่มมีความหนืด และสามารภมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เนื่องจากแรงกดดันของฮาคิราชันย์
ในสายตาของผู้คนที่ดูอยู่ที่โลกภายนอก ตอนนี้พวกเขาได้เห็นว่านามิและแชงค์กำลังยืนอยู่ในอากาศที่เหลวเหนี่ยวหนืด
“ถ้าพวกเราได้เจอกันในสถานการณ์อื่นๆ ฉันก็อยากจะพูดคุยกับเธอดีๆสักครั้ง”
“และมันก็คงจะดีมาก ถ้าเธอสามารถเข้าร่วมกับกลุ่มโจรสลัดผมแดงของฉันได้”
“แต่ตอนนี้ เพื่อที่จะชุบชีวิตคนที่ฉันต้องการ ฉันจะต้องทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อเอาชนะเธอเท่านั้น”
ในขณะที่แชงค์กำลังพูดสิ่งนี้ เขาก็ได้รวบรวมฮาคิเกราะสีดำสนิดลงไปที่ดาบกริฟฟินในมือของเขาด้วย
รวมกับฮาคิราชันย์ที่เขาปลดปล่อยออกมา สายฟ้าสีดำและแดงก็กำลังปรากฏขึ้นบนดาบของแชงค์
นามิหรี่ตาลงและพูดอย่างเย็นชา “ขออภัย ฉันเกลียดโจรสลัดมากที่สุด ดังนั้นฉันจะไม่เข้าร่วมกับกลุ่มโจรสลัดเด็ดขาด”
“น่าเสียดายจริงๆ” แชงค์สส่ายหัว
แชงค์รู้ดีอยู่แล้วว่า ทำไมนามิถึงเกลียดโจรสลัด การเชิญนามิขึ้นเรือของเขาเป็นเพียงแค่การลองดูเพียงเท่านั้น และเขาก็ไม่เคยคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จอยู่แล้ว
“ถ้าอย่างนั้น ก็ขอฉันดูว่าวิชาดาบที่หลี่ฟานสอนเธอหน่อยเถอะ!”
ทันทีที่เสียงของเขาหายไป แชงค์ก็แทงดาบไปข้างหน้าด้วยพลังที่รุนแรงและรวดเร็ว
คมดาบที่กำลังพุ่งเข้าใส่ร่างของนามินั้น ช่างรวดเร็วราวกับแสง!
นัยน์ตาของนามิหรี่ลง เธอตวัดดาบออกมาป้องกันดาบของแชงค์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงฟ้าร้องและสายฟ้าสีทองที่ได้ปรากฏขึ้น
*เปรี้ยง!!
เสียงการปะทะที่รุนแรงดังขึ้น สายฟ้าสีทองและสายฟ้าสีดำกับแดงได้เข้าปะทะกัน ก่อนที่จะพากันแยกย้ายออกไป
มันทำให้สนามประลองทั้งหมด ถูกปกคลุมด้วยคลื่นพลังงานที่รุนแรง
ในขณะนี้ นามิและแชงค์พึ่งทำการโจมตีอุ่นเครื่องกันเท่านั้น และผลลัพธ์ที่ได้ออกมา มันก็เหนือกว่าการต่อสู้ของวิสต้ากับนักดาบคนอื่นๆซะอีก
…