ตอนที่แล้วบทที่ 44: ความลึกลับ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 46: โดดเดี่ยว

บทที่ 45: ความลึกลับ (2)


ขออภัยที่หายไปครับ ตอนนี้เปลี่ยนคนแปลใหม่อีกรอบแล้ว ส่วนตอนที่ 15-ปัจจุบัน เดี๋ยวผมจะแก้ไขให้อ่านง่ายขึ้นนะครับ

บทที่ 45: ความลึกลับ (2)

"หืมม มีอะไรเหรอนีกี้?" ฉันถามขึ้น พลางเหลือบมองเซียน่าที่ยังเกาะแขนขวาของฉันอยู่

แม้จะมีสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของนักเรียนโดยรอบ แต่เซียน่าก็ไม่มีวี่แววว่าจะปล่อยแขนฉันเลย

แต่มีอะไรบางอย่างที่แตกต่างออกไปในครั้งนี้

นีกี้ได้เริ่มการสนทนาขึ้น และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มาเพียงเพื่อเล่าเรื่องตลกเท่านั้น

ฉันรวบรวมความคิดได้อย่างรวดเร็ว

'มันต้องเกี่ยวข้องกับการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดในดันเจี้ยนเวทมนตร์'

นีกี้ได้รับการร้องขอจากศาสตราจารย์อาวุโสร็อกให้ทำการตรวจสอบนักเรียนชั้นปีที่ 1

'ถึงตอนนี้ เขาคงได้รับคำขอนั่นแล้ว'

ตอนนี้ทีมสืบสวนน่าจะถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม มันเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์

ทีมของนีกี้จะตรวจสอบนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งอย่างรอบคอบ แต่พวกเขาจะไม่พบอะไรเลย

คนร้ายไม่ได้เป็นนักเรียนแต่เป็นผู้สอนต่างหาก

หลังจากที่คนร้ายนำคนส่วนใหญ่ของเขาเข้ามาในสถาบันการศึกษาพวกเขาก็จะเริ่มลงมือ

มันน่าหงุดหงิดอย่างมากเมื่อฉันเล่นผ่านตอนนั้นมา ฉันจะไม่มีวันจัดการกับมันด้วยวิธีนั้นเด็ดขาด

“ยังไงก็เถอะ...” ฉันครุ่นคิด

นีกี้จะเชิญฉันเข้าร่วมทีมสืบสวนหรือไม่?

ฉันไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ฉันไม่เห็นเหตุผลที่จะไม่เข้าร่วม

สมาชิกในทีมคนอื่นๆจะจัดการเรื่องนี้เอง

ฉันแค่ต้องอยู่ในทัมเท่านั้น

'เพียงแค่เป็นส่วนหนึ่งของทีมสืบสวน ชื่อเสียงของฉันจะดีขึ้น และฉันจะได้รับคะแนนพิเศษในการประเมินผลในทางปฏิบัติ'

ขณะที่ฉันกำลังจมอยู่ในความคิดเหล่านี้ นีกี้ก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างน่ารำคาญ

“อืม... นี่เป็นบทสนทนาที่ต้องพูดระหว่างเราสองคน” เขาพูดพลางมองไปที่เซียน่าที่ยังคงเกาะแขนขวาของฉันอยู่

เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้เธอออกไป

'แต่ไอ้โง่คนนี้ ฉันหมายถึงนีกี้ ยังไงเธอก็ต้องได้ยินทุกอย่างอยู่ดี'

เวทมนตร์วิญญาณของเซียน่าไม่น่ามีใครรู้จักมากที่สุดและนีกี้ไม่มีความสัมพันธ์กับเหล่าวิญญาณ

ฉันจ้องมองเซียน่าอยู่ครู่หนึ่ง

“ฮิฮิ ฉันเข้าใจแล้วน่า การสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นก็เป็นสิ่งสำคัญนะ แต่... อย่าใช้เวลานานเกินไป โอเค๊?”

เซียน่าออกจากห้องเรียนอย่างเชื่อฟัง แม้ว่าเธอจะมีแนวโน้มที่จะส่งวิญญาณมาเพื่อดักฟัง

แต่สำหรับตอนนี้ เซียนาออกนอกระยะการได้ยินไปแล้ว

เมื่อหันพุ่งความสนใจกลับไปยังนีกี้อีกครั้ง ฉันก็ได้ถามเขาว่า "แล้ว เรื่องที่จะพูดได้แค่กับเราสองคนคืออะไรล่ะ?"

นีกี้มองไปรอบๆห้องเรียนที่มีนักเรียนสองสามคนอยู่

"นายจะว่าอะไรไหมถ้าเราจะเปลี่ยนสถานที่กันสักหน่อย?" เขาถามขึ้นมา

“เข้าใจแล้ว”

ฉันตามนีกี้ไปที่หอพักพิเศษของแผนกฮีโร่

หอพักพิเศษของแผนกฮีโร่เป็นพื้นที่ที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางตามหลักการของสถาบันการศึกษาอย่างชัดเจน โดยให้ที่อยู่อาศัยแก่นักเรียน 10 อันดับแรกเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึง อายุ สถานะ หรือเชื้อชาติ

“เข้าไปข้างในกันเถอะ” นีกี้กล่าวพร้อมกับเปิดประตูเข้าไปในห้องและก้าวเข้าไปข้างใน

ฉันเดินตามเขาไป

ในห้องเต็มไปด้วยใบหน้าที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี พีล, จางวูฮี, ไอชา, แอนดรูว์, เอชิลด์

นอกจากนีกี้และผมแล้ว ยังมีคนอยู่ทั้งหมดเจ็ดคน

'แอนดรูว์ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มในเรื่องดั้งเดิม'

ดูเหมือนว่าอนาคตจะถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

แต่เรื่องนี้มันเข้าทางผมมาก แอนดรูว์สุดยอดนักมายากลในหมู่นักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง มีความสามารถเป็นอย่างมาก

เขาอาจพิสูจน์ได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่มีค่าต่อการสืบสวนมากกว่าที่จะเป็นอุปสรรค

'มาดูกันว่าสิ่งต่างๆมันเป็นยังไงก่อนที่จะตัดสินใจอะไร'

แอนดรูว์ผู้น่าสงสาร มักจะปรากฏตัวในทุกที่ที่ไอชาไป

ความรักของวัยรุ่นที่ไม่สมหวังมันค่อนข้างขมขื่น

“ยินดีที่ได้พบทุกคน” ฉันทักทายออกไป ซึ่งพีลตอบกลับมาด้วยความลังเลเล็กน้อย

สายตาของสมาชิกคนอื่นๆจ้องมาที่ฉัน สีหน้าของพวกเขาค่อนข้างคลุมเครือ

'พวกเขารู้แผนการเกาะพวกเขากินของฉันแล้วหรือยัง' ฉันอยากรู้จริงๆ

และฉันสามารถเข้าใจได้ว่าทำไม

ในบรรดานักเรียน 200 คนมันแทบจะไม่ยุติธรรมสำหรับ 10 อันดับแรกที่จะแบ่งปันความสำเร็จของพวกเขากับคนที่อยู่ในอันดับที่ 181 เช่นฉัน

“ธีโอ นายนั่งตรงนี้ก็ได้” นีกี้พูดพร้อมกับวางเก้าอี้ไว้ตรงหน้าของฉัน

มันเป็นเก้าอี้ที่มีคุณภาพสูง หากเทียบกับเก้าอี้ที่อยู่ในห้องของฉันเอง

นีกี้ไม่ได้ซื้อมันด้วยเงินของเขาเองอย่างแน่นอน

ความแตกต่างในหอพักของนักเรียนอันดับสูงนั้น ชัดเจนแม้ในเรื่องของเฟอร์นิเจอร์

“นายบอกว่ามันจะเป็นการสนทนาระหว่างเราสองคน แต่มันมีคนอื่นอยู่ที่นี่นะ” ฉันชี้ไปที่พวกเขาพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ที่เสนอให้อย่างสง่างาม

นีกี้กระแอมในลำคอและเริ่มพูด “ฉันขอโทษนะ ธีโอ มันเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก อย่างที่นายอาจสังเกตเห็น เรายังจับตัวคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดันเจี้ยนเวทมนตร์ไม่ได้”

“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น” ฉันตอบทันที

ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แม้ในฐานะคนที่เกาะพวกเขากิน

"หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาจารย์หลายคนได้จัดตั้งทีมสืบสวนที่ปลอมตัวขึ้นมา เราตรวจสอบอาจารย์ทุกคนอย่างละเอียดเนื่องจากไม่มีสัญญาณว่าเป็นการแทรกแซงจากภายนอก แต่จนถึงตอนนี้ เรายังไม่พบเบาะแสใดๆเกี่ยวกับคนร้ายเลย "

นีกี้มีสีหน้าบูดบึ้งในตอนนี้

แน่นอน มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะไม่พบเบาะแสใดๆ

คนร้ายจะต้องจัดการกับหลักฐานแวดล้อมโดยใช้สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ระดับสูง ทำให้เป็นเรื่องท้าทายที่จะตอบโต้ แม้จะมีการเตรียมการที่มากเพียงพอ

ฉันเหลือบมองนีกี้ และดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจความคิดของฉันได้

“ดังนั้น ฉันจึงเชื่อว่าคนร้ายจะต้องอยู่ในหมู่นักเรียน” เขากล่าวสรุป

“นั่นมันเป็นไปได้” ฉันพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก

ในเนื้อเรื่องดั้งเดิม คนร้ายจะถูกจับกุมภายในวันศุกร์ที่จะถึงนี้

แม้ว่าผมจะไม่ได้เปิดโปงอาชญากรเหล่านี้ แต่พวกเขาก็จะถูกจับได้ในที่สุด

ไม่มีใครเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ ดังนั้นการเลือกที่จะเงียบมันไม่ทำได้ทำให้ฉันรู้สึกต้องรับผิดชอบอะไร

ผมกรอกสายตาไปที่สมาชิกที่เหลือ

“แล้ว ทำไมนายถึงเรียกฉันมาที่นี่?”

น่าจะเป็นเรื่องการขอเข้าร่วมทีมสืบสวนของพวกเขา แต่ผมคงไม่ใช่คนแรกที่จะไปพูดถึงเรื่องนี้

สถานการณ์นี้จะดีขึ้นหากพวกเขาเริ่มต้นมันด้วยความใจร้อน

อย่างไรก็ตาม สายตาที่เหล่าสมาชิกมองมาที่ฉันมันดูแปลกๆ

'เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?'

ให้ฉันทำอะไรได้ง่ายกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ?

หากฉันได้โชว์ร่างพิเศษระดับสาม อย่างน้อยพวกเขาก็น่าจะมีข้อพิจารณาฉันดีๆได้เล็กน้อย

“เฮ้” พีลเรียกฉันด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

"อะไร?"

เธอถอนหายใจลึกๆก่อนที่จะพูดออกมา "ฉันไม่มีหลักฐานอะไร แต่ฉันจะพูดตรงๆนะ"

"เอาเลย" ฉันให้เธอพูดต่อ

พีลกัดริมฝีปากของเธอแน่น “มันไม่ใช่นาย ใช่ไหม?”

เธอพูดเรื่องไร้สาระอะไรออกมาเนี่ย?

ฉันจ้องไปที่เธอ “ฉันยังไม่เข้าใจ พูดอีกทีสิ”

“นาย... ไม่ใช่คนร้ายที่ทำให้เกิดเรื่องตอนดันเจี้ยนเวทมนตร์ ใช่ไหม?” พีลยังคงสบตากับผม มันแสดงให้เห็นถึงความจริงจังของเธอ

"อ่า.."

...คิดจะไปเกาะเขากิน ฉันคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้ได้ไง

สิ่งต่างๆมันผิดไปจากที่คิดขนาดนี้ได้อย่างไร?

ฮ่าาา · · · ·

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ

"ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้น?"

“เพราะนายเปลี่ยนไปมากเกินไปภายในระยะเวลาอันสั้น มันเหมือนกับว่าเวลาจะไหลไม่เหมือนกันโดยเฉพาะนายคนเดียว นายได้ทำข้อตกลงกับอาร์คเดม่อนไปหรือยัง? มีเพียงคนที่ทำอย่างนั้นที่จะเปลี่ยนไปได้เร็วขนาดนี้”

"ฉันเพิ่งได้รับคุณลักษณะพิเศษใหม่มา"

อาร์คเดม่อนเหรอ?

ไร้สาระสิ้นดี

ดวงตาหยั่งรู้ของอาร์ชเดมอนนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

มีอัจฉริยะอยู่ทั่วทั้งทวีปที่จะขายวิญญาณของพวกเขาเพื่อทำข้อตกลงนี้

“แต่คำอธิบายแค่นั้นมันยังไม่เพียงพอ” พีลกล่าว สายตาของเธอได้จับจ้องไปยังธีโอ

ดวงตาของเธอลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ

“ไม่มีคุณลักษณะพิเศษใดที่สามารถเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของบุคคลได้อย่างรวดเร็ว ความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมที่นายแสดงในดันเจี้ยนเวทย์มนต์และท่าทางอันสงบที่นายแสดงในสถานการณ์ที่รุนแรง - มันน่ามหัศจรรย์เกินไป”

พีลได้สังเกตฮีโร่ที่ทำงานอยู่มามากมาย แม้ว่าจะได้พบกับหลายคนที่อยู่ใน 10 อันดับแรกก็ตาม

แต่ก็ไม่มีใครเทียบได้กับธีโอ

แม้ว่าเขาจะไม่มีความแข็งแกร่ง แต่เขาก็คล้ายกับซูเปอร์ฮีโร่จากเทพนิยาย

การเปลี่ยนแปลงของเขามันไม่ธรรมดาเลย

อย่างไรก็ตามหากธีโอได้ทำข้อตกลงกับปีศาจ ทุกอย่างก็จะคลี่คลาย

พีลรู้ดีว่าผู้คนเปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อพวกเขาทำสัญญากับปีศาจ

เพียงแค่นึกถึงความน่าสะพรึงกลัวในช่วงเวลานั้นมันก็เพียงพอที่จะทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังเสียสติ

“... ตอนนี้นายยังหันหลังกลับได้นะ บอกความจริงมาเถอะ” พีลกดดันฉันมากขึ้นพร้อมกับกัดริมฝีปากตัวเอง

มันเป็นภาพที่เธอภาคภูมิใจเสมอและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณการแข่งขันที่ชอบธรรม แต่มันไม่เคยปรากฏมาให้คนอื่นได้เห็น

แต่ธีโอเพียงแค่จ้องกลับมาที่เธอด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า โดยไม่พูดอะไรทั้งนั้น

สายตาที่เศร้าโศกของเขาทำลายความมีเหตุผลที่เหลืออยู่สุดท้ายของเธอ

"พูดสิ!"

เสียงกรีดร้องของพีลปะทุขึ้นราวกับเสียงคร่ำครวญ ทำให้สมาชิกคนอื่นๆจ้องมองมาที่ฉันด้วยความหวาดกลัว

จิตใจที่เดือดพล่านของฉันเย็นลงอย่างรวดเร็ว

... พวกเขาค่อนข้างเกรงใจที่จะเผชิญหน้ากับฉันโดยตรงแทนที่จะวางแผนลับหลังฉัน บอกเป็นนัยว่าเรื่องนี้มันยังสามารถแก้ไขได้

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นยอดมนุษย์ในอนาคต.....แต่พวกเขาก็ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนกลางของ พวกเขาเป็นเพียงแค่เด็กๆ

พวกเขามีอารมณ์และขาดประสบการณ์มาก โดยธรรมชาติแล้วพวกเขาไม่สามารถเข้าใจปัญหาที่สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ชั้นสูงสามารถปลดปล่อยออกมาได้

ไม่พบสัญญาณว่ามีการแทรกแซงจากภายนอก

แม้จะมีการตรวจสอบเหล่าอาจารย์ แต่ก็ไม่มีแม้แต่เบาะแสเล็กๆน้อยๆ ที่แสดงให้เห็นว่าคนร้ายจะต้องเป็นนักเรียน

มันเป็นการสรุปที่เรียบง่ายแต่ก็มีเหตุผล

แม้ว่าฉันจะโกรธมาก แต่ฉันก็เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวฉันในระดับหนึ่ง

เหนือสิ่งอื่นใด มีแนวโน้มว่าจะไม่มีใครอยู่นอกสถานที่เช่นเดียวกับฉันในสถาบันการศึกษาในขณะนี้

ผู้ร้ายมักจะมีพฤติกรรมที่เห็นได้ชัดในที่เกิดเหตุเพื่อเบี่ยงเบนความสงสัย

ฉันมีความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ในขณะที่พวกเขายังคงไม่รู้อะไรเลย

“ฉันไม่ใช่ผู้ร้าย และไม่ได้ทำข้อตกลงกับปีศาจ” ฉันกล่าวมันไปอย่างแน่วแน่

อย่างไรก็ตาม จะมีผลที่ตามมาสำหรับการสงสัยใครบางคนอย่างไม่มีหลักฐาน

เรื่องนี้ร้ายแรงเกินกว่าที่จะถูกยกเลิกเพียงเพราะพวกเขายังเด็ก

“นายยังคง...” พีลยังคงกล่าวต่อไป

“ให้เวลาฉันสองวัน แล้วฉันจะจับตัวคนร้ายที่แท้จริงที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดันเจี้ยนเวทมนตร์” ฉันพูดแทรกเธอขึ้นมา

"อะไรนะ?"

เสียงของพีลเริ่มสั่นสะท้าน

“เธอปากมากแต่หูหนวกเหรอ? ถ้าเธอให้เวลาฉันสองวัน ฉันจะเปิดโปงผู้ร้ายตัวจริงที่ก่อเรื่องตอนเหตุการณ์ดันเจี้ยนเวทมนตร์”

"นายวางแผนอะไร...

"แต่จำไว้เรื่องนึงนะ ฉันจะไม่ลืมความอัปยศอดสูในวันนี้อย่างแน่นอน ” ฉันประกาศพร้อมกับลุกขึ้นจากที่นั่งและออกจากห้องไป...

***

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด