ตอนที่แล้วตอน 223 โรงงานทางการทหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 225 ร้านขายยา(ฟรี)

ตอนที่ 224 ส่งมอบอาวุธ(ฟรี)


(งดสองวันนะครับออกต่างจังหวัดครับ)

เช้าของวันใหม่

ตูม!!

เต่าทมิฬกำลังก้าวเดินไปข้างหน้า และเปลี่ยนทุกย่างก้าวของมันให้ราบเป็นหน้ากอง

มันใช้พลังเปลี่ยนเส้นทางข้างหน้าให้กลายเป็นถนน

ในเวลานี้ที่เมืองเต่าทมิฬ

ที่ชั้นสองของปราการซานไห่ เป็นพื้นที่พักอาศัยของทหารที่ประจำที่อยู่ที่นี่

และช่วงที่ฟ้าใกล้จะสว่างเต็มที่

ปัง!!

เสียงประตูที่ถูกเปิดออกอย่างรุนแรงดังขึ้น

วันนี้เว่ยกังเข้ามาตรวจดูความเรียบร้อยก่อนสิบนาที และเข้าไปดูพื้นที่พักด้วยสีหน้าเย็นชา

เสียงเปิดประตูเสียงดังทำให้ทหารที่หลับอยู่ตื่นขึ้น

ในหอพักของปราการซานไห่นั้นจะมีเตียงเรียงกันเป็นแถวและเว้นห่างกันอย่างเป็นระเบียบหากทหารลุกตื่นขึ้นมาก็พร้อมยืนตรงข้างเตียงได้เลย

ที่อีกฝั่งของหอพักจะเป็นพื้นที่ห้องน้ำและห้องซักล้าง มีอ่างล้างหน้าแถวยาวพร้อมกับของใช้ส่วนตัวเช่นแปรงสีฟันของทหารวางอยู่บนชั้นหน้าอ่างล้างหน้า

แปรงสีฟันเองเป็นสิ่งที่มู่เหลียงสร้างขึ้น มันทำมาจากขนของสัตว์และใยของแมงมุม

ยาสีฟันถูกทำขึ้นมาจากผงถ่านซึ่งมันใช้ทำความสะอาดฟันได้เหมือนกัน

“นี้มันเป็นเวลาอะไรแล้ว ทำไมยังถึงนอนกันอยู่อีก!”

เว่ยกังตะโกนเสียงดัง ด้วยใบหน้าที่ขึงขัง ทำให้ทหารที่ยังง่วงนอนอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่นออกจากภวังทันที

เว่ยกังมองไปรอบๆ และพูดอย่างเคร่งขรึม

“ให้เวลาทุกคนครึ่งกองไฟ ทำความสะอาดทุกอย่างให้เรียบร้อย หากฉันเจออะไรไม่เข้าตา ตารางการฝึกตอนเช้าจะเพิ่มเป็นสองเท่า!”

“รับทราบ!”

ทุกคนในห้องตอบที่ละคนและไม่พร้อมเพรียงกัน

“พวกแกไม่ได้กินมื้อเช้ากันมารึไง! ตอบยังกับพวกปวกเปียก!!”

นั้นก็ถูกต้องทุกคนยังไม่ได้กินมื้อเช้าเลยด้วยซ้ำ

“รับทราบ!!”

ครั้งนี้ทุกคนตอบอย่างพร้อมเพรีนงกันทันที

“ดี ค่อยดูมีพลังขึ้นมาหน่อย”

เว่ยกังหันหลังแล้วเดินออกไปด้วยสีหน้าขึงขัง

ทันทีที่เขาก้าวขาออกไป ทุกคนในหอพักก็เรียบจัดแจ้งเก็บกวาดทุกอย่างทันที

“เร็ว!! รีบจัดเตียงแล้วแต่งตัว!”

“เวรเอ๊ย! ฉันปูผ้าที่นอนไม่เก่งด้วย แบบนี้ซวยแน่!”

“นี้แกพูดเล่นรึไง อยู่มาต้องหลายังแล้วยังทำไม่เป็นอีก!”

ทั่วทั่งหอพักเกิดความวุ่นวายขึ้น สำหรับทหารเก่าที่มีประสบการณ์แล้วก็จัดการทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วและเสร็จเป็นกลุ่มแรกๆ

บ้างคนเริ่มที่จะมาล้างหน้าแปรงฟันแล้ว การแปรงฟันเริ่มจากเอาผงถ่านมาผสมกับน้ำเล็กน้อยก่อนที่จะใช้แปรงจุ่มลงไป แค่นี้ก็จะแปรงฟันได้แล้ว

พวกเขาแยกเขี้ยวและแปรงฟันอย่างรวดเร็ว จนฟันของพวกเขาดำสนิท

“นี้ แบบนี้มันจะทำให้ฟันสะอาดได้จริงงั้นหรอ”

ทหารใหม่ที่พึ่งมาประจำการรู้สึกสับสน

“ได้อยู่แล้ว  หลังแปรงฟันด้วยผงถ่านพวกนี้ฉันรู้สึกเลยว่าปากของฉันสะอาดขึ้น”

“ใช่มันดีมาก อย่างน้อยเสียงของฉันมันก็ไม่แย่เท่าเมื่อก่อน”

“ฮะๆๆ”

พื้นที่อ่างล้างหน้า มีเสียงของผู้คนหยอกล้อกัน

“หยุดเล่นกันได้แล้ว ฉันไม่อยากให้ตารางฝึกตอนเช้าเพิ่มขึ้น”

ชายสูงวัยมากประสบการณ์พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

สิบนาทีต่อมาเว่ยกังเดินเข้ามาในหอพักอีกครั้ง

เขาตะโกนด้วยสีหน้าจริงจัง

“ทุกคนจัดแถว”

พรึบ!!

เมื่อได้ยินเสียง ทุกคนยืนตรงหน้าเตียงของตัวเอง

เว่ยกังเริ่มสำรวจดูเตียงแต่ละคนอย่างละเอียด

และเขามีหยุดชะงักไปเล็กน้อยมองไปยังเตียงนอนหนึ่ง

พร้อมกับชี้ไปที่ผ้าปูที่นอน

“ใครนอนเตียงนี้!”

“ผมครับ”

เจ้าของเตียงก้าวออกมาอย่างกล้าหาญ

“ฉันเคยสอนวิธีการปูผ้าไปแล้วใช่รึป่าว!”

เว่ยกังถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“ครับ”

เจ้าของเตียงได้แต่ตอบอย่างขมขื่น

เว่ยกังมองและหรี่ตาลงพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำลง

“แล้วแบบนี้หมายความว่าไง…”

“มันยากเกินไป ผมยังไม่เข้าใจดีครับ…”

เจ้าของเตียงพยายามอธิบาย

“ยากเกินไป?”

สีหน้าของเว่ยกังถึงกับมืดครึ้มลง และตวาดออกมา

“แค่พับผ้ามันยากมาก!! แบบนี้คงไปคาดหวังให้ต่อสู้กับใครหน้าไหนไม่ได้แล้ว แบบนี้ใครจะปกป้องดูแลครอบครัวของแกที่อยู่ในเมืองได้!”

เจ้าของเตียงถึงกับคอหด

“ยืดตัวตรง! ทหารควรมีวินัยและปฏิบัติตัวให้สมกับเป็นชาตินักรบ!”

เว่ยกังขมวดคิ้วแน่น ก่อนที่จะเหลือบมองไปที่ทุกคนในห้อง พร้อมกับพูดเสียงดัง

“ทุกคนเป็นหน้าเป็นตาของเมืองเต่าทมิฬ ทำตัวปวกเปียกแบบนี้จะทำให้ศัตรูกลัวได้ยังไง!”

คำพูดเหล่านี้ได้สั่นสะเทือนไปถึงหัวใจของทหารทุกคนในหอพัก พวกเขาหลับตาและคิดภาพตาม

“หากว่าพวกแกคิดว่าที่นี่อยู่แล้วลำบาก ก็บอกฉันคนนี้มาซะ ฉันจะอนุญาตให้ออกจากกองทัพไปเอง”

เว่ยกังพูดพร้อมกับเหลือบมองไปยังทุกคนด้วยสายตาที่ไม่แยแส

“อย่าลืมว่า ชีวิตเป็นอยู่ตอนนี้มีได้เพราะอะไร”

ทหารทุกคนถึงกับชะงักไป

หลังจากเข้าร่วมกับกองทัพของเมืองเต่าทมิฬ พวกเขาก็ได้กินอาหารวันละ 3 มื้อ ได้กินผักสีเขียวที่ครั้งหนึ่งพวกเขาได้แต่ฝันใฝ่ว่าจะกินให้ได้สักวัน

ทุกคนรู้สึกทราบซึ้งในบุณคุณของมู่เหลียงอย่างมาก มันได้เพิ่มความรู้สึกทนงตนในการเป็นทหารของเมืองเต่าทมิฬมากขึ้นไปอีก

“ตอนนี้ ทุกคนไปรวมตัวกันที่สนามฝึกได้แล้ว ตารางฝึกตอนเช้าของวันนี้จะถูกเพิ่มเป็นสองเท่า!”

คำพูดของเว่ยกังดังก้องเข้าไปในโสตประสาทหูทุกคน

“รับทราบ!”

ทุกคนตอบอย่างพร้อมเพรียงโดยไม่มีท่าทางไม่พอใจออกมาเลย

เว่ยกังเคยกล่าวเอาไว้ว่าผิดหนึ่งคน ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมด

สิ่งนี้ช่วยทำให้ต่างคนต่างดูแลกัน ไม่ให้ทำเรื่องผิดพลาด

ห้านาทีต่อมา ทหารแห่งป้อมซานไห่ก็มารวมตัวกันที่สนามฝึก

สถานที่ฝึกนั้นอยู่เส้นทางหลักของเมืองชั้นนอก ซึ่งเป็นสนามฝึกประจำของกองทหาร

รูปแบบการฝึกตอนเช้านั้นง่ายๆ มีแค่วิดพื้นแบบเพิ่มน้ำหนัง ซิทอัพแบบถ่วงน้ำหนัก กระโดดตบแบบถ่วงน้ำหนัก

จะให้เข้าใจว่าเพิ่มน้ำหนักยังไง อย่างวิดพื้นจะมีแผ่นหินขนาดใหญ่วางอยู่บนหลังเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้มากขึ้นไปอีก

น้ำหนักจะมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคน

“ในเมื่อมากันครบแล้ว เริ่มฝึกตอนเช้าได้”

เว่ยกังออกคำสั่งเสียงดังสนั่น

ฮึบ!! ฮา!!

ทุกคนเริ่มแบกหินขึ้นมาบนร่างกาย และเริ่มออกกำลังกาย

“ในที่สุด ก็เริ่มจะดูเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น”

เว่ยกังบ่นออกมาอย่างแผ่วเบา

จากนั้นก็มีทหารจากหน่วยอื่นวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรีบร้อน

“แม่ทัพเว่ยกัง ท่านเจ้าเมืองเรียกไปพบ”

“เข้าใจแล้ว”

เว่ยกังพยักหน้าตอบทันที

ก่อนที่เขาจะวิ่งขึ้นไปบนเนินสูง และผ่านด่านตรวจก่อนเข้าตำหนักเจ้าเมือง

เว่ยกังที่มาถึงประตูห้องทำงาน ก็จัดแจ้งเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเคาะประตู

“เข้ามา”

แอ๊ด!

หลังจากได้ยินเสียงตอบรับ เว่ยกังก็ผลักประตูเข้าไปทันที

มู่เหลียงกำลังเล่นเกล็ดสีม่วงอยู่ในมือ ซึ่งมันถูกถอดมาจากเสี่ยวจื่อ

เกล็ดสีม่วงพวกนี้มีพลังงานสายฟ้าไหลอยู่ และมู่เหลียงกำลังคิดว่าจะใช้สิ่งนี้ทำอะไรดี

เกราะสายฟ้างั้นหรอ หรือว่าจะทำแบตสำรอง

“ท่านเจ้าเมือง เรียกกระผมมาพบงั้นหรอครับ”

เว่ยกังกล่าวทักอย่างสุภาพ

“ตอนนี้เราใกล้ถึงเมืองปักษาแล้ว ฉันเองมีอาวุธใหม่ที่จะส่งให้กับกองทัพ”

มู่เหลียงวางเกล็ดสีม่วงลง และมองไปทางเว่ยกัง

“แม่ทัพเว่ยกังจงรับผิดชอบนำอาวุธจากโรงงานผลิตทางการทหารไปแจกจ่ายให้กับกองทัพทั้งสองที่เหลือด้วย”

นัยน์ตาของเว่ยกังฉายเป็นประกาย

“รับทราบ”

“มันคือหน้าไม้มันมีทั้งหมด 24 อัน แบ่งให้กับทุกกองทัพเท่าๆ กัน จะได้ทัพละ 8 อัน”

มู่เหลียงพูดขึ้นพร้อมกับผลักกองเอกสารให้เว่ยกัง และพูดอย่างใจเย็น

“นี้คือเอกสารรับอาวุธกับวิธีการใช้อาวุธ จงศึกษามันอย่างดี”

“รับทราบ”

เว่ยกันขานรับ

เขาหยิบเอกสารที่น่าจะเป็นคู่มือการใช้อาวุธขึ้นมาและอ่านทุกคำอย่างละเอียด

มู่เหลียงวางมือเท้ากับโต๊ะ และพูดต่อ

“ยังไงก็ตาม หลังจากที่ทหารได้รับหน้าไม้ไปแล้ว ให้พวกเขาฝึกการยิงแบบเป็นชุดยิงด้วย”

“รับทราบ”

เว่ยกังตอบด้วยความรู้สึกตื่นเต้น

“ไปได้แล้ว”

มู่เหลียงโบกมือ และหันมาสนใจเกล็ดสีม่วงต่อ

“งั้นขอตัวท่านเจ้าเมือง”

เว่ยกังทำความเคารพก่อนที่จะหันหลังเดินออกไปจากห้องทำงาน กลับไปที่สนามฝึกอีกครั้ง

“จะทำยังไงถึงจะถอดเกล็ดของเสี่ยวจื่อออกมาได้อีกนะ”

มู่เหลียงพูดกับตัวเองเบาๆ

……

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

เว่ยกังมาที่โรงงานทางการทหาร พร้อมกับใบคำสั่งรับเบิกอาวุธจากมู่เหลียง

เมื่อผ่านการตรวจสอบเรียบร้อบแล้ว เจ้าหน้าที่ทำการส่งมอบหน้าไม้ให้แล้วก็จากไปโดยไม่สนใจอะไรเว่ยกังอีกเลย

เว่ยกังกับไปที่ป้อมซานไห่ด้วยอารมณ์ที่รู้สึกอธิบายยากหลังจากเจอการกระทำเช่นนั้น

เขาเรียกเกาเฉากับซานหยางมาพบ

“นี้คืออาวุธประจำการใหม่ของกองทัพ หน้าไม้ทั้งหมด 24 อัน”

ซานหยางกับเกาเฉาหยิบหน้าไม้ขึ้นมาและสำรวจมันด้วยความตื่นเต้น

“พวกมันเป็นอาวุธวิญญาณทั้งหมดเลย และเป็นระดับต่ำ”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเว่ยกัง

“นี่มันมากเกินไปรึป่าว ที่จะให้อาวุธแบบนี้กับทุกคน”

ซานหยางตื่นเต้นมาก ทุกครั้งที่เขาสัมผัสไปบนหน้าไม้ เขารู้ได้เลยว่ามันมีมูลค่าหลายผลึกสัตว์อสูร

แต่น่าเสียดายที่เขาเป็นคนของเมืองเต่าทมิฬแล้ว ความคิดที่จะขโมยเอาไปขายนั้นได้หายไป ไม่งั้นศพเขาคงไม่สวยแน่

“เลิกคิดอะไรไร้สาระซะ”

เว่ยกังพูดเตือนสติ

“.....”

ซานหยางถึงกับเอามือขึ้นมาเกาหน้าเล็กน้อยด้วยความเขินอาย ที่เผลอปล่อยนิสัยเก่าออกมา

“นี่คือระเบียดและขั้นตอนการใช้อาวุธจากเจ้าเมือง อ่านมันและจดจำให้ขึ้นใจ”

เว่ยกังส่งกระดาษเอกสารให้กับทั้งสองคน

“ข้อ 1 หากไม่มีคำสั่งให้ใช้หน้าไม้ ห้ามนำออกมาใช้ทั้งสามป้อมปราการ”

“ข้อ 2 หากจงใจทำลายอาวุธ หรือรวมไปถึงลูกศร ลูกดอกหน้าไม้ และเครื่องแบบจะถูกจำคุก”

“ข้อ 3 ห้ามทำการนำอาวุธที่อยู่ในการควบคุมออกไปภายนอกเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนโทษประหารชีวิต”

“ข้อ 4….”

เกาเฉาและซานหยานอ่านทุกข้ออย่างตั้งใจ และอ่านซ้ำทวนอย่างละเอียด

เว่ยกังเลยพูดขึ้น

“แต่ละกองทัพจะได้หน้าไม้ 8 อัน พวกนายเอาไปเก็บไว้กับกองทัพตัวเองได้ และอย่าลืมจัดหาเวลาฝึกซ้อมใช้อาวุธให้กับทหารในกองทัพด้วย”

“เข้าใจแล้ว”

ซานหยานกับเกาเฉาตอบรับทันที และเตรียมที่จะสั่งให้คนของกองทัพตัวเองมาขนหน้าไม้กลับ

“จำเอาไว้ว่า เมื่อออกเวรทุกครั้งหน้าไม้ต้องถูกส่งกลับคืนคลังแสง”

เว่ยกังย้ำเตือนอีกครั้ง เพราะนี้เป็นสิ่งที่ต้องระวังให้ดี

ป้อมปราการทั้งสาม ต่างมีคลังแสงของตัวเองที่เก็บอาวุธ

เช่น ดาบ หน้าไม้ และลูกดอกหน้าไม้

ทหารที่ประจำการที่อยู่ในป้อมจะมีการเปลี่ยนกะเวรทุกสี่ชั่วโมง

เมื่อมีการเปลี่ยนกะเวร ทหารจะต้องคืนอาวุธให้กับคลังแสงทุกครั้ง และเมื่อใครมารับต่อจะต้องระบุตัวตนพร้อมกับลงทะเบียนเบิกอาวุธด้วย

เพื่อแน่ใจว่าของที่เบิกไปจะมีคนดูแล และไม่เสียหาย

“เข้าใจแล้ว”

ซานหยางกับเกาเฉาตอบรับอีกครั้ง

พวกเขาพาคนของตัวเองมาขนของกลับไปยังป้อมปราการที่ตัวเองดูแล และพร้อมที่จะฝึกใช้งานอาวุธนี้ต่อไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด