ตอนที่แล้วบทที่ 25 : ทีมที่เจ็ดตกอยู่ในภาวะวิกฤติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 27:คาถาน้ำแข็ง ∙ วิชาลับ:ห้องมนตราผลึกน้ำแข็ง

บทที่ 26 : ซาบุสะและฮาคุที่กำลังติดกับ


บทที่ 26 : ซาบุสะและฮาคุที่กำลังติดกับ

“อาจารย์ซาโตรุ!”

ทุกคนในทีมเจ็ดต่างดีใจมากเมื่อเห็นซาโตรุปรากฏตัวมาจากไหนก็ไม่รู้ พวกเขารู้สึกเป็นครั้งแรกเลยว่าแผ่นหลังของซาโตรุทั้งสูงและกว้างอย่างยิ่ง

ฮาคุได้แต่ตะโกนออกมาอย่างกังวล “คุณซาบุสะ!”

ช่วงเวลานี้ฮาคุกำลังฟุ้งซ่าน

ซาโตรุประสานมือเข้าด้วยกัน เปิดใช้งาน [ไสยเวทย์ไร้ขีดจำกัด] แล้วหายตัวไปในอากาศอันว่างเปล่า ส่วนซาสึเกะและซากุระที่ถูกจับเป็นตัวประกันก็หายตัวไปพร้อมๆ กันด้วย

ทั้งสามคนในทีมที่เจ็ดได้ถูกย้ายมารวมตัวกัน

จากนั้นซาโตรุปรากฏตัวขึ้นด้านหลังฮาคุ

“เร็วมาก!” ร่างกายที่บอบบางของฮาคุสั่นสะท้าน เขาได้ตอบสนองทันทีด้วยการประสานอินอย่างรวดเร็วด้วยมือเดียว ทว่าเมื่อเขากำลังจะหันหลังกลับ

"คาถาน้ำแข็ง..."

“ช้าเกินไปแล้ว” ซาโตรุยกเท้าขึ้นเตะก้นฮาคุ

“ป้าบ” ฮาคุถูกเตะล้มนอนราบลงไปกับพื้นอย่างแรง

การโจมตีแม้ไม่ได้พิเศษ แต่ก็มีประสิทธิภาพสูงมา

"ไม่เป็นไร ปลอดภัยกันแล้วนะเด็กๆ" ซาโตรุล้วงมือลงในกระเป๋า  เขาถืออมยิ้มไว้ในปากพร้อมกับเหยียบก้นของฮาคุ และมองไปที่ทีมที่เจ็ดที่ยืนอยู่ไกลออกไป

“ข...แข็งแกร่งมาก!”

ทุกคนในทีมที่เจ็ดตกตะลึงเมื่อมองไปที่ซาโตรุ ศัตรูที่ผลักพวกเขาไปสู่ทางตันนั้นกลับโดนซาโตรุทำให้พวกนั้นพ่ายแพ้ภายในไม่กี่วินาที

ซาสึเกะผู้อวดดีถึงกับตกตะลึง แววตาอันยากจะเชื่อปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

เมื่อครู่นี้ ความเร็วของอาจารย์ซาโตรุนั้นเร็วมาก เร็วมากจนเขาไม่สามารถจับมันได้แม้จะใช้เนตรวงแหวนโทโมเอะของเขาแล้วก็ตาม

ความเร็วนี้มันเหมือนกับการเคลื่อนย้ายมวลสารก็ไม่ปาน

หลังจากนั้น นารูโตะเขาก็ลุกขึ้นและชี้ไปที่ซาโตรุพร้อมกับตะโกนด้วยความโกรธว่า "ไอ้อาจารย์บ้า น่ารังเกียจจริงๆ ถ้าอาจารย์มาช้าไปหนึ่งก้าว พวกเราทุกคนคงได้ถูกกำจัดหมดแน่!"

เขาได้ใช้คาถาแยกเงาพันร่างเพื่อถ่วงเวลา แต่มันก็ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง

ทุกคนในทีมที่เจ็ดคิดว่าพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมามากกว่าแต่ก่อน แต่พอพวกเขาต่อสู้กับนินจาไร้สังกัดพวกนี้ พวกเขาก็ตระหนักอย่างแท้จริงว่าความแข็งแกร่งนั้นเป็นเช่นไร

ทีมที่เจ็ดยังอ่อนแอเกินไป

“ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เธอพูดเองเหรอ? ว่าเธอจะฆ่าศัตรูให้หมดเลย” ซาโตรุยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วมองทุกคนในทีมที่เจ็ดด้วยรอยยิ้ม

เขาอยู่ที่นี่มาตลอดเวลา เขาเองก็ได้ยินซาสึเกะและนารูโตะพูดอย่างมั่นใจว่าพวกเขาจะกำจัดศัตรูทั้งหมด

ไอ้เด็กแสบพวกนี้ช่างอวดดีจริงๆ

“ทั้งที่พูดออกมาด้วยความมั่นใจ บอกว่าจะฆ่าศัตรูให้หมด แต่คนหนึ่งกลับถูกทุบตีจนหมดสภาพ อีกคนก็เอาแต่ร้องเรียกหาอาจารย์ซาโตรุ ฮ่าๆ ตลกมากเลยว่าไหม?”

*ปัง*

เมื่อแรงตรงเท้าของซาโตรุเพิ่มขึ้น รอยแตกก็ปรากฏขึ้นบนดาดฟ้าสะพานและฮาคุก็จมลงกับพื้นทันที

ซากุระหน้าแดงเล็กน้อย แล้วพูดด้วยความโกรธ “หนูไม่ได้ทำแบบนั้นสักหน่อย!”

ความเขินอายปรากฏขึ้นในดวงตาของซาสึเกะ ใบหน้าของเขาแดงขึ้น และเขาก็หันศีรษะไปด้านข้างแล้วพ่นเสียงแห่งความไม่พอใจออกมา “เหอะ”

ก่อนหน้านี้เขามั่นใจมาก แต่กลับถูกศัตรูต้อนให้จนมุม จากนั้นเขาก็ถูกอาจารย์ซาโตรุหัวเราะเยาะ

ช่างน่าอายจริงๆ

นารูโตะกัดฟันแน่นแล้วพูดว่า "อาจารย์ซาโตรุ ถ้าอาจารย์ไม่ปรากฏตัวออกมา ผมคงเอาชนะพวกเขาไปนานแล้ว!"

“เห็นเธอยังมีแรงล้นเหลือแบบนี้ ฉันก็โล่งใจ” ซาโตรุยิ้มอย่างพึงพอใจ

พวกเด็กแสบสามคนนี้ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะเจ้าเด็กเก้าหาง

ส่วนซาสึเกะก็ถึงขั้นเปิดเนตรวงแหวนขั้นสองได้ด้วย

ทางด้านซากุระ…ก็พอใช้ได้

“คุณซาโตรุ แข็งแกร่งมากเลยนะ” มุมปากของฮาคุมีเลือดออกและมีรอยแผลใต้หน้ากากของเขา แม้ว่าร่างกายของเขาจะเจ็บปวดสาหัส แต่เขาก็ไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา

มันราวกับว่าเขาถูกผนึกไว้แล้ว เขาไม่สามารถแม้แต่จะขยับนิ้วได้

“เป็นหุ่นเชิดเหรอ? ทั้งที่เจ็บแต่กลับไม่ขยับเลยนะ” ซาโตรุก้าวเท้าของเขาอีกครั้ง และแรงผลักอันหนักหน่วงก็หยุดทั้งร่างกายของฮาคุเอาไว้

"ผมเป็นแค่เครื่องมือ" ฮาคุรู้สึกดี ตัวเขาระบมไปทั้งตัวแล้ว แต่มันไม่เจ็บเท่ากับยามที่เขาถูกทอดทิ้ง

ตัวเขาเป็นเพียงเครื่องมือ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึก และไม่จำเป็นต้องมีอารมณ์ใดๆ เป็นเพียงเครื่องมือในการทำงานให้สำเร็จ

เขาทำตามที่ซาบุสะต้องการ และเขาต้องการมอบทุกอย่างให้กับซาบุสะ

นี่คือวิถีนินจาของเขา

"เฮ้อ" ซาโตรุได้แต่ถอนหายใจออกมา “ไม่มีหัวใจเหลืออยู่แล้วสินะ กระทั่งความคิดที่อยากมีชีวิตก็ถูกทิ้งไปแล้ว”

ซาบุสะลุกขึ้นด้วยความอับอาย มีเลือดสีแดงไหลออกมาจากใบหน้าที่บวมแดง เขาจ้องมองไปที่ซาโตรุอย่างเย็นชา

"ไม่มีเครื่องมือใดที่สมบูรณ์แบบไปกว่าฮาคุแล้ว"

“เพราะงั้น... เอาเท้าของแกออกไปจากเครื่องมือของฉันซะ!” ซาบุสะหยิบคุไนขึ้นมาแล้วกระโดดไปหาซาโตรุ

“อย่าแสดงสีหน้าน่ากลัวแบบนี้สิ แม้ว่าเราจะเป็นศัตรูกัน แต่เรามาสนิทกันไว้เถอะ” ซาโตรุยกนิ้วขึ้น และคุไนที่แหลมคมก็หยุดอยู่ตรงหน้านิ้วของเขาราวกับมันกำลังถูกหยุดเวลา

“ถ้าแกมีเวลามาวุ่นวายเช่นนี้ แกควรกังวลเรื่องตาเฒ่าทาซึนะให้มากกว่านี้นะ” ซาบุสะดึงคุไนอีกตัวออกมาเพื่อตัดที่คอของซาโตรุ

ทว่าคุไนก็หยุดอยู่ตรงหน้าซาโตรุอีกครั้ง

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลหรอก ขยะทั้งสองที่ส่งมา ฉันได้จัดการมันไปนานแล้ว” ซาโตรุประสานมือของเขาเข้าด้วยกันและปลดปล่อยพลัง [ไสยเวทไร้ขีดจำกัด]

*ปึก*

นินจาชุดดำสองคนปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนก็ไม่ทราบ ร่างของพวกเขามีเลือดสีแดงหยดลงมา และคอของพวกเขาก็โค้งงออย่างแปลกประหลาด

เขาเดาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าคนพวกนี้วางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้

"จัดการไปแล้วเหรอ?" ซาบุสะผงะเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าชายชุดดำสองคนที่ตายบนพื้นคือนินจาที่เขาส่งออกไปก่อนหน้านี้จริงๆ

นั่นหมายความว่า...แผนล้มเหลว

แม้ว่ามันจะง่ายที่จะจัดการกับไอ้พวกเศษสวะตัวน้อยทั้งสามในทีมที่เจ็ด

แต่ซาโตรุ นินจากระหายเลือด...มีขีดจำกัดสายเลือดที่แปลกประหลาดเกินไป

การโจมตีของเขาไม่สามารถทะลุผ่านพลังที่มองไม่เห็นได้ สิ่งนี้ได้ปกคลุมไปทั่วร่างกายของซาโตรุ

อีกทั้งซาโตรุยังสามารถคัดลอกคาถานินจาได้อีก

การสู้กับซาโตรุต่อนั้นดูจะมีแต่จุดจบคือความตาย!

เป้าหมายภารกิจของเขาคือทาซึนะ เนื่องจากเขาล้มเหลว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับซาโตรุต่อไป

มีแต่ต้องถอยเท่านั้น

“ฮาคุ แกจะนอนจนถึงเมื่อไรกัน?” ซาบุสะกระโดดถอยหลัง ถอยออกห่างจากซาโตรุและเหลือบมองฮาคุที่ถูกซาโตรุเหยียบไว้

"ฉันสั่งให้ถอย!"

“ผมขอโทษ ทิ้งผมเถอะ” ฮาคุกัดริมฝีปากของเขาเบาๆ

ตอนนี้เขาขยับตัวไม่ได้แล้ว ตัวเขาเป็นเพียงภาระ

ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบแล้ว

ซาบุสะขมวดคิ้วอีกครั้ง และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “กำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร จงใช้ความสามารถของแกเพื่อออกไปจากที่นั่นเดี๋ยวนี้!”

ฮาคุขยับตัวไม่ได้แล้ว จะสั่งให้ทำอะไรกัน?

“ดูเจ้าหมอนี้สิ น่าขยะแขยงจริงๆ” ซาโตรุเอามือปิดปากราวกับกำลังกระซิบด้วยสีหน้ารังเกียจ "ฉันแข็งแกร่งเกินไปจนทำให้เขาแพ้ แต่เขาก็ยังเอาแต่โทษเธออยู่ เห็นหรือเปล่า?"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด