ตอนที่แล้วตอนที่ 1384 ตรอกข้างบาร์ที่ฉันบอกเธอ..
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1386 ..คุณเก็บมันเอาไว้เถอะ

ตอนที่ 1385 แล้วคุณจะรู้เอง.. เด็กน้อย


บนเรือบรรทุกสินค้าที่แล่นจากมหาสมุทรแอตแลนติกไปยังกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ในห้องที่มืดมิด ลูซี่ นักเรียนไฮสคูลจากอเมริกา ถูกขังอยู่บนเตียงไม้ที่เรียบง่าย ทั้งเวลานี้ตัวเธอเองได้กรีดร้องตะโกนดิ้นรนออกไป แต่ก็กลับไม่มีเสียง หรือสิ่งใดๆ ตอบสนองกลับมา ผลสุดท้ายเธอก็ตกลงไปอยู่ในความมืด และความกลัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เธอตะโกนจนเหนื่อย คอของเธอก็แหบแห้ง และเธอยังขยับตัวไม่ได้แม้แต่จะพยายามดิ้นรนไปแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายเธอก็ได้แต่บังคับให้ตัวเองสงบลง และพยายามวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ของตัวเอง

เธอจําได้ว่าเธอได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจาก เอมิลี่ เพื่อนสนิทของเธอ และมาถึงตรอกใกล้ๆ บาร์ ตามที่กล่าวไว้ แล้วจากนั้นก็ถูกคนพวกนั้นขวางเอาไว้ในตรอก และชายร่างใหญ่สองคน เข้ามาควบคุมเธอ และเธอ.. หมดสติไป

เอมิลี่ โกหกเธอ!

แล้วทำไม เอมิลี่ ถึงต้องโกหกเธอด้วย หรือว่าเธอเป็นพวกเดียวกับพวกที่ลักพาตัวเธอ เดี๋ยวก่อน.. มันเป็นไปได้อย่างไร พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกัน.. ที่รู้จักกันดีที่สุด ทั้ง เอมิลี่ ก็ไม่ใช่คนเลวด้วย!

หรือ.. เอมิลี่ ถูกข่มขู่?

เธอจำได้ว่า เอมิลี่ ได้ร้องไห้ออกมาตลอดเวลา และปากก็พูดว่า ‘ขอโทษ’ แน่ๆ เป็น เอมิลี่ ที่โดน พีท คนนั้นข่มขู่ และด้วยความกลัว จึงร่วมมือโดยใช้อุบายของ พีท หลอกให้ ลูซี่ เข้ามาในตรอกเล็กๆ นั่น

หลังจากคิดมาถึงจุดนี้แล้ว ลูซี่ ก็รู้สึกพูดไม่ออกแล้ว ก่อนที่พวกเธอจะออกไปข้างนอก พวกเธอต่างให้สัญญากับครอบครัวว่า.. จะไม่ไปในสถานที่ที่วุ่นวายนั่น และจะไม่ไปพูดคุยใดๆ กับคนแปลกหน้าตา สุดท้ายพอมาถึง เอมิลี่ ก็เข้าพูดคุยกับ พีท ไปที่บาร์ สร้างปัญหา และทําให้ ลูซี่ ต้องเข้ามาเกี่ยวพันด้วย

ไอ้เพื่อนโง่เอ๊ย!

ลูซี่ อยากร้องไห้แต่มันกลับ ..ไม่มีน้ำตา หากรู้แต่เนิ่นๆ เธอก็จะไม่ไปเที่ยวยุโรปตะวันออกกับ เอมิลี่ แล้ว บางครั้งเธอเองก็ระมัดระวัง แต่แล้วก็ต้านความเอาแต่ใจของไอ้เพื่อนโง่ๆ คนนี้ของเธอไม่ได้!

ลูซี่ รู้สึกเศร้า และก็โกรธมากอยู่พักใหญ่ และรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ขาดความรับผิดชอบ ถ้าตอนนั้นเธอไม่ได้รู้สึกเวียนหัวเกินไป เธอก็ควรหยุด เอมิลี่ อย่างเด็ดขาดได้ สุดท้าย.. เพราะเธอรู้สึกไม่สบายในเวลานั้น จึงไม่ได้หยุด เอมิลี่ กล่าวคือเธอประมาท และก่อให้เกิดผลลัพธ์อันขมขื่น…

เธอถูกลักพาตัว แล้ว.. พวกที่ลักพาตัวเธอจะทำยังไงกับเธอ? แล้วนี่จะพาเธอไปไหน? แล้ว.. เธออยู่ที่ไหน?

พอคิดแบบนี้แล้ว เธอก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนกกับอนาคตที่ไม่แน่นอน.. ของตัวเอง อนาคตของเธอ.. เธอจะยังคงไปโรงเรียนได้อยู่อีกไหม จะได้พบเจอพ่อแม่ไหม หรือเธอจะต้องตาย?

ขณะที่เธอกําลังตื่นตระหนกอยู่นั้น ประตูตู้คอนเทนเนอร์ก็ถูกเปิดออกจากด้านนอกโดยใครบางคน จากนั้นได้เห็นว่ามีคนเดินเข้ามาพร้อมกับไฟฉาย ทั้งคู่สวมหน้ากาก หนึ่งในนั้นยังสวมเสื้อกาวน์สีขาวเหมือนหมอ

ในที่สุดก็เห็นคนมาแล้ว ลูซี่ ก็รีบเงยหน้าขึ้น แล้วพูดว่า : “พวกคุณเป็นใคร ฉันอยู่ที่ไหน พวกคุณได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะ!”

ทั้งสองคนที่เดินเข้ามา ต่างเงียบกริบ พวกเขาไม่ได้พูดอะไร เอาแต่เดินมุ่งตรงไปที่เตียงของ ลูซี่ คนหนึ่งถือไฟฉาย เพื่อช่วยส่องสว่าง และคนที่คล้ายหมอคนนั้นได้เปิดกระเป๋าหนัง เห็นเข็มฉีดยา และขวดยาอยู่ข้างใน

จากนั้นเขาก็หยิบเข็มฉีดยาออกมา และดูเหมือนต้องการจะฉีดยาบางอย่างให้กับ ลูซี่

ลูซี่ เมื่อเห็นเช่นนี้ก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ : “นี่คืออะไร พวกคุณจะทําอะไรฉัน ฉันกำลังถามพวกคุณอยู่นะ พวกคุณเองช่วยๆ ตอบฉันหน่อยได้ไหม?”

ด้วยความกลัว และความตกใจ ลูซี่ เองเกือบที่จะเป็นลมล้มพับลงไป

แต่สองคนนั้นยังคงไม่สนใจใดๆ เธอ คนที่ดูเหมือนหมอคนนั้นได้ขยิบตา อีกคนก็วางไฟฉายลงไว้ข้างๆ แล้วก้าวไปข้างหน้า กดตัว ลูซี่ ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ ลูซี่ ดิ้นรน

คนที่ดูเหมือนหมอคนนั้นยกแขนของ ลูซี่ ขึ้น และเริ่มฉีดยาให้ ลูซี่

ความหวาดกลัวในตอนนี้ทำให้ ลูซี่ พยายามดิ้นรน แต่เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้คุ้นเคยกันดีแล้วกับเรื่องนี้ และไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้ต่อสู้เลย ในไม่ช้ายาก็ถูกฉีดเข้าไปในร่างกายของ ลูซี่ และจู่ๆ ลูซี่ ก็รู้สึกเหมือนว่าโลกมันหมุนไปมารอบๆ

“คุณถูกพวกเราฉีดยาพิษแล้ว ต่อไปคุณจะเจ็บปวดมาก ถ้าคุณไม่เชื่อฟัง ก็จะไม่ได้รับยาแก้พิษ ถ้าคุณเชื่อฟัง และทำตามที่เราบอก คุณก็จะทําอะไรก็ได้ ทั้งยังได้รับยาแก้พิษ เฮ้.. ได้ยินไหม?”

ในความสับสน คนที่ดูเหมือนหมอคนนั้น ได้ใช้มือตบหน้า ลูซี่ แล้วพูด

พอพูดจบสองคนนี้ก็เก็บข้าวของแล้วเดินออกไป

ปึ้ง!

ประตูตู้คอนเทนเนอร์ถูกปิด และความมืดมิดก็เข้ามาเยือนอีกครั้ง

ลูซี่ เองก็ตกลงไปอยู่ในความมืดอีกครั้ง และยาที่เพิ่งฉีดเข้ามาก็ทําให้เธอรู้สึกเวียนหัว และเธอก็จมดิ่งลงไปสู่ก้นบึ้งอันไร้ขอบเขต...

เมื่อ ลูซี่ ตื่นขึ้นมา เธอพบว่าโซ่บนร่างกายของเธอถูกปลดออกแล้ว เธอสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระแล้วในตู้คอนเทนเนอร์นี้ แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่น่ายินดี เพราะในเวลานี้เธอรู้สึกอึดอัดทั้งตัว และปากเองก็แห้ง เธอมีความปรารถนาที่ยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างชัดเจน ตอนนี้เธอ.. มันเหมือนราวกับว่าคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำมาเป็นเวลาสามวัน และต้องการน้ำอย่างเร่งด่วน ความรู้สึกไม่สบายนี้ มันราวกับเป็นเนื้อที่เน่าเปื่อยลึกจากกระดูก

“ช่วยฉันด้วย!”

ลูซี่ ได้ฝืนร้องออกมาอย่างขมขื่น เธอวิ่งไปที่ประตูตู้คอนเทนเนอร์ และตบประตูไปอย่างสิ้นหวัง

แต่ต่อให้ปล่อยเธอร้องตะโกนออกไปอย่างไร ก็ไม่มีใคร.. ให้ความสนใจเธอ

ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว แต่หลังจากที่เธอเหนื่อย เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ ใช่.. ดูเหมือนเธอจะเหนื่อยง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือ และเท้าของเธอรู้สึกอ่อนแรง เธอได้ทรุดตัวลงไปกับพื้น และไม่สามารถตบประตู หรือร้องตะโกนออกไปใดๆ ได้อีก เธอมีเพียงความปรารถนาแปลกๆ นั้น ที่มันยังคงทรมานเธออยู่ เธอเกาผิวหนังตามร่างกายด้วยมือของเธอ แต่ความรู้สึกคันนี้มันราวกับอยู่ลึกเข้าไปในกระดูก แม้ว่าเธอจะเกาผิวหนัง และเนื้อทั้งหมดของเธอ ก็ไม่สามารถหยุดอาการแปลกๆ เหล่านี้ได้เลย และในที่สุดเธอก็ล้มลงไปกับพื้น ชักเกร็งขึ้นมา

ความเจ็บปวดทั้งหมดนี้ กล่าวได้เลยว่า ..มัน ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เลยจริงๆ

ดังนั้นความคิดเดียวที่เหลืออยู่ของเธอ.. ก็คือเธอสามารถบรรเทาความเจ็บปวดนี้ได้ ตราบใดที่ความเจ็บปวดนี้บรรเทาลงเธอเองก็ยินดีที่จะทำทุกอย่างที่พวกเขาขอให้เธอทํา

และนี่อาจเป็นความตั้งใจของผู้ที่ลักพาตัว ที่ต้องการจะใช้ยาอันน่ากลัวนี้เพื่อมาควบคุมเธอ

พวกเขาดูเหมือนจะคำนวนเวลาได้ดี หลังจากที่ ลูซี่ จมลงไปอย่างสมบูรณ์ ประตูตู้คอนเทนเนอร์ก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง คนที่ดูเหมือนหมอคนนั้นถือไฟฉายในมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งถืออาหาร และน้ำ เดินเข้ามาถึง ลูซี่ จากนั้นเขาได้นั่งยองๆ ลง

“โปรดช่วยฉันด้วย!” ลูซี่ พูดอย่างอ่อนแรงกับชายคนนั้น

ชายที่ดูเหมือนหมอคนนั้นพูดว่า : “ฉันจะให้ยาแก้พิษกับคุณในตอนนี้ แล้วคุณจะเชื่อฟังไหม?”

ลูซี่ รีบพยักหน้า : “ฉันเชื่อฟัง สิ่งที่คุณพูดฉันจะเชื่อฟัง!”

ชายที่ดูเหมือนหมอหยิบยาออกมายัดเข้าปาก ลูซี่, ลูซี่ เองรีบเคี้ยวแล้วกลืนลงท้องอย่างรวดเร็ว

จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก.. พอหลังจากยาแก้พิษลงท้องความเจ็บปวดของ ลูซี่ ก็คลี่คลายลง ลูซี่ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมายาวๆ ด้วยความโล่งอก ความรู้สึกว่าร่างกายปกติดีนี่มันช่างดีเหลือเกิน และแน่นอนเธอไม่ต้องการที่จะกลับไปสู่สภาพความเจ็บปวดอย่างเมื่อกี้อีกต่อไปแล้ว ตราบใดที่ไม่ทำให้เธอกลับไปสู่สภาพที่เจ็บปวดอย่างเมื่อกี้นี้อีก ..จะให้เธอทําอะไร เธอก็ย่อมยินดีเต็มใจทำทั้งนั้น

“คุณอย่าได้คิดว่านี่เป็นยาแก้พิษ แล้วคุณจะหายจากพิษนี้ ยานี้มันเป็นแค่ยาแก้พิษชั่วคราวเท่านั้น และมันอยู่ได้เพียงแค่วันเดียว ถ้าผ่านไปหนึ่งวันหากคุณยังไม่ได้รับยาแก้ คุณก็จะถูกทรมานอีกครั้ง ดังนั้นอย่าคิดทำอะไรเสี่ยงๆ ทั้งในเวลานี้คุณจะไปทําอะไรก็ทําไป แต่ขออย่างได้คิดสั้นแล้วกัน ..เข้าใจไหม?” ชายที่ดูเหมือนหมอ ได้กล่าวออกมา

ลูซี่ พยักหน้า และน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาด้วยเพราะความอึดอัด คาดไม่ถึงเลยว่าเป็นเพียงยาแก้พิษชั่วคราวเท่านั้น ต่อไปเธออาจจะถูกคนอื่นควบคุมเช่นนี้ในอนาคตอีก หรือไม่กัน?

“แล้ว.. พวกคุณอยากให้ฉันทําอะไร?” ลูซี่ ถาม

ชายที่ดูเหมือนหมอ กล่าวว่า : “กินข้าวซะ นอนหลับให้สบายเถอะ เดี๋ยวหลังจากตื่นมา คุณจะรู้เอง.. เด็กน้อย”

พูดจบ ชายที่ดูเหมือนหมอก็ลุกขึ้นหันหลังออกไป แล้วปิดประตูตู้คอนเทนเนอร์ทันที

ลูซี่ ลุกขึ้นมา และกินข้าว โดยรอบตัวเธอสัมผัสได้แต่ความมืดเพียงเท่านั้น แล้วจากนั้นก็กลับไปที่เตียงไม้ และนอนหลับไป

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่หลังจากนั้น ลูซี่ก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาโดยชายร่างใหญ่คนหนึ่ง ที่เปิดประตูเข้ามา และร้องตะโกนใส่เธอว่า : “ออกมา ถึงเวลาลงจากเรือแล้ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด