ตอนที่แล้วบทที่ 10 : ชิมูระ ดันโซผู้ยกย่องให้ ยางิว ซาโตรุเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12 : ความคิดของคุเรไน

บทที่ 11 : ร้านปิ้งย่างที่ดีที่สุดในหมู่บ้าน!


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

(วันนี้ลงถึง20นะคะ เรทอัพเรื่องนี้ประมาณวันละ 5-10 ตอน ช่วง 21-24 หยุดเพราะไปสิงค์โปรนะคะ)

บทที่ 11 : ร้านปิ้งย่างที่ดีที่สุดในหมู่บ้าน!

คนแน่นอยู่เต็มทั่วร้าน และลูกค้าหน้าใหม่ในตอนนี้ก็คือเกะนินกับอาจารย์ของแต่ละทีม

“อาจารย์ซาโตรุช้ามาก ฉันหิวและเหนื่อยมากแล้วนะ” ซากุระนั่งบนเก้าอี้ กุมท้องที่ร้องดังกึกก้องของเธอไว้ และมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังด้วยใบหน้าอันแสนเหนื่อยล้า

“ตกลงกันว่าให้เรารอที่นี่สามนาที แต่นี้ห้านาทีแล้ว เราจะโดนหลอกให้รอเป็นหนึ่งชั่วโมงเหมือนเช้านี้หรือเปล่า?” ซากุระบ่น  แต่ก็แอบดีใจอยู่ในใจ

'ดี!'

'อาจารย์ซาโตรุทำได้ดีมาก ทางที่ดีควรมาสายหนึ่งชั่วโมงเหมือนตอนเช้าหรือมากกว่านั้นเลยก็ได้'

'ฉันจะได้อยู่สองต่อสองกับซาสึเกะคุง!'

ซาสึเกะมักจะกลับบ้านทันทีหลังเลิกเรียน และเขาเป็นคนเย็นชามาก ในอดีต เธอแทบไม่มีโอกาสได้อยู่กับซาสึเกะเพียงลำพังเลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการก่อตั้งทีมหน่วยที่เจ็ด ก็จะมีนารูโตะที่แสนบื้อมาอยู่กับพวกเขาเสมอ

การได้อยู่สองต่อสองตอนนี้ถือเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต

ซาสึเกะเอามือเท้าาคาง จ้องมองซากุระอย่างเย็นชา ก่อนถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ซากุระ เธอคิดว่าไง?”

เขาคิดมากเรื่องซาโตรุ ทำไมนารูโตะถึงได้ไปอยู่กับเขาตามลำพัง

เป็นไปได้ไหมว่าหลังจากการประเมินในวันนี้ ซาโตรุพบว่านารูโตะทำผลงานได้ดีมาก เขาจึงตัดสินใจสอนวิชาให้นารูโตะเพียงลำพัง

แต่ปัญหาก็คือ

วันนี้เขาเก่งกว่านารูโตะนะ!

ซากุระบีบมุมชายเสื้อของเธอ หน้าแดงเล็กน้อยแล้วพูดอย่างเขินๆ “เอ๊ะ? ซาสึเกะคุง เธอก็รู้นะว่าฉันคิดยังไง นี่ฉันควรพูดแบบเขินๆ ออกไปแบบนี้เลยเหรอ? คือฉันก็แอบมองนายมานาน…”

ก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค ซาสึเกะก็ขัดจังหวะเธอไว้

ซาสึเกะพูดอย่างเย็นชา "เธอคิดยังไงกับนารูโตะ?"

เขาหมายถึงกาาต่อสู้ของนารูโตะในวันนี้ คาถาแยกเงาพันร่างที่สร้างร่างแยกออกมานั้นสมจริงจนน่าทึ่งมาก

หรืออาจเป็นเพราะซาโตรุพบว่านารูโตะสามารถใช้คาถาแยกเงาพันร่างได้ เขาจึงตัดสินใจสอนอะไรบางอย่างเป็นการส่วนตัว

“นารูโตะเหรอ? จะพูดว่าฉันไม่ชอบเขาก็ได้ เขาทำตัวน่ารำคาญมาก ทั้งที่เป็นอันดับสุดท้าย แต่เขากลับชอบหาเรื่องนาย ฉันรู้สึกแย่แทนพ่อแม่ของเขาเลย” ซากุระแตะปลายนิ้วของเธอบนริมฝีปาก ด้วยใบหน้าที่จริงจังและคิดถึงเรื่องของนารูโตะ

เธอไม่เคยรู้ภูมิหลังของนารูโตะเลย ดังนั้นเธอจึงตัดสินเรื่องของนารูโตะแค่ผิวเผิน

เมื่อได้ยินคำว่า 'พ่อแม่' จากซากุระ เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและใบหน้าของเขาก็กลับกลายเป็นดำทะมึน

“เธอมีพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก เธอจะรู้เรื่องอะไรของไอ้บื้อนั่นกัน?” ซาสึเกะมองซากุระอย่างเย็นชาแล้วพูดต่อ  "อีกอย่าง...เธอนี่มันก็น่ารำคาญจริงๆ"

“ซาสึเกะคุง...” ซากุระผงะเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ซาสึเกะจึงเปลี่ยนไป

น้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าซาสึเกะตามปกติ

“ซาสึเกะ ซากุระ บังเอิญจัง พวกเธอก็มากินปิ้งย่างที่นี่เหมือนกันสินะ” เสียงผู้หญิงแหลมเล็กก็ดังขึ้น

“อิโนะ?” ซากุระเงยหน้าขึ้นมอง

สิ่งที่ดึงดูดสายตาก็คือ ซารุโทบิ อาสึมะ อาจารย์ทีมที่สิบและคนอื่นๆที่กำลังเดินเข้าไปในร้านปิ้งย่าง ยามานากะ อิโนะที่เห็นพวกเขาก็ยิ้มและโบกมือให้

“ยัยหน้าผากกว้าง ทำไมเธออยู่กับซาสึเกะเพียงลำพังได้เล่า!” อิโนะจ้องมองซากุระด้วยความโกรธเมื่อเห็นซากุระและซาสึเกะอยู่กันเพียงสองคนเท่านั้น

“ซาสึเกะคุงกับฉันอยู่ทีมหน่วยที่เจ็ดทั้งคู่ ยัยหมูอิโนะ เธอไม่จำเป็นต้องมาแส่หรอกยะ!” ซากุระยังจ้องมองกลับไปด้วยความโกรธ

“ยัยหน้าผากกว้าง!”

“ยัยหมูอิโนะ!”

“ยัยหน้าอกแบนหน้าผากกว้าง!”

“หมูปากโต!”

เด็กสาวทั้งสองจ้องหน้ากันด้วยความโกรธ ทั้งสองคนไม่ยอมกันแน่นอน

ทุกคนต่างหมดหนทาง ไม่มีใครหยุดทั้งสองคนนี้ได้ พวกเธอทะเลาะกันทุกวันเมื่ออยู่ในโรงเรียนนินจา จนทุกคนแทบคุ้นเคยกับมันไปแล้ว

แม้ว่าทั้งสองสาวจะดูไม่ถูกกัน แต่จริงๆ แล้วพวกเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก

“ถ้าทีมที่เจ็ดของเธอมาที่ร้านนี้เหมือนกัน แล้วทำไมฉันไม่เห็นซาโตรุกับนารูโตะล่ะ?”

อาสึมะที่มีบุหรี่อยู่ในปาก สูดลมหายใจแรงๆ และพ่นควันสีซีดออกมา เขามองไปโดยรอบด้วยความสงสัยเพราะไม่พบซาโตรุ

"พวกเด็กผู้หญิงนี้เข้าใจยากจริงๆ" นารา ชิกามารุเอามือเกาหัวพลางมองซากุระและอิโนะที่เถียงกันอย่างไม่หยุดหย่อน จากนั้นเขามองไปที่อาสึมะแล้วพูดว่า "อาจารย์อาสึมะ เขาไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในร้านนี้นะครับ"

"ขอโทษที ขอโทษที" อาสึมะยิ้มแล้วดับบุหรี่ทันที

“อาจารย์ซาโตรุบอกว่าเขามีเรื่องจะคุยกับนารูโตะ เราก็เลยมารอเขาที่นี่ก่อน” ซากุระพูดอย่างไม่พอใจ เพราะตอนนี้เธอหิวมากเนื่องจากยังไม่ได้กินข้าวเลยตั้งแต่เมื่อคืนก่อน

“มีเรื่องแบบนั้นสินะ? แสดงว่า...ความวุ่นวายเมื่อครู่” ดวงตาของอาสึมะเป็นประกายขณะที่กำลังคิดไตร่ตรอง

ตอนนี้ที่ชายแดนหมู่บ้านมีจักระที่น่าสะพรึงกลัว แต่เมื่อเขากำลังรีบไปที่นั่นพร้อมกับโจนินคนอื่นๆ พวกเขาก็ถูกโฮคาเงะรุ่นที่ 3 หยุดไว้ โดยบอกว่ามันเป็นความลับสุดยอดของหมู่บ้าน

เป็นความโกลาหลที่เกิดจากฝีมือซาโตรุหรือเปล่า?

หูของซาสึเกะขยับเล็กน้อย เขาลุกขึ้นอย่างตื่นเต้นแล้วถามว่า "อาจารย์อาสึมะ...คุณรู้ใช่ไหมว่าพวกเขาทำอะไรกัน?"

“เอ่อ...” อาซึมะไม่ตอบซาสึเกะ แต่เอามือแตะที่หัวโชจิแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “โชจิ ไปสั่งเนื้อกันเถอะ”

"จึ้" ซาสึเกะเม้มริมฝีปาก เขากังวลมากว่าซาโตรุกำลังแอบสอนอะไรให้นารูโตะหรือเปล่า

เขาทนไม่ได้ที่นารูโตะจะแข็งแกร่งกว่าเขา

“คุเรไน บังเอิญจริงๆ อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ?” อาสึมะมองเห็นทีมที่แปดและคนอื่นๆ ที่นำโดยยูฮิ คุเรไนอยู่ในร้านนี้เช่นเดียวกัน

จริงๆ เขาเห็นคุเรไนแล้วตั้งแต่ตอนที่เข้ามาในห้อง แต่เขาเขินนิดหน่อยจึงไม่ได้ไปทักทายก่อน

เขาไล่ตามตื้อคุเรไน แต่หลังจากสารภาพรักกับคุเรไนเมื่อวันก่อนนี้ เขากลับถูกเธอปฏิเสธอย่างสุภาพ

ดูเหมือนเธอจะมีคนที่ชอบแล้ว

มันน่าอายจริงๆ ที่ต้องเจอกันที่ร้านปิ้งย่างทันทีหลังจากที่คำสารภาพรักถูกปฏิเสธเช่นนี้

“สวัสดีอาสึมะ” ยูฮิยิ้มตอบอย่างสุภาพ

“อาจารย์อาสึมะ” ฮิวงะ ฮินาตะและคนอื่นๆ ก็ทักทายด้วยความเคารพ

หลังจากที่คุเรไนกล่าวทักทาย เธอก็ไม่ได้มองมาที่อาสึมะ แต่มองไปที่ฮินาตะและคนอื่นๆ ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนใบหน้าของเธอ และจึงกล่าวว่า "กินเยอะๆ นะ เดี๋ยวตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกเธอก็จะคงยุ่งกันมากแล้ว"

อาสึมะเกาหัวด้วยความเขินอาย

เมื่อรู้สึกถึงบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจ ชิกามารุก็ถอนหายใจออกมาและพึมพำว่า "ความรักนั้นช่างลำบากแท้"

เขาสอนกลยุทธ์พิชิตใจให้อาสึมะเมื่อวันก่อนนี้ บอกกับอาสึมะว่าจะต้องแสดงความรักอย่างไร เขาถึงได้รู้ว่าอาสึมะถูกปฏิเสธคำสารภาพรักไปเสียแล้ว

“คึกคักกันมากเลยนะ ทำไมยังไม่เริ่มกินกันอีก กำลังรออาจารย์ผู้น่าเคารพอยู่หรือเปล่า?” เสียงหัวเราะเสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมา

หลังจากเสียงดังกล่าวดังขึ้น ผู้คนมากมายก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังจุดที่เสียงปรากฏขึ้นมา

สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือซาโตรุผู้ยืนอยู่ที่โต๊ะของทีมที่เจ็ด โดยมีนารูโตะอยู่บนหลัง

“สวัสดี ซาโตรุ” คุเรไนทักทายเขาด้วยรอยยิ้มบางเบา

“สวัสดีครับ คุณคุเรไน” ซาโตรุมองไปด้านข้าง สายตาของเขาหยุดอยู่ที่จุดนูนบนเนินเขาหน้าอกของคุเรไน และเขาก็พูดติดตลกว่า "กินเนื้อให้น้อยลงเถอะ แค่นี้มันใหญ่มากพอแล้ว"

คุเรไนหน้าแดงเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไรต่อ

อาสึมะเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเห็นท่าทางของคุเรไน

เธอเริ่มทักทายก่อนและไม่โกรธด้วยเมื่อถูกพูดจาลวนลาม

ทุกคนต่างเข้าใจได้ในทันทีว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา

"โธ่ถัง" อาสึมะถอนหายใจด้วยความขมขื่น

ผู้ชายขี้เล่นอาจจะดูน่าดึงดูดสำหรับผู้หญิงมากกว่า

ดูทรงแล้วชายแก่นิสัยดีคงไม่เป็นที่นิยมแล้วกระมัง

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด