ตอนที่แล้วบทที่ 1:การยึดครองทีมที่เจ็ด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 3 : ครูคนใหม่? มาสายแต่วันแรก!

บทที่ 2 : หารือกับจิไรยะ


บทที่ 2 : หารือกับจิไรยะ

“ซาโตรุ นารูโตะเขาเป็นยังไงบ้าง?” ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา

ชายผมสีขาวยาวถึงกลางหลัง สวมเสื้อสีแดงและมีที่คาดหัวเขียนคำว่าอากูระ (น้ำมัน)

ซังนินในตำนานผู้มีนามว่า จิไรยะ!

ซาโตรุมองนารุโตะจากระยะไกลแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย “เขาเป็นเด็กที่ร่าเริงมาก แต่ถ้าผมเป็นนารูโตะ ผมอาจจะทำลายหมู่บ้านนี้ทิ้งไปแล้วก็ได้”

เขารู้ว่านารูโตะถูกรังแกมาตั้งแต่เด็ก เขาถูกชาวบ้านปฏิเสธ ถูกล้างสมองโดยโฮคาเงะรุ่นที่ 3 และถูกคุกคามโดยดันโซ

นี่เป็นสิ่งที่เด็กควรได้รับเหรอ?

ถ้าเขาเป็นนารูโตะ เขาคงจะพังทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว!

“ฮ่าฮ่าฮ่า หากเป็นเช่นนั้นจริง ถึงแม้ว่าต้องแลกชีวิต ฉันก็จะหยุดนายเอาไว้ซะ” จิไรยะตบไหล่ซาโตรุแล้วหัวเราะเสียงดัง

ถึงมันจะดูเหมือนเป็นเรื่องตลก แต่ที่เขาพูดคือสิ่งที่เขาจะทำจริง

“คู่สามีภรรยาโฮคาเงะรุ่นที่ 4 คาดหวังว่าผู้คนในหมู่บ้านจะยอมรับว่านารูโตะเป็นวีรบุรุษที่สละชีวิตของตนเพื่อผนึกเก้าหาง” ซาโตรุหยิบอมยิ้มออกมาแล้วใส่เข้าไปในปากของเขา

[ไสยเวทไร้ขีดจำกัด] ต้องใช้ความคิดพอสมควร ดังนั้นเขาจึงต้องเติมน้ำตาลสักหน่อยให้สมองมันแล่น

“แล้วความจริงเล่าเป็นไง? ผู้เฒ่าหัวดื้อในระดับบนนั้นต้องการฝึกฝนนารูโตะให้เป็นอาวุธในร่างมนุษย์และใช้เขาต่อสู้เพื่อหมู่บ้าน”

“นารูโตะถูกกดขี่มาตั้งแต่เด็ก ถูกมองว่าเป็นจิ้งจอกชั่วร้าย แต่กลับมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าตัวตนของเขามีเพื่อผนึกสัตว์เก้าหาง”

“ถึงเวลาถามต้องตอบคำถามแล้ว ทำไมคนทั้งหมู่บ้านถึงรู้จักนารูโตะว่าเป็นร่างสถิตย์ของเก้าหางกัน?” ซาโตรุชี้ไปที่จิไรยะด้วยอมยิ้ม

จิไรยะเงียบไป

“สิ่งที่คุณกำลังคิดนั้นถูกต้องแล้ว” ซาโตรุใช้นิ้วที่ถืออมยิ้มชี้ไปยังตรงหัวใจของจิไรยะ

“มันคือข่าวลือที่ถูกแพร่ออกไปโดยโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เพื่อให้ทุกคนในหมู่บ้านเกลียดนารูโตะ มันเป็นเจตนาของโฮคาเงะรุ่นที่ 3”

“เจตนาที่ชั่วร้ายนี่มีจุดประสงค์ที่ดีมาก เพื่อรวบรวมผู้ที่เกลียดชังกันให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ความสุดโต่งก็จะนำไปสู่สิ่งที่ตรงกันข้ามด้วย” ซาโตรุยิ้มเบาๆ “ตาแก่นั่นได้เอาเกวียนไปใส่ด้านหน้าม้าเสียอย่างนั้น”

“ถึงเรื่องเหล่านี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผม แต่…” หลังจากหยุดไปเล็กน้อย  ซาโตรุก็ยิ้มออกมาอย่างโหดร้ายและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “ถ้ามันส่งผลกระทบต่อสึนะจัง ผมจะทำลายหมู่บ้านนี้ทิ้งซะ”

ซึนาเดะเป็นแม่บุญธรรมของเขา และเป็นคนที่เขาเคารพมากที่สุด

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเด็กคนนี้มันน่ากลัวเหลือเกิน ฉันตามตื้อซึนาเดะไม่ได้ก็เพราะนายนี้แหละ แต่เอาเถอะ ฉันเปลี่ยนเป้าหมายและไปตกหลุมรักหญิงสาวสวยจากหมู่บ้านอื่นแล้ว” จิไรยะเกาหัวของเขาแล้วหัวเราะออกมาแก้เขิน

จิไรยะทำเหมือนไม่สนใจ แต่จริงๆ แล้วเขาเข้าใจที่อีกฝ่ายสื่อเป็นอย่างดี

หากซึนาเดะตกอยู่ในอันตราย ซาโตรุจะต้องลงมือแน่นอน

อย่ามองแค่ความขี้เล่นของซาโตรุไป เพราะแท้จริงแล้วเด็กคนนี้อันตรายมาก!

“ใหญ่มากไหม?” ซาโตรุถาม

“ใหญ่มากเลยล่ะ” จิไรยะกล่าว

"ใหญ่แค่ไหน?" ซาโตรุดูอยากรู้อยากเห็น

"ด้านหน้าก็ใหญ่ ด้านหลังก็ใหญ่ ราคาเพียงครั้งละ 800 เรียว คุ้มมาก!" จิไรยะชูมือเป็นตัวเลขขึ้นมา

จากนั้นจิไรยะก็ตบหน้าอกแล้วกล่าวว่า “ถ้ามีโอกาส ฉันจะพานายไปเจอเอง พี่สาวรุ่นใหญ่ของหมู่บ้านนั่นน่ะ!”

“แต่ต้องไม่ถูกสึนะจังจับได้นะ” ซาโตรุนึกถึงครั้งแรกที่เขาไปดื่มในผับเมื่อตอนที่เขาเริ่มเป็นผู้ใหญ่

หลังจากกลับมาถึงบ้าน เขาก็ถูกซึนาเดะวิ่งไล่ทุบตีตั้งแต่เช้าจนถึงดึก

ซึนาเดะทำลายถนนโออิรันจนพังทั้งหมด!

ฟู้วววว แค่คิดก็ขนลุก

“ฉันรู้สึกโล่งใจนะที่มีนายอยู่ที่นี่ ฉันจะไปแล้วล่ะ อาจจะไปนานสักหน่อย พอดีฉันเพิ่งค้นพบเบาะแสของอุจิวะ อิทาจิ ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าร่วมกับองค์กรลึกลับบางอย่าง” จิไรยะบอก

ทันใดนั้นจิไรยะก็กล่าวอย่างจริงจังว่า "ส่วนเรื่องผู้สืบทอดของมินาโตะ ฉันขอฝากหน้าที่นี้ให้นายด้วย"

“วางใจให้สบายเถอะ ผมจะดูแลสึนะจังเอง” ซาโตรุโบกมือของเขา

เหตุผลที่เขาชอบผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าก็เพราะเขาถูกเลี้ยงดูโดยซึนาเดะมาตั้งแต่เด็ก

“ไอ้นี้ ฉันไม่ได้ขอให้นายดูแลซึนาเดะสักหน่อย บอกให้ดูแลนารูโตะต่างหากเล่า แถมฉันก็ไปแค่สืบข่าว แต่ไหงแกพูดเหมือนฉันกำลังจะตายเลยเนี่ย!” มุมปากของจิไรยะกระตุกเล็กน้อย

“ฝากด้วยนะ ฉันไปก่อนล่ะ” หลังจากที่จิไรยะพูดจบ ร่างก็หายไปในอากาศ

“แต่ถ้ามีปัญหามากเกินไป ผมจะลงมือแน่” ซาโตรุยืดเอวของเขา หยิบหนังสือจิไรยะออกมาและเริ่มอ่าน

เนื้อหาของมันทั้งสยิวกิ้วและน่าตื่นเต้น ควรค่าแก่การอ่านเป็นที่สุด

แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นคือความจริง ถ้าเกิดมันมีปัญหามากเกินไป เขาจะจัดการทุกอย่างทันที จากนั้นคงออกจากหมู่บ้านเพื่อเดินทางไปหาซึนาเดะ

...

เช้าตรู่ของอีกวัน

แสงอาทิตย์ส่องทะลุเมฆหมอกยามเช้าลงมาสู่พื้นโลก

วันนี้เกะนินน้องใหม่ทั้งหมู่บ้านดูมีความสุขมาก ทุกคนต่างตั้งตารอและตื่นเต้นกันพอสมควร

เพราะวันนี้เป็นวันแรกของพวกเขาในฐานะเกะนิน

แน่นอนว่ายกเว้นทีมที่เจ็ด

“ฉ...ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว ง่วงมาก หิวมาก อยากกลับบ้านไปกินราเม็งแล้วววววว” นารูโตะนอนอยู่บนพื้น ดิ้นไปมาคล้ายกับแมลงสาบที่หงายท้อง ดวงตาของเขาทั้งขาวและผิวของเขาก็ซีดเซียว

เขามาถึงเวลา 7:15 น. ซึ่งสายไปสิบห้านาที

เขารีบร้อนมากเพราะกลัวว่าจะพลาดอะไรไปเพราะมาสาย และกลัวว่าจะถูกริบระดับชั้นเกะนินไป

แต่เมื่อเขาคิดว่าเขามาสายแล้ว กลับเจอคนที่มาสายกว่า เพราะไม่เห็นแม้แต่เงาของซาโตรุเลยเมื่อเขามาถึง!

ซาโตรุที่เป็นอาจารย์ทีมหน่วยเจ็ดมาสาย!

ซาสึเกะนั่งอยู่บนพื้นโดยหันหลังพิงลำต้นของต้นไม้ ดวยท่าทีเย็นชา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชากว่าท่าทาง “เหอะ คนที่มาสายในวันแรกจะมาสอนฉันได้ยังไง?”

“อย่าพูดอย่างนั้นสิ อาจารย์ซาโตรุอาจเจอปัญหาบางอย่างนะ เราควรสักพักก่อนเถอะ” ซากุระฝืนยิ้ม

แต่เธอได้ด่าซาโตรุในใจไปแล้ว

'ตอนนี้มัน 7:30 น. แล้วนะ!'

'ไอ้อาจารย์ซาโตรุบ้าคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย!'

'ฉันไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนเช้า หิวไส้จะขาดเจียนตายอยู่แล้ว!'

ซากุระมองซาสึเกะอย่างใกล้ชิด พอเห็นเขากำลังมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เธอก็รู้สึกโล่งใจ

'ผิวหน้าของฉันวันนี้แย่มาก ซาสึเกะคงไม่สังเกตเห็นใช่ไหม?'

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า และอีกสามสิบนาทีผ่านไป

แปดโมงเช้า

ทีมเจ็ดอยู่ที่นี่หนึ่งชั่วโมงเต็มๆ!

นารูโตะนอนอยู่บนพื้น ก่อนจะพึมพำเบาๆ “ซาโตรุ เจ้าอาจารย์บ้านั่น ฉันจะทุบตีเขาให้ได้ ถ้าฉันรู้ว่าจะมาช้าขนาดนี้ ฉันน่าจะแอบไปกินราเม็งสักชามก่อน”

"ฉันจะกลับแล้ว" ซาสึเกะลุกขึ้นและกำลังจะเดินออกไป

“ซาสึเกะคุง อย่านะ ถ้าเรากลับไปตอนนี้เลยเราอาจจะถูกริบระดับชั้นของเกะนินไปก็ได้นะ” ซากุระคุกเข่าลงกับพื้น กุมท้องที่กำลังร้องคำรามด้วยความหิวโหย

“หุบปากนะยัยขี้เหร่ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นนินจา แต่ฉันก็มีพลังพออยู่แล้ว!” ซาสึเกะมองซากุระด้วยสายตาเย็นชา

“ขี้เหร่เหรอ?” ใบหน้าของซากุระพลันเริ่มดำทะมึนลง เธอยกกำปั้นขึ้นมาหมายจะต่อยซาสึเกะอย่างแรง

แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของซาสึเกะ ซากุระก็ลดหมัดลงไป

'โอ้ยยย ฉันจะบ้าตาย!'

'เขาหล่อมาก ฉันจะไปทำอะไรได้เนี่ย!'

จู่ๆ ซากุระก็นึกถึงความเป็นไปได้บางอย่างขึ้นมา "เป็นไปได้ว่าการทดสอบได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และอาจารย์อาจจะกำลังทดสอบความอดทนของเราอยู่ก็ได้นะ!"

ทันทีที่คำพูดนี้ของเธอออกมา ทุกคนในทีมก็ครุ่นคิดเล็กน้อย ซาสึเกะและนารูโตะได้ลุกขึ้นมาทันที

มีความเป็นไปได้จริงๆ จุดประสงค์ในการบอกพวกเขาว่าห้ามกินข้าว ก็คงเพื่อทดสอบความอดทนของพวกเขาในฐานะนินจานั้นเอง

แต่ว่าโจนินที่เป็นอาจารย์แบบเขาจะมาสายได้ไงกัน?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด