ตอนที่แล้วบทที่ 105: หนึ่งล้านไม่เพียงพอ เพิ่มอีกหน่อยได้ไหม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 107: เงินจำนวนน้อยนิดเพียง 500,000 พยายามจะติดสินบนข้าหรือ?

บทที่ 106: ความเมตตาย่อมส่งผลร้ายต่อท่านอ๋องเอง!


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 106: ความเมตตาย่อมส่งผลร้ายต่อท่านอ๋องเอง!

เอาแต่พูดเรื่องเงินอีกแล้ว จะไม่ยอมบ้างเลยหรือไงกัน!

นี่ท่านยังเป็นพวกบ้าเงินไม่เปลี่ยนแปลงเลยหรือ!

โม่หรูซวงกล่าวออกมาอย่างทุกข์ใจ “ท่านหลิน หนึ่งล้านเป็นเงินจำนวนมากอยู่แล้วนะ!”

“หนึ่งล้านหรือเยอะ? เจ้ารู้ไหมว่าข้าใช้เงินไปเท่าไรในการค้นคว้าสิ่งประดิษฐ์สวรรค์อย่างบัลลูนลมร้อน?”

"แล้วท่านใช้เงินไปเท่าไร?" โม่หรูซวงและกัวเส้าส้วยถามอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ข้าใช้เงินไปกว่าสองล้านตำลึง ข้าใช้เงินมากกว่าสองล้านเพื่อคิดค้นบัลลูนลมร้อนขึ้นมา! นอกเหนือจากเงินแล้ว ข้ายังต้องออกแรงเหนื่อยและทำงานหนักมากมายจนนับไม่หวั่นไม่ไหว! ต่อให้ข้าร้องขอหนึ่งร้อยล้านตำลึง ท่านอ๋องก็อาจจะคิดว่ามันน้อยเกินไปด้วยซ้ำ เจ้าคิดว่าข้ากล่าวออกไปโดยไร้เหตุผลหรือ?”

“มันมัค่ามากขนาดนั้นเลยเหรอ?” โม่หรูซวงกระพริบตาปริบๆ และเอ่ยถาม

หลินเป่ยฟานชี้ไปที่ประตู “เจ้าออกไปถามได้เลย ทั้งเมืองหลวงต่างรู้เรื่องนี้กันดี! ถ้าข้าไม่ได้ขุดเงิน 2 ล้านจากคลัง เราจะได้บัลลูนลมร้อนที่ว่านี้มาจากแห่งหนใดกัน?”

ขณะที่โม่หรูซวงและกัวเส้าส้วยมองไปที่สีหน้าอันแน่วแน่ของหลินเป่ยฟาน พวกเขาก็เริ่มเชื่ออีกฝ่ายแล้ว

"เช่นนั้นเพิ่มเพียงนิดหน่อยเป็นเช่นไร? 1.5 ล้านตำลึงเพียงพอหรือไม่?” โม่หรูซวงถามอย่างระมัดระวัง

“เจ้าต้องการซื้อมันในราคาเพียง 1.5 ล้านตำลึงหรือ?” หลินเป่ยฟานเริ่มดูเป็นทุกข์

“1.5 ล้านไม่ใช่เงินจำนวนน้อยเลย ในครั้งที่แล้วท่านใช้เงินไปตั้งมากขนาดนั้นเพื่อช่วยคุณชาย!” กัวเส้าส้วยกล่าว

“ข้าใช้เงินเพียง 1.5 ล้านตำลึงเพื่อช่วยคุณชายใหญ่ต่างหาก! แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าต้องจ่ายเงินเท่าไรเพื่อหาวิธีการผลิตให้ท่านอ๋อง?” หลินเป่ยฟานกล่าว

"แล้วเท่าไรกัน?" โม่หรูซวงเอ่ยถาม

“ข้าจะบอกเจ้าก็แล้วกัน ครั้งที่แล้วเพื่อช่วยคุณชายใหญ่ ข้าติดสินบนขุนนางทั้งหมดด้วยเงิน 1.5 ล้านตำลึงให้พวกเขาสนับสนุนข้า นั่นเป็นวิธีเดียวที่ข้าจะช่วยคุณชายใหญ่ได้ในขณะที่ยังคงรักษาชีวิตของตนเองไว้ แต่คราวนี้ข้าจะติดสินบนเหล่าขุนนางได้เช่นไร? ข้าจะรักษาชีวิตของข้าไว้ได้ยังไงกัน?”

หลินเป่ยฟานกล่าวออกมาอย่างไม่มีความสุขยิ่งนัก “จักรพรรดินีได้ประกาศสามครั้งแล้วว่าผู้ใดก็ตามที่ทำให้วิธีการผลิตสมบัติแห่งชาติรั่วไหลไปจะต้องถูกประหารชีวิตทันที ไม่มีผู้ใดสามารถช่วยได้! คำอาญาสิทธิ์ได้ถูกประกาศออกมาแล้ว มิมีผู้ใดกล้ากระทำเช่นนั้นโดยเด็ดขาด เส้นทางของข้าเหลือเพียงเส้นทางเดียว! ดังนั้นหากท่านอ๋องได้ผลิตบัลลูนลมร้อนขึ้นมา จักรพรรดินีย่อมรู้ว่าเป็นใคร ข้าจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย! กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ข้ากำลังเสี่ยงชีวิตในการทำสิ่งต่างๆ เพื่อท่านอ๋องอยู่!”

หลินเป่ยฟานส่ายศีรษะไปมา หัวใจของเขาเจ็บปวดยิ่งขณะที่เขาตะโกน “ท่านอ๋องสูญเสียเงินเพียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ข้าสูญเสียไปคือทั้งชีวิตของข้า! เงินสามารถหาใหม่ได้อีกครั้ง แต่เมื่อชีวิตของข้าได้หายไป มันก็มลายหายเช่นกัน! มันผิดหรือที่ข้าจะขอเงินเพิ่มอีกหน่อย? ข้าควรจะขอเพิ่มอีกไม่ใช่หรือ?”

โม่หรูซวงและกัวเส้าส้วยรู้สึกเห็นด้วยจึงพยักหน้าซ้ำๆ “ท่านควรขอมากกว่านี้”

หลินเป่ยฟานยังคงกล่าวออกมาอย่างไม่มีความสุขนัก “ข้าสงสัยจริงๆ ว่าท่านอ๋องตั้งใจพุ่งเป้ามาที่ข้าหรือไม่ ทำไมเขามักจะออกคำสั่งโหดร้ายเช่นนี้แก่ข้า? เขาต้องการให้ข้าตายนักหรือ?”

“ท่านอ๋องจะต้องการให้ท่านตายได้ยังไง? เขาแค่…” โม่หรูซวงไม่อาจหาคำมาโต้แย้งได้

เพราะนางตระหนักดีว่าคำสั่งทั้งสองอย่างล้วนเป็นอันตรายถึงชีวิตมาก

คำสั่งแรกเพื่อช่วยคุณชายก็เกือบจะทำลายหลินเป่ยฟานและทำให้เขาสูญเสียทุกอย่าง

คำสั่งที่สองเพื่อให้ได้มาซึ่งวิธีการสร้างสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างบัลลูนลมร้อน ก็เป็นอาชญากรรมที่มีโทษถึงตายหากกระทำ เพียงรั่วไหลออกมานิดหน่อย โทษก็เป็นการประหารชีวิตแล้ว

ในใจของนางได้แต่ตำหนิองค์ชายภายในใจ ทำไมเขาถึงได้ให้ภารกิจที่ยากเช่นนี้กับหลินเป่ยฟาน? เป็นการมุ่งร้ายโดยเจตนาหรือ?

<div>กัวเส้าส้วยเองก็รู้สึกว่าภารกิจที่ท่านอ๋องมอบหมายมาให้นั้นยากเกินไป</div>

เขาอ้าปากและกล่าวว่า “ท่านหลินพยายามหนักมากแล้ว!”

หลินเป่ยฟานได้แต่แค่นเสียงออกมา “ข้าไม่กลัวที่จะบอกเจ้าว่ายามนี้สงสัยในเจตนาของท่านอ๋อง ดังนั้นข้าจึงต้องเก็บบางอย่างไว้เป็นการประกัน! ถ้าข้ามีเงินก้อนใหญ่อยู่ในมือ เขาจะต้องพยายามรักษาข้าไว้และช่วยข้าเมื่อชีวิตของข้าเป็นเดิมพัน! ข้าเป็นแค่ขุนนางที่ไร้พลัง ทุกอย่างที่ข้าทำก็เพื่อปกป้องตัวเอง มันมีอะไรผิดปกติงั้นหรือ?”

“ท่านหลิน ท่านไม่ผิดตรงไหนเลย ท่านทำได้ดีมากแล้ว! สิ่งที่สำคัญที่สุดย่อมเป็นการปกป้องชีวิตของท่านเอง!” โม่หรูซวงกล่าวขึ้นมา

“ท่านหลิน ข้าเข้าใจความยากลำบากของท่าน ข้าขอสนับสนุนท่านอย่างเต็มที่!” กัวเส้าส้วยกล่าว

“ข้าดีใจที่พวกเจ้าเข้าใจ!” หลินเป่ยฟานพยักหน้าอย่างโล่งอก “ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลเลย! หากในท้ายที่สุดมันพิสูจน์ได้ว่าข้าคิดมากเกินไป วันหนึ่งในอนาคตข้าจะคืนเงินและสนับสนุนทุกอย่างให้กับท่านอ๋อง!”

โม่หรูซวงมองไปที่ไหล่บางๆ ของหลินเป่ยฟานด้วยความรู้สึกปวดใจ

อย่างที่เขากล่าวออกมา เขาเป็นเพียงขุนนางผู้ไร้อำนาจ! แค่การอยู่ในราชสำนักก็ทำให้เขามีชีวิตยากมากพอแล้ว!

มันเป็นเหตุให้เขาต้องการเงินเพิ่มเพียงเพื่อปกป้องตัวเขาเอง!

เพราะถ้าเขามีเงินจำนวนมากอยู่ในมือ ท่านอ๋องก็จะไม่เต็มใจปล่อยให้เขาตาย ทั้งยังจะช่วยเขาในช่วงเวลาสำคัญด้วย มิฉะนั้นเขาคงจะไม่เหลืออะไรเลย ทั้งตัวคนและความมั่งคั่ง

ด้วยเหตุผลนี้เองหรือที่เขาโลภเพื่อเงิน?

ดูเหมือนว่านางจะเข้าใจหลินเป่ยฟานมากยิ่งขึ้นแล้ว!

“ท่านหลิน เราจะรายงานสถานการณ์ให้ท่านอ๋องทราบโดยละเอียด ข้าคิดว่าเขาคงจะเข้าใจความยากลำบากของท่าน! 2 ล้านตำลึงเพียงพอแล้วหรือไม่?” โม่หรูซวงกล่าวออกมาอย่างเคร่งเครียด

“เจ้าคิดว่า 2 ล้านตำลึงจะเพียงพองั้นหรือ?” หลินเป่ยฟานกะพริบตาปริบๆ และรู้สึกราวกับว่าโม่หรูซวงกำลังหยอกล้อเขาเล่น

ในยามนั้นเอง กัวเส้าส้วยก็ขมวดคิ้วอย่างไม่มีความสุขนัก “ศิษย์พี่หญิง ท่านพูดออกมาได้เช่นไรว่า 2 ล้านตำลึงเพียงพอแล้ว? ท่านไม่ได้ยินที่ท่านหลินพูดเหรอ? มันมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 2 ล้านตำลึงในการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์บัลลูนลมร้อน ราคาย่อมสูงขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ท่านหลินยังต้องการเงินเพื่อเป็นหลักประกันชีวิตของเขามาก ยิ่งเขาได้รับมากเท่าไร ชีวิตของเขาก็จะปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นข้าจึงคิดว่าอย่างน้อยคงต้อง 3 ล้านตำลึง!”

“3 ล้านตำลึง??!!” หลินเป่ยฟานมองไปที่กัวเส้าส้วย ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายค่อนข้างหล่อเหลาผิดถนัดตา ทำไมข้าถึงไม่รู้ตัวเลยว่าเขาหล่อเหลามากถึงเพียงนี้?

“ศิษย์น้องพูดถูกแล้ว!” โม่หรูซวงอุทานออกมา

“แต่ 3 ล้านตำลึงนั้นมากเกินไปแล้ว ต่อให้เป็นท่านอ๋องก็ไม่มีเงินมากเพียงนั้น เราจะประนีประนอมและขอเพียง 2.5 ล้านตำลึงดีหรือไม่? ท่านหลินเองก็ไม่ใช่คนโลภ!”

หลินเป่ยฟานกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ฟังดูสมเหตุสมผล ข้ารู้สึกขอบคุณยิ่งที่พวกเจ้าเข้าใจข้า!”

ดังนั้นพวกเขาจึงรายงานสถานการณ์ไปให้ท่านอ๋องเหอเป่ยทางเหนือทันที

เมื่อท่านอ๋องเห็นจดหมาย ใบหน้าของเขาก็ซีดเซียว มือและเท้าของเขาสั่นเทาด้วยความเย็นยะเยือก

ในที่สุดเขาก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “2.5 ล้านตำลึง ทำไมเจ้าไม่เข้ามาปล้นข้าเลยกันเล่า?”

“ฝ่าบาท เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือขอรับ? กุนซือจูกัดเหลียงที่เพิ่งเข้ามาก็ถามออกมา

"มาดูด้วยตาเจ้าเอง!" ท่านอ๋องโยนจดหมายให้จูกัดเหลียง

จูกัดเหลียงมองไปที่มันอย่างจริงจัง เปลือกตาของเขากระตุกไปมาในขณะที่เขาอ่านมัน “2.5 ล้านตำลึง ช่างเป็นราคาที่สูงมากจริงๆ! ข้าคิดว่าการเสนอเงิน 1 ล้านตำลึงจะตอบสนองความโลภของเขาได้ แต่ข้าประเมินเขาต่ำเกินไป!”

ท่านอ๋องนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความโกรธ “ท่านที่ปรึกษา ท่านก็เห็นด้วยเช่นกันกับข้า! ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากให้มันกับเขา แต่หลินเป่ยฟานผู้นี้โลภเกินไป ข้าจะไปหาเงินจำนวนมากจากไหนมาให้เขากัน?”

จูกัดเหลียงหัวเราะออกมา “ข้าเข้าใจอารมณ์ของท่านดี ฝ่าบาท! แต่ข้าก็เข้าใจอารมณ์ของหลินเป่ยฟานเช่นกัน! ตามที่จดหมายบอกมา ภารกิจทั้งสองที่ฝ่าบาทมอบหมายให้เขาล้วนเป็นอันตรายต่อชีวิต! นั่นเป็นเหตุผลที่หลินเป่ยฟานเริ่มสงสัยและคิดว่าท่านจงใจพุ่งเป้าไปที่เขา เขาจึงขอเงินเพิ่มเพื่อปกป้องตนเอง!”

“หลินเป่ยฟานอยู่ในเมืองหลวง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เห็นความกล้าหาญและความสูงส่งของฝ่าบาท ทำให้เขาไม่ไว้วางใจท่าน ดังนั้นเขาจึงกล้าเล่นกลลวงเล็กน้อยเช่นนี้! ถ้าเป็นข้า ข้าก็จะทำเช่นเดียวกัน!”

อารมณ์ของท่านอ๋องผ่อนคลายลงเล็กน้อย

จูกัดเหลียงจึงกล่าวต่อ “นั่นเป็นเหตุผลที่ข้อเสนอแนะของข้าคือการตอบสนองความต้องการของหลินเป่ยฟาน! แม้ว่ามันจะมีค่าใช้จ่าย แต่เราก็สามารถได้วิธีการสร้างสิ่งประดิษฐ์บนท้องฟ้าและได้รับความภักดีจากผู้ที่มีความสามารถระดับสูง มันไม่คุ้มหรือ?”

ท่านอ๋องถอนหายใจออกมา “แต่ข้าจะไปเอาเงิน 2.5 ล้านมาจากไหนกัน? ข้าจ่ายไปแล้ว 1.5 ล้านเมื่อเดือนที่แล้ว คลังของข้ายังไม่คืนกลับมาดีเลย! ข้ายามนี้แทบไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว!”

“ฝ่าบาท 2.5 ล้านเป็นจำนวนมากจริงๆ แต่เราก็สามารถมันมาได้! ท่านอ๋องมากมายและเจ้าของดินแดนต่างๆ ล้วนต้องการวิธีสร้างสิ่งประดิษฐ์แห่งสวรรค์ที่บินได้นี้ แต่หากมีเพียงท่านที่มีโอกาสได้มันมาครองเล่า? มันจะไม่คุ้มกับเงินที่ใช้ไปหรือ?”

ดวงตาของจูกัดเหลียงสว่างไสว ราวกับมันเต็มไปด้วยความหวังอันแรงกล้า “ถ้าเราได้รับสิ่งประดิษฐ์สวรรค์ที่บินได้นี้มา ความแข็งแกร่งของเราจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เหนือกว่าอ๋ององค์อื่น และเราก็จะมีโอกาสที่จะชนะที่ราบภาคกลางได้! ด้วยการควบคุมที่ราบภาคกลางและกลายเป็นจักรพรรดิ ทุกสิ่งที่เราสูญเสียไปก่อนหน้านี้จะหวนคืนกลับมา! เพียงเสียเงินไปนิดหน่อยจะเป็นไรไป?”

ท่านอ๋องพยักหน้าซ้ำๆ “ท่านที่ปรึกษา ท่านพูดถูกอย่างยิ่ง!”

“ยิ่งไปกว่านั้นนะฝ่าบาท! บัลลูนลมร้อนนี้สามารถขนส่งผู้คนขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งหมายความว่าเรามีโอกาสที่จะได้พบกับความเป็นอมตะและมีโอกาสที่จะมีชีวิตนิรันดร์ การใช้จ่ายเงินเพียงเล็กน้อยจะไม่คุ้มค่ากับมันหรือ?”

ทันทีที่ท่านอ๋องนึกถึงโอกาสที่จะได้เป็นอมตะ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความตื่นเต้น “ท่านที่ปรึกษา ท่านพูดถูกอย่างยิ่ง! ตราบใดที่เราสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป มันก็คุ้มค่าที่จะใช้เงิน ต่อให้มากเท่าไรก็คุ้ม! ในเมื่อเขาต้องการเงิน เราก็จะให้เขาไป! 2.5 ล้านเมื่อเทียบกับโอกาสที่จะได้เป็นอมตะ มันไม่มากเลยสักนิดเดียว!”

“ท่านอ๋องทรงปราดเปรื่องยิ่ง!” จูกัดเหลียงยิ้มและโค้งคำนับ

ดังนั้นธนบัตรเงิน 2.5 ล้านตำลึงจึงถูกส่งมอบให้กับหลินเป่ยฟานอย่างรวดเร็ว

หลินเป่ยฟานรู้สึกเสียใจเล็กน้อย รู้เช่นนี้คงคิดขอมากกว่านี้ อีกฝ่ายยอมแพ้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นแสดงว่าต้องมีเงินมากกว่านี้เป็นแน่! นี่คือเนื้อแกะที่อ้วนสุดๆ ทั้งยังมีน้ำมันไหลทั่วตัวตลอดด้วย! หลินเป่ยฟานได้แต่คิดในใจ คราหน้าเขาจะไม่ใจอ่อนและขอเพิ่มให้มากกว่านี้! ความเมตตาต่อท่านอ๋องคือความพินาศของเขาเอง!

ท่านอ๋องที่กำลังฝันถึงความเป็นอมตะจู่ๆ ก็จามออกมา

“ยามเงินได้รับการส่งมอบแล้วแล้ว วิธีการทำสิ่งประดิษฐ์สวรรค์ที่บินได้เล่า?” โม่หรูซวงเอ่ยถาม

“ข้าเตรียมไว้แล้ว! นี่คือวิธีการสร้างสิ่งประดิษฐ์บนท้องฟ้าที่บินได้ พวกเจ้าสามารถมอบให้กับท่านอ๋องได้เลย! จำไว้ว่านี่เป็นสิ่งสำคัญมาก จะต้องไม่ถูกเปิดเผยเป็นอันขาด!” หลินเป่ยฟานหยิบเอกสารออกมาและให้คำแนะนำด้วยความเข้มงวด

โม่หรูซวงและศิษย์น้องของนางรับเอกสารไว้อย่างเคร่งเครียด หลังจากที่พวกเขาจากไป หลินเป่ยฟานก็หัวเราะกับตนเอง

ทว่าเมื่อเขาหันกลับมา เขาก็เห็นร่างสีขาวปรากฏขึ้นข้างๆ เขาเช่นเดียวกับวิญญาณที่กำลังจ้องมองเขาด้วยความเคียดแค้น ทั้งสองสบตากัน ด้วยความใกล้ชิดมันก็เกือบทำให้เขากลัวจนแทบใจหาย

“กวนอิม ท่านช่วยอย่าทำเช่นนี้ไม่ได้หรือ? ครั้งต่อไปที่ท่านปรากฏตัว ท่านช่วยส่งเสียงหน่อยได้ไหม เผื่อว่าข้าจะได้เตรียมใจบ้าง?” หลินเป่ยฟานลูบหน้าอกของเขาที่ยังคงหวาดกลัว

กวนอิมชำเลืองมองเขา “เจ้าบอกว่าเจ้าชินแล้วไม่ใช่หรือ?”

“นั่นมันก่อนหน้านี้ต่างหาก แต่ท่านก็เอาชนะข้าด้วยการปรากฏตัวแบบแปลกๆ กว่าเดิมอยู่เสมอ! อย่าเข้ามาใกล้ขนาดนี้สิ มันน่ากลัวเกินไป!”

“ข้าจะจำเอาไว้!” กวนอิมกล่าวตอบอย่างไม่จริงใจนัก “แต่ยามนี้ข้ามีคำถาม เจ้าได้ให้วิธีการทำสิ่งประดิษฐ์บินได้แก่อ๋องเหอเป่ยทางเหนือจริงหรือ?”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด