ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 317 - เฮเซล!!!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 319 - การหักหลัง

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 318 - ถูกเจอตัว?


“ที่นี่มันกว้างมากเกินไป พวกเราจะหาคนที่ตั้งใจหลบซ่อนอยู่เจอได้อย่างไร? มันแทบจะไม่มีทางเลย!” เสียงของผู้ชายคนหนี่งดังออกมา หลังจากที่พวกเขาทั้งคู่ร่อนลงมายืนอยู่ที่พื้น ต่างคนต่างใช้มือของตัวเองปิดจมูกเอาไว้อย่างด่วนจี๋ กลิ่นเหม็นนั้นเกินที่จะรับได้จริง ๆ

เสียงของคนที่ 2 กล่าวออกมาอย่างเห็นด้วย “พวกเราใช้เวลา 5 วันที่ผ่านมาค้นหาทุกจุดในชุมชนแห่งนี้จนหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอตัว ฉันก็ว่าเจ้านั่นน่าจะหนีออกไปจากเขตสลัมนี่แล้วล่ะ ใครมันจะโง่ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำเสือแบบนี้ เป็นฉันก็ไม่ทำแน่”

“นายพูดถูก แต่เมื่อนี่เป็นคำสั่งโดยตรงของเบต้าเคน ใครจะกล้าขัดคำสั่งล่ะ แล้วเจ้าหมอเป็นคนที่ฆ่าไปทั้งเบต้าเนลสัน และเบต้าที่เพิ่งยกระดับขึ้นมาใหม่อีกคนหนึ่ง ต่อให้เสียเวลาแค่ไหน พวกเราก็ต้องจับตัวมันมาแก้แค้นให้ได้อยู่ดี คนที่กล้ามากระตุกหนวด กล้ามาฆ่าคนของฝูงเรา ไม่มีใครคิดจะปล่อยให้มันรอดออกไปได้ง่าย ๆ อยู่แล้ว พวกเราก็ลงมือกันเถอะ เจ้าบ้านั่นอาจจะซ่อนอยู่ที่นี่จริง ๆ ก็ได้” หลังจากกล่าวจบ ชายคนนี้ก็หยิบเอาอุปกรณ์ทรงกลมสีดำชิ้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเป้ ขนาดของมันไม่เล็กเลย

“ฉันได้ยินมาว่าเจ้านั่นหลบหนีไปจากการโจมตีของเบต้าเคนได้ แต่ก็บาดเจ็บหนักไม่น้อย จากคลื่นพลังงานที่ติดตัวไปจากการโจมตี ท่านกล่าวว่าเจ้าชาติชั่วคนนี้ยังอยู่ไม่ได้หนีออกไปจากบริเวณสลัม มันเหลือสถานที่ที่ยังไม่ได้ค้นหาไม่กี่จุดนัก บางทีนายอาจจะพูดถูก” ชายอีกคนกล่าวสนับสนุนออกมาบ้าง เท้าของเขาถูกยกเตะใส่หนูที่วิ่งวนเวียนไปมาอย่างรำคาญ

“ใช่มั้ยล่ะ! ความสามารถของท่านเบต้าเคนนั้นเหนือธรรมดา การตรวจจับพลังแฝงที่หลงเหลือจากการโจมตีเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่ด้วยความแข็งแกร่งและทรงพลังของท่าน มันไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากเลยแม้แต่นิดเดียว” ชายคนแรกกล่าวเยินยอกลับไปยังหัวหน้าของพวกตน นิ้วของเขากดปุ่มเปิดการทำงานของอุปกรณ์ที่อยู่ในมืออย่างรวดเร็ว

เสียงหึ่งเบา ๆ ดังออกมาจากตัวอุปกรณ์ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเงียบหายไป หลงเหลือเพียงแต่คลื่นที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นแผ่กระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง รัศมีทำการของมันครอบคลุมรัศมีถึง 1 กิโลเมตรเลยทีเดียว มันเกินพอสำหรับการตรวจสอบสถานที่ทิ้งขยะแห่งนี้อย่างทั่วถึง

ร่างของเดวิดที่นอนนิ่งเป็นรูปปั้นอยู่ เริ่มรับรู้ความรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังสัมผัสไปทั่วตัว ครั้งแรก เขานึกว่ามันเป็นความรู้สึกหลอนไปเองจากการขาดพลังงาน แต่เมื่อผ่านไปสักพัก สมองของเดวิดก็ต้องหมุนวนอย่างใช้ความคิดหนักทันที นี่มันคลื่นสำหรับสแกนหาสิ่งมีชีวิต พวกนั้นกำลังสแกนตรวจพื้นที่นี้อยู่ และพวกมันเจอเขาแล้ว

ความคิดที่ไม่รู้ว่าดีหรือร้ายปรากฏขึ้นมาในหัวของเดวิดทันที ไม่ว่าเขาจะระงับอัตราการเต้นของหัวใจเอาไว้ให้ช้าแค่ไหน ก็ไม่มีทางหลบเลี่ยงความสามารถของเครื่องสแกนหาสิ่งมีชีวิตได้ ยกเว้น! ถ้าเจ้าเครื่องที่กำลังใช้อยู่นี้ไม่ได้เป็นรุ่นที่ทันสมัยมากนัก มันพอที่จะมีวิธีแก้ไขได้บ้าง ไม่ใช่วิธีการหลอกเครื่องสแกน แต่เป็นวิธีเพื่อหลอกคนที่กำลังใช้เครื่องสแกนอยู่

เดวิดตัดสินใจทำตามวิธีที่ตัวเองคิดได้ทันที เขาแทบจะไม่มีเวลาคิดหาทางเลือกแบบอื่นแล้ว

เครื่องสแกนทำงานได้อย่างรวดเร็ว รัศมีแค่ 1 กิโลเมตร คลื่นที่ส่งออกไปสะท้อนกลับเข้ามาที่เครื่องในระยะเวลาไม่ถึง 1 นาที และทันทีที่การประมวลผลสำเร็จ ภาพโฮโลแกรมก็แสดงเป็นแผนที่อยู่เหนือตัวอุปกรณ์ จุดสีแดงเล็ก ๆ ปรากฏอยู่บนนั้นอย่างมากมาย ชาย 2 คนนั่นสุมหัวกันพิจารณาจุดต่าง ๆ บนแผนที่อย่างถ้วนถี่ ไม่ยอมพลาดแม้แต่จุดที่เล็กที่สุดไปเลย

เกือบ 5 นาทีเต็ม เสียงบ่นพึมพำก็ออกมาจากปากของชายคนที่ถืออุปกรณ์อยู่ “ไม่มี! ที่นี่ก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติเลย ส่วนใหญ่น่าจะเป็นแค่หนู เสียเวลาเปล่าอีกแล้ว!” อีกมือที่ว่างอยู่กดปุ่มปิดการทำงานของเครื่องสแกน และหันหลังกลับทันที

“ไปกันเถอะ!” อย่างไม่รอคำตอบ หลังจากเอ่ยชวนเสร็จ อุปกรณ์ชุดสกายวอคเกอร์ของเขาก็เริ่มทำงาน แต่ก่อนที่มันจะพาเขาส่งขึ้นไปบนท้องฟ้า เสียงของชายอีกคนก็ดังเรียกออกมาเสียก่อน

“เดี๋ยว! อย่างเพิ่ง!”

“หือ? นายสังเกตเห็นอะไรที่ผิดปกติอย่างนั้นหรือ” เขาหันกลับไปมอง และพบว่าเพื่อนร่วมทีมกำลังขมวดคิ้วแน่นอย่างครุ่นคิด

“ไม่แน่ใจ! แต่นายเปิดเครื่องเอาแผนที่มาดูอีกทีซิ! บางทีอาจจะไม่มีอะไร แต่พวกเราควรจะต้องยืนยันให้ชัดเจนสักหน่อย” ชายคนนั้นกล่าวออกมาอย่างเคร่งเครียด

แม้ว่าสายตาจะยังสับสน แต่ชายคนแรกก็ปิดการทำงานของชุดสกายวอคเกอร์ และเปิดการทำงานของเครื่องสแกนอีกครั้ง แผนที่ล่าสุดแสดงออกมาให้เห็นทันที

“จุดนี้!” นิ้วมือของชายคนที่ขมวดคิ้วอยู่ชี้ลงไปบนแผนที่ มันเป็นจุดสีแดงที่สว่างมากกว่าจุดอื่น ๆ ที่กระจายตัวอยู่บนแผนที่เล็กน้อย

ชายคนที่ถือเครื่องสแกนอยู่มองจ้องไปอย่างไม่เชื่อถือนัก แต่แล้วแววตาของเขาก็เริ่มจริงจังขึ้น เพราะจุดแดงนั่นมีความผิดปกติ มันไม่คงที่ มันกระพริบ! แม้จะนิดเดียว แต่ความสว่างของมันไม่คงที่

“นายคิดว่ายังไง? จะใช่เป้าหมายของพวกเรามั้ย?” ชายคนที่สังเหตเห็นก่อนถามออกมาในเชิงปรึกษา

“ไม่แน่ใจ! อีกฝ่ายแข็งแกร่งถึงขนาดสังหารระดับเบต้าได้ สัญญาณชีพไม่น่าจะอ่อนแอแบบนี้” อีกคนเอ่ยโต้แย้งออกมา

“ฉันรู้ แต่ถ้าอีกฝ่ายมีทักษะอะไรที่ใช้ลดสัญญาณชีพตัวเองล่ะ?” ข้อสังเกตที่สมเหตุสมผลถูกกล่าวออกมาเสริมความเห็นของตัวเอง

นั่นทำให้อีกฝ่ายพยักหน้าเห็นด้วย “เป็นไปได้ แม้ว่าจะเป็นทักษะที่หายาก แต่ก็เคยมีคนทุ่มเทฝึกฝนจนสำเร็จได้ หรือในอีกแง่หนึ่ง เจ้านี่อาจจะบาดเจ็บหนักจนใกล้ตายแล้วก็ได้” เขาเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนร่วมทีม แล้วกล่าวถามออกมาอย่างจริงจัง

“นายคิดว่าพวกเราควรจะรายงานกลับไปก่อนมั้ย? ต้องรอกำลังเสริมมั้ย

“ไม่ต้องหรอก นายจำข้อมูลที่ได้รับก่อนทำภารกิจได้มั้ย นายอาจพูดถูก เจ้านั่นได้รับบาดเจ็บหนักจากการโจมตีของท่านเบต้าเคน ตอนนี้น่าจะนอนใกล้ตายอยู่ตรงนั้น! โอกาสดี ๆ อย่างนี้ไม่ควรปล่อยให้คนอื่นมาชุบมือเปิบ พวกเราจะได้รับความดีความชอบอย่างเต็มที่ ถ้าจัดการกับเจ้านั่นได้แค่ 2 คน แล้วอีกอย่าง จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ารายงานไปแล้วไม่ใช่เป้าหมาย” ชายคนที่ไม่ได้ถืออุปกรณ์กล่าวออกมา เขาคิดที่จะเสี่ยงเพื่อสร้างความดีความชอบครั้งใหญ่แล้ว

เพื่อนร่วมทีมพยักหน้าออกมาอีกครั้ง ชายคนที่ถือเครื่องแสกนก็ตัดสินใจเสี่ยงแล้วเช่นกัน มันไม่น่าจะมีอันตรายมากมายอะไรนัก

“งั้นไปกัน! ฉันนำหน้า นายระวังหลัง!” สีหน้าของชายที่เสนอให้เข้าไปตรวจสอบเปลี่ยนเป็นจริงจัง มือถูกยื่นออกไปสร้างเป็นโล่พลังงานขนาดใหญ่ขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยชักชวนให้เริ่มขยับตัว

ทั้ง 2 คนเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ ด้วยความระมัดระวัง สายตานั้นกวาดมองรอบข้างอย่างไม่ยอมให้มีสิ่งผิดปกติอะไรหลุดรอดสายตาไปได้

...

เดวิดยังคงนอนนิ่งอยู่ใต้ซากขยะที่ส่งกลิ่นเหม็นหึ่งออกมา สายตานั้นเต็มไปด้วยความขมขื่น วิธีที่เลือกใช้ เขาไม่แน่ใจแล้วว่ามันผิดหรือถูก รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ร่างกายอ่อนแอมากเกินไปแล้ว

‘ให้ตายสิ! วันนี้ฉันจะต้องมาตายที่นี่หรือยังไง?’ พลังงานในร่างกายของเดวิดไม่เหลืออยู่แล้ว อย่างพูดถึงเรื่องต่อสู้เลย แม้แต่การขยับตัวให้ลุกขึ้นยืน เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองจะทำได้หรือไม่ ถ้าเจ้า 2 คนที่กำลังตามหาตัวอยู่มาเจอเข้า เดวิดไม่มีทางหนีรอดพ้นเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย

และสิ่งที่เขาเป็นกังวลก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาขยับเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ จนในที่สุด เดวิดก็รับรู้ได้ว่ามีร่างของคนกำลังยืนค้ำร่างที่นอนนิ่งของตัวเองอยู่ เขาต้องกลั้นใจควบคุมไม่ให้หัวใจเต้นแรง ควบคุมร่างกายทุกส่วนไม่ให้กระตุก มันเป็นความรู้สึกที่ทรมาณมากเหลือเกิน

“ฉันคิดว่าพวกเราเข้ามาใกล้มากพอแล้วนะ” เสียงพูดสั่น ๆ ดังออกมาจากปากของคนที่เดินตามหลัง

ชายคนที่เดินนำหน้าหันกลับไปจ้องด้วยสายตาที่หงุดหงิดเล็กน้อย “อย่าทำตัวเป็นคนขี้กลัวไปหน่อยเลยน่า ถ้านายยังทำตัวขี้ขลาดไม่กล้าเสี่ยงแบบนี้ เมื่อไหร่จะยกระดับตัวเองให้เป็นเบต้าได้?”

หลังจากนั้น เขาก็คำรามเบา ๆ ออกมาจากลำคอ เสียงกระดูกเคลื่อนดังออกมา ก่อนที่ร่างกายจะเปลี่ยนรูปลักษณ์กลายเป็นหมาป่าสีน้ำตาลที่สูงเกือบ 2 เมตร

ชายคนที่เดินตามหลังไม่รอช้า เขาเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหมาป่าสีดำปนน้ำตาลขนาดไล่เลี่ยกันทันที

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มันทำให้เดวิดต้องห้ามใจตัวเองเป็นอย่างมาก เขาเกือบจะโจมตีออกไปด้วยไม้ตายสุดท้ายที่ตัวเองมีอยู่แล้ว และนั่นจะเป็นความผิดพลาดที่ทำให้ถึงตาย สิ่งที่เก็บเอาไว้ มันมีไว้เพื่อตอบโต้การโจมตีเท่านั้น ไม่ใช่การเริ่มโจมตีก่อน เดวิดพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ

หมาป่าสีน้ำตาลลงมือแล้ว ขาหน้าของมันตวัดอย่างแรงลงไปที่พื้นดินเบื้องหน้า อุ้งเท้าทั้ง 2 ข้างถูกใช้ตะกุยขุดหลุมอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นดิน หิน หรือแม้แต่เศษโลหะที่ขวางทางอยู่ถูกกงเล็บที่แหลมคมตัดกระจาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน หมาป่าสีน้ำตาลก็ถอยหลังกลับมาพร้อมกับการแยกเขี้ยวจ้องมองลงไปอย่างสับสน

หมาป่าสีดำปนน้ำตาลก้าวเท้าเข้ามาชะโงกดูหลุมที่เพิ่งถูกขุดขึ้น ท่าทางนั้นยังดูหวาดกลัวเล็กน้อย แล้วสายตาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นประหลาดใจ

ในหลุมนั่น มันมีแต่เลือดอยู่เต็มไปหมด...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด