ตอนที่แล้วบทที่ 62 : ความเสียหายที่ทำได้ใน 1 วิ (2-1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 64: ความเสียหายที่ทำได้ใน 1 วิ (3-1)

บทที่ 63 : ความเสียหายที่ทำได้ใน 1 วิ (2-2)


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 63 : ความเสียหายที่ทำได้ใน 1 วิ (2-2)

ฉันหันไปพูดกับออลก้าที่กำลังจ้องมองกลุ่มคนพวกนั้นอย่างไม่ว่างตา

"เฮ้ คุณหนู"

"กำลังพูดกับฉันเหรอ?"

“มีใครอยู่ที่นี่อีกนอกจากเธอ”

“ฉันไง ฉันก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน”

ฉันเขกหน้าผากของเจนน่าแรงๆ ก่อนพูดต่อ

“ใช้เวทมนตร์อะไรได้บ้าง?”

“ถามทำไม?”

“ทำไมถึงถามน่ะเหรอ เพราะอยากรู้ว่าเธอมีความสามารถในการต่อสู้อะไรบ้าง?”

“ฉัน…”

เสียงของออลก้าติดขัดลงขณะที่เธอกำลังพูด

“ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่ได้…?”

“เธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อต่อสู้หรอกเหรอ?”

“ฉันไม่ได้เต็มใจสักหน่อย! ฉันถูกบังคับให้ต่อสู้โดยไม่เหตุผลในสถานที่ไม่คุ้นเคยบ้านี้ ไร้เหตุผลสิ้นดี!”

“เธอต้องต่อสู้ ไม่อย่างนั้นเธอก็จะจบลงแบบไอ้พวกที่เพิ่งเข้าห้องหลอมรวมไป”

“…”

แม้ว่าความทรงจำของเธอจะดูสับสน แต่ออลก้าที่ดูไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่งข้างฉัน

“ขอถามอีกครั้งนะ..เธอสามารถใช้เวทมนตร์อะไรได้บ้าง?”

“เวทย์เพลิง ฉันสามารถใช้เวทย์เพลิงได้ถึงระดับ 3”

จากหน้าต่างสถานะของเธอ ฉันก็รู้อยู่แล้ว

“ฉันรู้แล้วเรื่องนั้นแล้ว ว่าแต่เวทมนตร์อื่นล่ะ? สามารถใช้เวทย์มนตร์อื่นเช่นการเคลื่อนย้ายมวลสารได้หรือเปล่า?”

“เวทมนตร์ประเภทนี้จัดอยู่ในระดับ 3 หรือสูงกว่า”

“แสดงว่าเธอไม่สามารถใช้มันได้สินะ”

“มีปัญหาเหรอ? ถ้าฉันแสดงเวทมนตร์ของฉันออกมา รับรองว่าจะต้องประหลาดใจกันหมดแน่”

“ก็แค่น่าผิดหวังนิดหน่อย”

เวทมนตร์เสริมแกร่งจะให้ความคล่องตัวมากกว่าเวทมนตร์เชิงรุก ฉันจึงถามออกไป เนื่องจากมันอาจมีความเป็นไปได้ที่เธออาจจะมีความสามารถที่ซ่อนอยู่ บางทีมันอาจไม่ได้ระบุไว้ในหน้าต่างทักษะของเธอ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีของอะไรแบบนั้น

ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเป็นนักเวทย์ที่มีค่ามากอยู่ดี

“จากนี้ไปเธอจะต้องออกไปสู้กับพวกเรา เข้าใจไหม?”

"รู้แล้ว ถึงฉันไม่รู้สึกเต็มใจก็เถอะ”

“เคยมีประสบการณ์ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดบ้างไหม?”

"แน่นอนสิ! ฉายาฉันคือแม่มดแห่งรีเวลเชียวนะ!'”

ไม่คิดเลยว่าออลก้าจะเชี่ยวชาญเวทมนตร์เพลิงและมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดด้วย

ดูเหมือนเธอจะรู้สึกไม่สบายใจมากกว่าจะรู้สึกกลัวกับสิ่งที่พบเจอ นั่นถือว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกทีเดียว ดูเหมือนว่าเธอคงจะสามารถปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของเธอในฐานะฮีโร่ระดับ 3 ดาวได้ทันทีเมื่อต่อสู้

ยังมีเวลาอีกสักพักก่อนที่กลุ่มปาร์ตี้ 2 จะกลับมา

ในช่วงเวลานั้น ฉันสอบถามเกี่ยวกับความรู้เรื่องพิกมีอัพของออลก้า แต่เธอก็ลังเล ก่อนจะตอบออกมา

เธอรู้เรื่องพื้นฐานคล้ายกับอีดิส เธอเข้าใจเรื่องการอัญเชิญและการหลอมรวม แต่เธอไม่คุ้นเคยเรื่องของระดับและเกรด

“ทำไมถึงถามเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์ของฉันกัน? นายมีความรู้เรื่องเวทย์มนตร์งั้นเหรอ?”

"ไม่เชิง ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้มากนัก”

สิ่งที่ฉันพูดไปไม่ใช่ว่าไม่ถูกต้อง เวทมนตร์เป็นสิ่งลึกลับและไม่ได้มีอยู่บนโลก

แม้ว่าจะสามารถจัดหมวดหมู่และจำแนกฮีโร่ตามกายภาพได้ในพิกมีอัพ แต่นักเวทย์กลับแตกต่างออกไป เพราะแต่ละคนล้วนมีลักษณะพิเศษ จนไม่สามารถกำหนดให้เป็นประเภทใดประเภทหนึ่งได้ หากไม่มีประสบการณ์โดยตรงก็เป็นการยากที่จะกำหนดวิธีใช้ความสามารถของพวกเขา การจัดการนักเวทย์ถือเป็นปัญหาที่ท้าทายที่สุดสำหรับนายท่านมือใหม่

แน่นอนว่าเมื่อได้เห็นและวิเคราะห์เวทมนตร์ที่แตกต่างกันหลายร้อยชนิด ฉันจึงสามารถเข้าใจมันได้บ้าง

หลังจากนั้นไม่นาน ปาร์ตี้ที่ 2 ก็กลับมาที่จัตุรัสโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ

อีดิสดูพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ ความแข็งแกร่งของโรเดอริคคงเกินความคาดหมายมาก

ตอนนี้ถึงตาของปาร์ตี้ที่ 1 แล้ว

ไอเซลล์เรียกเราเข้าสู่รอยแยกของมิติและเวลา

อารอนหมุนหอกอย่างเหม่อลอยและได้ถามขึ้นมา

“เราเพิ่งเคยเจอนักเวทย์กันครั้งแรกใช่ไหมครับ? ผมนึกมาตลอดว่าพวกเขาเป็นแค่ตัวตนในจินตนาการซะอีก”

“นักเวทย์หายากขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉันถาม

“ไม่รู้เหรอครับพี่? ถึงผมจะเดินทางไปหลายที่ แต่ก็ไม่เคยพบนักเวทย์มาก่อนเลย” อารอนตอบ

“ตอนนี้เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว” เจนน่ากล่าว

ขณะที่เรากำลังรอ ความสนใจของฉันก็มุ่งไปอยู่ที่ออลก้าซึ่งกำลังสังเกตพวกเราอยู่อย่างใจเย็น ดูเหมือนเธอจะไม่ดูประหลาดใจเท่าไร แต่จากนั้นสายตาของฉันก็มองไปที่เสื้อผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ

การทดสอบที่แท้จริงก็จะเริ่มในไม่ช้า

“ปีนหอคอยและกอบกู้โลก!”

[ดันเจี้ยนหลัก : ชั้นปัจจุบัน – 7]

“ฉันว่าเราไปชั้น 4 ก็พอแล้วนะ” ฉันรำพึงเสียงดัง

นายท่านคงยังไม่ส่งเราไปที่ชั้นต่อไปหรอก

หากประเมินพลังเวทมนตร์ของเธอแล้ว ชั้น 4 ที่มีฮาร์ปี้และก็อบลินอยู่ร่วมกันคงเป็นการทดสอบที่เพียงพอแล้ว

แต่ก่อนอื่น ฉันต้องรู้ว่าพลังของออลก้าเป็นแบบไหน

แม้ว่าเวทมนตร์แห่งไฟมักจะเป็นความสามารถในการโจมตี แต่การใช้งานนั้นแตกต่างกันไปตามฮีโร่แต่ละคน นั่นหมายความว่าเราต้องปรับรูปแบบปาร์ตี้ของเราให้เหมาะสม อาจต้องเปลี่ยนไปจากแนวกลยุทธ์ดั้งเดิมที่เน้นการโจมตีระยะประชิด

ฉันหันไปหาอารอนและเจนน่าเพื่อเริ่มพูดคุย

“เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น เราจะอยู่ข้างหลัง”

"ทำไมล่ะ?"

“ฉันอยากจะรู้ว่าเวทมนตร์ที่เธอใช้แบบไหน”

"นั่นหมายความว่ายังไงเหรอ?" ออลก้าได้ยินที่ฉันพูด

“ไม่มีความมั่นใจเหรอ? ไหนบอกว่าถ้าได้เห็นพลังของเธอ พวกฉันจะต้องประหลาดใจไง?”

“ก็ใช่! ฉันน่ะเป็นคนพิเศษกว่าใคร”

"พิเศษเหรอ?"

“อืม…พวกนายจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน เดี๋ยวได้รู้เอง”

ฉันหัวเราะเบาๆ

ตั้งแต่มาที่นี่ ฉันได้เห็นฉากที่น่าทึ่งนับไม่ถ้วน การเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเรียกไฟจากมือจึงไม่ทำให้ฉันประหลาดใจอีกต่อไป

[เอาล่ะ จงเข้าไปได้! ท่านฮานสู้ๆ นะคะ!]

ร่างของไอเซลล์ค่อยๆ จางหายไป

แสงสว่างพุ่งออกมาจากกระจกด้านซ้าย

[ชั้นท้าทายปัจจุบันคือชั้น 8 ของดันเจี้ยนหลัก]

[ประตูจะเปิดภายใน 10 วินาที เตรียมพร้อม!]

ฉันประหลาดใจมาก ฉันรีบพยายามสงบสติอารมณ์และตะโกนเสียงดัง

“ชั้น 8! ทุกคนชักอาวุธออกมาเดี๋ยวนี้!”

“แต่พี่เพิ่งบอกให้เราอยู่ข้างหลัง…”

“เงียบได้แล้ว!”

'ไอ้นายท่านบัดซบเอ๊ย…'

การทดสอบบนชั้น 4 ดูเหมือนน้อยเกินไปสินะ

ยังไม่หายหัวร้อนอีกเหรอ?

ฉันใช้มือขวาชักดาบออกมาและยึดโล่ไว้ด้วยมือซ้าย ขณะที่แสงสว่างค่อยๆ ปกคลุมเรา เราก็ถูกพาไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย

เราเห็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ และเราสามารถมองเห็นกำแพงเมืองที่เราเคยเห็นที่ชั้น 6

เจนน่าเลิกคิ้วขึ้น

“อืม มันดูคุ้นๆ…เหมือนฉันเคยเห็นมันมาก่อนเลย”

ตัก ตัก ตัก ตัก ตัก

เสียงฝีเท้าสั่นสะเทือนจากด้านหลัง

“ทุกคน ระวัง!”

เจนน่ารีบกระโดดหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยอารอน

ออลก้ายืนอยู่ที่นั่น ดูเหมือนจมอยู่กับภวังค์และจ้องมองไปยังต้นทางเสียง

“อย่ายืนนิ่งสิ!”

ฉันลากออลก้าแล้วกลิ้งลงไปด้านข้าง

ชุดของเธอนั้นบดบังการมองเห็นของฉันมาก และภายในการมองเห็นที่เลือนรางก็ได้มีดาบเล่มหนึ่งถูกเหวี่ยงออกมาทางเรา ฉันใช้แขนขวาป้องกันออลก้าไว้

[ชั้น 8]

[ประเภทภารกิจ – ปราบปราม]

[เป้าหมาย – กำจัดศัตรูทั้งหมด!]

[ก็อบลินไรเดอร์ Lv.9 X 27]

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด