ตอนที่แล้วบทที่ 78 ความเป็นจริง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 80 การเผชิญหน้าระหว่างคนสองคนที่ลึกลับ

บทที่ 79 สงครามที่เกิดจากกล้วย


บทที่ 79 สงครามที่เกิดจากกล้วย

“ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เราไปล่าสมบัติกันดีไหม? บางทีในพวกสมบัติอาจมีสิ่งที่ท่านกำลังมองหา?”

โอลกะชูแผนที่ขุมทรัพย์ในมือของเธอให้เขาดู แม้ว่าจะเป็นแค่ของแถม แต่เธอก็เปรียบเทียบมันกับแผนที่ทะเลหลังจากกลับมา และยืนยันว่าสถานที่บนเกาะนั้นมีอยู่จริงบนเกาะบางแห่งในนิวเวิลด์

สัญชาตญาณของเธอกำลังบอกเธอว่าอาจมีบางสิ่งที่ดีอยู่ในนั้น และเธอก็มั่นใจในสัญชาตญาณของเธอซะด้วย ท้ายที่สุดแล้ว เธอรอดชีวิตมาได้หลายปีในท้องของปลาตกเบ็ดยักษ์โดยการพึ่งพามัน

บนเกาะมีผลไม้มากมาย แต่เธอสามารถหลีกเลี่ยงพิษได้ ได้พบกับเอลิซาเบธผู้เป็นมิตร จากนั้นหลบเลี่ยงการโจมตีของพวกไดโนเสาร์ และหลีกเลี่ยงกระแสน้ำกรด

นอกจากนี้ การล่าสมบัติยังถือเป็นอาชีพหลักของโจรสลัดอีกด้วย แม้ว่าเธอจะสนใจมันเล็กน้อย แต่เธอก็ตระหนักดีว่าความพยายามใดๆก็ตามที่จะค้นหาสมบัติด้วยตัวเธอเองจะไม่ประสบผลสำเร็จ และเธอก็จะสร้างแต่ปัญหาให้กับผู้อื่นเท่านั้น

หากเธอไปหาไคโด ก็มีโอกาสสูงที่เขาจะยอมรับคำขอของเธอ เพราะยังไงเสียเด็กฝึกคือคนโปรดของกัปตันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ด้วยอุปนิสัยของไคโด เขาคงจะส่งเธอไปเพื่อฝึกเดี่ยวอย่างไม่ต้องสงสัย

เชย์น่าก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ใช้ได้เช่นกัน เธอจะถือว่างานที่ไร้ความหมายดังกล่าวเป็นการเสียเวลาและอาจคิดว่าโอลกะว่างเกินไปแล้ว และมันจะทำให้เธอถูกจับไปฝึกเพิ่มเติม

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน มีเพียงอาร์เซอุสเท่านั้นที่จะเห็นด้วยกับคำขอนี้

และเธอก็ไม่ได้คิดผิด เป้าหมายของอาร์เซอุสคือการค้นหาศิลาแห่งชีวิต แต่เขาไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ดังนั้นเกาะทั้งหมดในทะเลอาจเป็นเป้าหมายของเขาได้ทั้งนั้น

เมื่อมีศิลาแห่งวารีอยู่ในมือ ทะเลจะกลายเป็นเหมือนสนามหญ้าหลังบ้านของเขา และเขาจะไม่ต้องกังวลกับการเผชิญกับปัญหาใดๆ

หลายเดือนผ่านไปโดยไม่มีความคืบหน้ามากนัก และเนื่องจากโอลกะได้รับสิ่งที่เรียกว่าแผนที่สมบัติ จึงไม่เสียหายที่จะลองเสี่ยงโชคกับมันดูสักหน่อย ใครจะรู้ คราวนี้เขาอาจจะพบบางสิ่งบางอย่างจริงๆก็เป็นได้

โอลกะได้สร้างเครื่องหมายไว้มากมายบนแผนที่สมบัติแล้ว และโดยพื้นฐานแล้วเส้นทางและเป้าหมายก็ถูกกำหนดไว้แล้วเช่นกัน

“การไปล่าสมบัติและเสี่ยงโชคอาจเป็นความคิดที่ดีก็ได้ บอกเชย์น่าให้เตรียมเรือเสีย เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้”

“เย้ ท่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ หนูจะไปบอกพี่สาวเชย์น่าทันที!”

อาร์เซอุสเลือกจุดหมายปลายทางใหม่ และกำลังคนที่คัดสรรก็เตรียมไว้พร้อมแล้ว

ในขณะเดียวกัน ควีนก็ต้อนรับฤดูเก็บเกี่ยวแรกของกล้วยที่เขาปลูก

กล้วยของโทรพิอุสนั้นไม่ใช่กล้วยธรรมดา หลังจากที่ควีนปลูกมัน หน่อกล้วยเหล่านี้ก็เติบโตอย่างรวดเร็วมาก และในเวลาเพียงหกเดือนพวกมันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว

ผลไม้พวกนี้ยังไม่สุกเต็มที่ แต่ควีนรู้อยู่แล้วว่าเขาประสบความสำเร็จในการปลูกมัน

เมื่อกล้วยเหล่านี้สุกเต็มที่ มันก็จะสายเกินไป โดยปกติแล้วมันจะถูกเด็ดก่อนที่จะสุกเต็มที่แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้สุก เฉพาะผู้ที่ทำงานในไร่เท่านั้นที่สามารถลิ้มรสผลสุกคาต้นแบบเต็มที่ได้

ก่อนหน้านี้ ควีนเคยลองชิมกล้วยที่เก็บมาแต่เนิ่นๆ แม้ว่าพวกมันจะไม่ดีเท่าอันที่งอกจากคางเขา แต่ก็ยังหวานกว่ากล้วยทั่วไป

นอกจากนี้ เขายังรู้สึกประหลาดใจที่พบว่ากล้วยเหล่านี้มีอายุการเก็บรักษานานกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตามสวนกล้วยของเขาก็ได้ประสบปัญหา

เกือบทุกเกาะที่มีคนอาศัยอยู่ในนิวเวิลด์มีเจ้าของ แต่ที่ชายแดนร่วมของกองกำลังที่แตกต่างกัน มักจะมีเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดสังเกต

ควีนเลือกเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งเขานำโจรสลัดที่เป็นเชลยมาเพื่อสร้างสวนกล้วย

เมื่อเทียบกับการขุดแร่ การปลูกกล้วยดูเหมือนจะง่ายกว่าเล็กน้อย อย่างน้อยพวกเขาก็ได้เห็นแสงแดดทุกวัน ผู้คนจำนวนมากจึงอยากมาที่นี่

มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เกิดมาแล้วก็เป็นโจรสลัดเลย ก่อนที่จะออกทะเล โจรสลัดจำนวนมากเป็นเพียงชาวนา พ่อค้า หรือชาวประมงธรรมดาๆ พวกเขามาอยู่บนเส้นทางนี้ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น ความปรารถนาหรือแรงกดดันจากแรงภายนอก

การปลูกกล้วยเป็นอาชีพเก่าแก่สำหรับหลายคนในกลุ่มนี้

อย่างไรก็ตาม เกิดการต่อสู้ขึ้นบนเกาะแห่งนี้และเหตุผลก็คือกล้วยเหล่านี้

ในตอนเช้าผู้คนบนเกาะก็เริ่มดูแลกล้วยกันตามปกติ นอกจากนี้ยังมีสมาชิกของกลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรอีกหลายสิบคนที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้างานที่นี่

เกาะเขตร้อนแห่งนี้แต่เดิมไม่มีคนอาศัยอยู่ และควีนก็เพาะปลูกเพียงส่วนเล็กๆเพื่อการเกษตรเท่านั้น เป็นผลให้มีเพียงส่วนหนึ่งของเกาะเท่านั้นที่ถูกครอบครองโดยคนของเขา และพวกเขาไม่จำเป็นต้องปกป้องอะไรเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ควีนค้นพบว่ากล้วยสองสามกล่องซึ่งถูกเก็บเกี่ยวก่อนเวลาอันควรและกำลังสุกงอมนั้นได้หายไป

สิ่งนี้ทำให้เขาโกรธมาก เขาจึงสั่งให้โจรสลัดบนเกาะเพิ่มกำลังการลาดตระเวน

ในตอนนี้ มีเรือโจรสลัดอีกลำมาจอดเทียบท่าที่อีกฟากหนึ่งของเกาะ

เรือโจรสลัดลำนี้ดูเหมือนว่าจะมีเจ้าของเป็นผู้หญิงมาก เพราะมีของประดับตกแต่งมากมายที่ดูเหมือนของหวาน ธงโจรสลัดมีกระโหลกมนุษย์เขียนด้วยลิปสติก และกระดูกไขว้ด้านหลังถูกแทนที่ด้วยสิ่งที่คล้ายลูกกวาด

มันคือกลุ่มโจรสลัดบิ๊กมัม และผู้นำคือชาร์ล็อตต์ เปโรเปรอส ลูกชายคนโตของตระกูลชาร์ล็อตต์

ในฐานะลูกชายคนโตของครอบครัว เปรอสเปโรได้รับความไว้วางใจให้รับผิดชอบงานอันยิ่งใหญ่ เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อเรือของบิ๊กมัมแล่นผ่านเกาะใกล้เคียง จู่ๆโรค 'การกินผิดปกติ' ของชาร์ลอตต์ หลินหลินก็เกิดขึ้น

ความผิดปกติของการกินของเธอเป็นเรื่องของโชคจริงๆ ถ้าเธอไม่สามารถหาอาหารที่เธอต้องการได้ เธอจะทำลายข้าวของต่างๆต่อไป ครั้งที่แล้ว ความผิดปกติในการกินของเธอคือมูสกล้วย และสมาชิกกลุ่มโจรสลัดบิ๊กมัมก็ต้องค้นหาส่วนผสมไปทุกแห่ง

มีคนขโมยกล้วยไปสองสามกล่อง และโจรสลัดบนเกาะก็หลับกันหมดและไม่คิดว่าจะมีใครมาขโมยกล้วยหรอก

ชาร์ลอตต์ หลินหลินก็ประสบความสำเร็จในการแก้การกินผิดปกติของเธอด้วยรสชาติมูสกล้วย หลังจากนั้นไม่ว่าเธอจะกินกล้วยอะไรเธอก็รู้สึกว่ามันไม่อร่อย ดังนั้นลูกๆของเธอจึงวางแผนที่จะยึดครองเกาะนี้

ครั้งสุดท้ายที่พวกเขามาตอนกลางคืนโดยที่พวกโจรสลัดไม่ได้สังเกต แต่คราวนี้ พวกเขาปรากฏตัวในเวลากลางวันแสกๆ เมื่อโจรสลัดในไร่เห็นคนของบิ๊กมัมปรากฏตัว พวกเขาก็ตกตะลึงกันไปหมด

“พวกแกเป็นใคร!”

“คุคุคุ~ เรามาที่นี่เพื่อยึดเกาะนี้ จากนี้ไปนี่คืออาณาเขตของเรา ตราบใดที่พวกแกจัดหากล้วยให้เพียงพอทุกปี แกก็สามารถยืมธงของเราได้”

นอกเหนือจากเกาะที่ถูกยึดครองภายในอาณาเขตของท็อตโตะแลนด์แล้ว เกาะอื่นๆที่ถูกยึดครองเพียงยืมธงและไม่จำเป็นต้องสละอายุขัยของพวกเขา แต่ต้องถวายส่วยให้เพียงพอทุกไตรมาส มิฉะนั้นพวกเขาจะเผชิญกับความพินาศ

พวกเขาอาจจะทำนาเองไม่ได้ และไม่มีแรงงานเพียงพอที่จะทำ จึงเป็นเหตุให้ต้องอาศัยคนในพื้นที่ทำแทน

แม้ว่าเปโรเปรอสจะพูดเช่นนั้น แต่จริงๆ แล้วเขากำลังแจ้งให้พวกเขาทราบเท่านั้น

“นี่มันเรื่องตลกอะไรเนี่ย? แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ไอ้เด็กเหลือขอ? นี่คืออาณาเขตของกลุ่มร้อยอ…” คำพูดของบุคคลนั้นถูกตัดขาดเมื่อมีขนมจำนวนมากพันรอบตัวเขา และทำให้เสียงของเขาอู้อี้

“นี่ไม่ใช่การโต้เถียงกัน มันเป็นคำสั่งนะเว้ย! มีใครจะคัดค้านอีกไหม?”

ทันใดนั้นเมื่อรู้สึกถึงภัยคุกคามจากท้องฟ้า เปโรเปรอสจึงเปลี่ยนลูกกวาดให้เป็นกำแพงและสกัดกั้นการโจมตีนั้น เมล็ดพืชถูกฝังอยู่ในกำแพงลูกกวาดของเขา

“งั้นก็เป็นพวกแกเองซินะ ไอ้พวกเวรที่ขโมยกล้วยของฉันไปเมื่อสองสามวันก่อน ฮ่ะ!?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด