ตอนที่แล้วบทที่ 29: การวางรากฐานให้มั่นคง (3-2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31:  การวางรากฐานให้มั่นคง  (4-2)

บทที่ 30: การวางรากฐานให้มั่นคง (4-1)


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 30: การวางรากฐานให้มั่นคง (4-1)

[ซี แฮนสัน จอห์น เท็ดดี้ เดินออกมา!]”

คนที่ถูกเรียกชื่อต่างสะดุ้ง

ชายผู้มีหนวดก้าวไปข้างหน้าและพูด

“เรียกพวกเราที่นี่โดยไม่มีคำอธิบาย และบอกให้เราทำสิ่งนั้นสิ่งนี้โดยไม่มีเหตุผล เกินไปหรือเปล่า? อย่างน้อยก็ควรให้คำอธิบายบ้างสิ!”

"ใช่ ใช่!"

[โอ๊ะ อยากได้แบบนั้นจริงเหรอ?]

ไอเซลล์พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

[ฟังนะถ้าเข้าไปที่นั่น สัตว์ประหลาดก็จะปรากฏตัวขึ้น สิ่งที่ต้องทำแค่ต้องต่อสู้กับพวกและชนะถึงจะได้ออกมา]

"อะไร? ทำไมเราต้องต่อสู้ด้วย? นั่นไม่สมเหตุสมผลเลยนะ!”

[เหตุผลเพราะอย่างนี้ไงว่าทำไมฉันถึงไม่ชอบไอ้พวก 1 ดาว!]

ไอเซลล์คว้าข้อมือของชายคนนั้นแล้วโยนเขาเข้าไป ผู้คนต่างอ้าปากค้างกับพลังอันมหาศาลที่ออกมาจากร่างเล็กๆ ของเธอ

[มีสองทางเลือก จะเดินเองหรือบินไปเข้าแบบไอ้เจ้าคนนั้น!]

“ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดเหรอ? ถึงอย่างนั้น…”

ทั้งสามลังเลแต่ในที่สุดก็เดินเข้าไป

ประตูปิดลง

มันไม่สมเหตุสมผลจริงๆ นั้นแหละ

ถูกอัญเชิญมาโดยไม่รู้ตัว และถูกบังคับให้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาด ฉันรู้ว่ามันไร้สาระและไม่ยุติธรรมแค่ไหน

มีคำที่เรียกว่า “คัดแยก” อยู่ในเกมพิกมีอัพ

เป็นหนึ่งในเทคนิคของเกม ทั้งยังเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการจำแนกตัวละคร 1 ดาวที่สามารถใช้งานได้ วิธีการนั้นง่ายมาก

เพียงโยนพวก 1 ดาวที่เพิ่งได้มาเข้าไปในดันเจี้ยน

ด้วยการทำเช่นนั้น...

['จอห์น (★) กลับสู่อ้อมกอดของเทพธิดาแล้ว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันกล้าหาญของเขาจะถูกจดจำไปชั่วนิรันดร์]

ฮีโร่ที่ไม่มีประสบการณ์และไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้จะถูกกรองออกโดยอัตโนมัติ

ชั้นที่ท้าทายที่สุดน่าจะเป็นชั้น 1 นี้แหละ

ที่ชั้น 1 มีก็อบลินจำนวนหนึ่งที่ถือดาบเก่าๆ ปรากฏตัวขึ้นพวกมันเป็นมอนสเตอร์ระดับต่ำที่สุด หากพวก 1 ดาว ระดับ 1 ที่ไม่รู้อะไรเลย จัดการพวกมันอย่างใจเย็น ก็คงสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย

['เท็ดดี้(★) กลับสู่อ้อมกอดของเทพธิดาแล้ว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันกล้าหาญของเขาจะถูกจดจำไปชั่วนิรันดร์]

หากโชคไม่ดี ทั้งปาร์ตี้อาจถูกกวาดล้างเหมือนกับครั้งแรก

จากนั้นมันก็ไม่มีข้อความการตายปรากฏขึ้นอีก

“สะ สู้กับสัตว์ประหลาดเนี่ยนะ…”

“เราทำแบบนั้นไม่ได้หรอก! เราทำไม่ได้!”

ชายคนหนึ่งนั่งที่อยู่บนม้านั่งลุกขึ้นยืนทันที

ไอเซลล์ ที่ทำหน้าที่สังเกตการณ์ได้หายตัวไปในนั้นเงียบๆ ชายคนนั้นเริ่มวิ่งออกจากจัตุรัสอย่างรวดเร็ว

“นายไม่ควรวิ่งหนีไปนะ”

เจนน่าขวางทางของเขา

เธอฝึกมาอย่างหนักแล้ว แต่กลับต้องมารับมือพวกนี้อีก

"ทำไม? ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นด้วย?”

ชายและหญิงสามสี่คนรวมตัวกันใกล้รอยประตู

"ฉันไม่รู้ ฉันว่าเราคงจะต้องรีบหนีแล้ว”

“เราหนีไปด้วยกันเถอะ!” ชายคนนั้นจับที่แขนเจนน่า แต่เธอสะบัดออก

เมื่อเห็นว่าเธอปฏิเสธ ชายคนนั้นจึงเดินผ่านเจนน่าไปและพยายามเปิดประตูหอพัก แต่มันไม่ได้เปิดออกมา คราวนี้เขาดึงประตูสนามฝึ มันถูกล็อค ทั้งประตูนี้และประตูนั้นไม่อนุญาตให้ชายคนนี้เข้าไป

“ให้ตายเถอะ ให้ตายเถอะ!”

ชายคนนั้นเริ่มเอาหัวโขกกำแพง

หลังจากนั้นไม่นาน ผู้รอดชีวิตสองคนก็กลับมา ทั้งสองคนยังเป็นเด็กหนุ่มใบหน้าของพวกเขาซีดเซียวเหมือนผี ไอเซลล์เริ่มเรียกรายชื่อปาร์ตี้ถัดไปด้วยเสียงแข็งๆ

“ดิก้า ดีการ์ด ชิกเลอร์ โคลอี้!”

“เฮือก!”

ผู้หญิงที่ถูกเรียกชื่อคุกเข่าลง อารอนซึ่งปิดตาแน่นด้วยความหงุดหงิดลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปหาพวกเขา

[แกจะทำอะไร? ยังไม่ถึงตาแก ดังนั้นถอยไปซะ]

“ผมจะสู้พร้อมพวกเขาเอง!”

[อะไรของแก?]

ดวงตาของไอเซลล์เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

ฉันกับเจนน่าก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน

“ปกติเขาเป็นแบบนี้เหรอ?”

“คงไม่สามารถตัดสินคนด้วยการมองเพียงครั้งเดียวจริงๆ”

ฉันหัวเราะแล้วพูดขึ้น

“ไอเซลล์ ให้อารอนเข้าร่วมปาร์ตี้เถอะ เขาอาจจะยังขาดทักษะการต่อสู้ไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้แย่นะ”

[แต่…]

ไอเซลล์ลังเลอยู่พักหนึ่ง โดยสลับการจ้องมองระหว่างฉันกับอารอน จากนั้นก็หายไป

“อารอน (★) ต้องการเข้าร่วม 'ปาร์ตี้ที่ 3' ตกลงหรือไม่?”

[ใช่ (เลือก) / ไม่ใช่]

ถ้าเจนน่าหรือฉันเลือกไป เราคงถูกปฏิเสธ แต่มีเพียงอารอนที่อยู่ในระดับ 2 เท่านั้นที่สามารถเก็บค่าประสบการณ์จากชั้น 1 ได้

อารอนจับมือของหญิงสาวที่กำลังร้องไห้คุกเข่าพยุงเธอขึ้นแล้วพูดว่า

“หากเราใจเย็นและช่วยกัน เราก็สามารถรอดไปได้ ไม่ต้องกังวลหรอก”

อารอนคว้าหอกจากด้านหลังทันทีแล้วโบกมือให้ฉัน

เขาคงพยายามปกป้องคนพวกนี้ แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้ตัวเลย ใบหน้าของพวกนั้นแค่ดูผ่อนคลายลงเท่านั้น

“อารอน”

“ครับพี่”

“เป็นเรื่องดีที่นายช่วยเหลือคนอื่น แต่อย่าสร้างปัญหานะ”

“เข้าใจแล้วครับ”

อารอนพยักหน้า

ดูเหมือนเขาจะเข้าใจความหมายของคำพูดของฉัน

อารอนเข้าไปในรอยแยกพร้อมกับอีกสี่คน และประตูก็ปิดตามหลังพวกเขา

“เหลือรอดออกมาเพียงสองคนเท่านั้นสินะ”

ฉันตรวจสอบหน้าต่างสถานะของชายหนุ่มที่เคยเป็นช่างไม้

เขามีทักษะที่เรียกว่า “ช่างไม้ฝึกหัด” ดูเหมือนว่าเขาเป็นช่างไม้จริงๆ หลังจากที่นายท่านไรก็ได้มอบหมายให้เขาไปทำงานช่างไม้แล้ว เขาก็ทำหน้าที่ของเขาเอง

ในทางกลับกัน ชายหัวเกรียนนั้นก็เหงื่อออกไปทั่วทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว เขามองไปรอบๆ ด้วยความระแวง เมื่อสบตากันกับฉันเขาก็รีบหลบสายตาทันที

“บอกพวกเขาเร็วๆ หน่อย ฉันหิวข้าว!”

เจนน่ากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ เตะขาของเธอด้วยความเอาแต่ใจ

ฉันตีหัวเธอไปทีนึง

“ตีฉันทำไมคะเนี่ย?”

เธออ่านบรรยากาศไม่ออกหรือไงกัน

ผู้รอดชีวิตสองคนจากการต่อสู้ครั้งแรกนั้นก็เหนื่อยแทบตายแล้ว เจนน่าเหลือบมองไปในทางของพวกเขาแล้วพูดว่า

“เดี๋ยวพวกเขาก็รู้สึกดีขึ้นหลังจากได้ทานอาหารมื้ออร่อยและพักผ่อน ไม่ใช่เหรอ?”

“อ้วกกกก แหวะ!”

หนึ่งในนั้นปิดปากแน่นแล้วเริ่มอาเจียนออกมา

"ดูสิ! พวกเขาต้องล้างท้องเพื่อให้กินได้เยอะๆ ไง”

เธอมันปีศาจชัดๆ เย็นชาอะไรได้ขนาดนี้!

เมื่อไม่มีข้อความใดปรากฏต่อหน้าฉัน ฉันก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย

เมื่อสังเกตเห็นเช่นนั้น เจนน่าก็กระซิบข้างหูฉันเบาๆ

“อีกกลุ่มหนึ่งคงผ่านมาได้แล้วใช่ไหม?”

"อะไร?"

“ก็นายหัวเราะ”

“ฉันเหรอ?”

นายหัวเราะสิ ฉันเห็นนะ”

เจนน่าผิวปากราวกับว่าเธอกำลังหัวเราะเยาะฉันกลายๆ

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด