ตอนที่แล้วบทที่ 32: ราวกับเดินบนเส้นด้าย (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 34: ราวกับเดินบนเส้นด้าย(3)

บทที่ 33: ราวกับเดินบนเส้นด้าย (2)


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 33: ราวกับเดินบนเส้นด้าย (2)

ภารกิจปราบมอนสเตอร์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การเอาชนะมอนสเตอร์เท่านั้น

แต่รวมไปถึงกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การออกเดินทางเพื่อไปยังถิ่นที่อยู่ของมอนสเตอร์ การตามรอยพวกมัน และกำจัดพวกมันในท้ายที่สุด

ดังนั้นความยากของภารกิจเหล่านี้จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์เพียงอย่างเดียว

แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่การปราบนกค็อกคาไทรซ์ บางครั้งก็อาจมีท้าทายมากกว่าการกำจัดคราเค่น

ถิ่นที่อยู่อาศัยอันหลากหลายของมอนสเตอร์ก็มีส่วนเช่นกัน

นักรบบางคนอาจถนัดการต่อสู้ในทุ่งหญ้า ขณะที่บางคนอาจได้เปรียบกว่าเมื่ออยู่ในทะเล

ฉะนั้น นักรบที่สามารถโค่นหัวหน้าฝูงนกค็อกคาไทรซ์บนทุ่งหญ้าได้อย่างง่ายดาย อาจพบว่าตัวเองไม่สามารถจัดการกับคราเค่นตัวน้อยๆในทะเลได้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์โดยทั่วไปยังสอดคล้องกับอายุของมันอีกด้วย

นั่นหมายความว่ายิ่งมันมีอายุที่มาก ความแข็งแกร่งก็มากเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ มอนสเตอร์ที่มีอายุยืนยาวอยู่มานานก็จะมีชื่อที่ถูกเรียกอีกด้วย

ซึ่งส่วนใหญ่มอนสเตอร์ที่มีชื่อเรียกก็มักจะเป็นผู้นำของเผ่าพันธุ์ของมัน

โดยสัญชาตญาณแล้วมอนสเตอร์ตัวอื่นก็จะรวมตัวกันรอบๆ มอนสเตอร์ที่เป็นผู้นำของพวกมันคล้ายกับพวกลูกสมุน

หากเจอมอนสเตอร์ระดับนั้น ระดับความยากก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และพวกมันก็จะมีจุดอ่อนน้อยลงเรื่อยๆ

มอนสเตอร์อาศัยความสามารถทางกายภาพโดยธรรมชาติเป็นหลัก

ด้วยเหตุนี้ การมีมอนสเตอร์ที่มีชื่อเรียกเพียงตัวเดียวจึงเพิ่มความยากในการจัดการได้อย่างมาก

ตัวอย่างของมอนสเตอร์ที่มีชื่อก็เช่น ราชาด้วงยักษ์, นกค็อกคาไทรซ์ยักษ์ และอื่นๆ

ในบรรดานกค็อกคาไทรซ์ที่มีชื่อนั้น จะมีพวกที่มีขนสีเหลืองโดดเด่นเป็นจ่าฝูงและพวกที่มีขนสีแดงเป็นหน่วยกำลังรบ

พวกเราเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเหนือทุ่งหญ้า ซึ่งแน่นอนว่าถูกสร้างขึ้นด้วยเวทมนตร์เช่นกัน

'อืม เป็นดันเจี้ยนประเภททุ่งหญ้างั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าไม่น่าจะมีราชาด้วงยักษ์ที่นี่สินะ'

เดิมทีที่นี่เป็นภูมิประเทศแบบทะเลทราย แต่เนื่องจากเส้นเรื่องมีการเปลี่ยนแปลงไปจากตอนที่เป็นเกม อาจมีความเป็นไปได้ที่ราชาด้วงยักษ์จะไม่ปรากฏตัว

อย่างไรก็ตาม ทุ่งหญ้าเป็นที่อยู่อาศัยหลักของนกค็อกคาไทรซ์

'กลุ่มน็อคตาร์จะเป็นไงบ้างนะ?'

ก่อนเข้าสู่ดันเจี้ยน ฉันบอกน็อคตาร์และเพื่อนๆ ออร์คของเขาให้ใช้คริสตัลสื่อสารฉุกเฉิน หากพวกเขารู้สึกว่ามันอันตรายเกินไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อน็อคตาร์ต้องร่วมมือกับแอนดรูว์ เขาอาจจะกลายเป็นคนหยิ่งผยอง

'ฉันหวังว่าพวกเขาจะเข้าใจนะ'

เนื่องจากการกระทำของฉัน อนาคตของน็อคตาร์และพวกออร์คจึงน่าจะเปลี่ยนไป

เช่นเดียวกับธีโอ น็อคทาร์เป็นตัวละครพิเศษที่เสียชีวิตอย่างอนาถในเส้นทางส่วนใหญ่หลังจากติดอยู่กับเหตุการณ์ในช่วงปลายปีการศึกษาแรก

ในเส้นทางสเปียร์แมนตอนนี้ เขาเป็นตัวละครที่ถูกกล่าวถึงเพียงสั้นๆในช่วงวาระการเสียชีวิต

ด้วยความสนิทสนมกัน ฉันอยากจะช่วยเขาสักทางใดทางหนึ่ง

ตอนนี้เรากำลังเดินทางต่อไปในทิศทางที่เซียน่าชี้ให้เห็น

"ดูนั่นสิ"

เทรวิสชี้มือไปทางยอดเขา

ที่นั่นมีมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่มีรูปร่างคล้ายไก่เดินสองขาปรากฏขึ้น

มันเป็นนกค็อกคาไทรซ์

“อา เป็นไปตามคาด พลังของจอมเวทย์วิญญาณน่าประทับใจมาก!”

เอชิลด์เสกคาถาใส่นกค็อกคาไทรซ์อย่างรวดเร็ว

หากโจมตีจุดสำคัญได้มันจะสร้างความเสียหายอย่างมาก

'แต่ว่า... มันตัวไม่เล็กเกินไปเหรอ?'

นกค็อกคาไทรซ์ตัวนี้ดูค่อนข้างตัวเล็กเกินไปสำหรับเผ่านกที่ตัวใหญ่

มันแตกต่างจากที่ฉันเห็นในเกมเพราะว่าฉันเห็นมันด้วยตาตัวเองในตอนนี้หรือเปล่า?

หรือเพราะฉันสังเกตเห็นมันจากระยะไกล?

อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์อย่างรวดเร็วถือเป็นเรื่องที่ดี

“อ่า น่าเสียดาย ฉันเล็งไปที่ขาของมัน”

เคี๊ยก เคี๊ยก!

นกค็อกคาไทรซ์ร้องแหลมออกมา ยามที่เอชิลด์โจมตีใส่โดนปีกของมัน

“อา พลาดจนได้ มันไกลเกินไป ถ้าฉันเข้าใกล้มันอีก 30 เมตรล่ะก็ฉันคงโจมตีมันโดนแน่”

เอชิลด์คลิกลิ้นของเขา

ปีกไม่ใช่จุดอ่อนของมัน

โดยปกติแล้ว มันคงจะได้รับบาดเจ็บมากตั้งแต่เวทย์มนต์โดนตัวมัน แต่นกค็อกคาไทรซ์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่การเคลื่อนไหวค่อนข้างยืดหยุ่น

หากต้องการหยุดการเคลื่อนไหว ควรเล็งไปที่ขาของมัน หากต้องการฆ่ามันด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ต้องกำหนดเป้าหมายไปที่จุดสำคัญ เช่น คอหรือหัวใจ

“อย่างน้อยนายก็โจมตีมันโดนนะ ฉันแทบจะมองไม่เห็นมันด้วยซ้ำ อ่า มันกำลังหนีไปแล้ว”

“กำลังทำอะไรอยู่ รีบไล่ตามกันเร็ว!”

เอชิลด์ตะโกนใส่เพื่อนร่วมทีมและเริ่มวิ่งนำหน้าไป

ตามที่คาดไว้ ความคล่องตัวของเขานั้นยอดเยี่ยมมากสำหรับการเป็นนักฆ่า

"···เขาเร็วมาก"

ร่างของเอชิลด์หายไปจากระยะสายตาแล้ว แม็กซ์ เทรวิส และฉันรีบพุ่งตามเขาไปอย่างสุดตัว

"······"

ในทางกลับกัน เซียน่ากลับวิ่งอย่างสบายๆ

ถึงกระนั้น ความเร็วระหว่างเราก็ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก

'จริงๆ แล้ว จอมเวทย์วิญญาณมีกำลังเหนือกว่าฉันด้วยซ้ำ'

เธอคงได้รับความช่วยเหลือจากวิญญาณแห่งลม

“ตายซะ!”

เอชิลด์ร่ายคาถาใส่นกค็อกคาไทรซ์อย่างต่อเนื่องในขณะที่เขาวิ่งไล่ตามมัน

แน่นอนว่ามันก็วิ่งหนีไปได้เช่นกัน

─เคี๊ยก เคี๊ยก!

เอชิลด์โจมตีโดยเล็งไปที่ขาของมัน แต่ในระหว่างนั้นมันกลับสามารถป้องกันเวทย์มนต์ของเอชิลด์ได้ด้วยการเอาปีกอันใหญ่โตของมันมาบังไว้

...ดูเหมือนมีบางอย่างแปลกๆ

เป็นเรื่องแปลกที่นกค็อกคาไทรซ์จะมีพฤติกรรมในการป้องกันเช่นนั้น เว้นแต่จะได้รับการฝึกมา

โดยปกติมอนสเตอร์ทั่วๆ ไป น่าจะพุ่งเข้าใส่เอชิลด์ด้วยความโกรธทันทีที่โดนเวทย์มนตร์โจมตีเข้าที่ปีกของมันตั้งแต่ครั้งแรก

แต่ตอนนี้พวกเราวิ่งไล่ตามมันมานานกว่าสามนาทีแล้ว

"...นั่นอะไรน่ะ?"

เอชิลด์พึมพำออกมา ใบหน้าของเขาซีดเซียวขณะจ้องมองฝูงนกค็อกคาไทรซ์ที่กำลังเข้ามาใกล้

ไม่กี่วินาทีต่อมา สมาชิกในทีมทุกคนก็เห็นฝูงนกค็อกคาไทรซ์ฝูงใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล

ความสิ้นหวังเข้าปกคลุมดวงตาของ เอชิลด์ แม็กซ์ และเทรวิส

'นี่มันสิ้นหวังสุดๆ'

ฉันรีบประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ในฝูงมีอย่างน้อย 10 ตัว

ฝูงนกค็อกคาไทรซ์ที่มีขนาดปกติจะต้องอาศัยทีมฮีโร่ระดับกลางในการเผชิญหน้ากับมัน

• ····และหนึ่งในนั้นมีขนสีเหลืองด้วยซ้ำ

<จ่าฝูงนกค็อกคาไทรซ์> ก็อยู่ในนั้นด้วย

เราจำเป็นต้องเปิดใช้งานคริสตัลการสื่อสารฉุกเฉิน

“เซียน่า เปิดใช้งานคริสตัลสื่อสารฉุกเฉิน”

"เข้าใจแล้ว~"

แม้จะมีสถานการณ์ตึงเครียด เซียน่าก็ตอบรับอย่างร่าเริงและเปิดใช้งานคริสตัลการสื่อสารฉุกเฉิน

เมื่อเปิดใช้งานแล้ว ผู้ฝึกสอนที่ดูแลจะมาถึงภายในเวลาประมาณห้านาที

'ไม่ว่ายังไงก็ตาม ภายในเวลาห้านาทีนี้ เราต้องเอาชีวิตรอดจากฝูงนกค็อกคาไทรซ์นี้ให้ได้'

การหลบหนีไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก นกค็อกคาไทรซ์นั้นเร็วพอๆ กับเอชิลด์ที่เป็นสมาชิกที่เร็วที่สุดในทีม

“เอ่อ...เอ่อ...เราจะทำยังไงดี...?”

“ให้ตายเถอะ ทำไม ทำไมกัน······ ทำไมจู่ๆ พวกมันถึงปรากฏตัวเป็นฝูงกัน? เราควรจับนกค็อกคาไทรซ์ยักษ์ตัวเดียวไม่ใช่เหรอ?”

แม็กซ์และเทรวิสส่งเสียงครวญ

“ให้ตายเถอะ นี่มันภัยพิบัติชัดๆ!”

ขณะที่เอชิลด์เคลื่อนไหว เขาก็ปาเวทมนตร์ใส่ฝูงนกค็อกคาไทรซ์ที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ

แต่เนื่องจากพวกมันมีจำนวนมาก ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้มากนัก

'เฮ้อ...'

ฉันก็คงกลัวเหมือนกัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสงบสติอารมณ์ได้ คงเหมือนกับตอนเจอผีพุ่งใส่ในเกมสยองขวัญนั่นแหละ

ในเกม เมื่อแพ้ คุณสามารถเริ่มใหม่ได้ตลอดเวลา

แต่สถานการณ์ที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ มันแตกต่างออกไป มันคือความเป็นจริงของฉัน

ความผิดพลาดครั้งหนึ่งอาจทำให้เราเดินตกจากเชือกที่บางราวกับเส้นดายและพินาศลง

"..."

ข้อแตกต่างระหว่างฉันกับคนอื่นๆ ก็คือ เนื่องจาก [ศักดิ์ศรีของขุนนางผู้บิดเบี้ยว] ฉันไม่แสดงอาการหวาดกลัวออกมาภายนอกได้เลย

แต่ความจริงแล้วฉันก็รู้สึกเหมือนกับพวกเขา

มีเพียงเซียน่าเท่านั้นที่ดูไม่สะทกสะท้านเลย

ดูเหมือนว่าเธอจะคิดอะไรบางอย่างได้ รอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏบนริมฝีปากของเธอ ราวกับว่าเป็นสถานการณ์น่าขบขัน

ฉันมั่นใจว่าเธอสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้ด้วยความแข็งแกร่งของเธอเองได้ทุกเมื่อ

'ถ้าเซียน่าใช้พลังของเธอครึ่งหนึ่ง เธอก็จะสามารถจับพวกมันได้อย่างง่ายดาย'

ช่างเป็นคนนิสัยเสียจริงๆ ฉันไม่อยากเกี่ยวข้องกับเอลฟ์นั่นจริงๆ

'ฉันไม่เคยคาดหวังความช่วยเหลือจากเธอเลย'

ฉันจึงวางแผนทันที

เป้าหมายคือการเอาตัวรอดจนกว่าผู้ดูแลจะมาถึง

เราต้องอดทนไว้ให้ได้อย่างน้อยห้านาที

"···น่ากลัว น่ากลัวมาก······"

“เราควรทำอย่างไรดีเอชิลด์?”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ให้ตายเถอะ ฉันแค่อยากจะเอาชนะจางวูฮีให้ได้อย่างน้อยหนึ่งครั้งเท่านั้นเอง”

อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้กับเด็กๆ เหล่านี้ที่ยอมแพ้และสูญเสียความสงบไปแล้ว

หากฝูงนกค็อกคาไทรซ์เข้ามาใกล้อีกหน่อย พวกมันก็จะวิ่งหนีกันไปคนละทาง ทำให้จัดการยากขึ้น

ฉันต้องป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์นั้นไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

“เทรวิส เก็บก้อนหินขึ้นมาเร็วเข้า ถ้าพวกมันเข้ามาใกล้ โยนหินใส่พวกมันซะ อย่ากลัวไป เพราะจะมีค็อกคาไทรซ์เพียงตัวเดียวหรือสองตัวเท่านั้นที่จะไล่ตามนาย”

ฉันออกคำสั่งให้เพื่อนร่วมทีมของฉันทันที

หากเรือต้องการกัปตัน ทีมก็ต้องการผู้นำเช่นกัน

"เอชิลด์ ใช้เวทย์มนตร์ของนายซะ ยิ่งถ้านายเข้าใกล้ค็อกคาไทรซ์มากขึ้นเท่าไร การกำหนดเป้าหมายไปยังจุดอ่อนของพวกมันก็จะง่ายขึ้นเท่านั้น"

ในสถานการณ์เร่งด่วนเราต้องรวมเป็นหนึ่งเดียว

ดังที่เราได้เรียนรู้ในวิชาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับฮีโร่ แม้ว่าในหัวจะสิ้นหวังสักเท่าใด แต่แขนและขาก็ต้องขยับต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ

“แม็กซ์ เตรียมเกราะป้องกันฝูงนกค็อกคาไทซ์ให้พร้อม”

"······ฉันกลัว."

“ด้วยความสามารถของนาย นายสามารถต้านทานการโจมตีของพวกมันได้ในระดับหนึ่ง”

"แต่ แต่······"

“ถ้านายไม่ยกโล่ขึ้นมาตอนนี้ ทุกคนที่นี่จะต้องตาย ฉันจะชดเชยจุดอ่อนของพวกเราเอง นายทำได้”

หลังจากพูดอย่างนั้นแล้ว ฉันก็ชักดาบยาวออกมาและยืนอยู่ใกล้ๆ แม็กซ์

เทรวิสมองด้วยสายตาว่างเปล่าหยิบก้อนหินขึ้นมา

“ให้ตายเถอะ ถ้าฉันจะตายล่ะก็ งั้นเอาออกมาใช้ให้หมดเลยก็ได้”

เอชิลด์สวมแหวนที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ลงบนนิ้วของเขา

"···เอาล่ะ ฉันจะลองดู······"

แม็กซ์ยกโล่ยักษ์ของเขาขึ้นมา

ฉันเหลือบมองไปยังเซียน่าซึ่งกำลังแสดงสีหน้าตื่นตาตื่นใจ จากนั้นก็มุ่งความสนใจไปที่มอนสเตอร์ที่กำลังเข้ามาใกล้

***

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด