ตอนที่แล้วบทที่ 95 ซาลาเปาทองหน้ายิ้ม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 97 ข้อบกพร่อง

บทที่ 96 การเปลี่ยนแปลง


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 96 การเปลี่ยนแปลง

บ่ายวันนั้น

หนังสือพิมพ์และสื่อทางเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งหมดต่างถูกสั่นคลอนด้วยคำพูดที่น่าอัศจรรย์ของโทนี่ในงานแถลงข่าว

ราคาหุ้นของสสตาร์กอินดัสตรีส์ลดลงกว่า 45% ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดหลายร้อยล้านดอลลาร์ระเหยหายไปในวันเดียวกัน นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นบางคนประเมินว่าสถานการณ์นี้จะไม่หยุดลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแน่

"ถ้าอย่างนั้นแล้ว คุณเนสเตอร์ คุณมีอะไรจะพูดถึงเรื่องคำพูดของโทนี่ สตาร์คในงานแถลงข่าวไหม?"

เอ็นบีซีทำรายการข่าวด่วนทันทีเพื่อหารือเกี่ยวกับสิ่งที่โทนี่สตาร์คทำในงานแถลงข่าว

"ผมคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว เขาอาจได้รับการกระทบกระเทือนบางอย่างในอัฟกานิสถานครับ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่ตัดสินใจเรื่องไร้สาระเช่นนี้หรอกครับ ส่วนทางด้านคณะกรรมการบริหารของสตาร์กอินดัสตรีส์คงจะนั่งกันไม่นิ่งแล้ว ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะให้คุณโทนี่ได้ตัดสินใจทำแบบนั้นได้ แต่ไม่ช้าก็เร็ว สตาร์กอินดัสตรีส์คงจะถูกลากลงมา..."

"แต่ฉันไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เนสเตอร์พูดนะคะ ฉันคิดว่าโทนี่ สตาร์คตัดสินใจถูกต้องแล้ว

โอ้คุณเชอร์ลีย์ ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้นครับ?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สตาร์กอินดัสตรีส์ได้มุ่งมั่นที่จะสร้างอาวุธทำลายล้างสูงให้กองทัพสหรัฐฯ ตามรายงานข่าวบางฉบับ กว่าหนึ่งในห้าของอาวุธเหล่านี้ได้ปรากฏขึ้นทั่วโลกผ่านช่องทางต่างๆ และตกอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้าย

ความคิดเห็นของคุณเชอร์ลีย์นั้นใส่ความคิดของตนเองลงมากเกินไป สตาร์กอินดัสตรีส์เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีสัญญากับกองทัพสหรัฐฯ นี่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถยกเลิกได้ด้วยคำพูดจาเพียงไม่กี่คำจากคนคนเดียว ผมยังคงยืนหยัดตามความคิดเห็นก่อนหน้านี้ที่บอกว่า ทางคณะกรรมการควรเริ่มคิดจัดการโทนี่ สตาร์คออกจากบริษัทได้แล้ว"

"เนสเตอร์ คุณเลือดเย็นเกินไปแล้ว!"

"ผมแค่มองโลกตามความเป็นจริง"

  ...

เรื่องราวของโลกภายอนกไม่สำคัญเลยกับไรอัน

เพราะมันคงจะใช้เวลาไม่นานนัก เรื่องพวกนี้ที่ถกเถียงกันก็จะไร้ความหมาย

การตัดสินใจของโทนี่ สตาร์คในการปิดสายผลิตอาวุธของสตาร์กอินดัสตรีส์ถูกไรอันมองว่าเป็นทั้งวิกฤตและการพลิกผัน ซึ่งการทำแบบนี้ มันจะทำให้ไอรอนแมนในอนาคตเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง

แน่นอนว่ามันคงต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่โทนี่จะกลายเป็นไอรอนแมนและทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า

ณ ไชน่าทาวน์ ภายในโรงฝึกศิลปะการต่อสู้

เหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นจนเกินความคาดหมายของไรอันไปพอสมควร

"เธอต้องการที่จะออกเหรอ?"

ยิปมันขมวดคิ้วและมองไปที่ไมค์หรือเจ้าหน้าที่องค์กรชีลด์ที่อยู่ข้างๆ เขาด้วยสีหน้าสับสน

'ทุกวันนี้พวกเจ้าหน้าที่ชีลด์มีเสรีภาพในการปฏิบัติภารกิจมากขนาดนี้เลยเหรอ?'

'ฉันให้ข้อมูลเขามาตั้งมาก แล้วทำไมจู่ๆ ถึงนึกอยากจะจากไปกัน? ไม่คิดจะเล่นตามกฎกันหน่อยหรือไง'

แม้ว่าจะมีคำถามมากมายในใจของไรอันที่ไม่สามารถถามออกมาได้ แต่ร่างแยกก็ยังคงแสดงตามบทบาทของเขา เขาทำสีหน้าสับสนเล็กน้อย "ทำไมจู่ๆ ถึงเลิกไปเช่นนี้ล่ะ?"

"ก็ช่วยไม่ได้นิ มันเป็นคำสั่งจากเบื้องบน'

เจ้าหน้าที่ชีลด์ผู้นี้เองก็หมดหนทางเช่นเดียวกัน ทว่าเนื่องจากความซื่อสัตย์ในอาชีพของเขาในฐานะเจ้าหน้าที่ชีลด์ เขากล่าวออกมาด้วยความเสียใจ "ถึงผมอยากจะเรียนรู้อาจารย์ต่อไป แต่ครอบครัวและแฟนของผมได้รู้เรื่องคนที่ชื่นจินที่หลอกลวงเงินจำนวนมากจากผมไปแล้ว พวกเขาจึงได้ทำการตัดสินใจ ถ้าผมยังคงมาที่นี่อีก พวกเขาคงจะตัดผมออกจากชีวิตของพวกเขา..."

เหตุผลที่ไมค์แต่งเรื่องขึ้นนั้นดูเรียบง่ายและไม่จริงใจเลย เพราะไรอันรู้เรื่องที่อีกฝ่ายเป็นเจ้าหน้าที่ชีลด์แล้ว ไรอันแทบจะไม่ต้องคิด มันเป็นข้ออ้าง 100%

ทว่าในเมื่ออีกฝ่ายพูดเช่นนั้น ร่างแยกของยิปมันในโรงฝึกศิลปะการต่อสู้ก็ไม่สามารถบังคับให้อีกฝ่ายอยู่ต่อได้ เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเงียบๆ และตอบกลับไป "อืม ครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ เธอเพิ่งจะอยู่ในโรงฝึกศิลปะการต่อสู้มาไม่นาน ฉันเองก็ไม่ได้สอนเธอมากนัก ในอนาคตฉันหวังว่าเธอจะฝึกท่าควบม้าอย่างขยันขันแข็ง แม้ว่ามันจะไม่สามารถพัฒนาความสามารถในการต่อสู้ของเธอได้ แต่อย่างน้อยมันก็จะทำให้ร่างกายของเธอแข็งแกร่งขึ้นขึ้น"

"ผมเข้าใจแล้วครับท่านอาจารย์" ไมค์ก้มหัวของเขาลง เขาจงใจทำสีหน้าเศร้าและรู้สึกผิด "ผมขอโทษที่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง ท่านอาจารย์"

"ไม่ใช่ความผิดของเธอเลย" ยิปมันส่ายศีรษะเบาๆ และทำหน้าเศร้าสร้อยเช่นเดียวกัน "อาจเพราะสายสัมพันธ์อาจารย์และศิษย์เราไม่ได้แข็งแกร่งถึงเพียงนั้น"

ในย่านไชน่าทาวน์ ภายในโรงฝึกศิลปะการต่อสู้ ยิปมันมองดูไมค์เดินออกไป

ในร้านขายของเก่า ไรอันก็อดไม่ได้ที่จะลูบคางของเขา เขามีความรู้สึกว่าทุกอย่างคงจะไม่ได้ดำเนินไปง่ายขนาดนั้น

เพราะอีกฝ่ายคือองค์กรชีลด์ องค์กรข่าวกรองและจารกรรมระดับสูง คงจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ในการไล่ตามคนที่น่าสงสัยอย่างยิปมันเป็นแน่

เมื่อนึกถึงเรื่องนั้น ไรอันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตัวมากขึ้นเล็กน้อย

  ...

"หนึ่ง ไม่สิ ขอเกี๊ยวทองอัตราส่วนทองคำสามที่"

หลังจากเสร็จสิ้นการพูดคุยกับโอบาไดอาห์และผู้ถือหุ้นในที่ประชุม โทนี่ก็เดินมายังรถขายอาหารเพื่อปลอบประโลมอารมณ์ที่ค่อนข้างแย่ของเขา

"ว่าแต่นายยังพอมีขนมปัง 'ธรรมดา' พวกนั้นที่ให้มาก่อนหน้านี้หรือไม่?" หลังจากมองไปที่ [เชลล์] ซึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับการทำอาหารในรถขายอาหาร ก็ดูเหมือนโทนี่จะคิดอะไรบางอย่างและจึงถามขึ้นทันที

"คุณหมายถึงซาลาเปาหน้ายิ้มงั้นเหรอ?" [เชลล์] ถามกลับขณะที่เขามองขึ้นไปทางโทนี่

โอ้ ถูกต้องเลย โทนี่เลิกคิ้วและพยักหน้า

"คุณบอกว่าคุณไม่ต้องการมันไม่ใช่เหรอ?" ซึ่ง [เชลล์] ก็ได้ถามออกไปอย่างไม่ใส่ใจนัก

"ใช่ อืม ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้สนใจมันก็เลยพูดแบบนั้น" โทนี่โบกมือของเขาไปมาพร้อมกับแก้ตัว "พอฉันกินลงไปคำหนึ่ง รสชาติก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร"

เชลล์เงียบไป

โทนี่เองก็เช่นกัน

"ก็ได้ พวกมันอร่อยมาก" ด้วยแรงกดดันจากการจ้องมองของ [เชลล์] โทนี่จึงได้แต่ต้องยอมรับมัน

"มันเป็นเพียงสิ่งที่ผมทำขึ้นเพื่อความสนุกเท่านั้น ตอนนี้ผมไม่มีส่วนผสมที่เหมาะแก่การทำอยู่" [เชลล์] กล่าวขณะละสายตาออกไป

"เป็นงั้นไป...”

แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียใจ แต่โทนี่ก็รู้ดีถึงถึงนิสัยของเจ้าของร้านรถขายอาหารคันนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พยายามดื้อดึงอีก เขาหยิบเกี๊ยวที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาและงับมันลงไปทันที

"เฮ้ มันจะรู้สึกยังไงเหรอถ้านายทำสิ่งที่ทุกคนคิดว่าผิดและมีเพียงนายเท่านั้นที่คิดว่าถูก?" ทันทีที่กินเกี๊ยวลงไป โทนี่ก็ถาม [เชลล์]

"คุณไม่ควรถามผมถึงเรื่องนี้แบบนี้ ผมเป็นแค่คนทำอาหาร"

คำตอบที่เขาคาดไว้ไม่ได้ตอบกลับมา [เชลล์] เพียงราดน้ำเย็นลงบนความกระตือรือร้นของโทนี่เท่านั้น

โทนี่ยกมุมริมฝีปากขึ้นอย่างกระอักกระอ่วนพร้อมกับอธิบายว่า "อืม บางทีฉันอาจจะคิดมากเกินไปเอง"

"พูดตามตรง ผมว่าคุณไม่จำเป็นต้องการคำตอบของคำถามนั้นหรอก เพราะคุณคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว"

โทนี่เลิกคิ้วมอง [เชลล์] และยัดเกี๊ยวนึ่งชิ้นสุดท้ายเข้าไปในปากของเขา "นายมีบริการจัดส่งหรือเปล่า?

“ไม่มี”

"อืม งั้นจากนี้ฉันคงไม่ได้กินอาหารฝีมือนายสักพักเลยสินะ"

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด