ตอนที่ 779 ผลแพ้ชนะ (ฟรี)

ตอนที่ 779 ผลแพ้ชนะ

“คัมภีร์มรดกหยวน?”

บนที่นั่งผู้ตัดสิน ฉินซู่เจียน มองเห็นเทคนิคบ่มเพาะของหวังตี่จู่

คัมภีร์มรดกหยวน!

แต่ไม่ใช่รูปแบบปัจจุบันของคัมภีร์มรดกหยวน แต่เป็นแบบก่อนหน้า

มันเป็นเทคนิคบ่มเพาะที่สมบูรณ์ในนิกาย

ตั้งแต่ต้นจนจบ คัมภีร์มรดกหยวนมีวิธีการปรับแต่งร่างกาย

บทจิตวิญญาณคือ ร่างอมตะคงกระพัน

บทศักดิ์สิทธิ์คือ ร่างอมตะบรรพกาล

เมื่อพิจารณาจากคัมภีร์มรดกหยวน ที่หวังตี่จู่ใช้ มันควรจะอยู่ที่ร่างอมตะคงกระพัน

"ไม่เพียงแต่ร่างอมตะคงกระพันเท่านั้น เขายังฝึกฝนเทคนิคปรับแต่งร่างกายอีกอย่างหนึ่งด้วย!"

“ชี่และเลือดของเขาหนานแน่นมาก เขาคงก้าวหน้าไปไกลพอสมควรในการปรับแต่งร่างกาย”

ฉินซู่เจียนสังเกตอย่างระมัดระวัง และสามารถมองเห็นไพ่ตายส่วนใหญ่ของหวังตี่จู่แล้ว

ด้วยการบ่มเพาะของเขา

ไม่ใช่ปัญหาในการมองผ่านผู้ฝึกฝนขอบเขตจิตวิญญาณ

เดิมทีฉินซู่เจียนคิดว่าหวังตี่จู่อาจไม่ใช่คู่มือของซือเจียนเฟิง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น

ความแข็งแกร่งของซือเจียนเฟิงอยู่ในวิถีกระบี่ที่ไม่ย่อท้อของเขา

เจ็ดเทพอสูรพิฆาตดารา

มันเป็นเคล็ดวิชากระบี่สังหาร

แต่หากการการโจมตีนี้ไม่ได้ผล วิถีกระบี่ที่พึ่งพาได้มากที่สุดก็ไร้ประโยชน์

ร่างกายที่แข็งแกร่งเพียงพอคือศัตรูตัวฉกาจของเคล็ดวิชากระบี่นี้

อย่างไรก็ตาม. มันจะขึ้นอยู่กับว่า หวังตี่จู่ฝึกฝนไปไกลแค่ไหน

หากเขาอาศัยเพียงร่างอมตะคงกระพันเท่านั้น มันยังไม่เพียงพอ

สำหรับร่างอมตะคงกระพัน

เมื่อร่างกายได้รับบาดเจ็บก็สามารถฟื้นตัวได้ในเวลาอันสั้น แต่ในแง่ของพลังป้องกันที่บริสุทธิ์ มันไม่ได้ดีเท่ากับเทคนิคปรับแต่งร่างกายที่บริสุทธิ์

ในสนาม

การเคลื่อนไหวของหวังตี่จู่เหมือนกับวัชระปราบมาร แม้ว่าเขาจะใช้มือเปล่า แต่การโจมตีแต่ละครั้งก็ทรงพลัง และหนักหน่วง มันทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญกับภูเขา

เมื่อเทียบกับมัน

การโจมตีของซือเจียนเฟิงก็รุนแรงผิดปกติเช่นกัน

กระบี่ชี่ที่ดูยุ่งเหยิง

มันครอบครองพื้นที่การก่อตัวมากกว่าครึ่งหนึ่ง

หากเป็นผู้ฝึกฝนขอบเขตจิตวิญญาณขั้นสูงสุดธรรมดา การป้องกันตัวเองคงไม่ง่าย

แต่ต่อหน้า หวังตี่จู่ไม่มีปัญหาเลย

เพราะจุดหมายหลักของเขาคือการปรับแต่งร่างกาย

ในแง่ของความแข็งแกร่งของร่างกาย มันถึงระดับเดียวกับอาวุธจิตวิญญาณแล้ว

ไม่ว่ากระบี่ชี่จะคมแค่ไหนก็ตาม

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฝ่าการป้องกันของหวังตี่จู่

ในทางตรงกันข้าม.

แม้ว่าการโจมตีของซือเจียนเฟิงจะรุนแรง แต่การป้องกันทางกายภาพของเขาก็อ่อนแอ หากเขาถูกโจมตี เขาอาจจะพ่ายแพ้ทันที

ณ ตอนนี้

หวังตี่จู่ยืนอยู่ตรงกลางสนามฝึกโดยวางเท้าลงบนพื้น หมอกพลังชี่สีทองซีดแผ่ออกมาจากร่างกาย แม้ว่าการโจมตีของเขาจะไม่เร็ว แต่ก็มากพอที่จะสกัดกั้นการโจมตีของอีกฝ่าย

และรอบตัวเขา มันเป็นภาพติดตาของซือเจียนเฟิง

ดอกบัวกระบี่บานทีละดอก แสงกระบี่เย็นยะเยือกปกคลุมกระบี่ชี่สีดำ และจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่กระจายออกไป

บูม!!

ภาพติดตาสลายไป และกลายเป็นกระบี่ชี่ที่ฟังลงอย่างรุนแรง

หวังตี่จู่ หันกลับมา และฟาดฝ่ามือออกไป พลังมหาศาลทำลายกระบี่ชี่โดยตรง

ยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีไม่ได้หยุดลง

เขารีบพุ่งไปที่ซือเจียนเฟิง

ปัง

ซือเจียนเฟิงดูเหมือนจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้ และร่างของเขาก็พังทลายลงในทันที

ในช่วงเวลาถัดไป ร่างที่พังทลายลงกลายเป็นภาพติดตาหลายสิบภาพ

ดูเหมือนทุกคนจะเป็นเหมือนร่างจริง แต่ก็ดูเหมือนจะแตกต่างออกไปเช่นกัน

ใบหน้าของหวังตี่จู่จริงจัง ด้วยเสียงคำรามต่ำ หมอกพลังชี่ก็ผุดออกจากร่างกายของเขา และกลายเป็นม่านพลังที่ควบแน่น และปกป้องเขาไว้อย่างมั่นคง

หลังจากนั้น การโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวได้มาถึงแล้ว

กระบี่ชี่ที่ทรงพลังราวกับฟ้าถล่มสาดเทลงมา อย่างไรก็ตาม มันทำให้ม่านพลังกระเพื่อมเล็กน้อยเท่านั้น และไม่มีวี่แววว่าจะพังทลาย

ต่อมา

ภาพติดตาหลายสิบภาพพุ่งไปข้างหน้า กระบี่ยาวฉายแสงเย็น และทำลายม่านพลังทันที กระบี่ปะทะกับร่างของหวังตี่จู่ และประกายไฟที่พร่างพรายก็ระเบิดออกมา

ติ๊ง! ติ๊ง!

ไม่ว่ากระบี่ยาวจะฟันออกแค่ไหน หวังตี่จู่ก็ไม่ขยับ

ผิวสีทองของเขาดูเหมือนจะทำจากทองคำ และถึงระดับที่ไม่อาจทำลายได้

เคล็ดวิชากระบี่เจ็ดเทพอสูรพิฆาตดารายากจะคาดเดา

มีภาพติดตาไม่มีที่สิ้นสุด แม้ว่าจะเป็นเพียงภาพติดตา แต่ในความเป็นจริงแล้ว พลังของแต่ละร่างไม่ได้อ่อนแอไปกว่าร่างจริงมากนัก มันไม่ง่ายเลยที่จะค้นหาร่างจริงได้อย่างแม่นยำ

หวังตี่จู่รู้ถึงจุดอ่อนของการโจมตีนี้ และเขารู้วิธีจัดการกับมัน

ด้วยการป้องกัน! นี่เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำได้

ในทันที

รอยขีดข่วนปรากฏบนผิวสีทอง และในขณะที่เลือดกระเซ็น หวังตี่จู่ก็โจมตีหนึ่งในภาพติดตาทันที

ร่างกายของเขาเปรียบได้กับอาวุธจิตวิญญาณ และมันก็ไม่อาจถูกทำลายได้

ถ้าสามารถทำลายการป้องกันของร่างกายได้

มีเพียงอาวุธจิตวิญญาณในมือของซือเจียนเฟิงเท่านั้นที่สามารถทำได้

ดังนั้น.

ในขณะที่การป้องกันถูกทำลาย หวังตี่จู่ก็พบร่างจริงของซือเจียนเฟิง

ในทันที ภาพติดตานั้นก็ถอยกลับ

ในวินาทีถัดมา

กระบี่ชี่บนท้องฟ้ารวมตัวกัน และกลายเป็นหนึ่งกระบี่ที่น่าตกใจ เหมือนกับสายรุ้งสีดำที่ทะลุดวงอาทิตย์ มันเจาะทะลวงไปทางหวังตี่จู่

"ย๊ากกก!"

หวังตี่จู่ยืนตัวตรง และชั้นหมอกพลังชี่ที่แข็งแกร่งก็แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา ทำให้รอบตัวกลายเป็นอาณาเขตของเขาอย่างสมบูรณ์

ในเวลาเดียวกัน.

เจตจำนงกระบี่ที่น่าตกใจพุ่งเข้าหาจิตเทพของเขา

อย่างไรก็ตาม

จิตเทพของหวังตี่จู่ก็ไม่สั่นคลอนเหมือนพระพุทธรูป

เมื่อเจตจำนงกระบี่พุ่งเข้ามา จิตเทพกลับลืมตา และปล่อยเสียงคำรามที่ทำให้โลกพังทลาย "สลาย!"

คำง่ายๆ

แต่มันก็ดังก้องไปทั่วทั้งนิกายหลัก

ขณะที่จิตใจของคนอื่นกำลังสั่นไหว สายรุ้งสีดำได้ทะลวงผ่านหมอกพลังชี่ และตกลงบนร่างของหวังตี่จู่ อย่างแม่นยำ

กระบี่ยาวพุ่งเข้าไปในร่างกายของเขา

ทันใดนั้นร่างกายของหวังตี่จู่ก็กระชับขึ้น และกล้ามเนื้อของเขาก็บีบกระบี่ไว้แน่นเหมือนกับที่หนีบเหล็ก จากนั้น เขาก็เพิกเฉยต่ออาการบาดเจ็บโดยสิ้นเชิง และต่อยไหล่ของซือเจียนเฟิง

พลังอันน่าสะพรึงกลัวปะทุขึ้น

กระดูกไหล่ของเจียนเฟิงถูกทำลาย และร่างกายของเขาก็กระเด็นออกไป

ขณะที่เขากำลังบินออกไป

กระบี่ยาวถูกดึงออกไปแล้ว

เลือดสาดกระเซ็น!

จู่ๆ สภาพแวดล้อมก็เงียบลง

เมื่อมองไปที่คนสองคนในสนาม

มีบาดแผลจากกระบี่บนหน้าอกของหวังตี่จู่ และพลังของกระบี่ชี่ก็โหมกระหน่ำ พยายามป้องกันไม่ให้ร่างกายของเขาฟื้นตัว ทำให้บาดแผลหายช้า และเลือดก็ไหลออกมา

อีกด้านหนึ่ง ไหล่ซ้ายของเจียนเฟิงก็หัก และเลือดทำให้แขนเสื้อของเขากลายเป็นสีแดงครึ่งหนึ่ง ทำให้เขาแทบจะถือกระบี่ไม่ได้

ใครชนะ?

ใครแพ้?

ครู่หนึ่งเหล่าศิษย์ที่เฝ้าดูการต่อสู้ต่างสับสนกันไปหมด

ซูหยวนหมิงหายใจเข้าลึก ๆ และพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "ทั้งสองนั้นทรงพลังอย่างยิ่ง และเจ็ดเทพอสูรพิฆาตดาราของผู้อาวุโสซือยังคงน่าทึ่งเช่นเคย แต่น่าเสียดาย!"

พูดถึงเรื่องนี้.

เขาหันหน้าไปมองจางเทียนหยู และคนอื่นๆ ที่ดูจริงจังเช่นกัน และพูดพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ ว่า "น่าเสียดาย ผู้อาวุโสหวังยังดีกว่าเล็กน้อย ควรตัดสินกันได้แล้วล่ะมั้ง!"

คนอื่นก็ไม่สามารถมองเห็นได้

ซูหยวนหมิงจะไม่เห็นได้อย่างไรว่าซือเจียนเฟิงแพ้ไปแล้ว

แม้ว่าบาดแผลบนหน้าอกของหวังตี่จู่จะสาหัส แต่ก็ไม่ร้ายแรง และไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้

แต่ซือเจียนเฟิงนั้นแตกต่างออกไป

ตอนนี้ เขาเป็นมือกระบี่ และไหล่ซ้ายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป

หากเป็นการต่อสู้เดิมพันชีวิต

ตอนนี้เมื่อ หวังตี่จู่โจมตีซือเจียนเฟิงจะไม่สามารถต้านทานได้อย่างแน่นอน

ดังนั้น หวังตี่จู่ชนะการต่อสู้ครั้งนี้

“อันดับหนึ่งในรายชื่อขอบเขตจิตวิญญาณ สมชื่อแล้ว”

เจิ้งฟางหยิบกระบี่ยาวออกมาจากแหวนเก็บของมอบให้ซูหยวนหมิง จากนั้นจึงหันหลังจากไป

ไม่จำเป็นต้องดูการต่อสู้อีกต่อไป

ส่วนความแข็งแกร่งของทั้งสองนั้น

จิตใจของเจิ้งฟางก็ผันผวนไม่น้อยเช่นกัน

เขาไม่สามารถปิดกั้นกระบี่ของซือเจียนเฟิงได้

เขาไม่สามารถทำลายการป้องกันของหวังตี่จู่ได้

หากเป็นการต่อสู้เดิมพันชีวิต เขาจะมีโอกาสแพ้สูงมาก

ในฐานะผู้อาวุโสใหญ่

ความแข็งแกร่งของเขาไม่ดีเท่ากับผู้อาวุโสธรรมดาสองคน สำหรับเจิ้งฟาง มันค่อนข้างจะเสียหน้าเล็กน้อย

แต่มันไม่ใช่การระเบิดครั้งใหญ่

ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น

หนิวเฟิง และจางเทียนหยู มอบเดิมพันด้วยใบหน้าหดหู่

พวกเขาไม่ได้คาดหวังเลยจริงๆ ว่าหวังตี่จู่จะมีพลังมากขนาดนี้

การป้องกันอันทรงพลังของอีกฝ่ายได้ไปถึงระดับเดียวกับอาวุธจิตวิญญาณระดับสูงแล้ว

ไม่งั้นเขาจะสกัดกั้นการโจมตีของซือเจียนเฟิงได้อย่างไร

ท้ายที่สุดแล้ว กระบี่ยาวในมือของซือเจียนเฟิงก็เป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสูง ด้วยความเฉียบคมของมัน จึงสามารถฆ่าผู้ฝึกฝนขอบเขตจิตวิญญาณได้อย่างง่ายดาย

พร้อมกับเจตจำนงกระบี่ที่น่าตกใจนั่น

การโจมตีนั้นถึงระดับที่สามารถทำให้ผู้ฝึกฝนขอบเขตศักดิ์สิทธิ์หน้าเปลี่ยนสีได้

แต่ถึงอย่างนั้น

หวังตี่จู่ก็ยังคงรับมันไว้ได้

การป้องกันอันทรงพลังนั้นถึงระดับที่ทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวัง

ที่นั่งผู้ตัดสิน

ฉินซู่เจียนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า "ผู้อาวุโสหวังชนะการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเจ้าทั้งสองสามารถไปที่ หอปรุงยาเพื่อรับยารักษาได้ หากมีศิษย์คนอื่นๆ ที่ต้องการท้าทาย พวกเจ้าสามารถทำได้ตอนนี้”

“เรื่องต่อจากนี้จะได้รับการดูแลโดยผู้อาวุโสซู!”

"ขอรับ!"

ซูหยวนหมิงที่มึนงงในตอนแรกกลับมาตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

การเดิมพันไม่สามารถปิดบังจากอีกฝ่ายได้

การให้เขาเป็นผู้ตัดสินในเวลานี้เป็นการลงโทษอย่างชัดเจน

สำหรับสิ่งนี้ ซูหยวนหมิงทำได้เพียงพยักหน้า และยอมรับชะตากรรม

หลังจากนั้นไม่นาน ฉินซู่เจียนก็ออกไป

อาจเป็นเพราะการต่อสู้ระหว่างซือเจียนเฟิง และหวังตี่จู่ทำให้ศิษย์บางคนเดือดพล่าน

หลังจากที่ ฉินซู่เจียนจากไป

ทันใดนั้น ศิษย์คนหนึ่งก็เดินออกไป และท้าทายใครบางคนในรายชื่อสวรรค์

หลังจากนั้นไม่นาน

ในสนามฝึก มีการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้ง

เพียงแต่ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ดุเดือดเหมือนครั้งก่อน

เมื่อการต่อสู้กำลังเกิดขึ้น ฉินซู่เจียนกลับไปที่บ้านของเขาแล้ว

การต่อสู้เมื่อกี้นี้ไม่ได้ทำให้เกิดคลื่นลมในใจเขามากเกินไป

มันเป็นเพียงความแข็งแกร่งที่หวังตี่จู่แสดงออกมา ทำให้ฉินซู่เจียนตกใจเล็กน้อย

"มีคัมภีร์หลายเล่มในหอคัมภีร์ เช่นเดียวกับเทคนิคต่อสู้ของนิกายต่างๆ ในฐานะผู้อาวุโสของหอคัมภีร์ หากหวังตี่จู่ต้องการอ่านเทคนิคต่อสู้ ก็ไม่มีข้อจำกัด"

“ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เสียเวลาโดยเปลาประโยชน์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้”

ฉินซู่เจียนค่อนข้างพอใจกับเรื่องนี้

เขาต้องการที่จะฟูกฟักผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งเพียงพอในหอคัมภีร์มาโดยตลอด

ตอนนี้เขาเห็นหวังตี่จู่

มันทำให้เขามีความคิดบางอย่าง