ตอนที่แล้วบทที่ 40 ขิงแก่และเผ็ด  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 42 คู่รักเจอกันเพราะหึงหวง  

บทที่ 41 เชื่อนางสุดใจ  


เนื่องจากเฟิ่งหยินซวงเท้าแพลง นางจึงต้องอยู่บ้านเพื่อพักฟื้นอีกสักระยะ

เมื่อคิดว่านางสนมหลี่และหนานหยูเทียนต้องไม่พอใจอย่างมากที่นางทำให้แผนของพวกเขาล้มเหลว นางจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาเปลาะหนึ่ง

แม่ลูกคู่นี้มีความทะเยอทะยานที่น่ากลัวเหลือเกิน

แต่นางก็ไม่มีวันยอมให้พวกเขาทำสิ่งชั่วร้ายกับคนที่นางรักได้สำเร็จอีกแน่นอน

ซูมันรูมาขอพบนางตั้งแต่เช้าแต่นางก็ตอบปฏิเสธไปโดยอ้างว่าไม่สะดวกรับแขก นางรู้ว่านางมาเพื่อสอดแนมให้กับหนานหยูเทียน ดังนั้นนางจะไม่ให้ในสิ่งที่นางต้องการ

คนอย่างซูมันรูไม่สมควรได้รับความรักและความเอาใจใส่จากใครทั้งนั้น

ในชาติก่อนเฟิ่งหยินซวงใจดีกับนางมามากพอแล้ว

หลังอาหารกลางวัน เฟิ่งหยินซวงใช้เวลาว่างนอนฟังเพลงจากกล่องดนตรีอยู่ในห้องส่วนตัว เพลงเพลงนี้เป็นเพลงเดียวกับที่นางนำไปแสดงในงานวัดเกิดสนมซีอานเมื่อคืนนี้

ในชาติที่แล้ว กล่องเพลงนี้ถูกสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับหนานหยูเทียน เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ว่าความรักที่นางมีต่อเขาจะมั่นคงราวกับหินผาและผืนน้ำที่ไม่มีทางสิ้นสุด

คิดย้อนไปแล้ว นางในตอนนั้นช่างน่าขัน

แต่ทั้งหมดมันก็ไม่สำคัญกับนางอีกต่อไปแล้ว

ในชาตินี้ นางใช้เพลงนี้เพื่อช่วยให้เฉินหยิงหลุดพ้นจากข่าวลือแย่ ๆ ทั้งยังล้มแผนการชั่วร้ายของนางสนมหลี่และองค์ชายสามอีกด้วย

จู่ ๆ ประตูถูกเปิดออกอย่างกะทันหัน เป็นท่านปู่เฟิ่งไท่ซือนั่นเองที่เดินเข้ามา

เฟิ่งไท่ซือ มีชื่อที่แท้จริงคือ เฟิ่งโมยาน เขาเป็นข้าราชการระดับสูงและสำคัญต่อราชสำนักเป็นอย่างมาก เขาทำงานอย่างหนักและมักจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งยังไม่เคยมีประวัติเสียหายที่นำพาความอับอายมาให้วงศ์ตระกูล ทำให้เขาเป็นที่นับหน้าถือตาเป็นอย่างมาก

ในบางครั้งเฟิ่งหยินซวงรู้สึกเป็นทุกข์เมื่อเห็นว่าปู่ของนางแก่มากแล้วแต่ยังต้องทำงานหนัก

เขามีความจงรักภักดีต่อประเทศมายาวนานถึงสามรัชกาล เขายอมสละชีวิตของตนจนหมดสิ้น แต่สุดท้าย หนานหยูเทียนก็ยังยัดข้อหายักยอกทรัพย์และรับสินบนให้กับเขา ก่อนจะลงเอยด้วยถูกสั่งประหารชีวิตทั้งตระกูล

ชะตากรรมของเขาช่างน่าสังเวช

เฟิ่งหยินซวงกัดฟันด้วยความโกรธในสิ่งที่หนานหยูเทียนทำกับครอบครัวนางในชาติที่แล้ว

“ท่านปู่มีธุระอะไรหรือ?” นางรีบวางกล่องเพลงแล้วลุกขึ้นยืน

“ปู่ได้ยินว่าเจ้าเท้าแพลงก็เลยจะมาดูอาการสักหน่อย ปู่คิดว่าเจ้าน่าจะร้องไห้เพราะเจ็บขาอยู่แน่ พอเห็นว่าเจ้าสบายใจดีปู่ก็โล่งใจ สาวน้อยของปู่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริง ๆ”เฟิ่งไท่ซือมองนางด้วยความภูมิใจ

เฟิ่งหยินซวงยิ้มรับคำชม ในชาติที่แล้วนางผ่านความทรมานแสนสาหัสมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แม้แต่การถูกตัดนิ้วสิบนิ้วทั้งเป็นนางยังผ่านมาได้ นับประสาอะไรกับแค่อาการขาแพลงในตอนนี้

“ข้าคงไม่สามารถอยู่ภายใต้ปีกของท่านปู่และท่านพ่อท่านแม่ไปได้ตลอด ข้าจึงควรเรียนรู้ที่จะเติบโตด้วยตัวเอง ท่านปู่ไม่ต้องเป็นห่วง หลานสาวของท่านกำลังจะเป็นผู้ใหญ่ในเร็ว ๆ นี้”

“ตั้งแต่เกิดเรื่องเกี้ยวเจ้าสาวสลับกันในตอนนั้น ปู่ก็รู้สึกว่าเจ้าเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด หากเป็นแต่ก่อน เจ้าคงกลับมาร้องไห้งอแงกับปู่แล้ว แต่ตอนนี้เจ้าเรียนรู้ที่จะหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเอง” เฟิ่งไท่ซือมองนางอย่างชื่นชม

“ที่ปู่มาหาเจ้าวันนี้ก็เพราะเป็นห่วง หลายวันมานี้เหมือนจะมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นติด ๆ กัน ถึงเวลาแล้วที่ปู่จะต้องออกตัวมาปกป้องหลานสักที”

ได้ยินแบบนั้นเฟิ่งหยินซวงก้มหน้าด้วยความละอายใจ

“ท่านปู่อย่าโทษตัวเองเลย ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง โดยเฉพาะเรื่องเมื่อคืนนี้...ข้าทำให้ตระกูลเฟิ่งของเราเสียชื่อ ข้ารู้สึกละอายใจเหลือเกิน ข้าขอโทษ”

“เจ้าไม่ต้องขอโทษดอก ไม่ว่าใครจะคิดกับเจ้าอย่างไร แต่ปู่ก็จะเข้าใจเจ้า คนในตระกูลเฟิ่งก็จะอยู่เคียงข้างเจ้า เราทุกคนเชื่อว่าเจ้ามีเหตุผลที่ทำเช่นนั้น ปู่จะเฝ้าดูเจ้าเติบโตขึ้นในทุกวันนะ ซวงเอ๋อร์ของปู่”

ตั้งแต่เหตุการณ์แต่งงานที่ผิดพลาด แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่าง หยินซวง กษัตริย์ชิงผิง และหนานหยูเทียน แต่สุดท้ายไม่ว่านางจะเลือกใคร เขาก็หวังว่าทุกคนจะเคารพการตัดสินใจของนางเหมือนกับเขา

รวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงเมื่อวานนี้ด้วย แม้ว่านางจะไม่ได้พูดอะไร เขาก็รู้สึกได้ว่านางกำลังพยายามทำอะไรบางอย่าง และมันอาจช่วยแก้ไขวิกฤตที่ยิ่งใหญ่ได้

เฟิ่งหยินซวงกลั้นน้ำตาไม่ไหวอีกต่อไป นางฝังตัวเข้าไปในอ้อมกอดของปู่ แล้วระบายความอึดอัดใจทุกอย่างผ่านน้ำตา

ในชีวิตที่แล้ว นางเห็นคนในครอบครัวของนางถูกตัดศีรษะด้วยตาตัวเอง แล้วนางจะกล้าคิดได้อย่างไรว่าจะมีโอกาสได้กลับมากอดเจ้าปู่ของนางแบบนี้ได้อีก ตอนนี้นางมีความสุขมากจริง ๆ

“หลานปู่ ไหนเจ้าบอกว่าเจ้าโตแล้ว ทำไมถึงยังร้องไห้เหมือนเด็กอีกเล่า” เฟิ่งไท่ซือพูดด้วยความเอ็นดู

นางเป็นหลานสาวคนเดียวของตระกูลเฟิ่ง เป็นอัญมณีที่สวยงามของพวกเราทั้งหมด แน่นอนว่าเมื่อเห็นน้ำตาของนาง เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ

“ท่านปู่ ข้าไม่ได้ร้องไห้เพราะเสียใจ แต่ข้าร้องไห้เพราะดีใจ ท่านปู่รักและเป็นห่วงข้าขนาดนี้ ข้ารู้สึกมีความสุขมาก ข้าอยากอยู่กับท่านแบบนี้ไปนาน ๆ เลย”

ได้ยินแบบนั้น เฟิ่งไท่ซือก็โอบกอดนางไว้พลางลูบหลังแล้วหัวเราะ เขากอดปลอบนางเหมือนกับตอนที่นางยังเป็นเด็ก

แต่เฟิ่งหยินซวงในวัยเด็กนั้นไม่มีอะไรให้กังวล ผิดกับตอนนี้ที่จิตใจของนางไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

นางได้กลับมาอีกครั้งเพื่อแก้แค้น และนางก็จะใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อแก้แค้นเพียงเท่านั้น

แม้ว่านางต้องสู้กับหนานหยูเทียนจนตัวตายอีกรอบ นางก็จะเขียนเส้นทางชีวิตของนางขึ้นใหม่ และนางจะช่วยตระกูลเฟิ่งและคนที่นางรักทั้งหมดให้ได้!

“เจ้าก็ต้องอยู่กับปู่ไปนาน ๆ อยู่แล้ว ซวงเอ๋อร์ ตราบใดที่ตระกูลเฟิ่งของเราอยู่ที่นี่ จะไม่มีใครรังแกเจ้าได้ ไม่ว่าคน ๆ นั้นจะเป็นใคร ปู่จะไม่ปล่อยให้เจ้าได้รับอันตรายเป็นอันขาด”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด