ตอนที่แล้วบทที่ 34 โชคดอกท้อ  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36 เต้นรำ วาดรูป บรรเลงพิณ  

บทที่ 35 ของขวัญของเฟิ่งหยินซวง  


ในตอนนี้การแสดงต่าง ๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น หญิงสาวหลายคนเตรียมตัวมาอย่างดีเพื่อที่จะขึ้นไปแสดงความสามารถบนเวทีตามลำดับ

เฉินชูเซียนเป็นคนแรกที่จะได้ทำการแสดง นางชอบที่จะเป็นคนแรกในทุก ๆ สิ่งอยู่เสมอ และเพราะนางเป็นลูกของเฉินกั่วกงจึงไม่น่าแปลกใจที่นางจะได้อยู่ในอันดับแรก

การแสดงของนางคือเต้นระบำสายรุ้ง

ริบบิ้นหลากสีสันโบกสะบัดไปตามจังหวะการเต้นที่พริ้วไหว ดึงดูดสายตาของทุกคนในงานให้มองมาที่นางเป็นจุดเดียว

เฉินชูเซียนเป็นคนสวย ยิ่งได้อยู่ในชุดเต้นระบำสีชมพูสดใสก็ยิ่งงามสะพรั่ง

นางมองไปที่องค์ชายสองหนานหยูเฉินด้วยความเย้ายวน และหวังว่าเขาจะให้ความสนใจกับนางด้วยเช่นกัน

เมื่อการแสดงจบลง เสียงปรบมือจากผู้ชมก็ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ออกปากชื่นชมว่านางงดงามมาก

ทันใดนั้น เฟิ่งหยินซวงก็สังเกตเห็นบางอย่างในสายตาของหนานหยูเทียน

เขามองตามเฉินชูเซียนจนกระทั่งนางเดินลงจากเวทีด้วยสายตาหลงใหล ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อย แล้วรีบหันมองซ้ายขวาเพื่อดูว่ามีใครสังเกตเห็นพฤติกรรมนี้ของเขาหรือไม่

น่าเกลียดเหลือเกิน ผู้ชายคนนี้ช่างหน้าไม่อายจริง ๆ

หลังจากเฉินชูเซียนลงจากเวทีไปแล้ว ก็มีหญิงสาวอีกสองสามคนขึ้นไปแสดงต่อ พวกนางไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการร้องเพลงและเต้นรำ

สนมซีอานเมื่อเห็นว่าเฟิ่งหยินซวงกำลังอุ้มองค์หญิงฉางเล่อลูกสาวของนางไปหาของกิน นางก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามอย่างสงสัย

“ซวงเอ๋อร์ ปกติแล้วในวันเกิดของข้าทุกปีเจ้าจะมอบของขวัญที่ยอดเยี่ยมให้กับข้าเสมอ บอกข้าได้หรือไม่ว่าปีนี้เจ้าเตรียมอะไรมา?”

“ข้ายังบอกท่านในตอนนี้ไม่ได้ แต่รับรองว่าท่านต้องประทับอย่างแน่นอน” นางตอบด้วยรอยยิ้ม

ในชาติที่แล้ว เฟิ่งหยินซวงก็ได้เห็นเฉินชูเซียนเต้นระบำสายรุ้งแบบนี้เช่นกัน

การแสดงของนางในตอนนั้นได้รางวัลที่หนึ่ง ฮ่องเต้จึงให้รางวัลกับนางเป็นคำขอเรื่องอะไรก็ได้ และนางก็ได้ร้องขอที่จะแต่งงานกับองค์ชายสอง

แน่นอนว่าตัวองค์ชายเองไม่ได้มีความสนใจในตัวเฉินชูเซียนเหมือนกันกับตอนนี้ แต่สุดท้าย เขาก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับนาง และหลังจากนั้นทั้งสองก็ถูกหนานหยูเทียนใส่ร้าย และโดนโทษประหารในที่สุด

ดังนั้นหากต้องการเปลี่ยนเรื่องราวในวันนี้ เฟิ่งหยินซวงจะต้องได้รางวัลที่หนึ่งเท่านั้น!

การแสดงดำเนินต่อไปทีละรายการ แม้แต่ซูมันรูก็ได้ขึ้นมาเล่นพิณอยู่บนเวทีด้วย เพลงที่นางบรรเลงไพเราะมาก แต่ก็ไม่ได้น่าดึงดูดให้ผู้คนรู้สึกตื่นตาตื่นใจได้มากขนาดนั้น

เฉินชูเซียนรู้สึกพอใจมากเมื่อได้เห็นแบบนี้ ตราบใดที่การแสดงของนางยังเป็นลำดับแรกที่ผู้คนชื่นชอบ นางก็มีสิทธิ์ได้รางวัลที่หนึ่ง และสามารถร้องขอกับฮ่องเต้เรื่องการแต่งงานกับองค์ชายสองได้ นางรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

ในเวลานี้ เฟิ่งหยินซวงหันไปขยิบตาให้เฉินหยิง แน่นอนว่านางเข้าใจในทันที แล้วรีบลุกออกจากโต๊ะไปโดยมีหนานหยูเฉินมองตามนางไปด้วย

“วันนี้เป็นวันเกิดของสนมที่รักของข้า และพวกเราก็ได้รับชมการแสดงที่ยอดเยี่ยมมากมาย ข้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการแสดงของบุตรสาวของเฉินกั่วกง ระบำสายรุ้งนั้นน่าตื่นตาและงดงามมากจริง ๆ พวกท่านคิดเช่นนั้นหรือไม่” หนานหวงพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

เหล่าขุนนางต่างพยักหน้าเห็นด้วย จนตอนนี้ก็ยังไม่มีการแสดงไหนที่งดงามและน่าตื่นตาเท่าการแสดงของเฉินชูเซียนได้เลย

ได้ยินแบบนั้น เฉินกั่วกงก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ลูกสาวของเขาทั้งสวยทั้งเก่ง เหมาะสมกับตำแหน่งภรรยาขององค์ชายสองเป็นที่สุด ยิ่งฮ่องเต้ชื่นชมมาแบบนั้น หนทางความยิ่งใหญ่ของตระกูลเฉินก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วไม่ใช่หรือ?

เมื่อการแสดงใกล้จบลง เฟิ่งหยินซวงก็หันไปกระซิบบอกรัวซุ่ยให้นำพิณของนางไปเตรียมไว้ที่หลังเวที เมื่อสาวใช้วิ่งออกไปแล้ว สนมซีอานก็หันไปพูดกับฮ่องเต้ไม่ให้เขาด่วนตัดสินใจ

“ฝ่าบาทเพคะ แม้ว่าระบำสายรุ้งของแม่นางเฉินจะงดงามและน่าทึ่ง แต่ซวงเอ๋อร์ของหม่อมข้าก็เตรียมการแสดงที่จะทำให้ทุกคนประทับใจมาด้วยเช่นกัน”

“จริงสินะ ข้ายังนึกแปลกใจอยู่ว่าทุกปีในวันเกิดของเจ้า หยินซวงจะเตรียมของขวัญมาเสมอ แต่ทำไมปีนี้ถึงไม่มีการเคลื่อนไหวเลย กลายเป็นว่าสาวน้อยลึกลับคนนี้ต้องการจะทำให้พวกเราประหลาดใจนี่เอง ข้าชักอยากเห็นของขวัญจากเจ้าแล้วสิ” ฮ่องเต้หันมาพูดกับเฟิ่งหยินซวง

“ด้วยความสัตย์จริงเพคะฝ่าบาท การแสดงที่หม่อมข้าเตรียมไว้ใช้เวลาค่อนข้างนาน และหม่อมข้าก็เพิ่งรู้ว่าของขวัญชิ้นนี้ใหญ่โตเกินกว่าที่เด็กสาวตัวเล็ก ๆ จะสามารถทำมันให้สำเร็จได้ ดังนั้นหม่อมข้าจึงต้องหาคนที่มีความสามารถมาช่วยให้มันลุล่วงไปได้ด้วยดี และตอนนี้หม่อมข้าก็หาเจอแล้ว”

ได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็ต่างคาดหวังที่จะได้เห็น ‘ของขวัญชิ้นใหญ่’ ที่เฟิ่งหยินซวงเตรียมมา มันคืออะไรกันนะ? นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจจริง ๆ

ในเวลานี้ รัวซุ่ยได้อุ้มพิณของเฟิ่งหยินซวงขึ้นไปวางบนเวทีแล้ว และเฟิ่งหยินซวงก็กำลังเดินตามขึ้นไป

แค่เล่นแค่พิณเองหรือ? นี่น่ะหรือของขวัญชิ้นใหญ่จากนาง?

ในเวลานี้ จู่ ๆ ก็มีสาวใช้สี่คนปรากฏตัวขึ้นบนเวทีพร้อมผ้าสีขาวในมือ พวกนางจับผืนผ้ากันคนละมุม แล้วดึงขึงมันให้ตึงเป็นฉากสี่เหลี่ยม ก่อนสาวใช้อีกคนจะนำถังสีมาวางลงบนพื้นด้านหน้า

ในตอนนี้ทุกคนต่างจดจ้องไปบนเวทีด้วยความสนใจ ดูเหมือนการแสดงพิณของเฟิ่งหยินซวงจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว

เมื่อทุกอย่างพร้อม เฟิ่งหยินซวงก็สะบัดปลายนิ้วของนางไปตามเส้นเอ็น เกิดเป็นเสียงเพลงที่ไพเราะเสนาะหูราวมีสายน้ำไหลรินอยู่ในใจของคนฟัง

ครู่เดียวก็ปรากฏหญิงสาวในสุดสีขาวคนหนึ่งร่ายรำออกมาจากหลังเวที นางคนนั้นมีผ้าบาง ๆ ปกคลุมใบหน้า ทั้งบริเวณหน้าผากของนางก็ถูกวาดรูปดอกบัวน้ำแข็งสีฟ้าให้อารมณ์ลึกลับยามที่ได้มอง

หญิงสาวผู้นี้เป็นใคร? ทุกคนต่างแสดงความอยากรู้อยากเห็น แม้แต่องค์ชายสองเองก็ถึงกับละมือที่ถือแก้วไวน์เพื่อมองผู้หญิงคนนั้นอย่างตั้งใจ

ในขณะที่สายตาทุกคู่จดจ้องไปยังหญิงสาวชุดขาวที่กำลังร่ายรำ กลับมีเพียงดวงตาที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากคู่เดียวเท่านั้นที่ฉายแววลึกซึ้งกับหญิงสาวอีกคน

แม้ตอนนี้เขายังไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของนาง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ของเฟิ่งหยินซวงเลยจริง ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด