ตอนที่แล้วบทที่ 18 ความงามจากอ่างอาบน้ำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 20 ราชาต้องการหัวใจของเจ้า

บทที่ 19 อยากใส่อะไรในน้ำ


แสงสลัวจากตะเกียงที่ส่องเข้ามายิ่งทำให้บรรยากาศชวนใจหวิว เช่นเดียวกับความงามอันน่าทึ่งของคนที่เพิ่งออกมาจากอ่างอาบน้ำตรงหน้า หญิงสาวผู้งดงามราวกับดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ

กษัตริย์ชิงผิงหยิบปอยผมบนลาดไหล่ของนางขึ้นมาแตะปลายจมูก ก่อนจะสูดดมกลิ่นหอมเข้าเต็มปอด

“ความรักไม่ใช่การครอบครอง” จู่ ๆ เขาก็กล่าวบทกวีขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“หืม?” เฟิ่งหยินซวงเอียงคอมองเขาอย่างงงงวย แม้แต่เวลาอย่างนี้เขาก็ยังมีกะใจคิดบทกวี

“เจ้ารู้ไหมว่าประโยคต่อไปของบทกวีนี้คืออะไร”

เมื่อนางมองเข้าไปในดวงตาของเขา หัวใจของเฟิ่งหยินซวงก็เต้นตุบ มันต้องเป็นสิ่งที่นางไม่กล้าฟังจากปากเขาแน่ นางไม่ต้องการจะรู้มันเลย

แม้ว่านางจะไม่ยอมตอบเขา แต่เขาก็ยังดูอารมณ์ดีและไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของนางแม้แต่น้อย

“ความรักไม่ใช่การครอบครอง…แต่เป็นความเพลิดเพลินและสนุกสนาน”

เฟิ่งหยินซวงคุ้นเคยกับบทกวีและหนังสือมาตั้งแต่เด็ก แต่นางกลับไม่เคยได้ยินบทกวีนี้เลย นางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มเข้าใจความหมาย และใบหน้าของนางก็กลายเป็นสีแดงในทันที

“ข้า…ข้าไม่รู้ว่าท่านหมายความว่าอะไร” นางแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“หมายถึงความเพลิดเพลินที่สนุกสนาน” กษัตริย์ชิงผิงลอบยิ้มมุมปาก “ข้ากำลังยกย่องความงามที่ไม่มีใครเทียบได้ของเจ้า และหากข้าสามารถเพลิดเพลินกับมันได้ ต่อให้ตายข้าก็ไม่นึกเสียใจ”

เขามักจะทำในสิ่งที่เขาต้องการ พูดในสิ่งที่เขาอยากพูด และนางก็ไม่สามารถต่อต้านเขาได้เลย

เฟิ่งหยินซวงไม่สามารถทนกับคำพูดดูแคลนของเขาได้ เขาทำราวกับว่านางเป็นเพียงผู้หญิงใจง่ายที่เขาสามารถเย้าแหย่และกลั่นแกล้งนางได้ตามใจชอบ

“ถ้าท่านไม่ได้มีธุระอะไร ข้าว่าท่านควรกลับไปได้แล้ว ข้าจะได้เข้านอน” นางพูดอย่างเย็นชา

ในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ นางคนนี้สลับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วและไม่สามารถคาดเดาได้ กษัตริย์ชิงผิงมองเห็นมันได้ทั้งหมดและนึกชื่นชมนางอยู่ในใจ

เฟิ่งหยินซวงนั้นดูเหมือนเป็นแมวเชื่อง ๆ แต่ทันทีที่เขาถูกเขายั่วยุ นางก็พร้อมจะกางเล็บเพื่อป้องกันตัวเสมอ นางช่างเป็นแมวป่าตัวน้อยที่น่าสนใจจริง ๆ

“มีคำพูดบางคำที่ลอยเข้าหูข้า และข้าค่อนข้างกังวลกับมันเล็กน้อย เพราะฉะนั้นข้าจึงมาที่นี่เพื่อดูว่าเจ้าเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่จำเป็นสักนิด”

และนี่คือเหตุผลที่เขาพูดจายั่วยุนาง เพียงเพื่อให้รู้ว่านางสามารถรับมือกับคำพูดคนอื่นได้อย่างไร ซึ่งเขาก็รับรู้แล้วในตอนนี้

“สิ่งที่ไร้สาระที่สุดในโลกนี้คือข่าวลือ โลกนี้มันกว้างใหญ่มากและข้าไม่สามารถหยุดปากของใครได้ ถ้าข้าเอาแต่โอนอ่อนไปตามคำพูดคนอื่น ข้าจะใช้ชีวิตบนโลกนี้ได้อย่างไร?”

เฟิ่งหยินซวงพูดอย่างเคร่งขรึม นางไม่สนใจข่าวลือ แต่นางแค่กังวลว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือพลิกสถานการณ์ได้

“เจ้าพูดถูก ดูเหมือนว่าข้าจะคิดมากไปเอง ในเมื่อเจ้าได้เตรียมใจกับสิ่งต่าง ๆ ในอนาคตแล้ว ข้าก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับมันอีก”

เขาเปลี่ยนบทสนทนากะทันหัน

“ในเมื่อเจ้ารับมือกับเรื่องของเจ้าได้แล้ว ข้าก็ควรจะเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองด้วยไม่ใช่หรือ? นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของข้าที่กำลังกลายเป็นเครื่องมือของคนอื่น ความรู้สึกที่ถูกหลอกใช้มันช่างสาแก่ใจดีจริง ๆ” แน่นอนว่าเขายังพูดถึงมัน

เฟิ่งหยินซวงเข้าใจได้ว่าเรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่นางต้องเผชิญไม่ช้าก็เร็ว ชายผู้นี้มองนางขาด และรู้ว่าการแต่งงานที่ไม่ถูกต้องของเรานั้นเป็นอุบายของนางตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้นการเผชิญหน้ากับความจริงอย่างตรงไปตรงมาคงจะดีที่สุด

นางยิ้มอย่างอ่อนหวานแล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้เขา ก่อนจะยื่นมือไปแตะที่หน้าอก

“ตอนนี้ข้าเป็นผู้หญิงของท่าน เป็นภรรยาที่พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่าน ดังนั้นเราจะมาพูดคุยกันอย่างซื่อตรง ข้า เฟิ่งหยินซวง ชื่นชมในชื่อเสียงของท่านมานานและใฝ่ฝันที่จะเป็นผู้หญิงของท่านในสักวัน และในตอนนี้ ความฝันของข้าก็ได้เป็นจริงแล้ว ท่านไม่ควรทำให้ใจของข้าแตกเป็นเสี่ยง ๆ”

เห็นได้ชัดว่าความคิดที่จะ ‘เยินยอ’ ไม่เป็นที่พอใจของผู้ชายคนนี้ มือใหญ่ของเขาโอบเข้าที่เอวของนาง ก่อนจะรัดแน่นขึ้นจนนางเริ่มอึดอัด

“ในเมื่อเจ้าบอกว่าเป็นภรรยาของข้า เจ้าก็น่าจะรู้ว่าข้าเกลียดชังอะไรมากที่สุด ถ้าเจ้าปฏิเสธที่จะบอกความจริง ก็อย่าตำหนิข้าก็แล้วกันถ้าข้าจะทำอะไรบางอย่าง”

แล้วเขาต้องการทำอะไร? เปิดเผยความจริงกับฮ่องเต้? หรือให้ความร่วมมือกับหนานหยูเทียน?

ไม่ว่าเป็นข้อไหน นางก็ยังไม่พร้อมที่จะแลกอะไรทั้งนั้น

เฟิ่งหยินซวงกัดริมฝีปากแน่น ชีวิตของนางต่อจากนี้คงถูกกุมไว้ในฝ่ามือของเขาแล้ว

“ข้าต้องการเจรจาข้อตกลงกับท่าน” นางพูดอย่างจำยอม

“ว่ามา”

“การสลับเกี้ยวนั้นเป็นความตั้งใจของข้า เพราะข้าไม่อยากแต่งงานกับองค์ชายสาม จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้วิธีนี้”

“เจ้าคิดว่าข้าโง่นักหรือ? แม้ว่าข้าจะไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง แต่ข้าก็เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ บุตรสาวคนเดียวของตระกูลเฟิ่งหลงรักองค์ชายสามอย่างหัวปักหัวปำ ซ้ำยังเที่ยวบอกกับทุกคนว่าหากไม่ใช่องค์ชายสาม นางก็จะไม่ยอมเป็นเจ้าสาวของใคร ด้วยสถานะปู่ของเจ้าต่อราชสำนัก หากเจ้าไม่อยากแต่งงานจริง ๆ ใครจะไปบังคับเจ้าได้”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และนางก็ได้พบกับความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์

เพราะไม่ว่าเขาจะพูดอะไร นางก็ไม่สามารถหลบสายตาคมกริบของเขาได้แม้แต่วินาทีเดียว

นางไม่กล้าบอกว่านางต้องเจอกับอะไรมาบ้างในชีวิตที่แล้ว และแม้ว่านางบอก เขาก็คงคิดว่านางกุเรื่องขึ้นมาอย่างแน่นอน

“ใช่ ข่าวลือที่ท่านได้ยินนั้นเป็นความจริง ข้าเคยมีความรักอย่างมากมายต่อองค์ชายสาม แต่ภายหลังข้าพบว่าเขาแอบมีสัมพันธ์กับน้องสาวที่แสนดีของข้า ข้าจึงอยากจะแก้แค้นเขา” เฟิ่งหยินซวงอธิบาย

นางเลือกที่จะยกเรื่องนี้มีอ้างและมันก็ฟังดูสมเหตุสมผล นางไม่กลัวว่าเขาจะส่งคนไปตรวจสอบ เพราะอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็จะไปลงที่ซูมันรู

“แก้แค้น? แน่ใจหรือว่าเพียงเท่านั้น?”

ดวงตาของกษัตริย์ชิงผิงเฉียบคมเกินไป ราวกับว่านางไม่สามารถปกปิดอะไรต่อเขาได้เลย

เฟิ่งหยินซวงรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร ตอนนี้เขาเสียความเชื่อมั่นในตัวนางไปแล้ว มันสายเกินไป ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะโน้มน้าวเขา

“ท่านฉลาดจริง ๆ ข้าไม่สามารถปิดบังอะไรท่านได้เลย ถ้าสิ่งที่องค์ชายสามต้องการมีเพียงข้าคนเดียว ข้าก็คงไม่ต้องตกระกำลำบากมากเท่านี้ แต่เพราะจุดประสงค์ของเขาคือตระกูลเฟิ่ง แล้วข้าจะยอมให้เขาทำแบบนั้นได้อย่างไร ถ้าเขาทำสำเร็จ ตระกูลเฟิ่งก็จะกลายเป็นเพียงเครื่องมือของเขา”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด