ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 79
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 81

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 80


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 80

ดวงตาพายุคือจุดที่เงียบสงบท่ามกลางพายุ

มันเงียบสงบและไม่มีอะไรอยู่เลยแม้ว่าจะมีลมพายุที่รุนแรงพัดอยู่ในบริเวณรอบๆ

และมันถูกสร้างขึ้นด้านหน้าราอน

พลังการต่อสู้ของปีศาจกระหายเลือดและออร่าสีเขียวของริมเมอร์ถูกดูดออกไปโดยลมรอบๆ

แล้วจุดที่พวกเขาอยู่ก็กลายเป็นพื้นที่ที่ไม่มีลมอย่างสมบูรณ์

และไม่ใช่แค่ลม มันสงบจนเหมือนกับที่นี่ไม่มีอากาศให้หายใจ ร่างกายของราอนหนักอึ้ง

ปีศาจกระหายเลือดยืนสับสน ราอนก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างอิสระเช่นกัน

วืด!

ในที่สุดก็มีการเคลื่อนไหวภายในพื้นที่แห่งนี้

ดาบของริมเมอร์ ลมสีเขียวเข้มถูกรวบรวมบนดาบที่เคยว่างเปล่าของเขา

ครืน!

ริมเมอร์พุ่งตัวออกจากพื้น

ปีศาจกระหายเลือดโจมตีมั่วๆ ด้วยความตื่นตระหนก แต่ริมเมอร์ก็เข้าใกล้มันมากขึ้นเรื่อยๆ

และฟันดาบครั้งเดียว…

เขาฟันดาบลงไปที่แขนของมัน

ฉัวะ!

แขนของมันถูกตัดออกอย่างง่ายดายและตกลงบนพื้นสีดำสนิท

แต่ว่าปีศาจกระหายเลือดเป็นนักรบในระดับเชี่ยวชาญพิเศษ การสูญเสียแขนไม่เพียงพอที่จะทำให้มันล้มลง

มันหยุดเลือดที่แขนขวาทันทีและเริ่มหนี การเคลื่อนไหวของริมเมอร์เป็นอย่างรวดเร็วและยืดหยุ่น

ริมเมอร์หันดาบของตัวเองไปทางปีศาจกระหายเลือด

มันพยายามหลบหนีจากดวงตาพายุ แต่พื้นที่ของดวงตาพายุจะขยับไปพร้อมกับริมเมอร์

เมื่อมันรู้ตัวว่าหนีไม่ได้ก็หยุดวิ่ง มันเปลี่ยนท่าทางแล้วรวบรวมพลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดไปที่หมัดซ้าย

วืด!

พื้นดินโดยรอบสั่น พลังแห่งดวงดาวสีแดงปรากฏขึ้นและได้สร้างคลื่นขนาดใหญ่

ริมเมอร์จับดาบบางๆ ของเขาไว้แน่น

วูม!

พื้นที่ของดวงตาพายุขยายใหญ่ขึ้นและดาบของริมเมอร์ก็มีพลังมากขึ้น

ริมเมอร์เหวี่ยงดาบที่ล้อมรอบไปด้วยพายุออกไป

ฉับ!

ดาบตัดผ่านคลื่นพลังสีแดงของมัน

ฟรึ่บ!

ทันใดนั้นแสงสีขาวก็ระเบิดออกมา

'อึก!'

ราอนปิดตาแน่นเพราะแสงที่สว่างจ้าเกินไป

'จบแล้วเหรอ?’

เมื่อเขาลืมตามองก็เห็นว่าดวงตาพายุได้หายไปและโลกได้กลับมาเป็นเหมือนเดิม

“……”

ปีศาจกระหายเลือดและริมเมอร์กำลังจ้องหน้ากัน

"แกดูดพลังของฉันออกไปเกือบหมดแล้วก็เอาพลังลมโดยรอบไปเป็นของตัวเอง”

ปีศาจกระหายเลือดพูดอย่างโกรธแค้น

"ฉันเข้าใจว่ามันเป็นวิธีต่อสู้วิธีหนึ่ง แต่แกสร้างสนามดาบได้ยังไงกัน?”

ปีศาจกระหายเลือดไม่ใช่คนเดียวที่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับมัน ราอนก็แปลกใจที่เห็นริมเมอร์สร้างสนามดาบได้

'คิดว่าคนที่สร้างสนามดาบได้มีแค่สายเลือดของซีกฮาร์ทซะอีก...'

ราชาทั้งหกและปีศาจทั้งห้ามีลักษณะต่างกันอยู่แล้ว แต่ซีกฮาร์ทกลับแตกต่างจนเรียกว่าพิเศษ

พวกเขามีความสามารถในการสร้างสนามเวทมนตร์แม้ว่าจะเป็นนักดาบ การสร้างสนามดาบของซีกฮาร์ทก็เป็นที่รู้กันไปทั่ว

แต่มีเพียงสายเลือดของซีกฮาร์ทบางคนเท่านั้นที่จะได้รับการสืบทอดมัน เรียกได้ว่ามีเพียงไม่กี่คน

ด้วยเหตุนี้จึงเขาจึงแปลกใจที่ริมเมอร์สามารถใช้มันได้ ยิ่งไม่นับว่าเขาเป็นเอลฟ์อีก

"มันไม่ใช่สนามดาบจริงๆ หรอก มันแค่เป็นอะไรที่คล้ายๆ กัน”

ริมเมอร์ยิ้ม

"เพราะฉันเป็นเอลฟ์เลยรู้จักธรรมชาติดีเลยล่ะ”

"...”

ปีศาจกระหายเลือดพยักหน้าเมื่อนึกขึ้นมาได้

"เสือที่โดนถอดเขี้ยวก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำสินะ”

มันหัวเราะและมองมาที่ราอน

"น่าเสียดายจริงๆ ฉันควรจะกำจัดเขาเพราะเขาอาจส่งผลกระทบต่ออีเดนแท้ๆ"

"ฉันปล่อยให้ผู้ปกครองซีกฮาร์ทคนต่อไปพ่ายแพ้ไม่ได้หรอก”

"แน่นอนว่าเขามีคุณสมบัตินั้น แต่อย่ามั่นใจไปหน่อยเลย”

เสียงปีศาจกระหายเลือดเริ่มที่จะสั่น

"ฝั่งของฉันก็มีคนแบบเขาอยู่ ฉันอยากให้พวกเขาได้สู้กัน”

"ทวีปนี้กว้างใหญ่จะตายไป"

ริมเมอร์พยักหน้า

"ฉันพ่ายแพ้แล้วล่ะ ดาบแห่งแสงของซีกฮาร์ท”

ปีศาจกระหายเลือดหลับตา เส้นสีแดงปรากฏจากศูนย์กลางของร่างกายของมัน

ร่างกายของมันแยกออกจากกัน ร่างใหญ่ของมันล้มหงายหลัง

วืด!

หมวกของปีศาจกระหายเลือดก็ถูกแบ่งออกเป็นครึ่ง

“ฮู่ว...”

ริมเมอร์ถอนหายใจและลงไปนั่งบนพื้น

"เมื่อกี้ดูอยู่ใช่ไหม?”

เขาหันไปหาราอนและยิ้ม ดูเหมือนเขาจะเหนื่อยล้ามากแต่พยายามแสดงท่าทีตามปกติ

"ครับ”

ราอนพยักหน้า

"นั่นเป็นเทคนิคพิเศษที่เธอควรเรียนรู้เอาไว้ในฐานะซีกฮาร์ท มันเรียกว่าสนามดาบ”

"สนามดาบ..."

ราอนทำเป็นว่าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมัน

"มันเป็นกำแพงเวทย์ที่สร้างขึ้นโดยใช้แรงกดดันและประสบการณ์ มันไม่เหมือนกับของพวกนักเวทย์หรอกนะ”

"เพราะงั้นอาจารย์เลยสนใจแต่แรงกดดัน...”

"ใช่ การฝึกฝนแรงกดดันจะช่วยให้เธอใช้มันได้”

ริมเมอร์ยิ้ม ราอนพยักหน้าอีกครั้ง

'ใช่แล้ว…'

การฝึกฝนแรงกดดันของริมเมอร์ช่วยเด็กฝึกหัดไว้ได้มาก

ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่สามารถสู้กับสัตว์ประหลาดพวกนั้นได้แล้วก็วิ่งหนีไปไหนไม่ได้

"เพราะจริงๆ แล้วเธอก็เป็นสมาชิกสายตรง อีกไม่นานจะได้ใช้มันแน่นอน”

"ประสบการณ์ ความสำเร็จ ออร่าและแม้กระทั่งชีวิตในอนาคต สนามดาบถูกสร้างขึ้นโดยการผสมผสานทั้งหมดนั่น เธอจำเป็นต้องเรียนรู้และมีประสบการณ์หลายๆ เรื่อง”

เขาพูดสอนราอนและหอบหายใจไปด้วย

"พวกเธอก็ได้ดูเหมือนกันใช่มั้ย?”

* * *

* * *

ริมเมอร์หันมองไกลออกไป รูนัน,เบอร์เรน,มาร์ธา,และเด็กฝึกหัดคนอื่นๆกำลังยืนนิ่งด้วยความงุนงง

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยืนมองอยู่ด้านนอกสนามดาบมาสักพัก

“ราอน!”

รูนันวิ่งมาหาเขา ตาของเธอมีหยดน้ำตาเล็กๆ

"บ้าไปแล้ว! นายยังมีชีวิตอยู่! นายยังไม่ตาย!”

มาร์ธาจับไหล่ราอนไว้แน่น

"ท่านราอน!”

“ราอน!”

"ฮึก!”

ดอเรียนและเด็กฝึกหัดวิ่งมาหาเขาพร้อมกับน้ำตา

“ราอน ซีกฮาร์ท”

เบอร์เรนถอนหายใจโล่งอก

"ฉันดีใจจริงๆ ..."

เบอร์เรนหันไปจ้องมองริมเมอร์ที่อยู่ถัดจากราอน

"แต่ว่าอาจารย์...”

“หืม?”

"ทำไมอาจารย์ถึงสร้างสนามดาบได้ล่ะครับ?”

"ก็ฉันทำได้”

"จะบอกว่าทำได้เองเหรอ?”

"อือ"

ริมเมอร์พยักหน้า

"สนามดาบของซีกฮาร์ทมีหลายรูปแบบซึ่งปกติแล้วจะใช้การสืบทอดต่อกันในสายเลือดเท่านั้น แต่ฉันไม่ได้ไปเรียนรู้มาจากใครเสียหน่อย”

เขายิ้ม

"งั้นหนูก็จะใช้สนามดาบได้ใช่ไหม?”

มาร์ธาก้าวออกมา ดวงตาของรูนันก็ระยิบระยับ

"ไม่ได้หรอก”

ริมเมอร์ส่ายหัวอย่างใจเย็น

"มีเงื่อนไขสองข้อสำหรับคนที่ไม่ใช่สายเลือดของซีกฮาร์ท”

"เงื่อนไข?”

"ข้อแรกคือประสบการณ์ เธอจะต้องมีประสบการณ์กับสนามดาบหลายๆ ครั้ง ซึ่งฉันได้พบเจอมันหลายครั้งตั้งแต่ตอนที่สู้ไปพร้อมกับท่านหัวหน้าตระกูล และข้อที่สองคือ.."

เขามองดูทุกคน

"ความสามารถของคุณสมบัติธาตุ”

"ความสามารถแบบไหนกัน?”

มาร์ธาถาม เธอสนใจในสนามดาบอย่างมาก

"ความสามารถในคุณสมบัติธาตุ พลังของคุณสมบัติธาตุนั้นเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับคนที่ไม่ใช่ซีกฮาร์ท อย่างเช่นที่ฉันสามารถใช้สนามดาบผ่านพลังลมของฉันได้”

“อืม…”

"แต่ฉันไม่แนะนำให้ทำแบบนั้นนะ"

ริมเมอร์ส่ายหัวด้วยสีหน้าเศร้า

"ทั้งสายรองและขุนนางของซีกฮาร์ทก็นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของซีกฮาร์ทเหมือนกัน ตราบใดที่ทำผลงานได้โดดเด่นก็อาจจะได้รับสืบทอดมัน แต่คงจะต้องเสียสละอะไรบางอย่างไปเพื่อให้ได้มันมา”

"เสียสละงั้นเหรอ?”

“……”

ริมเมอร์ไม่ตอบ

"พวกเธอยังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ ไม่เหมือนฉันที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะสร้างสนามดาบ พวกเธอสามารถแข็งแกร่งได้ด้วยพลังของตัวเอง”

เขาใช้ลมช่วยเพื่อให้ทุกคนสามารถได้ยินเขา

"ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลังละกัน ส่วนตอนนี้..."

ริมเมอร์เอาขวดน้ำออกจากแขนเสื้อและยื่นมาทางราอน

"มันจะรู้สึกเจ็บหน่อยนะ อดทนไว้”

ริมเมอร์เทน้ำในขวดลงบนแขนที่หักรวมถึงเอวและขาที่บาดเจ็บของเขา

“……”

มันเจ็บปวดมากแต่ราอนไม่ได้ร้องออกมา มันไม่ได้เจ็บปวดเท่าตอนที่เขาต่อสู้กับปีศาจกระหายเลือด

"ไม่เจ็บเหรอ?”

"เจ็บครับ”

"แต่เธอไม่ได้ร้องนี่”

"...ก็มันไม่ได้เจ็บขนาดนั้น”

"หึ”

ริมเมอร์หัวเราะ

"เสร็จแล้วล่ะ ไปกันเถอะ”

"เดี๋ยวก่อนครับ!”

เบอร์เรนยกมือขึ้น

"ผมมีคำถามครับ”

"หืม? เราค่อยคุยกันทีหลังได้ไหมเพราะตอนนี้ฉันเหนื่อยแล้วน่ะ..."

ริมเมอร์กลืนน้ำลายและลองคาดเดาสิ่งที่เขากำลังจะถาม

"ไม่ครับ ผมอยากรู้ตอนนี้ อาจารย์ไปอยู่ที่ไหนถึงมาได้ช้าขนาดนี้กัน? เห็นได้ชัดว่าอาจารย์ตามเรามาตั้งแต่แรกแต่ไม่เห็นออกมาช่วยตอนที่พวกเรากำลังจะแพ้เลย ตอนนั้นชาวบ้านก็กำลังตกอยู่ในอันต..."

“เฮ้ย! นั่นอะไรน่ะ?”

ริมเมอร์ชี้ไปทางด้านหลังของเบอร์เรน

"เฮือก!”

"ไม่เห็นมีอะไรเลย..."

เด็กฝึกหัดรีบหันกลับมาแต่ริมเมอร์ก็ไม่อยู่แล้ว

"หนีไปอีกแล้ว?”

ดวงตาของเบอร์เรนเบิกกว้าง ริมเมอร์หนีไปในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เขาเผลอหันหลัง

"ถามจริงเหอะ! ทำไมเขาถึงมาช้า! เราเกือบตายจริงๆ แล้วนะ!”

เขารู้สึกขอบคุณที่ริมเมอร์มาช่วยพวกเขาแต่มันก็เป็นเวลาที่น่าหวาดเสียวเกินไป เขาควรจะปรากฎตัวเร็วกว่านี้เพราะมันเกี่ยวกับความเป็นความตายของพวกเขารวมถึงชาวบ้าน

"มีใครตายหรือเปล่า?”

ราอนเดินมาที่เบอร์เรน

"โชคดีที่ไม่มีใครตาย แต่ฉันน่าจะกระชากคอเสื้ออาจารย์นั่นไว้ก่อน”

"ไม่เป็นไรหรอก”

ริมเมอร์ก็คงมีวิธีคิดของตัวเอง

"แต่..."

"มาทำความสะอาดกันเถอะ ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ...”

เสื้อผ้าของราอนเต็มไปด้วยเลือด

"นายโอเคจริงๆ นะ?”

"ราอนโอเคหรือเปล่า?”

เบอร์เรนและรูนันถามขึ้นพร้อมกัน

"ฉันไม่เป็นไร"

ราอนพยักหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ราอนกำลังฟื้นฟูร่างกายและวงจรมานาของตัวเองโดยใช้วงแหวนไฟ

ยาของริมเมอร์ก็ช่วยเขาได้มากเช่นกัน

“ฉันขอโทษ”

เบอร์เรนก้มหัวให้ราอน มือของเขาสั่น

"เพราะการติดสินใจที่เชื่องช้าของฉันเกือบทำให้ทุกคนโดนฆ่า ฉันไม่คิดว่าฉันดีพอที่จะเป็นผู้นำอีกแล้ว”

"ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดหรอกน่า นายแค่ต้องตระหนักถึงปัญหาและก้าวข้ามมันไปให้ได้ในครั้งต่อๆ ไป”

“อืม…”

"หรือจะยอมแพ้ไปเลยก็แล้วแต่นะ”

"ไม่ได้! ฉันจะเป็นผู้นำอีกครั้ง ฉันจะพัฒนาการตัดสินใจและความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อที่จะไม่แพ้ในสถานการณ์ใดๆ! ฉันขอสัญญากับนายเลย!”

"ดีมาก”

ราอนโบกมือ

'ฉันคงจะต่อยหน้าเขาไปแล้วถ้าเขาพูดขอโทษเรื่องนั้น’

ดูเหมือนเบอร์เรนจะรู้สึกผิดที่วิ่งหนีไปกับคนอื่นแทนที่จะอยู่ต่อสู้กับเขา

แต่เพราะเขายังเป็นเด็ก เขายังสามารถเติบโตได้อีกมาก

"รูนันก็ด้วย เธอควรจะหนีไปกับคนอื่นๆ นะ ไม่ใช่วิ่งไปหามันแบบนั้...”

"แต่ฉันไม่อยากไป...”

รูนันส่ายหัวพร้อมกับทำใบหน้าบูดบึ้งผิดปกติ

"ถ้าเธอเจอกับศัตรูที่ไม่สามารถเอาชนะ..."

"ไม่อยากทำ”

"มันอันตราย”

"ไม่อยากทำ”

"ไม่ๆ ฟังฉันก่อนรูนัน”

"ฉันไม่อยากฟัง ไม่ว่ายังไงฉันก็จะช่วยนาย”

เธอยกมือขึ้นปิดหูและส่ายหัวไปมา

"ฉันจะต้องแข็งแกร่งขึ้น และจะแข็งแกร่งจนสามารถต่อสู้เคียงข้างนายได้!”

“เฮ้อ…”

ราอนแอบยิ้มเบาๆ หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นแบบแปลกๆ เขารู้สึกถึงความจริงใจในคำพูดของเธอที่บอกว่าเธอจะแข็งแกร่งเพื่อช่วยเขา

ภารกิจในครั้งนี้ยากลำบากมาก เขาบาดเจ็บหนักแต่เขาก็มีความสุขที่ได้เข้าใจเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกมากขึ้น

“……”

ราอนมองไปที่มาร์ธา เธอกำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างไม่ละสายตา

"เรื่องมันจบแล้วล่ะ เรากลับกันเถอะ”

ราอนโบกมือให้เด็กฝึกหัดที่ยังคงยืนตะลึง

เขาสังเกตเห็นผู้คนจำนวนมากวิ่งลงมาจากบนภูเขา พวกเขาเป็นกำลังเสริมของซีกฮาร์ทที่เครนเรียกมา

เขารู้สึกผ่อนคลายเพราะในที่สุดทุกอย่างก็จบลงจริงๆ

[คุณชนะเดิมพันกับ'ราธ']

[รางวัลจะถูกแจกจ่าย]

เมื่อเขาคิดจะพักผ่อน หน้าต่างสีฟ้าก็ปรากฏขึ้น

“หือ?”

????

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด