ตอนที่แล้วบทที่ 71 ตำนาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 73 ทักษะขั้นสมบูรณ์แรก

บทที่ 72 บ้านใหม่


ในท้ายที่สุด ซืออวี๋ก็กลับไปยังเขตผิงเฉิงพร้อมกับประธานเฟิง

ทักษะอื่นไม่สำคัญเลย เนื่องจากเขาได้จำลองทักษะระดับสุดยอดแล้ว

ทักษะที่ต่ำกว่าระดับสุดยอดสามารถพบได้ทุกหนแห่งเมื่อจำเป็นในอนาคต ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับทักษะเหล่านั้น

ยิ่งกว่านั้น เขาไม่จะไม่จำลองทักษะโดยไม่จำเป็น เว้นเสียแต่ว่าทักษะใหม่จะหายากเป็นพิเศษ

ท้ายที่สุก เขาเหลือหนึ่งช่องทักษะเท่านั้น หากเขาจำลองทักษะระดับสูง หน้าของสารบัญทักษะจะเต็มและเขาจะไม่สามารถจำลองทักษะระดับสุดยอดได้หากเขาพบมัน นั่นคงน่าเศร้ามาก

“ระยะเวลาการสำรวจของเขตผิงเฉิงของเรายังเหลืออีก 20 วัน เจ้ามั่นใจในการผ่านด่านที่ห้าไหมในตอนนี้?”

ในคืนนั้น ซืออวี๋มาถึงเขตผิงเฉิง หลังจากที่ประธานเฟิงส่งซืออวี๋มาถึงบ้าน เขาก็ออกจากรถและเอ่ยถาม

“ข้ามั่นใจด่านที่ห้า แต่ข้าไม่รู้ว่าด่านที่หกคืออะไร”

“ไม่รีบ ไม่รีบ เราควรก้าวทีละก้าว” ประธานเฟิงหรี่ตาลงและยิ้มออกมา

“ถ้าเช่นนั้นเจ้ามีแผนที่จะสำรวจซากปรักหักพังเมื่อไหร่ล่ะ?”

ความคิดของเขาก็คือต้องแข่งกับเวลา

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถผ่านด่านที่หกได้ แต่การรู้ข้อมูลของด่านที่หกล่วงหน้าก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน

ในเวลานั้น นักฝึกสัตว์อสูรทุกคนในเขตผิงเฉิงจะช่วยซืออวี๋คิดหาทางแก้ไข!

ไม่ว่ายังไง การที่ถอดรหัสภายในระยะเวลาการสำรวจของเขตผิงเฉิงก็จะดีที่สุด เมื่อถึงตอนนั้น ผู้คนจากเขตอื่นจะทำได้เพียงแค่มองดูเท่านั้น

วันนี้ไม่ทันแล้ว ดังนั้นเขาจึงเอ่ยถามความคิดต่อไปของซืออวี๋

“ให้เวลาข้าอีกเล็กน้อย ข้าไม่สามารถยืนยันวันที่แน่นอนได้”

“แต่แต่ไม่น่าจะเกินครึ่งเดือน”

ซืออวี๋ยังคงวางแผนที่จะผ่านซากปรักหักในคราวเดียว เช่น ยกการหลับลึกและการทวีคูณให้ถึงขั้นชำนาญ หรือเพิ่มระดับการเติบโตของอีเลฟเว่นก่อนไป

ระดับการเติบโตของอีเลฟเว่นยังคงต่ำเล็กน้อย ในช่วงเวลานี้ ซืออวี๋ได้มุ่งเน้นไปที่การเสริมพลังทักษะที่ทรงพลังอื่นนอกเหนือจากทักษะเผ่าพันธุ์ เขาละเลยทักษะเผ่าพันธุ์ของมัน

หากเขาต้องการเพิ่มระดับการเติบโตสัตว์อสูรของเขาอย่างรวดเร็ว การที่เพิ่มแต้มให้แก่ทักษะเผ่าพันธุ์จะดีที่สุด

ทักษะประเภทนี้ที่ติดตัวพวกมันมาตั้งแต่เกิดเพราะสายเลือดของพวกมันนั้นเหมาะสมที่สุดในการส่งเสริมการเติบโตของพวกมันหลังจากยกเพิ่มความเชี่ยวชาญให้แก่มัน

ตอนนี้เขามีหินไร้ตัวตนสี่ก้อนแล้ว เขาจึงไม่ต้องกังวลว่าระดับการเติบโตของอีเลฟเว่นจะเพิ่มขึ้นเร็วเกินไปและเขาไม่สามารถตามทันการเติบโตของมันได้

ดังนั้นดูเหมือนว่าเขาสามารถย้อนกลับไปเพิ่มแต้มทักษะเผ่าพันธุ์ระดับต่ำของอีเลฟเว่นได้

“ตกลง เช่นเดียวกับที่ข้ากล่าวไปก่อนหน้านี้ หากเจ้าต้องการอะไร เจ้าสามารถติดต่อข้าได้ทุกเมื่อ”

ประธานเฟิงพยักหน้าและนึกถึงบางสิ่งอย่างกะทันหัน

“อย่างไรก็ตาม การฝึกสัตว์อสูรในลานบ้านนั้นสะดวกงั้นเหรอ?”

“ยังมีบ้านฝึกฝนว่างสองหลังในเขตผิงเฉิง ข้าจะพาเจ้าย้ายไปในวันพรุ่งนี้ ข้าจะให้เจ้าหนึ่งหลัง” ประธานเฟิงขยิบตา

ซืออวี๋คิดกับตัวเองว่าสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเขตผิงเฉิงค่อนข้างใจกว้างกับเขา

ซืออวี๋ตกตะลึง และพยักหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจ

“เจ้าใจกว้างเกินไปแล้ว ไม่สำคัญว่าจะเป็นบ้านแบบไหน แต่เนื่องจากมันสะดวกที่จะฝึกฝนสัตว์อสูรและช่วยให้โจมตีซากปรักหักพังได้เร็วที่สุด ข้าจึงยอมรับมัน”

ซืออวี๋ไม่ยอมรับว่าเขาชอบของใหม่หรือของเก่า แต่บ้านเก่าหลังนี้ก็เก่าไปเล็กน้อยอย่างแท้จริง

ลานบ้านนี้แทบจะไม่สามารถต้านทานทารกอสูรกินเหล็กในตอนแรกได้เลย ดังนั้นตอนนี้มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะต้านทานการฝึกฝนที่เข้มข้นของราชาอสูรกินเหล็กได้

บ้านฝึกฝน

ตามชื่อของมัน มันเป็นบ้านที่มีสนามฝึก แม้แต่ในสถานที่ขนาดเล็กเช่นเขตผิงเฉิง เขาก็ไม่สามารถหาซื้อบ้านดังกล่าวได้หากไม่มีเงินอย่างน้อยสิบล้านหยวน

“ถ้าเช่นนั้นวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการอยู่ที่นี่งั้นเหรอ?”

หลังจากที่ซืออวี๋เข้าไปในลานบ้าน เขาไม่ได้ยินเสียงร้องต้อนรับของหนอนไหมเขียวในครั้งนี้

เขาไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าหนอนไหมเขียวหลับไปแล้ว

ในกรง หนอนไหมเขียวนอนอยู่บนเตียงหญ้าหนวดมังกรอย่างสบายใจ

อย่างไรก็ตาม มันสามารถสบายใจได้แค่ในตอนนี้เท่านั้น เมื่อเขาศึกษาทิศทางการวิวัฒนาการของหนอนไหมเขียวเสร็จ มันจะไม่สามารถนอนขี้เกียจได้เช่นนี้ีกหลังจากวิวัฒนาการ

อีเลฟเว่นได้เป็นมาตรฐานแล้ว

“ลืมไปเถอะ ข้าจะไม่สอนทักษระดับสูงอีกแล้ว ข้าจะนอนหลังจากสอนการเคลือบแข็ง” หลังจากที่ซืออวี๋ตัดสินใจแล้ว เขาก็อัญเชิญอีเลฟเว่นออกมาจากมิติฝึกสัตว์อสูร

“อู๋!!!”

หลังจากที่อีเลฟเว่นออกมา พวกเขาก็จ้องหน้ากัน

ซืออวี๋ตกตะลึงเล็กน้อย

[ทักษะ] : การควบคุมพืช

[สถานะ] : ไม่สามารถสอนได้

เขามองไปที่หนอนไหมเขียวอีกครั้ง

[สถานะ] : ไม่สามารถสอนได้

เขายังไม่สามารถสอนมันได้

“ไม่เข้ากันเหรอ?”

ซืออวี๋รู้สึกว่าความเข้ากันได้ของการสอนจากสารบัญทักษะนั้นค่อนข้างกว้าง

ในบรรดาแปดทักษะที่เขาบันทึกไว้ การปราบปราม ไหมหนอน สุดยอดการมองเห็น การรักษาความเร็วสูง การหลับลึก การเคลือบแข็ง ฝ่ามือสายฟ้า และการทวีคูณ มีเพียงไหมหนอนเท่านั้นที่ไม่สามารถสอนให้แก่อสูรกินเหล็กได้

ตามสารบัญทักษะ มีเพียงฝ่ามือสายฟ้าเท่านั้นที่ไม่สามารถสอนให้แก่หนอนไหมเขียวได้

ทักษะอื่นยังคงเข้ากันได้

นี่เป็นครั้งแรกที่สัตว์อสูรทั้งสองไม่สามารถเรียนรู้ทักษะเดียวกันได้

ซืออวี๋เดาว่ามีสามเหตุผล

เหตุผลแรก เข้ากันไม่ได้ ไม่มีทางที่จะสอนพวกมันได้ พวกมันจึงไม่สามารถเป็นราชาพืชได้

เหตุผลที่สอง ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่เพียงพอที่จะเรียนรู้ทักษะระดับสุดยอด

เหตุผลที่สาม สารบัญทักษะกลัวว่าจะสังหารซืออวี๋หากเขาสอนทักษะนี้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลไหน เขาก็ยืนยันได้แล้วว่าเขาไม่สามารถสอนมันได้ในขณะนี้

“ลืมไปเถอะ”

ซืออวี๋ส่ายหัว ไม่ว่ายังไงกัน เขาก็ไม่ได้วางแผนที่จะสอนทักษระดับสุดยอดในขณะนี้ เพื่อความปลอดภัย อย่างน้อยเขาก็ต้องเป็นระดับปรมจารย์ก่อนที่เขาจะต้องเสี่ยงกับความเหนื่อยล้าสุดขีดที่ทักษะนี้จะมอบให้แก่เขา

ซืออวี๋รู้สึกว่าเขาอาจไม่สามารถทนไหวแม้ว่าเขาจะเป็นนักฝึกสัตว์อสูรมืออาชีพก็ตาม

“แต่จากลักษณะแล้ว มีเพียงสองวิธีในการใช้ทักษะการควบคุมพืชนี้”

“ทำไมข้าไม่เลี้ยงหนอนไหมเขียวเป็นสัตว์อสูรธาตุไม้ล่ะ? หรือ สัตว์อสูรตัวที่สามเป็นสัตว์อสูรธาตุพืช”

ซืออวี๋คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และตัดสินใจที่จะเอนเอียงไปยังสัตว์อสูรตัวที่สาม

ท้ายที่สุด ในฐานะที่เป็นสัตว์อสูรกลายพันธุ์อันสมบูรณ์แบบซึ่งมีศักยภาพในการวิวัฒนาการสูงสุด หนอนไหมเขียวจึงสามารถเลือกได้หลายเส้นทาง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขามีสารบัญทักษะและสามารถผลักดันหนอนไหมเขียวสู่จุดสูงสุดได้ ศักยภาพของหนอนไหมเขียวจึงจะไม่ด้อยไปกว่าลูกของสัตว์อสูรระดับราชันย์เลย

หากเขายอมแพ้ในคุณสมบัติมังกร มิติ และเวลาที่หายากเพียงเพื่อทักษะธาตุไม้ระดับสุดยอด นั่นคงจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่!

ในทางกลับกัน เรื่องสัตว์อสูรตัวที่สาม หลู่ชิงอี้ผู้งดงามดูเหมือนจะเป็นหนี้เขา…

เมื่อถึงเวลานั้น การเลือกต้นกล้าพืชระดับสูงที่เหมาะสมจะไม่ง่ายกว่าเหรอ?

“ทุกยอ่างกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง”

“อู๋?”

อีเลฟเว่นมองไปที่ซืออวี๋ผู้ที่ยืนอยู่เฉยและยิ้มออกมา ร่างกายของมันสั่นสะท้านและรีบหันหลังไปเพื่อฝึกนตัวเอง

มันไม่เคยรู้สึกกระฉับกระเฉงเท่าวันนี้มาก่อนเลย!

คืนนี้!

คืนนี้มันจะไม่นอน!

อย่างไรก็ตาาม เสียงของซืออวี๋ก็ดังขึ้นในขณะนี้

“คืนนี้พักผ่อนได้แล้ว และให้ข้านอนอย่างสบายใจ วันพรุ่งนี้เราจะย้ายไปบ้านหลังใหญ่เพื่อให้เจ้าฝึกฝน”

“อู๋!”

วันต่อมา

ซืออวี๋ย้ายเข้าไปในบ้านฝึกฝนที่ประธานเฟิงกล่าวถึง

นอกเหนือจากส่วนที่พักอาศัยแล้วยังมีลานขนาดใหญ่ที่มีสระน้ำและต้นไม้จิตวิญญาณ ด้านหลังที่พักอาศัยเป็นสนามฝึกอิสระขนาดใหญ่

นอกจากนี้ ต่างจากบ้านของซืออวี๋ บ้านที่นี่ทุกหลังใช้วัสดุฉนวนกันเสียงระดับสูง ดังนั้นซืออวี๋จึงไม่ต้องกังวลว่าการฝึกฝนที่มีเสียงดังของอีเลฟเว่นจะรบกวนการพักผ่อนของเขา

“สภาพแวดล้อมค่อนข้างดีใช่ไหม?”

หลังจากที่ประธานเฟิงนำซืออวี๋ไปรอบบ้านแล้ว เขาก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม

โดยทั่วไปแล้ว มีเพียงนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ซึ่งอาศัยอยู่ในเขตผิงเฉิงเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติได้รับบ้านดังกล่าว

ซืออวี๋เป็นคนแรกที่ได้รับบ้านดังกล่าวในระดับฝึกหัด

อย่างไรก็ตาม ซืออวี๋มีสิทธิ์ ตราบใดที่เขาไม่ตาย การกลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ในอนาคตเกือบจะ 100% และมูลค่าที่ซากปรักหักพังซึ่งซืออวี๋พิชิตได้อาจนำพาความรุ่งโรจน์มาสู่เขตผิงเฉิงได้ในอนาคต… มูลค่าของบ้านหลังนี้ไม่สามารถเทียบได้อย่างสมบูรณ์

“ดีมาก” ซืออวี๋อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมา อีเลฟเว่นผู้ที่ตามมาอยู่ข้างเขาก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า

เยี่ยมไปเลย!

สนามฝึกที่ใหญ่ขึ้น!

อย่างไรก็ตาม หากต้นไม้จิตวิญญาณในลานบ้านเปลี่ยนเป็นไผ่ก็จะดียิ่งขึ้น

ไม่ใช่แค่อีเลฟเว่นเท่านั้น แม้กระทั่งหนอนไหมเขียวก็โผล่ออกมาจากกระเป๋าและมองสภาพแวดล้อมใหม่

ย้อนกลับไปในตอนนั้น มันซ่อนตัวในบ้านของซืออวี๋ที่ห่างไกลเพื่อหลบหนีจากศัตรูตามธรรมชาติของมัน มันชินกับการอยู่บนต้นพลับของบ้านซืออวี๋ การที่มันมาถึงสถานที่อันสวยงามเช่นนี้ มันจึงไม่ชินมากนัก

“ยังมีพื้นที่ว่างมากมายในลานบ้าน เมื่อเจ้ามีเวลา เจ้าสามารถปลูกพืชจิตวิญยาณที่เจ้าชอบได้”

ในขณะที่ซืออวี๋กำลังเดิน เขาก็ใช้กระแสจิตเพื่อพูดคุยกับอีเลฟเว่นและหนอนไหมเขียว

หลังจากเดินรอบบ้านสองครั้ง ซืออวี๋ก็คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่นี่อย่างสมบูรณ์

เมื่อเห็นว่าซืออวี๋พอใจมาก ประธานเฟิงก็ยิ้มและกล่าวว่า “การที่เจ้าพอใจนั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก ถ้าเช่นนั้นข้าจะไม่รบกวนเจ้าอีกต่อไปแล้ว ต่อจากนี้ เจ้าจะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้”

“ขอบคุณมากประธานเฟิง”

ซืออวี๋รู้สึกดีมากหลังจากบ้ายมายังบ้านใหม่ของเขา เขารู้สึกว่าตับของเขากำลังฟื้นฟูอย่างเชื่องช้า ในสภาพแวดล้อมอันงดงามดังกล่าว การยกระดับสัตว์อสูรของเขาจะเป็นเรื่องที่เหนื่อยล้ามาก เขาก็ยังคงรู้สึกดี

ประธานเฟิงมีสิ่งที่ต้องทำหลายเรื่อง หลังจากช่วยซืออวี๋เข้ามาในบ้านแล้ว เขาก็จากไปอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลาอันสั้น อีเลฟเว่น ซืออวี๋ และหนอนไหมเขียวก็ถูกทิ้งไว้ในบ้านขนาดใหญ่

“เมื่อเขาจากไป บ้านขนาดใหญ่หลังนี้ก็รู้สึกว่างเปล่าในทันที”

“มันดูโดดเดี่ยวมาก เฮ้อ” ซืออวี๋กล่าวออกมา

ไม่จำเป็นต้องมากความอีก เพื่อฉลองการย้ายบ้าน วันนี้้ขาจึงต้องพยายามอย่างหนัก!

หลังจากที่ย้านมายังบ้านใหม่ เขาก็ต้องใช้เวลาในการปรับตัวเล็กน้อย ซืออวี๋ปรับตัวได้ดีมากเพราะสภาพแวดล้อมที่นี่เหมาะแก่การ ‘ฟื้นฟู’ มาก

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะหลอมรวมเข้ากับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์

อีเลฟเว่นและหนอนไหมเขียวก็ปรับตัวได้ดีเช่นกัน การใช้ชีวิตคือการปรับตัว

ในระหว่างการปรับตัว คุณสมบัติของอีเลฟเว่นและหนอนไหมเขียวก็มีการเปลี่ยนแปลง ‘เล็กน้อย’ เช่นกัน

[ชื่อ] : อสูรกินเหล็ก

[ระดับการเติบโต] : ปลุกตื่นขั้นแปด

[ทักษะ] : การเคลือบแข็ง (ชำนาญ+9) ฝ่ามือสายฟ้า (ชำนาญ) การรักษาความเร็วสูง (ชำนาญ) สุดยอดการมองเห็น (ชำนาญ) การปราบปราม (ชำนาญ) การหลับลึก (ชำนาญ) การทวีคูณ (ชำนาญ)

[ชื่อ] : หนอนไหมเขียว

[ระดับการเติบโต] : ปลุกตื่นขั้นเก้า

[ทักษะ] : ไหมหนอน (ชำนาญ+10)

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด