ตอนที่แล้วบทที่ 48 แลกเปลี่ยนยันต์กับคะแนน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 50 แจ้งเหตุร้าย

บทที่ 49 คู่บำเพ็ญเต๋า


บทที่ 49 คู่บำเพ็ญเต๋า

ชาปลุกจิตวิญญาณระดับ 3 งั้นหรือ?

เจียงเฉิงซวนและเฉินเต้าหมิงต่างตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด

ว่ากันว่าชาปลุกวิญญาณระดับ 2 มีผลในการทำความสะอาดสิ่งสกปรกในจิตวิญญาณของผู้ฝึกตน

พวกเขาไม่รู้จริงๆ ว่าชาปลุกวิญญาณระดับ 3 นี้จะพิเศษขนาดไหน

เมื่อเปรียบเทียบกับปฏิกิริยาที่รุนแรงของเจียงเฉิงซวนและเฉินเต้าหมิงแล้ว เฉินหรู่หยานก็ค่อนข้างสงบกว่ามาก

เธอค่อยๆ หยิบถ้วยชาที่อยู่ตรงหน้าเธอแล้วจิบก่อนจะพยักหน้า

แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเลย

…..

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจียงเฉิงซวนและเฉินเต้าหมิงหยิบถ้วยชาขึ้นมาและจิบ พวกเขาก็รู้สึกถึงความเย็นสบายอย่างยิ่งที่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาทันที ทำให้จิตใจของพวกเขาสดชื่นและคล้ายจะบริสุทธิ์ขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อพวกเขาดื่มชาปลุกพลังวิญญาณเสร็จ พวกเขาก็พ่นลมหายใจสีน้ำตาลอมเทาออกมา

นั่นเป็นสิ่งสกปรกบางอย่าง

“เป็นชาที่ดีจริงๆ!”

เฉินเต้าหมิงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมออกมา

เจียงเฉิงซวนก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน

ในทางกลับกันเฉินหรู่หยานก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมาเช่นเคย

ในขณะนั้น สายตาของเฉินหยวนหลงจ้องมองไปที่เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยาน เขายิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“เป็นเวลากว่าสิบปีแล้วที่เราพบกันครั้งล่าสุด ดูเหมือนว่าระดับการฝึกฝนและความแข็งแกร่งของพวกเจ้าจะดีขึ้นมาก”

หลังจากหยุดชั่วคราว เฉินหยวนหลงก็พูดต่อ

“จริงๆ แล้ว ข้าขอให้เต้าหมิงเรียกพวกเจ้ามาในครั้งนี้เพื่อถามพวกเจ้าว่าพวกเจ้าทั้งสองคนมีความคิดที่จะเป็นคู่บำเพ็ญเต๋ากันหรือไม่”

“เอ่อ…”

เมื่อได้ยินคำพูดที่ตรงไปตรงมาของเฉินหยวนหลง เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานก็อดไม่ได้ที่จะมองเขาอย่างตกตะลึง

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งสองไม่ได้คาดคิดว่าเฉินหยวนหลงจะเรียกหาพวกเขามาเพื่อถามเรื่องนี้ แถมเขายังไม่ตีงูข้างพุ่งไม้เลย (ไม่อ้อมค้อมเลย)

เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานมองหน้ากันอย่างไม่รู้ตัว

ในขณะนี้ อารมณ์ที่อธิบายไม่ได้ก็ปรากฏขึ้นในใจพวกเขา

หลังจากนั้นไม่นาน

เฉินหรู่หยานก็ยิ้มออกมา

เธอมองไปที่เฉินหยวนหลงและพยักหน้า

“เป็นเกียรติของข้าที่ได้เป็นคู่บำเพ็ญเต๋าของผู้อาวุโสเจียง”

"ดี!"

เฉินหยวนหลงยิ้มทันทีและหันไปมองเจียงเฉิงซวน

จิตใจของเจียงเฉิงซวนเต็มไปด้วยคำถาม

หลังจากมีปฏิสัมพันธ์กับเฉินหรู่หยานเป็นเวลาหลายปีเจียงเฉิงซวนก็มีความรู้สึกบางอย่างต่อเธอจริงๆ

เขายังเชื่อด้วยว่าหากความสัมพันธ์ของพวกเขาดำเนินต่อไปพวกเขาอาจจะสามารถเป็นคู่บำเพ็ญเต๋าของกันและกัน ไม่ช้าก็เร็ว

อย่างไรก็ตามเฉินหยวนหลงได้นำเหตุการณ์ในอนาคตทิ้งไปทั้งหมด

แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากที่สุดก็คือทัศนคติของ เฉินหรู่หยานที่มีต่อเขา

เจียงเฉิงซวนหันไปมองเฉินหรู่หยานแล้วยิ้มออกมาเช่นกัน จากนั้นเขาหันไปมองที่เฉินหยวนหลงและพูดว่า

“บรรพบุรุษ ข้าก็อยากเป็นคู่บำเพ็ญเต๋าของผู้อาวุโสหรู่หยานเหมือนกัน”

“ดี ดี ดี!”

เมื่อได้ยินคำตอบของเจียงเฉิงซวนเห็นได้ชัดว่าเฉินหยวนหลงก็มีความสุขอย่างมากเช่นกัน

เขาหยิบแหวนมิติออกมาสองวงแล้วมอบให้กับเจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่ยหยาน

“เฉิงซวน หรู่หยาน รับแหวนมิติเป็นของขวัญจากข้า มีสมบัติบางอย่างที่ข้าทิ้งไว้ให้พวกเจ้าในแหวนนี้ และข้าหวังว่าพวกเจ้าจะสามารถฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งและสำรวจวิถีแห่งเต๋าไปด้วยกัน”

เฉินเต้าหมิงซึ่งอยู่ด้านข้างรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เขาไม่ได้คาดหวังว่าบรรพบุรุษจะมอบแหวนมิติสองวงให้พวกเขา

ต้องเข้าใจก่อนว่าในบรรดาสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถเก็บของได้จำนวนมากนั้น ถุงเก็บของเป็นสิ่งที่ธรรมดาและพื้นฐานที่สุด

พวกมันไม่สามารถจดจำเจ้าของได้ และเจ้าสามารถร่ายรูปแบบป้องกันบางอย่างไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นเปิดมันได้ง่ายเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ฝึกตนธรรมดาต้องใช้เวลาวันสองวันในการเปิดมันออก

ในทางกลับกัน แหวนมิตินั้นแตกต่างออกไป

ไม่เพียงแต่พื้นที่ภายในของมันใหญ่กว่าถุงเก็บของอย่างมากเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการจดจำเจ้าของของมันได้อีกด้วย

เว้นแต่ว่าเจ้าของของมันตายไปแล้ว หรือผู้ฝึกตนระดับสูงที่แข็งแกร่งใช้พลังเวทย์ของเขาเพื่อทำลายข้อจำกัดอย่างรุนแรง คนธรรมดาจะไม่สามารถเปิดแหวนมิติได้แม้ว่าพวกเขาจะได้รับมันก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้น ภายในแหวนมิติทั้งสองนั้น ยังมีสมบัติที่เฉินหยวนหลงเตรียมไว้สำหรับเจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานอีกด้วย

แน่นอนว่าเจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานไม่ได้ปฏิเสธ

หลังจากขอบคุณเฉินหยวนหลงแล้ว พวกเขาก็เอื้อมมือออกไปรับแหวนมิติคนละวง

หลังจากนั้นอีกสักพัก

เจียงเฉิงซวน, เฉินหรู่หยานและเฉินเต้าหมิงก็ออกจากยอดเขาฮัวหวู่

ระหว่างทางกลับ เฉินเต้าหมิงยิ้มก็พูดกับทั้งสองคนว่า

“ข้าจะบอกตระกูลเกี่ยวกับการที่พวกเจ้าทั้งสองคนได้กลายมาเป็นคู่บำเพ็ญเต๋ากันในภายหลัง

นอกจากนี้ หากพวกเจ้ไม่มีอะไรทำในตอนนี้ ก็ตามข้ามาที่ห้องโถงบรรพบุรุษของตระกูลเฉินก่อน”

เมื่อหลายปีก่อน พ่อแม่ของเฉินหรู่หยานและเฉินเต้าหมิงเสียชีวิตไปแล้ว

ดังนั้นเฉินเต้าหมิงจึงขอให้ทั้งสองคนไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษของตระกูลเฉิน เพื่อแสดงความเคารพต่อพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปของพวกเขา และบอกพวกเขาเกี่ยวกับข่าวดีนี้

ผู้ฝึกตนไม่มีพิธีการที่ซับซ้อนเหมือนมนุษย์เมื่อพวกเขากลายเป็นคู่บำเพ็ญเต๋า

เว้นแต่จะมีความจำเป็นพิเศษ เช่น การแต่งงานระหว่างทั้งสองตระกูลใหญ่ถึงจะจัดการยิ่งใหญ่ถ้าพวกเขาต้องการ

ส่วนเจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานไม่ใช่คนประเภทที่ชอบมีชื่อเสียง ดังนั้นพวกเขาจึงข้ามขั้นตอนที่ไม่จำเป็นทั้งหมดไป

เมื่อทั้งสองได้ยินเฉินเต้าหมิงพูดอย่างนั้น พวกเขาก็มองหน้ากันและพยักหน้า

ในไม่ช้า พวกเขาทั้งสามก็มาถึงห้องโถงบรรพบุรุษของตระกูลเฉิน

ภายใต้การนำของเฉินเต้าหมิงนั้น

พวกเขาเดินเข้าไปในห้องโถงบรรพบุรุษก่อนจะถึงแผ่นป้ายอนุสรณ์แถวหนึ่ง (อนุสรณ์ แปลว่าระลึกถึง แผ่นป้ายอนุสรณ์ แปลว่าแผ่นป้ายแห่งความระลึกถึง)

เฉินเต้าหมิงชี้ไปที่แผ่นป้ายอนุสรณ์สองแผ่นแล้วพูดกับเจียงเฉิงซวนว่า

“น้องเขย นี้คือแผ่นป้ายอนุสรณ์ของบิดามารของข้าและหรู่หยาน พวกเจ้าทั้งสองถวายเครื่องหอมให้พวกท่าน”

ขณะที่เขาพูด เฉินเต้าหมิงก็นำธูปหอมหกดอกมามอบให้พวกเขา

เขามอบให้กับเจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานคนล่ะสามอัน

เจียงเฉิงซวนและเฉินหรู่หยานรับมันไป จากนั้นทั้งสองคนก็จุดธูปสามดอกในมือและโค้งคำนับแผ่นป้ายอนุสรณ์สองแผ่นที่อยู่ตรงหน้า

เฉินเต้าหมิงซึ่งอยู่ข้างๆ พวกเขาพูดกับแผ่นป้ายอนุสรณ์ทั้งสองด้วยอารมณ์ว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่านกังวลอยู่เสมอว่าหรู่หยานจะไม่สามารถหาคู่บำเพ็ญเต๋าที่เธอชอบได้ เพราะบุคลิกของเธอไม่เหมาะสมสำหรับโลกแห่งการฝึกตนเกินไป

ตอนนี้พวกท่านเห็นแล้วใช่ไหม?

หรู่หยานเปลี่ยนไปมากตอนนี้ แถมเธอยังพบคู่บำเพ็ญเต๋าที่เหมาะสมแล้วด้วยซ้ำ นั้นคือคนที่อยู่ข้างๆเธอ เจียงเฉิงซวน เขาเป็นอาวุโสรับเชิญของตระกูลเฉิน และเป็นปรมาจารย์ยันต์ระดับ 2

แน่นอนว่าตอนนี้เขาเป็นคู่บำเพ็ญเต๋าของหรู่หยานแล้ว เขาก็ถือว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลเฉินของเราแล้ว .. "

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด