ตอนที่แล้วบทที่ 66: เสียสละ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 68: การยั่วยุ

บทที่ 67: การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 67: การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่

[คะแนนชื่อเสียงจากแดร์เดวิล +700]

[คะแนนชื่อเสียงจากเจสซิก้า โจนส์ +850]

[คะแนนชื่อเสียงจากลุค เคจ +1120]

'ตามที่คาดไว้ ยิ่งอยู่ด้วยกันลึกซึ้งมากเพียงใด คะแนนชื่อเสียงที่ได้รับก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น'

ในร้านขายของเก่า ไรอันใช้พลังในการคงร่างแยก เขามองไปที่ตัวเลขบนแผงข้อมูลระบบ ซึ่งเกินกว่าตัวเลขที่เคยมีมาก่อนไปแล้ว

จุดจบของอาซิง เขาได้คิดมันไว้นานแล้ว สิ่งแรกเลยที่ทำให้เขาตัดสินใจทำเช่นนี้ เพราะเขาจำเป็นต้องใช้ร่างแยกอาซิงเพื่อตรวจสอบว่าระบบคะแนนเป็นแบบที่เขาคาดเดาหรือไม่ อีกประการหนึ่งคือยิ่งเขามีการ์ดในมือเพิ่มเท่าไร เขาก็จำเป็นต้องลดการ์ดที่ไม่ใช้งานลงไป แน่นอนว่าว่าตามทฤษฎีแล้ว [อาซิง] ซึ่งเป็นไพ่ที่ทรงพลังที่สุดในมือของไรอันยามนี้ย่อมไม่ควรถูกปัดตกออกไปก่อนกำหนด ทว่าเวลานี้เหมาะสมที่สุด

ด้วยการปรากฏตัวของมาดามเกาและบูลส์อาย สถานการณ์ที่ท่าเรือจึงเป็นโอกาสอันสมบูรณ์แบบเลยที่ไรอันจะทิ้งตัวละครตัวนี้ไปเสียที

อีกทั้งยังมีตัวเก็บคะแนนมากมายอย่างเจสซิก้ากับคนของทีมดีเฟนเดอร์สอยู่ที่นี่ด้วย

แม้ว่าทุกอย่างจะดูเร่งรีบไปหน่อย แต่ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่ไรอันคาดหวังอย่างไม่ต้องสงสัย

คะแนนชื่อเสียงที่เขาได้รับจากทีมดีเฟนเดอร์สทำให้ยืนยันหลายสิ่งหลายอย่างให้กับเขาเลย

นี่อาจเป็นรางวัลสำหรับการปิดม่านของ [อาซิง] อย่างสมบูรณ์แบบ

[คะแนนชื่อเสียงจากมาดามเกา +100]

[คะแนนชื่อเสียงจากบูลส์อาย +90]

ดูเหมือนว่าทั้งสองคงจะสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติสินะ

ในขณะนั้นเอง ได้มีข้อความแจ้งสองข้อความปรากฏขึ้นในแผงข้อมูลระบบ ซึ่งทำให้ไรอันเลิกคิ้วเล็กน้อย

เมื่อเห็นด้วยตาตนเองว่าร่างที่ร่วงลงไปกับพื้นได้หายไปอย่างกะทันหัน ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มาดามเกาและบูลส์อายจะรู้สึกประหลาดใจ จนทำให้ไรอันได้รับคะแนนชื่อเสียงเพิ่มขึ้นด้วย

ทว่าถึงพวกเขาจะรู้ก็ไม่สำคัญอยู่แล้ว ยังไงสิ่งที่ไรอันต้องการมีเพียงแค่คะแนนชื่อเสียงเท่านั้น

เมื่อได้เห็นคะแนนชื่อเสียงหลักร้อยที่มีอยู่ หัวใจของไรอันก็เริ่มสั่นไหว

คะแนนสะสมพวกนี้เพียงพอสำหรับไรอันที่จะแลกหนึ่ง... ไม่สิ [หีบสมบัติเหล็กดำ] สองกล่อง

ทว่าเมื่อนึกถึงการต่อสู้ครั้งก่อนในท่าเรือ ไรอันก็พยายามระงับความต้องการที่จะแลกเป็นหีบสมบัติทันที

เพราะเขาคิดว่าการเก็บสะสมคะแนนชื่อเสียงและเดิมพันกับ [หีบสมบัติทองแดง] คงจะดีกว่าเปิดหาการ์ดระดับ D เท่านั้น

ในการต่อสู้ที่ท่าเรือ แม้ไรอันอยากจะเอาตัวอาซิงหนีไป เขาก็คงไม่สามารถรอดพ้นจากเงื้อมมือของมาดามเกาและบูลส์อายได้เลย ตัวละครอย่าง [อาซิง] ที่เป็นการ์ดระดับ D นั้นไม่สามารถต่อต้านพลังของกระสุนได้

ซึ่งนี้เป็นเพียงแค่การร่วมมือกันของเดอะแฮนและคิงพินเท่านั้น หากเทียบกับการรุกรานของเอเลี่ยนในอนาคต หรือาดอร์มัมมูที่พยายามยึดครองโลก ไรอันคงได้แค่ฝันถ้าเขายังคิดที่จะพึ่งพาการ์ดอย่าง [อาซิง] ต่อไป

ดังนั้นการเก็บคะแนนมากขึ้นและเปิดหีบสมบัติอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงการ์ดตัวละครที่มีพลังการต่อสู้สูง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ไรอันควรจะทำ ไม่สิ พูดให้ถูกคือถ้าไรอันต้องการเอาชีวิตรอดในโลกมาร์เวลที่เต็มไปด้วยวิกฤติอันตราย นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เขาควรทำ

  ...

ขณะที่ไรอันกำลังคิดว่าจะทำยังไงต่อดี...

อีกด้านหนึ่ง ดีเฟนเดอร์สที่หนีออกจากท่าเรือต่างก็เหนื่อยล้าทั้งกายและใจ

'การเสียสละ' ของอาซิงสร้างความเสียหายทางใจให้กับทุกคนอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจสซิก้า เพราะในความคิดของเธอ อาซิงได้ตายไปเพราะช่วยชีวิตเธอเอาไว้...

"มันเป็นความผิดของฉัน ถ้าฉันไม่บอกพวกนายเรื่องท่าเรือก่อนที่จะสืบสวน เราคงไม่ตกหลุมพราง และอาซิงก็ไม่จำเป็นต้อง...เข้ามาช่วยฉัน"

"..."

"เราทุกคนถูกหลอก"

"เห็นได้ชัดว่าเบาะแสพวกนั้นเป็นกับดัก คงมีคนอยากจะให้เราไปที่ท่าเรือ และพยายามดักซุ่มลอบโจมตีพวกเรา"

แมตต์กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง หลังจากเงียบไปนาน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในท่าเรือ อันที่จริงเขาโทษตัวเองมากกว่าเจสซิก้า เพราะเขาเป็นคนที่เชิญอาซิงให้เข้าร่วมกับดีเฟนเดอร์ส จนจบลงด้วยการปล่อยให้อีกฝ่ายตายอย่างสิ้นหวังด้วยการร่วมมือกันของเดอะแฮนและคิงพิน

เมื่อคิดได้เช่นนั้น แมตต์ก็กำหมัดโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากเขาได้แสดงสีหน้าบิดเบี้ยวออกมา บาดแผลบนใบหน้าของเขาจึงมีเลือดออกอีกครั้ง

"อาซิงเป็นเพื่อนของเรา" ในขณะนั้นเอง ลุคที่เงียบไปนานก็พูดขึ้น ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อเขาพูดออกมาคำต่อคำ "เขามาที่ฮาร์เล็มและเปลี่ยนถนนเส้นนี้ไป เขาเป็นฮีโร่ของเรา ฉันจะไม่ปล่อยให้การเสียสละของเขาไร้ประโยชน์"

"เพื่ออาซิง!"

ลุคเหยียดกำปั้นออกไป

"เพื่ออาซิง!"

หลังจากมองดูเขา เจสซิก้าก็ยื่นหมัดออกไปประสานกับลุค

"เพื่ออาซิง!"

แมตต์ยื่นมือออกมาตาม เขากล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา แต่หนักแน่น

[คะแนนชื่อเสียงจากแดร์เดวิล +1200]

[คะแนนชื่อเสียงจากเจสซิก้า โจนส์ +1000]

[คะแนนชื่อเสียงจากลุค เคจ +1150]

ไรอันถึงกับสับสน

  ...

"ฉันเห็นเขาร่วงลงไปกับพื้นแล้วนะ"

ที่ท่าเรือ บูลส์อายมองไปยังพื้นที่ว่างเปล่าตรงหน้าเขา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่อยากจะเชื่อ

"ทำไมถึงไม่เหลืออะไรเลย? เลือดอยู่ไหนกัน? ร่างกายของเขาอยู่ที่ไหน?!" ดวงตาของเขากวาดไปรอบตัว แต่เขาก็ไม่พบร่องรอยของคนผู้นี้เลยแม้แต่น้อย

อีกด้านหนึ่ง มาดามเกาที่เฝ้าดูทุกอย่างก็ได้พูดขึ้นมาว่า "อาจเป็นเพราะเขาพิเศษ"

“พิเศษงั้นเหรอ?”

บูลส์อายทำหน้าเคร่งเครียดและหันศีรษะโดยไม่รู้ตัว

"ดูเหมือนคุณจะรู้อะไรบางอย่างใช่ไหม?"

เมื่อนึกถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างตัวเธอเองกับอาซิงที่โรงงานของเธอ  อีกฝ่ายอ้างว่าตนมาจากเผิงไหล มาดามเกาก็เริ่มมั่นใจมากขึ้นถึงความสงสัยบางอย่างในใจของเธอ

ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ขโมยพลังความเป็นอมตะจากคุนหลุนและแปรพักตร์มา มาดามเกาจึงได้คิดเชื่อมโยงดินแดนลึกลับเผิงไหลที่อาซิงกล่าวเข้ากับคุนหลุน มันทำให้เธอคิดว่าเผิงไหลอันแสนลึกลับมีความอันตรายอย่างยิ่งยวด

"กลับไปบอกคิงพินว่าคราวนี้ปฏิบัติการของเราล้มเหลว ต่อไปคงจะมีการต่อสู้อันยากลำบากรอเราอยู่ ดังนั้นบอกให้เขาเตรียมตัวให้พร้อม"

"ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะเป็นภัยคุกคามต่อคิงพินได้หรอกนะ" บูลส์อายแค่นเสียง

"เชื่อฉันเถอะ ฉันรู้ว่าความโกรธจากผู้คนสามารถเป็นภัยได้มากเพียงใด ยิ่งไปกว่านั้น สาเหตุที่เกิดการต่อสู้ในวันนี้เพราะพวกเขาเป็นปัญหาต่อเราไม่ใช่เหรอ?"

บูลส์อายเมื่อได้ยินจึงได้แต่นิ่งเงียบไป

[คะแนนชื่อเสียงจากมาดามเกา +135]

เมื่อเห็นคะแนนผุดขึ้นมาอีก ไรอันก็ยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด