ตอนที่แล้วบทที่ 62: ในฤดูร้อนที่แสนร้อนระอุ สตรีโฉมงามทุกนางในอาณาจักรล้วนสวมกระโปรงสั้น!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 64: วิธีหาเงินโดยไม่ทรยศต่ออาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่?

บทที่ 63: ไม่มีสินบนใดที่สามารถเอาชนะข้าได้!


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 63: ไม่มีสินบนใดที่สามารถเอาชนะข้าได้!

จากนั้นเจ้าชายแฮมก็ปรบมืออีกครั้ง

ทันใดนั้น คณะราชทูตได้ดึงกล่องไม้ที่สร้างขึ้นอย่างประณีตออกมาและผลักมันไปต่อหน้าหลินเป่ยฟาน

เมื่อเปิดออกมา ก็พบเครื่องประดับทองและเงินแวววาวมูลค่าประมาณ 100,000 ตำลึง

หลินเป่ยฟานเทไวน์ลงถ้วยอย่างใจเย็นแล้วเอ่ยถามว่า “องค์ชายแฮม สิ่งนี้คืออะไรกัน?”

"ท่านหลิน ก็เป็นอย่างที่ท่านนึกไว้!”

เจ้าชายแฮมยิ้มอย่างสุภาพและกล่าวตอบไปว่า “ในอีกสองวัน มันจะเป็นวันแห่งการเจรจาระหว่างอาณาจักรอู๋และอาณาจักณดาร์โร มีการตกลงกันเบื้องต้นว่าสินไหมทดแทนจะเป็นเงิน 3 ล้านตำลึง เป็นอัญมณีและทรัพยากร! ทว่ารายจ่าย 3 ล้านต่อปีนั้นมากเกินไปสำหรับอาณาจักรดาร์โรของเราที่จะแบกรับ!”

“พวกเราดาร์โรเป็นเพียงอาณาจักรเล็กๆ ที่มีประชากรเพียง 10 ล้านคน มีทรัพยากรที่จำกัดและผู้คนต่างกำลังทุกข์ทรมานอย่างมาก! รายรับของเราต่อปีมีเพียงประมาณ 8 ล้านตำลึง มีมากเท่านี้เรายังไม่อาจมีพอเลย! ถ้าเราตัดมันออกไป 3 ล้านตำลึงทุกปี มันก็เหมือนการนำฟางเส้นสุดท้ายของอาณาจักรเราไป! หากมีภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือเกิดอาเพศขึ้น มันคงแย่จนไม่อาจจินตนาการได้แน่!”

“ดังนั้นในระหว่างการเจรจา ข้าจึงหวังว่าท่านหลินจะช่วยพูดแทนเราและช่วยลดภาระของเราได้! ในนามของผู้คนนับล้านในอาณาจักรดาร์โร ข้าต้องฝากความหวังไว้ที่ท่านหลินแล้ว!”

“ส่วนนี้เป็นเพียงของขวัญเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการพบปะกันของเรา! หลังจากการเจรจาประสบความสำเร็จ เราจะมีของขวัญมากกว่านี้มาให้ท่านด้วย!”

ทูตคนอื่นๆ ยิ้มออกมาอย่างชื่นชมยินดีไปทางหลินเป่ยฟาน

“ใช่แล้วท่านหลิน เราต้องขอฝากดาร์โรไว้กับท่านด้วย!”

“ผู้คนนับล้านในดาร์โรหวังพึ่งท่านอยู่!”

“หลังจากเจรจาสำเร็จ ท่านยังจะได้รับของอีกมากมาย!”

เมื่อมองดูทุกคนที่คอยยกยอเขา หลินเป่ยฟานก็ปิดกล่องอย่างใจเย็น

“เอามันกลับไปเถิด ข้าไม่ขอยอมรับมัน!” ทุกคนถึงกับตกตะลึง ทันใดนั้น หลินเป่ยฟานก็ลุกขึ้นและกล่าวออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าคิดว่าเงินจำนวนเล็กน้อยนี้สามารถซื้อข้าได้เหรอ? ท่านคิดว่ามันจะทำให้ข้าทรยศต่อผลประโยชน์ของจักรวรรดิอู๋งั้นเหรอ? ท่านคิดว่ามันจะทำให้ข้าทรยศจักรพรรดินีได้เหรอ?”

“ข้าบอกเลยว่าไม่มีทาง!!!”

หลินเป่ยฟานยืนตระหง่านและยืดหน้าอกของเขา “แม้ว่าข้าจะฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่ข้าก็มีหลักการ! ความภักดีของข้าต่อจักรพรรดินีมีปรากฏมานานแล้ว ทุกคนที่นี่ต่างรู้ดีว่าความรักของข้าต่อจักรวรรดิอู๋มีมากมายเพียงใด! หากท่านต้องการให้ข้าทรยศต่อจักรพรรดินีและอาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่ ก็นีแสดงว่าท่านกำลังขอให้ข้าทรยศต่อคติของข้า! ผู้ที่ไม่มีจิตสำนึกจะยืนอยู่ระหว่างสวรรค์และโลกาได้เช่นไรกัน?”

ทุกคนถึงกับตกตะลึงอีกครั้ง เจ้าชายแฮมจึงโพล่งออกมาว่า “เจ้าที่เป็นขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวงมีหลักการด้วยหรือ?”

หลินเป่ยฟานโกรธมาก “ในฐานะขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง ข้าย่อมต้องมีหลักการ! มิฉะนั้นถ้าไม่มีหลักการแล้ว ข้ากับเดรัจฉานจะต่างกันอย่างไร?”

ทูตของดาร์โรมองหน้ากัน พวกเขารู้สึกหงุดหงิดอย่างยิ่ง .

พวกเขาคิดว่าตนเลือกเป้าหมายได้ดีแล้ว แต่ปรากฏว่าพวกเขาเลือกผิดคน! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่เขาก็เป็นขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวงที่มีหลักการ! ความพยายามก่อนหน้านี้ทั้งหมดของพวกเขาสูญเปล่า!

เจ้าชายแฮมยิ้มอย่างขมขื่นและหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา "ท่านหลิน ข้าต้องขอโทษสำหรับความหยาบคายของข้าเมื่อครู่ด้วย ไม่คิดเลยว่าท่านหลินจะเป็นคนซื่อสัตย์เช่นนี้! ข้าขอดื่มไวน์ถ้วยนี้เพื่อเป็นการลงโทษ และท่านก็ลืมเหตุการณ์เมื่อครู่เถิด”

หลินเป่ยฟานยังคงรู้สึกไม่สบอารมณ์นัก “ดีที่ท่านรู้! อาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่คือประเทศที่ข้ารัก และจักรพรรดินีก็เป็นนายเหนือหัวที่ข้าชื่นชม หากท่านต้องการให้ข้าทรยศพวกเขา…ท่านก็ต้องจ่ายเพิ่ม!”

เจ้าชายแฮมถึงกับพ่นไวน์ออกมา และทุกคนก็ตกใจกันเป็นครั้งที่สาม! พวกเขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ภักดีมีหลักการ ถึงขั้นคิดว่าอีกฝ่ายเป็น…เสือดาวที่ไม่อาจเปลี่ยนลายของตนได้!

เจ้าชายแฮมถึงกับถามด้วยความประหลาดใจ “ท่าน...หลิน เมื่อครู่ท่านไม่ได้บอกว่าเงินนี้ไม่สามารถซื้อท่านได้หรอกเหรอ?”

“ที่จริงมันยังไม่พอ ข้าเลยขอให้ท่านเพิ่มอีกหน่อย!”

ทูตจากดาร์โรถึงกับอุทานออกมาว่า “นี่มันบ้าอะไรกัน!”

เจ้าชายแฮมถามทวนอีกครั้งว่า “ท่าน...หลิน ไม่ใช่ว่าท่านบอกว่าท่านเป็นคนมีมโนธรรม ไม่มีวันทรยศต่ออาณาจักรอู๋อันแสนยิ่งใหญ่และจักรพรรดินีหรอกหรือ?”

“เหตุผลที่ข้าไม่ทรยศพวกเขา ก็เพราะว่าเงินที่พวกเขาให้มานั้นยังไม่เพียงพอ!”

ตัวแทนจากดาร์โรก็ได้แต่อุทานออกมาอีกครั้ง “นี่มันเรื่องบัดซบอะไรกัน!”

เจ้าชายแฮมถามทวนอีกครั้งว่า “ท่าน... หลิน ไม่ใช่ว่าท่านบอกว่าท่านเป็นคนมีหลักการหรอกเหรอ?”

“ข้ามีหลักการ แต่เงินตราสามารถซื้อหลักการของข้าได้!”

คณะทูตจากดาร์โรอุทานออกมาอีกครั้ง “นี่มันบัดซบอะไรกัน!”

เมื่อเห็นเจ้าชายแฮมถามไม่หยุดหย่อน หลินเป่ยฟานก็เริ่มรู้โกรธขึ้นมาอีกแล้ว “ข้าจะบอกท่านตามตรง ไม่มีสินบนใดที่สามารถซื้อข้าได้! เหตุผลที่ท่านไม่สามารถซื้อข้าได้ ก็เพราะว่าท่านยังเสนอมาไม่มากพอ! ท่านเข้าใจแล้วใช่ไหม?”

“อืม พวกเราเข้าใจแล้ว!” ทุกคนพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

พวกเขานั่งที่โต๊ะ แต่บรรยากาศพลันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เจ้าชายแฮมปรบมือและก็ได้มีคนนำกล่องเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยทองคำ เงินและอัญมณีเข้ามา

หลินเป่ยฟานเหลือบมองมันด้วยความเฉยเมย "ยังไม่พอ!"

เจ้าชายแฮมปรบมืออีกครั้ง และมีคนนำกล่องทองคำ เงิน และอัญมณีมาอีกกล่องหนึ่ง

หลินเป่ยฟานยังคงนิ่งและส่ายศีรษะไป "ยังไม่พอ!"

เจ้าชายแฮมเรียกคนนำกล่องทอง เงิน และอัญมณีมาอีกกล่องหนึ่ง "ไม่พอ!"

เจ้าชายแฮมไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไปแล้ว "ท่านหลิน ท่านต้องการเท่าไรกันแน่?”

หลินเป่ยฟานหัวเราะออกมา “องค์ชายแฮม ท่านกำลังถามคำถามผิดแล้ว! มันไม่เกี่ยวหรอกว่าข้าต้องการเท่าไร แต่มันอยู่ที่ว่าท่านมีมากแค่ไหนต่างหาก! ข้าจะเอาทั้งหมดที่ท่านมี!”

คณะทูตจากดาร์โรได้แต่อุทานออกมาอีกครั้งว่า “นี่มันบัดซบอะไรกันวะ!”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด