ตอนที่แล้วบทที่ 136 - นักรบ Z รวมตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 138 - เกมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

บทที่ 137 - ไม่เต็มใจที่จะต่อสู้


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 137 - ไม่เต็มใจที่จะต่อสู้

"โบรลี่!”

คุริรินเรียกชื่อของเด็กหนุ่มผมดำเบื้องหน้าเขา

แต่เขาไม่ขยับตัวและยังคงรักษาตำแหน่งเดิมเอาไว้

เขากำลังไขว้ขานั่งเงียบๆ บนขอบของวังพระเจ้า ดวงตาที่เย็นชาของเขามองไปที่โลกมนุษย์ราวกับรูปปั้นที่ไม่ขยับเขยื้อน

แต่โบรลี่ก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อคุริริน เขากล่าวออกมาว่า “คุริริน เจ้าควรรีบกลับไปเถอะ เพราะเจ้าได้รับถั่วเซียนมาแล้ว”

คุริรินลูบศีรษะที่เรียบเนียนของเขาและกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ข้าอยากจะถามเจ้าเกี่ยวกับคนสองคนนั้น พวกเขาเป็นชาวไซย่าใช่ไหม?”

โบรลี่กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “เบจิต้าและราดิช ทั้งสองคนเป็นผู้ที่ค่อนข้างโดดเด่นในหมู่คนรุ่นใหม่ของชาวไซย่า แต่ถ้าเจ้าใช้ทุกสิ่งที่เจ้าได้เรียนรู้มา เจ้าก็น่าจะมีโอกาสเอาชนะพวกเขาได้”

คุริรินได้แต่ขมวดคิ้ว “โบรลี่ เจ้าช่วยเราจัดการกับพวกเขาด้วยกันได้ไหม? ถ้าเป็นเจ้า เจ้าคงสามารถจัดการกับพวกเขาได้อย่างง่ายเลยถูกต้องไหม?”

“ขอโทษด้วยที่ต้องปฏิเสธ แต่ข้าจะไม่สู้”

"ทำไมกันล่ะ? โบรลี่ เจ้าแข็งแกร่งมากเลยนะ…”

.

“ขอโทษด้วย ข้าไม่ชอบการต่อสู้”

โบรลี่ขอโทษและหลับตาลงและไม่ตอบอะไรอีก

คุริรินดูสิ้นหวังมาก เมื่อได้ฝึกฝนในวังพระเจ้า เขาก็ตระหนักดีถึงความแข็งแกร่งของโบรลี่ที่มีมากมายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผู้ที่มอบความรู้สึกแบบนี้ให้เขาอีกคนก็คือชาวไซย่าที่มีนามว่าหลินเฉิน

ดังนั้นเขาจึงคิดว่าถ้าโบรลี่สามารถเข้ามาช่วยได้ เบจิต้าและราดิชคงถูกจัดการอย่างง่ายดาย

แต่เขาประหลาดใจมากที่โบรลี่ปฏิเสธ

แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะรู้ว่าโบรลี่ไม่ชอบการต่อสู้ แต่เขาไม่คิดเลยว่ากระทั่งยามที่ลูกของโกคูถูกจับไป อีกฝ่ายยังไม่คิดเต็มใจที่จะช่วย

“เช่นนั้นข้าจะไปแล้วนะ ฝากทักทายพระเจ้าและมิสเตอร์โปโป้ให้ข้าด้วยล่ะ!”

หลังจากพูดจบไป คุริรินก็บินลงไปยังโลกมนุษย์

หลังจากที่เขาจากไป พระเจ้าและมิสเตอร์โปโป้ก็มายังด้านข้างของโบรลี่

“โบรลี่ เจ้าจะไม่ช่วยโกคูและคนอื่นจริงๆ หรือ?” พระเจ้าเอ่ยถาม “ถ้าเจ้าลงมือ ชาวไซย่าสองคนนั้นคงจะพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย”

“พระเจ้า ท่านก็รู้ว่าทำไมข้าถึง …” โบรลี่กล่าวตอบ

“เพราะความคิดชั่วร้ายในใจของเจ้าสินะ? แต่โบรลี่ ถ้าเจ้าต้องการควบคุมความคิดชั่วร้ายของเจ้า เจ้าควรต้องเริ่มต่อสู้กับมัน หากเอาแต่หนีมีแต่จะไร้ประโยชน์” พระเจ้ากล่าว

“ข้าขอโทษด้วยพระเจ้า แต่มันเสี่ยงเกินไป ข้ามีความรู้สึกว่าถ้าปล่อยให้ความคิดชั่วร้ายของข้าได้เปรียบ โลกจะตกอยู่ในอันตราย”

เมื่อเห็นว่าโบรลี่ยังคงปฏิเสธ พระเจ้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยุดพยายามเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายและยืนอยู่ใกล้ขอบวังพระเจ้าเพื่อเฝ้ามองโลกมนุษย์แทน

โชคดีที่แม้ว่าศัตรูในครั้งนี้จะแข็งแกร่งกว่าที่เคยมีมา แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าชาวไซย่าสองคนนั้นไม่ได้ชั่วร้ายอย่างแท้จริง

ถึงโบรลี่จะไม่ได้ช่วย สถานการณ์ก็คงไม่ได้เลวร้ายมากนัก

ภายใต้ท้องฟ้าสีคราม ในถิ่นทุรกันดารที่รกร้างว่างเปล่า

เบจิต้าและราดิชลงจอดยานพร้อมกับบูลม่าและซุนโกฮัง

ทันทีที่เขาลงจอดยาน เขาก็โยนบูลม่าและซุนโกฮังที่กำลังร้องไห้เสียงดังลงบนพื้นด้วยความรังเกียจบนใบหน้าของเขา จากนั้นจึงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา “เจ้าผู้หญิง จงควบคุมปากของเด็กคนนี้เสีย ถ้าเขายังคงร้องไห้แบบนี้อีกข้าจะฆ่าเขาแน่!”

“ไอ้สารเลวเอ้ย จะมารังแกเด็กเพื่ออะไรกัน?” แม้ว่าบูลม่าจะพูดแบบนี้ แต่นางก็กอดโกฮังทันที

ภายใต้อ้อมกอดที่ดูรู้สึกปลอดภัยของนาง ในที่สุดซุนโกฮังก็หยุดร้องไห้

"เหอะ! มีเลือดของชาวไซย่าผู้แสนทระนงตนไหลเวียนอยู่ในร่างกาย แต่กลับร้องไห้เหมือนดั่งเด็กขี้แย!” เบจิต้าถ่มน้ำลายออกมาพร้อมกับมองด้วยใบหน้าอันแสนน่ารังเกียจ

“ราดิช เจ้าดูคนรุ่นต่อไปของครอบครัวเจ้าสิ!”

“โอ้…คือว่าท่านเบจิต้า ดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติกับเด็กคนนี้” ราดิชกล่าวพร้อมกับมองไปยังโกฮังด้วยสีหน้าประหลาด

“มีเรื่องใดงั้นหรือ?”

“ดูระดับพลังของเด็กคนนี้สิขอรับ…”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เบจิต้าก็หันไปมองที่โกฮัง เครื่อตรวจจับส่งเสียงบี๊บและชุดข้อมูลก็ได้ปรากฏขึ้นบนเลนส์

"อะไรกัน? ระดับพลัง 7,100? เจ้าเด็กเหลือขอนี่น่ะเหรอ?”

เบจิต้ารู้สึกประหลาดใจมาก

แม้ว่าระดับพลังเฉลี่ยของชาวไซย่าบนดาวเคราะห์เบจิต้าจะเหนือกว่าในอดีตมาก แต่ทั้งหมดนี้ได้มาจากการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง

ทว่าเมื่ออายุยังน้อยเท่าโกฮัง ชาวไซย่าส่วนใหญ่ก็มีพลังเพียงหลักหนึ่งร้อยหรือสองร้อยเท่านั้น ระดับพลังที่สูงกว่า 7000 เกือบจะเทียบเท่ากับนักรบที่มีพรสวรรค์การต่อสู้ที่มากมายแล้ว!

แต่ในขณะนั้นเอง ทั้งสองก็เห็นว่าระดับพลังของโกฮังลดลงอีกครั้งและในที่สุดก็หยุดอยู่ที่ 200 จุด

“เหลือ 200 มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?” ราดิชตกใจมาก

“บางทีเครื่องวัดพลังอาจทำงานผิดปกติกระมัง ข้าได้ยินมาว่าเครื่องวัดพลังถูกสร้างขึ้นจากที่โลก ก็คงปกติที่ของที่สร้างจากดาวขยะย่อมไม่สามารถเชื่อถือได้อยู่แล้ว” เบจิต้ากล่าว

เดิมทีบูลม่าไม่สนใจสิ่งที่เขาพูดเลย

แต่เครื่องวัดพลังที่ถูกกล่าวถึงโดยทั้งสองเป็นสิ่งที่บูลม่าผลิตและพัฒนาขึ้นมาด้วยมือของนางเอง ในฐานะผู้ที่เป็นนักประดิษฐ์และผู้ผลิต บูลม่าจึงสวนขึ้นมาทันที

“นี่! ไอ้ตัวเตี้ย! ไม่น่าเชื่อถืออะไรกัน! เครื่องวัดพลังที่ข้าทำนั้นเชื่อถือได้อย่างแน่นอน ไม่มีทางที่มันจะทำผิดพลาดได้!”

"อะไรนะ? เจ้าทำสิ่งนี้หรือ?”

"ถูกต้องแล้ว! ประหลาดใจเหรอ?“บูลม่ากล่าวออกมาอย่างภาคภูมิใจ”สิ่งที่พวกชาวไซย่าใช้เป็นสิ่งที่พี่หลินเฉินมอบหมายให้ข้าทำมาก่อนไงล่ะ!”

เมื่อเห็นใบหน้าที่ประหลาดใจของเบจิต้าและราดิช บูลม่าก็พูดต่อ "เป็นไง? ตอนนี้เจ้ารู้แล้วว่าความสัมพันธ์ของข้ากับพี่หลินเฉินไม่ธรรมดาใช่ไหม! ข้าแนะนำให้เจ้าปล่อยเรากลับไปโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นเมื่อพี่ชายหลินเฉินกลับมา ข้าจะไปหาเขาและฟ้องเรื่องเจ้าแน่!”

“นี่ ท่านเบจิต้า ถ้าสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้พูดเป็นความจริง เรามีหวัง…”

ราดิชกลัวมากเมื่อได้ยินเช่นนี้

เบจิต้าก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่ด้วยนิสัยของเขา ไม่มีทางที่จะก้มศีรษะให้กับผู้หญิงคนหนึ่งแน่

โชคดีที่ในขณะนั้นเอง เครื่องวัดพลังของเบจิต้าก็ส่งเสียงบี๊บพร้อมกับพลังใหม่ที่ปรากฏขึ้น

เมื่อมองไปที่ข้อมูลบนนั้น เบจิต้าก็ยิ้มและกล่าวว่า “นี่ ราดิช ดูเหมือนคาคารอทและพวกที่เหลือจะอยู่ที่นี่กันแล้ว! พวกเขาใจร้อนกันจริงเชียว ข้าอุตส่าห์ให้เวลาพวกเขาเตรียมตัวตั้งนาน”

เบจิต้าเยาะเย้ยด้วยความดูถูก จากนั้นก็ยกมือขึ้นและโยนลูกบอลพลังงานไปยังที่พื้นใกล้ๆ

ตู้ม!

เสียงดังสนั่นได้ดังขึ้น หลุมขนาดใหญ่ที่ลึกอย่างน้อยหลายเมตรก็ปรากฏขึ้นบนพื้นดิน

"ไปอยู่ข้างล่าง!"

เบจิต้าโบกมือและพัดทั้งบูลม่าและโกฮังลงไปในหลุมใหญ่

บูลม่ากอดโกฮังพลางวบถออกมา “ไอ้เตี้ยเอ้ย เจ้าคิดว่าจะขังข้าแบบนี้ได้เหรอ!”

จากนั้นนางก็พยายามจะใช้วิชาบินออกมาพร้อมกับโกฮัง แต่นางก็ได้เห็นเอเลี่ยนหน้าตาประหลาดที่มีร่างกายเปล่งประกายแวววาวโลหะปรากฏขึ้นเหนือนาง

มันมองไปที่บูลม่าด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ซึ่งทำให้ความกล้าหาญที่นางมีอยู่ได้เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว

.

เมื่อเห็นไซไบแมนโลหะคอยดูบูลม่าแล้ว เบจิต้าก็ไม่สนใจผู้หญิงคนนั้นและหันไปมองทิศทางที่โกคูและคนที่เหลือกำลังพุ่งเข้ามา

ในยามนั้นเอง สัญญาณพลังงานของโกคูและคนอื่นๆ ได้หายไป จนเขาไม่สามารถรับรู้ถึงออร่าของพวกเขาได้เลย

“เบจิต้า เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากัน?”

“พวกเขาคงปกปิดออร่าของตนเอาไว้ ข้าก็สงสัยว่าทำไมพวกเขาถึงรีบร้อนนัก ดูเหมือนพวกเขาวางแผนที่จะพักผ่อนสักพักก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น เช่นนั้นก็ดี ราดิช เจ้ามีอะไรกินบ้างไหม? ข้าชักจะหิวแล้ว”

"มีขอรับ" ราดิชตอบและหยิบแคปซูลพกพาออกมาจากกระเป๋าของเขา เขานำกองเนื้อย่างออกมา จากนั้นทั้งสองก็เริ่มกินอาหารกัน

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด