ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 232 - ทักษะการฝึกฝนร่วมผสาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 234 - การแข่งขัน

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 233 - การชุมนุมของเหล่าปีศาจในความมืด


หลังจากที่ข่มอารมณ์ของตัวเองจนสงบได้ถึงระดับหนึ่งแล้ว เดวิดเหลือบมองที่ข้อมือเพื่อตรวจสอบทิศทาง ก่อนจะเร่งความเร็วในการเคลื่อนที่ให้เพิ่มขึ้น จนท้ายที่สุดแล้วเขาก็กระตุ้นทักษะลูกเตะพายุหมุนออกมา

ไม่ใช่เพื่อโจมตีทำร้ายใคร  เดวิดประยุกต์ใช้ความคล่องแคล่วของท่าเท้าที่เพิ่มขึ้นหลบหลีกฝูงชน ในสถานการณ์ที่มีผู้คนอยู่พลุกพล่านแบบนี้ นี่เป็นทักษะในการเคลื่อนไหวที่เหมาะสมที่สุด ร่างของเขาพุ่งรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ สายตาเหลือบลงมองลูกศรนำทางที่ข้อมือเป็นระยะ

เดวิดใช้เวลาเพียงไม่ถึง  2 นาทีเท่านั้นในการเดินทางมาถึงที่หมาย ในตอนนี้เขาหลบอยู่ในมุมหลับตาคนข้างถนน ตรวจสอบย้ำให้มั่นใจว่าลูกศรโฮโลแกรมนั้นชี้ตรงไปหาร้านค้าที่ประตูปิดสนิทอยู่จริง ๆ หลังจากนั้นก็เริ่มทำการปิดบังตัวตนที่แท้จริงด้วยอุปกรณ์ที่เตรียมเอาไว้แล้วทันที

เริ่มต้นด้วยอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายกระดุมเอาไว้ใช้เปลี่ยนเสียง เดวิดติดมันไว้ที่คอบริเวณคอหอยของตัวเอง ก่อนจะหยิบเอาหน้ากากรูปหมาป่าโลหิตออกมาสวม ดึงฮูดขึ้นคลุมศีรษะจนมิดชิดหลังจากตรวจสอบแล้วว่าไม่เผยใบหน้าส่วนไหน หรือแม้แต่เส้นผมออกไปให้คนอื่นเห็นได้อีก เขาก็นำถุงมือสีดำออกมาสวมใส่ ทั้งหมดก็เป็นอันเรียบร้อย การปลอมตัวเพื่อเข้าประชุมถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้น

ก๊อก!... ก๊อก!.... ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!

เดวิดเดินเข้าไปเคาะประตูเป็นจังหวะตามที่ระบุเอาไว้ในข้อความที่ส่งมา มันเป็นรหัสที่ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากนัก แต่น้อยครั้งที่คนธรรมดาจะเคาะประตูเป็นจังหวะแบบนี้

และเขารอแทบจะไม่ต้องรอเลยด้วยซ้ำ มันเป็นรหัสที่สามารถเปิดประตูได้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ได้ต้องรอให้มีคนมาเปิดให้ เดวิดเดินผ่านช่องประตูที่เปิดออกแคบ ๆ เพียงให้ผู้ชายร่างใหญ่ผ่านได้เข้าไปอย่างไม่ลังเล และเข้าก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นด้านใน พื้นที่นั้นกว้างขวางเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะถ้าวัดจากหน้าร้านที่ดูทรุดโทรมนั่น

มันไม่ได้มีการตกแต่งหรือประดับประดาอะไรพิเศษ เป็นเพียงแค่ลานโล่ง ๆ ขนาดใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งของสนามฟุตบอลเท่านั้น ตรงกลางลานโล่งมีไฟกองใหญ่ลุกโชติช่วง และมีคนที่น่าจะเป็นสมาชิกของชมรมลับแห่งนี้นั่งล้อมวงกันอยู่มากกว่า 100 คนแล้ว น่าแปลกที่แม้ว่าจะมีคนอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย แต่บรรยากาศกลับเงียบสนิท นาน ๆ ครั้งถึงจะได้ยินเสียงพูดคุยดังออกมา

ดูเหมือนว่าประตูที่เดวิดเข้ามาจะไม่ใช่ทางเข้าทางออกทางเดียว ในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน มีร่างของบุคคลที่แต่งกายปิดบังตัวตนมิดชิดทยอยกันเข้าไปนั่งประจำตำแหน่งที่ว่างอยู่รอบกองไฟอย่างไม่ขาดสาย ถึงแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าวิธีการจริง ๆ จะเป็นอย่างไร แต่เมื่อเข้าเมืองตาหลิ่วแล้วก็ต้องหลิ่วตาตาม เดวิดสาวเท้าเข้าไปเลือกที่ว่างลงนั่งอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติเช่นกัน แน่นอน! เขานั่งปิดปากเงียบไม่มีการทักทายหรือสอบถามอะไรให้เป็นที่ผิดสังเกตเลย มีเพียงการสอดส่ายสายตาไปมาอย่างช้าเพื่อเก็บข้อมูลเท่านั้น แต่สมาชิกที่นั่งอยู่ตอนนี้ทุกคนปิดบังตัวตนได้อย่างมิดชิด แม้แค่ส่วนเล็ก ๆ ของผิวหนังก็ไม่มีปรากฏออกมาให้เห็น สมแล้วที่เป็นการประชุมของชมรมลับ เดวิดได้แต่พยักหน้าชื่นชมอยู่ในใจ

หลังจากที่เขานั่งลงและนับจำนวนคนไปเรื่อย ๆ เป็นการแก้เบื่อได้ไม่นาน จำนวนสมาชิกที่นั่งอยู่ก็แตะระดับ 200 คน และมันไม่มีทีท่าว่าจะมีใครเข้ามาเพิ่มอีกเลย

และเพียงแค่ไม่ถึง 5 นาทีหลังจากที่ไม่มีสมาชิกมาเพิ่มเติม ร่างของคน ๆ หนึ่งก็เดินออกจากที่นั่งเข้าไปด้านใน การแต่งกายของเขานั่นมิดชิดไม่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่น หน้ากากที่สวมใส่เป็นรูปแมวป่าที่แยกเขี้ยวอย่างดุร้าย หลังจากที่เดินเข้าไปจนเกือบจะถึงกองไฟ เขาก็หันมองไปรอบ ๆ ก่อนจะเอ่ยปากขึ้น

“ฉันขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่การประชุมประจำสัปดาห์ของ...” ยังไม่ทันที่จะกล่าวได้จบประโยค ของบางอย่างก็ลอยเข้าไปกระทบหน้าเขาเป็นการขัดจังหวะเสียก่อน และดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ชิ้นเดียวเสียด้วย มันลอยตามมาเป็นพรวนเหมือนกับนัดกันเอาไว้เลยทีเดียว

“เจ้าเหมียวน้อย! นายคิดว่าคราวนี้จะสามารถหลอกทุกคนได้อีกครั้งอย่างนั้นหรือไง?” เสียงระคายหูดังออกมาจากบุคคลที่สวมหน้ากากของปีศาจกระบองเพชรอยู่ และดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่เมามันที่สุดในการขว้างปา ผลไม้ที่วางอยู่ด้านข้างตัวถูกประเคนเข้าไปยังชายที่ยืนอยู่ข้างกองไฟจนเกือบหมดแล้ว

สมาชิกที่นั่งอยู่ส่วนใหญ่ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างครึกครื้น บางคนเริ่มหยิบสิ่งของปาเข้าไปบ้างแล้ว

“บ้า...บ! พวกนายรู้กันได้ยังไง? การปลอมตัวครั้งนี้ดีกว่าครั้งที่แล้วอีก!!” เจ้าตัวปลอมตะโกนลั่นออกมา ยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นป้องกันใบหน้าของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะรีบพาตัวเองหนีออกจากกลางวงล้อมอย่างรวดเร็ว

เดวิดขมวดคิ้วอยู่ภายใต้หน้ากากอย่างสับสน เขาไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ก่อนที่จะมึนงงสงสัยมากไปกว่านั้น ที่ไหล่ซ้ายก็รู้สึกว่ามีใครบางคนยกมือมาแตะสะกิดเบา ๆ และเมื่อหันไปดูก็พบว่ามีบุคคลที่อยู่ในชุดคลุมสีซีดยืนอยู่ มือของเขาเพิ่งขยับลดลงไปอยู่ที่ข้างตัว เดวิดรับรู้ได้ทันทีว่าคนผู้นี้แหละที่สะกิดเขา

เมื่อกวาดตามมองอย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ว่าหน้ากากสิงโตตาแดงจะไม่คุ้นตาเลย แต่รูปร่างและเสื้อคลุมตัวนี้กลับไม่ใช่ เขาเคยเห็นมันมาก่อน

“ซา..”

“ซู่ว!!” ก่อนที่เขาจะได้พูดจบ เสียงชู่ปากดังขัดจังหวะขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“ที่นี่พวกเราไม่สื่อสารกันด้วยชื่อจริง แต่จะใช้ฉายาแทน ส่วนใหญ่แล้วจะตั้งตามหน้ากากที่แต่ละคนสวมใส่เป็นประจำ” เสียงสังเคราะห์ที่เปล่งออกมา มันเป็นเสียงเดียวกันกับที่ซาร่าใช้เมื่อตอนนั้นอย่างชัดเจน

และเธอก็เอ่ยต่อออกมาหลังจากพิจารณาหน้ากากที่เดวิดสวมใส่อย่างละเอียด “ฉายาของนายน่าจะเป็น ‘หมาป่าโลหิต’ แต่น่าเสียดายชื่อนี้มีคนใช้ไปแล้ว เจ้าคนที่นั่งอยู่ตรงโน้นไง เห็นมั้ย?” มือของเธอชี้ไปยังร่างของคนผู้หนึ่งที่นั่งอยู่อีกฝั่งของกองไฟ มันเป็นอย่างที่ซาร่ากล่าวบอกเอาไว้ หน้ากากของคน ๆ นั้นเหมือนกันกับของเดวิดไม่มีผิด ถ้าบอกว่าซื้อมาจากร้านเดียวกันก็คงจะเชื่อได้อย่างไม่ลังเล 2 สิ่งที่พอจะแยกพวกเขาออกจากกันได้คงเป็นเพียงความสูง และสีของเสื้อคลุมที่ซีดจางต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น

“อืม? เอาเป็นว่านายได้ใช้ฉายาว่า ‘สุนัขโลหิต’ นะ จำเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน” หลังจากคิดเพียงชั่วครู่ ซาร่าก็ตั้งฉายาส่ง ๆ ออกมาอย่างรวดเร็ว

“ให้ตายสิ หาชื่อที่มันดีกว่านี้หน่อยได้มั้ย” เมื่อได้ยินฉายาที่เธอตั้งให้ ใบหน้าของเดวิดก็กระตุกอย่างแรง

“เดี๋ยวฉันคิดเอง! แต่รับรองได้ว่าต้องดีกว่าสุนัขโลหิตนี้แน่” เขายืนยันอย่างหนักแน่น ไม่มีทางที่เดวิดจะยอมใช้ฉายาเห่ย ๆ อย่างนี้แน่

ซาร่าหัวเราะคิกคักออกมา แต่เมื่อมันถูกดัดแปลงเป็นเสียงสังเคราะห์ เสียงหัวเราะนี้ฟังดูน่ากลัวอย่างแปลกพิกล

“มันไม่ใช่เรื่องที่นายจะตัดสินใจได้เลยสุนัขโลหิต นี่เป็นกฎที่ตั้งขึ้นโดยหัวหน้าใหญ่ และเชื่อฉันเถอะ นายต้องยอมรับชื่อนี้แน่นอน พนันกันมั้ย?” อย่างไม่รอคำตอบ เธอเปิดหน้าต่างโฮโลแกรมของตัวเองขึ้นมาทันที พยักเพยิดให้เดวิดระบุจำนวนคะแนนออกมา

แน่นอนว่าเดวิดไม่หลงกล ปากที่อยู่หลังหน้ากากเม้มติดกันแน่น และเลือกที่จะเป็นหัวข้อในการพูดคุย “แล้วเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น? ฉันนึกว่าการประชุมควรจะเริ่มต้นขึ้นได้แล้ว!” มือของเขาชี้เข้าไปยังตำแหน่งที่กองไฟตั้งอยู่

“อ้อ เรื่องนั้นเหรอ! มีบางครั้งที่หัวหน้าใหญ่จะมาช้านะ มันเลยมีบางคนพยายามจะปลอมตัวเป็นเขา ก็อย่างว่าล่ะนะ พวกเราจดจำกันด้วยหน้ากาก และมันก็ไม่ได้หาซื้อยากเสียด้วย

บางทีคนที่ปลอมตัวก็ทำได้แนบเนียนเปิดประชุมเองไปตั้งนานกว่าที่หัวหน้าจะมาถึง แต่ส่วนใหญ่ก็จะโดนจับได้อย่างนี้แหละ หัวหน้าไม่ค่อยได้ถือสาเรื่องอะไรแบบนี้เท่าไร” ซาร่าอธิบายออกมาด้วยอาการยักไหล่

“โอเค! เข้าใจแล้ว ว่าแต่เธอเคยลองดูบ้างหรือยัง?” เดวิดถามต่ออย่างไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรแล้ว

“ไม่! และไม่มีทางด้วย! การแสดงของฉันแย่จะตาย สมัยอยู่ที่บ้านก็สอบตกวิชาการแสดงตลอดนั่นแหละ แค่เดินออกไปก็คงถูกจับได้แล้วมั้ง จะหาเรื่องขายหน้าให้ตัวเองทำไม?” เธอสั่นหัวดิก

“วิชาการแสดง? เธอมาจากเซ็กเตอร์ AA อย่างนั้นหรือ?” เดวิดถามอย่างสงสัย วิชาไร้ประโยชน์อย่างนี้ส่วนใหญ่จะมีสอนเฉพาะในเซ็กเตอร์ที่ผู้อยู่อาศัยร่ำรวยมากเท่านั้น

“เดาเอาเองสิ!” ซาร่าไม่ตอบ แค่เพียงหัวเราะอย่างลึกลับออกมานั้น

เหตุการณ์วุ่นวายกลางวงนั้นสงบลงไปได้สักพัก และตอนนี้มีร่างที่สวมใส่หน้ากากแมวป่าที่กำลังแยกเขี้ยวเดินผ่านประตูทางเข้าบานหนึ่งเข้ามาแล้ว และคราวนี้เหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าตัวจริง

คนจำนวนหนึ่งรีบขยับตัวออกไปทำความสะอาดพื้นที่ด้านในวงล้อมทันที และเมื่อชายคนนั้นเดินเข้ามาถึงบริเวณที่นั่ง ทุกอย่างก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนกับตอนเริ่มต้นไม่มีผิด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด