บทที่ 41 ภารกิจค้นหาศัตรูจากระบบ

บทที่ 41 ภารกิจค้นหาศัตรูจากระบบ

“ไปกันเถอะ”

หลังจากที่เฉินเต้าหมิงจากไปแล้ว เฉินหรู่หยานก็หันไปมองเจียงเฉิงซวน

เจียงเฉิงซวนพยักหน้า

ในไม่ช้า ทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังตลาดพันพฤกษา

ขณะที่พวกเขาเข้าใกล้ตลาดพันพฤกษา เจียงเฉิงซวนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เฉินหรู่หยาน

“ผู้อาวุโสหรู่หยาน ท่านช่วยบอกรายละเอียดได้ไหมว่าบรรพบุรุษหยวนหลงและบรรพบุรุษเหมิงซิ่วเป็นคนแบบไหน”

เฉินหรู่หยานรู้ว่าทำไมเจียงเฉิงซวนถึงถามเรื่องนี้ เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบว่า…..

“ในฐานะลูกหลานคนหนึ่ง ข้าไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวตนของบรรพบุรุษทั้งสองได้

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบพวกท่านใส่ใจตระกูลเป็นอย่างมาก

เป็นที่รู้ดีว่าความปรารถนาสูงสุดของพวกท่านคือการได้เห็นตระกูลเฉินกลับคืนสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีต

น่าเสียดายที่การพัฒนาของตระกูลเฉินในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น…”

เมื่อมาถึงจุดนี้ เฉินหรู่หยานส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจและพูดต่อว่า

“จริงๆ แล้ว ข้าไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับบรรพบุรุษหยวนหลงมากนัก ในทางกลับกันข้าได้ยินว่าบรรพบุรุษเหมิงซิ่วได้ฝึกฝนเทคนิคการทำนายในช่วงที่เธอเริ่มฝึกฝนแรก มันถูกเรียกว่าเทคนิคการคำนวณความลับสวรรค์

ด้วยวิธีการคำนวณนี้ บรรพบุรุษเหมิงซิ่วได้ช่วยนิกายเจียงหยางกำจัดศัตรูที่ยิ่งใหญ่มากมาย รวมถึงผู้ฝึกคนปีศาจระดับแก่นทองคำอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ทำให้สถานะของเธอในนิกายเจียงหยางจึงพิเศษมาก แม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดแก่นทองคำอีกสองคนยังให้ความเคารพเธออย่างมาก

นี่ไม่ใช่แค่เพราะเธอคือคู่บำเพ็ญเต๋าของผู้อมตะปี้หลงเท่านั้น”

ผู้อมตะปี้หลงที่เฉินหรู่หยานหมายถึงคู่บำเพ็ญเต๋าของเฉินเหมิงซิ่ว และเป็นหนึ่งในสามผู้อาวุโสสูงสุดระดับแก่นทองคำของนิกายเจียงหยาง

ชื่อของเขาคือเจิ้งปี้หลง และเขาเป็นที่รู้จักในชื่อผู้อมตะปี้หลง

“อย่างไรก็ตาม ข้าได้ยินมาว่าทุกครั้งที่บรรพบุรุษเหมิงซิ่วใช้เทคนิคเทคนิคการคำนวณความลับสวรรค์นั้น มันจะใช้อายุขัยของเธอเป็นจำนวนมาก”

เฉินหรู่หยานอดไม่ได้ที่จะมีความกังวลบนใบหน้า

“เป็นเพราะเหตุนี้ ทำให้เธอซึ่งมีอายุน้อยกว่า 200 ปี จึงมีผมสีขาวเต็มศีรษะเช่นนั้น”

เราต้องรู้ว่าอายุขัยของผู้ฝึกตนในขอบเขตปราการม่วงนั้นสูงถึง 400 ปี

ถ้าอาศัยสิ่งของทางจิตวิญญาณที่ยืดอายุได้ มันคงไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเขาที่จะมีชีวิตอยู่ถึง 500 ปี

อย่างไรก็ตาม เฉินเหมิงซิ่วนั้นอายุไม่ถึง 200 ปีด้วยซ้ำ แต่เธอก็มีผมสีขาวเต็มหัวแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะอายุขัยของเธอหมดลงอย่างมากนั่นเอง

ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่สิ่งของที่สามารถยืดอายุขัยได้เหล่านั้นก็อาจจะไม่สามารถช่วยเธอได้มากนัก

“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่พวกท่านปฏิบัติต่อผู้อาวุโสเจียงเช่นนั้น”

ในขณะนี้เฉินหรู่หยานมองลึกเข้าไปในดวงตาของเจียงเฉิงซวนและพูดช้าๆ

“ข้าเกรงว่าบรรพบุรุษเหมิงซิ่วจะเห็นอะไรบางอย่างในตัวท่าน บรรพบุรุษหยวนหลงอาจถูกขอให้ช่วยดูแลท่านโดยบรรพบุรุษเหมิงซิ่ว

ท่านไม่ต้องกังวลมากเกินไป ข้าสามารถบอกได้ว่าพวกท่านกำลังแสดงความปรารถนาดีต่อท่านและไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายท่านอย่างแน่นอน”

ขณะที่พวกเขาพูด ทั้งสองก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ตลาดพันพฤกษา

อย่างไรก็ตามจิตใจของเจียงเฉิงซวนยากที่จะสงบลงได้ในขณะนี้

จากคำพูดของเฉินหรู่หยานเมื่อกี้ เห็นได้ชัดว่าบรรพบุรุษเหมิงซิ่ว ผู้ซึ่งฝึกฝนเทคนิคการคำนวณความลับสวรรค์ ได้เห็นอะไรบางอย่างในตัวเขา

นั่นเป็นเหตุผลที่เธอปฏิบัติต่อเขาแตกต่างออกไป

ปัญหาคือ เธอเห็นอะไรกันแน่?

เธอค้นพบหรือไม่ว่าเขาได้รับความช่วยเหลือจากระบบโกงหรือป่าว?

เมื่อความคิดนี้ปรากฏขึ้นเจียงเฉิงซวนก็ปฏิเสธทันที

หากบรรพบุรุษเหมิงซิ่วค้นพบความลับนี้จริงๆ ทัศนคติของเธอที่มีต่อเขาคงไม่ดีนักอย่างแน่นอน เธอจะไม่ปล่อยให้เขาออกจากตระกูลเฉินด้วยซ้ำ

แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการที่จะคิดไม่ดีกับผู้คน แต่เจียงเฉิงซวนก็รู้ว่าคนทั่วไปนั้นมีความโลภมากเพียงใด

เขาเชื่อว่าไม่มีใครสามารถต้านทานการล่อลวงที่จะแย่งชิงระบบไปจากเขาได้

จากรูปลักษณ์ภายนอก ควรมีเหตุผลอื่นที่ทำให้บรรพบุรุษเหมิงซิ่วมีทัศนคติที่พิเศษต่อเขาเช่นนี้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เจียงเฉิงซวนก็หันไปมองเฉินหรู่หยานที่อยู่ข้างๆ และสบสายตากับเธอ

เฉินหรู่หยานยิ้มให้เขาและเปลี่ยนหัวข้อ

“ผู้อาวุโสเจียง เอาเป็นว่าท่านกับข้าแยกกันที่นี่เพื่อค้นหาผู้ฝึกตนปีศาจที่เหลือและรวมตัวกันในภายหลัง”

ขณะที่เธอพูด ร่างคนหลายสิบร่างก็พุ่งเข้ามาหาพวกเขาทันที

เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ ปรากฎว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ฝึกตนของตระกูลเฉิน

ผู้ฝึกตนวัยกลางคนในขั้นที่เก้าของขอบเขตปรับแต่งพลังปราณก้าวออกมาข้างหน้าและโค้งคำนับ “คารวะท่านผู้อาวุโส”

เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ ผู้ฝึกตนเหล่านี้ได้รับแจ้งจากตระกูลเกี่ยวกับการมาถึงของพวกเขาแล้ว

เฉินหรู่หยานพยักหน้าให้พวกเขาแล้วถามว่า

“สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? พวกเจ้าพบร่องรอยของผู้ฝึกตนปีศาจหรือไม่?”

ผู้ฝึกตนวัยกลางคนส่ายหัวและพูดด้วยสีหน้าลำบากใจว่า

“จนถึงตอนนี้เรายังไม่พบผู้ฝึกตนที่ปีศาจเลย ราวกับว่าคนเหล่านั้นหายไปหมดแล้วหลังจากเหตุการณ์นั้น”

เฉินหรู่หยานหรี่ตาที่สวยงามของเธอลง แล้วพูดอย่างเรียบๆ

“เพียงเพราะเจ้าหาพวกเขาไม่พบ ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาหายไป

ตราบใดที่พวกเขายังอยู่ในอาณาเขตของตลาด พวกเขาจะทิ้งร่องรอยไว้อย่างแน่นอน”

จากนั้นเธอก็หันไปมองเจียงเฉิงซวน

“ผู้อาวุโสเจียง พวกเราแต่ละคนพาคนออกไปค้นหาบริเวณโดยรอบกันเถอะ

ข้าไม่เชื่อว่าหนูพวกนั้นจะซ่อนตัวได้อีกต่อไปหรอก”

เจียงเฉิงซวนไม่คัดค้านความคิดนี้ เขาพยักหน้าทันที

ในไม่ช้า เขาและเฉินหรู่หยานก็แบ่งคนๆละครึ่งและเริ่มค้นหาทั่วบริเวณตลาดพันพฤกษา

บังเอิญว่าผู้ฝึกตนวัยกลางคนที่อยู่ในขั้นที่เก้าของขอบเขตปรับแต่งพลังปราณได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมทีมของเขา

และรวมทั้งเขาด้วย ในทีมของเจียงเฉิงซวนมีคนประมาณยี่สิบถึงสามสิบคน

หลังจากทำความรู้จักกันสั้น ๆ เจียงเฉิงซวนก็ได้เรียนรู้ว่าผู้ฝึกตนวัยกลางคนคนนี้ชื่อตงไป่หยวน เดิมทีเขาเป็นคนรับใช้ของตระกูลเฉิน

ต่อมา รากฐานวิญญาณของเขาได้รับการทดสอบ และเขาผ่านการทดสอบของแท่นมโนธรรม จากนั้นเขาก็ได้รับการสั่งสอนวิธีการฝึกฝน

นี่คือสิ่งที่เจียงเฉิงซวนไม่คาดคิด

ตราบใดที่เจ้าสามารถผ่านการทดสอบได้ ก็เป็นไปได้ที่จะเป็นผู้ฝึกตนของตระกูลเฉิน แม้ว่าเจ้าจะเป็นเพียงคนรับใช้ก็ตาม

ตอนนี้มันสมเหตุสมผลแล้วว่าทำไมตระกูลเฉินถึงสามารถรับผู้ฝึกตนที่ภักดีได้มากมายขนาดนี้

เจียงเฉิงซวนดึงความคิดของเขากลับมา จากนั้นก็พูดกับตงไป่หยวนและคนอื่น ๆ

“ทุกคน แยกย้ายกันค้นหาต่อไป อย่าลืมแบ่งออกเป็นกลุ่ม เมื่อเจอสิ่งผิดปกติใดๆอย่าพึ่งเข้าปะทะให้ส่งสัญญาณทันที ความปลอดภัยของพวกเจ้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”

เมื่อรับคำสั่งแล้ว ตงไป่หยวนและคนอื่น ๆ ก็โค้งคำนับและพยักหน้าตอบรับทันที

ในไม่ช้า ผู้คนหลายสิบคนก็แยกย้ายกันออกไป

ในด้านของเจียงเฉิงซวนก็เช่นเดียวกับคนอื่นๆ เขายังคงใช้ประสาทสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ของเขาเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบๆ

อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นเองก็มีเสียงของระบบก็ดังขึ้นในใจของเขา

[ติ๊ง! มีการออกภารกิจแห่งความสำเร็จแล้ว โฮสต์โปรดดำเนินการค้นหาศัตรูให้ครบ 100 ครั้ง] [ความคืบหน้าปัจจุบันภารกิจ: 1%]