ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 228 - กับดักของครูฝึกเอลล่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 230 - ความทรงจำเหนือธรรมดา

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 229 - เลือกอาวุธ


สายตาของครูฝึกเอลล่ากวาดมองไปที่นักเรียนทุกคนอีกครั้ง

“ตามความตั้งใจเดิม บทเรียนวันนี้จะเป็นเรื่องบุคลิกภาพ มารยาท การวางตัว เรื่องอะไรพวกนี้ น่าเสียดาย! ไม่มีตัวอย่างที่จะใช้ประกอบการเรียนการสอนเสียแล้ว น่าเสียดายจริง ๆ” แน่นอน สายตาของเธอนั้นกลับมาจ้องเขม็งอยู่ที่เดวิดในตอนสุดท้าย และในนั้นมันเต็มไปด้วยความเสียดายอย่างที่เพิ่งกล่าวออกไปจริง ๆ

ในหัวของเดวิดตอนนี้ขาวโพลนไปหมด ยิ่งเมื่อได้เห็นสายตาที่จ้องมองมาในตอนนี้ เขาก็ยิ่งนึกขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจได้ถูกต้องและทันเวลา

มันเป็นวินาทีสุดท้ายจริง ๆ ที่เดวิดเปลี่ยนคำตอบของตัวเอง เขาหลงกลรอยยิ้มหวานของครูฝึกเอลล่าไปเรียบร้อย และกำลังจะเรียกออกมาด้วยชื่อตรง ๆ อย่างที่เธอแนะนำ แต่ชุดที่ครูฝึกสวมใส่ มันสะกิดใจเดวิดมาตั้งแต่ต้น และนั่นทำให้เขาเลือกที่จะเปลี่ยนคำพูดของตัวเองในวินาทีสุดท้าย ดูเหมือนว่ามันจะช่วยทำให้รอดพ้นจากการเจ็บตัวและอับอายในวันนี้ไปได้แล้ว

“ในเมื่อวันนี้ไม่มีตัวอย่างที่จะใช้ในการสอนเรื่องการวางตัว บทเรียนนี้ก็คงจะต้องเลื่อนออกไปก่อน รอให้ฉันหาโอกาสเหมาะ ๆ ได้อีกครั้ง รับรองว่าคราวหน้าไม่พลาดแน่ เอาล่ะ! มาเข้าเรื่องหลักของวันนี้กันดีกว่า” หลังจากกล่าวจบ เธอก็เดินก้าวเท้ายาว ๆ เดินผ่านสนามไป เสื้อคลุมที่ปกปิดร่างกายเอาไว้ถูกถอดโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี

ครูฝึกเอลล่าตัวจริงกลับมาแล้ว และหลังจากที่เธอหยุดเท้าของตัวเองลงและปรบมือเบา ๆ 2 ครั้ง มันไม่ได้ดังมากนัก แต่น่าแปลกใจที่มันกังวานจนได้ยินกันอย่างชัดเจน

มันเป็นการส่งสัญญาณนั่นเอง หลังจากเสียงปรบมือจางหายไป กลุ่มของคนธรรมดาจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้นมาที่ของสนาม พวกเขากำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างไม่ชักช้า แต่ดูเหมือนว่าจะมีความยากลำบากอยู่ไม่น้อย เพราะสิ่งที่พวกเขากำลังนำมาด้วยคือชั้นวางอาวุธขนาดใหญ่มหึมา

ตึบบ!!

เมื่อชั้นวางอาวุธขนาดใหญ่ถูกยกลงวางกับพื้น ถึงแม้ว่าจะใช้ความระมัดระวังและเบามือขนาดไหน เสียงตอนที่มันกระทบกับพื้นก็ยังดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา บ่งบอกได้อย่างดีว่าชั้นวางอาวุธนี้มีน้ำหนักมหาศาล และโดยไม่เสียเวลาปาดเหงื่อที่ไหลหยดย้อยของตัวเอง กลุ่มคนที่นำมันมาเริ่มวิ่งหายกลับไปในทิศทางเดิมอย่างรวดเร็ว

“อย่างที่พวกเธอได้รับรู้มาก่อนหน้านี้ ทางสถาบันได้ปลดล็อคระบบรับภารกิจของนักเรียนใหม่ทุกคนแล้ว นี่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าพวกเธอไม่ใช่นักเรียนใหม่อีกต่อไป แต่เป็นนักเรียนที่มีความสามารถมากพอที่จะออกไปผจญภัยในโลกภายนอกแล้ว พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจแล้ว โลกภายนอกจะช่วยเพิ่มประสบการณ์และวิสัยทัศน์ให้กับพวกเธอเป็นอย่างมาก และแน่นอน! มันเป็นโอกาสดีที่จะได้พบปะกับนักเรียนของสถาบันอื่น ๆ อีกด้วย” ครูฝึกเอลล่ากล่าวอารัมภบทออกมา สายตากวาดมองไปที่ชั้นวางอาวุธแวบหนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาต่อ

“แต่การที่จะออกไปผจญภัยในโลกกว้าง ถ้าไม่มีการเตรียมตัวที่ดีมากพอ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการเดินขึ้นไปบนแท่นประหารเลยแม้แต่นิดเดียว นี่ไม่ใช่คำขู่ นี่เป็นเรื่องจริง ถ้าไม่มีความแข็งแกร่งมากเพียงพอ ความตายคือสิ่งเดียวที่รออยู่ข้างนอกนั่น” น้ำเสียงของเธอนั้นจริงจัง

“บทเรียนก่อนหน้านี้ที่ฉันได้สอนไป เป็นบทเรียนที่เกี่ยวกับการต่อสู้ด้วยมือเปล่า สอนให้พวกเธอรู้ว่าควรจะใช้ร่างกายของตัวเองอย่างไรให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้มากที่สุด และฉันแน่ใจ! ความสามารถของพวกเธออยู่ในระดับที่สูงเพียงพอแล้ว และมันถึงเวลาที่จะเพิ่มประสิทธิในการต่อสู้ให้สูงมากขึ้นไปอีก ถึงเวลาที่พวกเธอจะต้องเรียนรู้ในการควบคุมสิ่งอื่นที่ไม่ใช่อวัยวะในร่างกายของตัวเอง และใช้มันในการต่อสู้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้ความแข็งแกร่งและโอกาสในการรอดชีวิตในโลกภายนอกสูงขึ้นเป็นอย่างมาก” ครูฝึกเอลล่าขมวดคำพูดของตัวเองลง ก่อนที่จะตรงเข้าประเด็นที่สำคัญที่สุด

“เริ่มตั้งแต่หัวแถวทางด้านนั้น ให้เดินออกมาเลือกอาวุธที่วางอยู่บนชั้นนี้ทีละคน ไม่ต้องรีบร้อนตัดสินใจ สัมผัสและรับความรู้สึกเวลาที่อาวุธอยู่ในมือให้เต็มที่” มือของเธอชี้ไปที่นักเรียนคนหนึ่งที่ยืนอยู่ห่างออกไกลที่สุดก่อน

“ฉันขอย้ำว่าไม่ควรรีบร้อน พวกเธอควรจะทดลองอาวุธหลาย ๆ ประเภทและหลายชิ้น ทำให้มั่นใจว่าตรงกับความถนัดและความต้องการของตัวเองจริง ๆ เพราะอาวุธที่เลือกไปในวันนี้ จะต้องอยู่ติดตัวพวกเธอไปจนจบการศึกษา แน่นอน! พวกเธอสามารถเปลี่ยนอาวุธได้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือชนิดของมัน ไม่มีข้อห้าม! แต่นั่นหมายถึงว่าพวกเธอจะต้องเป็นคนซื้อมันมาด้วยตัวเองเท่านั้น! อาวุธฟรีมีเพียงแค่ชิ้นแรกนี้ชิ้นเดียว!!” คำเตือนช่วงสุดท้ายถูกกล่าวออกมาพร้อมกับสายตาจริงจังที่กวาดมองนักเรียนทุกคนอีกครั้ง และหลังจากนั้นก็ถึงเวลาที่นักเรียนคนแรกจะเริ่มลงมือ

บนชั้นวางอาวุธขนาดใหญ่นั้น ไม่มีอาวุธปืนวางอยู่ให้เห็นเลยแม้แต่ชนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นปืนที่ใช้กระสุนธรรมดาหรือปืนเลเซอร์ แต่อาวุธเย็นทุกชนิดที่มีกล่าวถึงอยู่ในโลก ถูกจัดวางเอาไว้อย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็น ดาบ กระบี่ มีดสั้น กระบอก หอก ขวาน และอาวุธนอกระบบอีกหลายชนิด และแน่นอน อาวุธแต่ละชนิดไม่ได้มีอยู่เพียงแค่ชิ้นเดียว ขนาด รูปร่าง และน้ำหนักของมันมีให้เลือกอยู่อย่างหลากหลาย นักเรียนทั้งหมดไม่ต้องกังวลไปเลยว่าจะไม่เจอกับอาวุธที่ตัวเองถูกใจ

เดวิดยืนรออยู่ด้วยท่าทางที่สงบ จนในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะได้ออกไปทำการเลือกอาวุธคู่กายบ้าง เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบสายตาไปมองครูฝึกเอลล่าที่ยืนจ้องการเลือกอาวุธของนักเรียนอยู่ตลอดเวลา แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สนใจให้คำแนะนำอะไรเลย เดวิดขยับตัวไปหยิบอาวุธมาลองถือเอาไว้อย่างไม่มีทางเลือกอื่น แต่หลังจากสัมผัสกับมันไปจำนวนหนึ่งแล้ว ยังไม่มีชิ้นไหนถูกใจเขาเลย

มันเบาเกินไป! ในความตั้งใจของเดวิด เขาต้องการอาวุธคู่มือที่มีน้ำหนักมากพอสมควร ไม่อย่างนั้นมันจะไม่ช่วยให้ตัวเองแสดงพละกำลังทั้งหมดออกมาได้ สายตาเริ่มหันไปมองค้อนใหญ่ที่วางอยู่ด้านข้างดาบยาวอย่างพิจารณา บางทีค้อนพวกนี้อาจจะตอบสนองความต้องการของเขาได้?

เมื่อเดวิดหยิบพวกมันขึ้นมากวัดแกว่ง ความรู้สึกที่ได้ก็คือพอใจเพียงครึ่งเดียว จริงอยู่ที่น้ำหนักนั้นเหมาะสม แต่ความคล่องแคล่วนั้นต่ำเป็นอย่างมาก ขนาดที่ใหญ่โตทำให้แรงต้านอากาศสูงมากขึ้นตามไปด้วย เขาอาจจะต้องใช้ขวานจริง ๆ ก็ได้ คมขวานสามารถแหวกอากาศได้รวดเร็วกว่าค้อนตัน ๆ มากนัก

เดวิดวางค้อนลงบนชั้น ก่อนที่จะเดินไปยังอาวุธชิ้นที่ตัวเองหมายตาเอาได้ตั้งแต่แรก ใช่! เขาเล็งขวานเล่มนี้เอาไว้ตั้งนานแล้ว เพียงแค่อยากจะทดสอบว่ามันมีอาวุธชิ้นอื่นเหมาะสมกับตัวเองมากกว่าขวานหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าขวานใหญ่น่าจะเหมาะสมกับเขาที่สุดแล้ว

หลังจากหยิบมันขึ้นมาควงเพื่อทดสอบน้ำหนักจนแน่ใจ เดวิดก็นำมันกลับไปยืนเข้าแถว และรอคอยอย่างอดทนให้การเลือกอาวุธของนักเรียนคนอื่นเสร็จสิ้นไป

และนั่นก็กินเวลาไปอีกไม่น้อย สุดท้ายแล้วอาวุธยอดนิยมที่ถูกเลือกมากที่สุดก็คือดาบยาว ดูเหมือนว่าครูฝึกก็คำนวณเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็นอย่างดีแล้ว มันมีดาบวางเอาไว้ให้เลือกเกือบ 100 เล่ม ถ้ามองจากจำนวนนักเรียนที่มีเพียงประมาณ 50 คนเท่านั้น นี่ถือว่าเป็นการจัดเตรียมที่ใจกว้างเป็นอย่างมากทีเดียว

“เอาล่ะ! ตอนนี้ทุกคนก็มีอาวุธประจำตัวเรียบร้อยแล้ว และฉันก็ได้ส่งข้อมูลบางอย่างไปให้กับพวกเธอแล้วด้วย กลับไปค่อยเปิดกล่องข้อความของตัวเองดูเอาก็แล้วกัน พยายามฝึกฝนตามคำแนะนำในนั้นอย่างขยันขันแข็ง แต่นั่นถือว่าเป็นการบ้าน! ส่วนในชั้นเรียนแห่งนี้ เราจะฝึกฝนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเธอแต่ละคนจะปรับตัวให้เข้ากับอาวุธได้อย่างรวดเร็ว และแน่นอน วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการใช้มันอย่างจริงจัง ถูกต้อง! เตรียมตัวทำการประลองได้!” หลังจากการเลือกอาวุธเสร็จสิ้นลง ครูฝึกเอลล่าก็ประกาศเสียงดังออกมา

..............................

กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!

เสียงกริ่งสัญญาณดังสนั่นขึ้นลั่นห้อง มันทำให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังนอนหลับอยู่อย่างมีความสุขสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที

“เฮเซล! เงียบก่อนได้มั้ย? ของเวลาอีก 5 นาที” เสียงบ่นพึมพำดังออกมาจากปากของเด็กหนุ่มคนนั้น แน่นอน! ดวงตาคู่นั้นไม่ยอมเปิดขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว

กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!

“เฮเซล!!”

ร่างที่นอนอยู่บนเตียงทะลึ่งตัวขึ้นนั่งพร้อมกับตวาดเสียงดังออกมา แต่หลังจากนั่นเขาก็นั่งทำหน้าทำตาเหรอหรา แล้วก็พึมพำเสียงอ่อยตามออกมา

“ว่าแล้ว! ไม่มีทางที่เธอจะปลุกฉันหรอกแน่ ใช่มั้ยฮาเซล?”

ใช่แล้ว มันไม่ใช้เสียงปลุกของ AI แต่มันเป็นสายเรียกเข้า มีคนกำลังติดต่อเขาเข้ามา

กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!

เสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้ง ในดวงตาข้างซ้ายมีแสงกระพริบเป็นจังหวะออกมา คราวนี้เขารับสายด้วยเสียงที่ยังงัวเงียอย่างเต็มที่ “มีอะไร? ใครต้องการคุยกับฉัน?”

“แกยังนอนไม่ตื่นอีกหรือยังไง!!? นี่มันจะ 10 โมงเช้าแล้วไม่ใช่เหรอ!!!!?” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งตะโกนดังตอบกลับมา นั่นทำให้เขาตาสว่างทันที

แต่หลังจากที่เช็คเวลาแล้วว่ามันเพิ่งจะใกล้ 10 โมง และวิชาเรียนแรกคือ 10 โมงครึ่ง เขาก็ถอนหายใจออกมา และแน่นอน ตะโกนสวนกลับไปด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน “จะตื่นเช้าตื่นสาย มันก็ไม่ใช่เรื่องของคุณที่จะมาตะโกนใส่ผมแบบนี้! ตาแก่!!!”

“แก! แกกล้าเถียงฉันอย่างนั้นหรือ นี่ฉันทำเวรทำกรรมอะไรไว้นักหนานะถึงได้มีลูกศิษย์นิสัยเสียอย่างนี้? เอาล่ะ! ฟังให้ดี วันนี้หลังเลิกเรียนแล้วให้เข้ามาหาฉันที่ห้องทำงานด้วย!! เตรียมตัวมาให้ดี ฉันอยากรู้ว่าแกอ่านหนังสือที่ให้ไปถึงไหนแล้ว”

ปลายสายข้างนี้ยืนตัวแข็งไปแล้ว มือที่กำลังคว้าเสื้อมาสวมนิ่งอยู่กลางอากาศ

และเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบ อีกฝ่ายก็ส่งเสียงเข้มกำชับตามมาอีกทันที “หวังว่าแกคงจะอ่านมันไปจนเกือบจบแล้วนะ ถ้าฉันจำไม่ผิด ฉันให้หนังสือนั่นไปตั้งอาทิตย์หนึ่งแล้ว!!”

“แน่นอน! ผมอ่านมันแล้วน่า! ผมไม่ได้ขี้เกียจขนาดนั้นเสียหน่อย แค่นี้นะตาแก่ ผมต้องรีบไปเรียนแล้ว”

หลังจากรีบทำการตัดสาย เสียงพึมพำก็หลุดออกมาจากปากทันที “ซวยแล้วไงล่ะ”

“เฮเซล!! นี่เป็นความผิดของเธอทั้งหมด!!!” เดวิดตะโกนเสียงดังใส่แพะตัวเดียวที่หาได้ในตอนนี้ทันที

“อ้อ! ใช่! มันเป็นความผิดของฉันเองแหละ! แล้วไงล่ะ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด